ตอนที่ 825 แล้วพวกเขาจะฝึกกระบี่ไปเพื่ออะไรอีก?
เด็กหนุ่มใช้สองนิ้วคีบรับไว้ได้อย่างแม่นยำ
ฟู่!
สิ่งที่อยู่ระหว่างนิ้วมือทั้งสองของเขาคือหยกสีแดงเข้มชิ้นหนึ่ง
มันเป็นหยกที่ชาวทะเลนำมาใช้เป็นปิ่นปักผม และมันก็เป็นปิ่นปักผมที่เสียบอยู่บนมวยผมของเหยียนอิงนั่นเอง
หลินเป่ยเฉินนำปิ่นปักผมหยกแดงขึ้นมาสูดดมพร้อมกับพูดว่า “อ้า กลิ่นผมของสาวงามช่างหอมเสียเหลือเกิน ข้าหลงรักมันเป็นอย่างยิ่ง… พี่สาวไม่ต้องเป็นห่วง ด้วยความขี้โกงของข้า… เอ๊ย ด้วยระดับพลังอันสูงส่งของข้า ต่อให้ข้าบาดเจ็บ ข้าก็ต้องสามารถเอาตัวรอดได้อย่างไม่มีปัญหา”
พูดจบ เหยียนอิงยังไม่ทันได้ตอบรับคำใด ร่างของหลินเป่ยเฉินก็จมหายลงไปใต้พื้นดินหน้าตาเฉย
เด็กสาวบนรถเข็นกัดฟันกรอด
เด็กหนุ่มผู้นี้ทำให้นางรู้สึกรำคาญใจอย่างไม่มีเหตุผลจริงๆ
…
ค่ำคืนอันยาวนาน เกาเฉิงฮั่นนอนไม่หลับ
เขายืนอยู่บนป้อมบัญชาการรบของกำแพงเมืองฝั่งตะวันตกตลอดคืน ดวงตาจ้องมองไปยังค่ายที่พักของชาวทะเล คล้ายกับกำลังรอคอยให้มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น
เพียงไม่นาน พวกของหลู่เหวินหยวนก็ค้นพบสิ่งผิดปกติ
ปรากฏว่าพวกชาวทะเลเริ่มชะลอการโจมตีแล้ว
มิหนำซ้ำ ยังเกิดความโกลาหลในค่ายที่พักของชาวทะเลอีกด้วย
จากนั้น จึงเกิดการระเบิดหลายครั้งติดๆ กัน ตามมาด้วยเสียงการต่อสู้ดังสนั่นหวั่นไหว
เห็นได้ชัดว่าผู้มีพลังระดับเซียนของชาวทะเลออกมาแสดงฝีมือด้วยความโกรธแค้น…
ความวุ่นวายเหล่านี้ดำเนินไปจนถึงรุ่งเช้า
ตอนนั้น กองทัพของชาวทะเลได้ล่าถอยกลับออกจากกำแพงเมืองแล้ว
พวกสัตว์ทะเลระดับล่างที่ถูกส่งออกมาเป็นหน่วยกล้าตายตัดกำลังข้าศึก ต่างก็ล่าถอยกลับไปยังค่ายที่พักของตนเอง และจมตัวหายลงไปในทะเลสาบกลางที่พัก…
บัดนี้ นายทหารผู้ปกป้องกำแพงเมืองของนครเจาฮุยที่สู้รบต่อเนื่องมาหลายวันหลายคืน ในที่สุด พวกเขาก็ได้มีเวลาหยุดพักหายใจสักที!
