ตอนที่ 203 อาบน้ำด้วยกันกลางค่ำคืน!
เฟิ่งจิ่วที่กลับถึงห้องนอนลงบนเตียง คิดไปคิดมา ก็รู้สึกว่าต้องหนีแล้ว
นายท่านเหยียนผู้นั้นไม่ค่อยปกตินิดหน่อย หน้าเธอก็ใกล้จะหาย ดังนั้นต้องหาเวลาหนีออกไปดีกว่า ขืนอยู่ต่อไป ไม่รู้จะเกิดเรื่องอะไรขึ้น
วันต่อมา เธอนำยาที่ปรุงเรียบร้อยมาให้หลินเหล่า ก่อนจะหยิบยาทิพย์จิตวิญญาณจากในหอโอสถมาอีกไม่น้อย ขณะกำลังเดินออกไป เห็นหลินเหล่าถือกล่องใบใหญ่เข้ามา ดังนั้น จึงถามว่า “หลินเหล่า ในมือท่านคืออะไรรึขอรับ?”
“เหอะๆ นี่เป็นโสมพันปี สมบัติล้ำค่าหายากในร้อยปี เจ้าลองดูสิ เป็นสินค้าชั้นดีเลยนะ!”
เขาเปิดกล่อง นัยน์ตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “โสมพันปีนี้ เพียงชิ้นเล็กๆ ก็สามารถคืนชีวิตคนที่กลิ่นอายพลังค่อนข้างอ่อนแอ ในหลายครั้งหลายครา ยังเป็นยาทิพย์ที่ช่วยชีวิตคนได้ด้วย”
“ชิ้นใหญ่มากเลย! รากครบสมบูรณ์ ผิวพื้นเนียนชัด เป็นสมบัติที่พบได้ยากจริงๆ ขอรับ” สองตาเธอเปล่งประกาย ยื่นมืออยากจะแตะสักหน่อย หลินเหล่าก็ปิดเก็บมันไปเสียแล้ว
เขามองเฟิ่