เมื่อเห็นว่าฝันร้ายของชาวเมืองกำลังจะผ่านพ้นไปแล้ว ความกดดันในจิตใจของพวกเขาก็เบาบางลง
ต่อให้รู้ว่าพวกชาวทะเลจะต้องยกทัพกลับมาโจมตีอีกครั้งก็ตาม แต่อย่างน้อย ขณะนี้พวกเขาก็จะได้พักกันบ้างแล้ว
สีหน้าของหลู่เหวินหยวนกับพรรคพวกแสดงออกชัดเจนถึงความดีใจและความตกตะลึง
พวกเขารู้ดีว่าเมื่อคืนนี้เป็นฝีมือของหลินเป่ยเฉิน
เด็กหนุ่มเข้าไป ‘โปรยเสน่ห์’
ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเป็นไปได้
แต่บัดนี้ ดูเหมือนว่ามันจะเป็นไปแล้ว
หากพวกเขาเข้าใจไม่ผิด หลินเป่ยเฉินอาศัยใบหน้าที่หล่อเหลาของตนเองเกลี้ยกล่อมให้ผู้บัญชาการรบของชาวทะเลถอนทัพกลับไปได้สำเร็จ
นี่มัน…
ข้อดีของการเกิดมามีหน้าตาหล่อเหลาสินะ?
คงเป็นเช่นนั้นแน่ๆ
แม้แต่เกาเฉิงฮั่นก็ยังไม่อยากเชื่อ
ไม่นะ ไม่ ไม่ ไม่…
หลินเป่ยเฉินจะสามารถทำได้สำเร็จจริงหรือ?
สงครามที่กำลังจะก่อให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายจำนวนมหาศาล สามารถแก้ไขได้ด้วยใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาจริงๆ หรือ?
ไม่น่าเป็นไปได้
เพราะมันเป็นเรื่องที่ง่ายดายมากเกินไป
หากหลินเป่ยเฉินโปรยเสน่ห์ล้มเหลวและต้องหลบหนีกลับมาด้วยความอับอาย นั่นคือสิ่งที่มีความเป็นไปได้มากกว่าเสียอีก และความพยายามอันไร้ประโยชน์ของเขา ก็จะทำให้ชาวทะเลโกรธแค้นมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่จะทำให้นครเจาฮุยต้องพ่ายแพ้แก่ฝ่ายตรงข้ามในที่สุด
ถ้าอย่างนั้น…
รอดูสถานการณ์อีกนิดก่อนดีกว่า
เกาเฉิงฮั่นเหม่อมองไปในระยะไกล
ขณะนี้ ปรากฏเงาร่างของคนผู้หนึ่งวิ่งตรงมายังกำแพงเมือง โดยที่มีร่างของชาวทะเลหลายสิบตัววิ่งตามหลัง คล้ายกับฝูงสุนัขที่วิ่งไล่กวดลูกแกะตัวหนึ่ง
“นั่นมันหลินเป่ยเฉิน…”
แค่เห็นเงาร่างที่วิ่งนำหน้ามาวูบเดียว เกาเฉิงฮั่นก็จำได้แล้วว่าเป็นใคร แม่ทัพใหญ่ไม่ลังเลแม้แต่น้อย เขาโคจรพลังลมปราณขั้นเซียน และปราดออกไปช่วยเหลือหลินเป่ยเฉินทันที
เพียงไม่กี่ลมหายใจ เกาเฉิงฮั่นก็สังหารนักรบชาวทะเลระดับสูงที่ไล่ล่าตามมา และพาหลินเป่ยเฉินกลับเข้าสู่ด้านในกำแพงเมืองได้สำเร็จ
บัดนี้ เด็กหนุ่มตัวเปื้อนเลือดตั้งแต่หัวจรดเท้า สภาพของเขาอยู่ในอาการบาดเจ็บสาหัส
“เร็วเข้า รีบเข้าไปในป้อมบัญชาการและนำยารักษาอาการบาดเจ็บมา…”
เกาเฉิงฮั่นร้องตะโกน
กลุ่มนายทหารที่ล้อมรอบหลินเป่ยเฉินรีบหันหลังกลับวิ่งตรงเข้าไปในป้อมบัญชาการรบของกำแพงเมืองเขตตะวันตก
“ไม่เป็นไรขอรับ ข้าสามารถรักษาตัวเองได้…”
หลินเป่ยเฉินดิ้นรนออกจากอ้อมแขนของเกาเฉิงฮั่น ก่อนจะโยนวงแหวนวารีใส่ศีรษะของตัวเอง…
ไม่กี่ลมหายใจต่อมา
คุณชายหลินก็กลับมานั่งยิ้มแป้น ด้วยท่วงท่าสบายใจเช่นเดิม
เมื่อทุกคนหายจากอาการตกตะลึงแล้ว พวกเขาก็ได้แต่จ้องมองเด็กหนุ่มเป็นตาเดียว
“เป็นอย่างไรบ้าง?”
เกาเฉิงฮั่นรีบถามออกมาด้วยความร้อนใจ
ทุกคนอยากรู้เช่นกันว่าแผนการของหลินเป่ยเฉินสำเร็จหรือไม่
เด็กหนุ่มหัวเราะคิกคัก ยกมือเสยผมอย่างวางมาด และพูดด้วยน้ำเสียงภาคภูมิใจ “พวกท่านไม่เห็นหรือว่าข้าหล่อเหลาขนาดไหน? ฮ่าฮ่าฮ่า แต่น่าเห็นใจพวกท่านนะ เพราะมีแต่หลินเป่ยเฉินเท่านั้นที่จะสามารถโปรยเสน่ห์ใส่สตรีทุกคนในโลกนี้ได้สำเร็จ แม้แต่เทพีกระบี่ก็ยังไม่รอดมือข้าเลยด้วยซ้ำ…”
เมื่อรู้ตัวว่าเผลอพูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมา หลินเป่ยเฉินก็รีบปิดปากเงียบ โชคดีที่ทุกคนกำลังดีใจและส่งเสียงโห่ร้องกึกก้อง จึงไม่มีใครสนใจรับฟังสิ่งที่เขาพูดเมื่อสักครู่
แต่สิ่งที่นายทหารทุกคนสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนก็คือ เด็กหนุ่มสามารถทำได้สำเร็จแล้วจริงๆ
หลินเป่ยเฉินอาศัยเพียงใบหน้าอันหล่อเหลา โน้มน้าวจิตใจผู้บัญชาการรบของชาวทะเล จนนางสั่งถอนทัพกลับไปในที่สุด
เมื่อคืนนี้แสงจันทร์สว่างไสว มีความสดใสเหมือนสีหน้าของหลินเป่ยเฉินในขณะนี้
สมแล้วที่เขาสร้างตำนานขึ้นมาได้มากมายนับครั้งไม่ถ้วน
แต่เมื่อพบเห็นด้วยตาของตัวเองเช่นนี้
เกาเฉิงฮั่นก็นึกสงสัยขึ้นมาครามครัน
เขาอุตส่าห์ฝึกวิทยายุทธ์มายาวนานหลายสิบปีจนเลื่อนระดับพลังขึ้นมาอยู่ในขั้นเซียนสำเร็จ แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้กองทัพข้าศึกถอยทัพกลับไปได้
ทว่า หลินเป่ยเฉินกลับสามารถทำได้ โดยอาศัยเพียงใบหน้าอันหล่อเหลาเท่านั้น?
แล้วพวกเขาจะฝึกกระบี่ไปเพื่ออะไรอีก?
หลู่เหวินหยวนและคนอื่นๆ เผลอยกมือขึ้นลูบคลำใบหน้าของตนเอง หลังจากนั้นก็หันไปมองใบหน้าอันหล่อเหลาของหลินเป่ยเฉินที่ยืนอยู่ตรงหน้า ก่อนที่ทุกคนจะรู้สึกเป็นอย่างเดียวกันว่า อยากจะขอเกิดใหม่ให้มีหน้าตาหล่อเหลาอย่างเด็กหนุ่มคนนี้เหลือเกิน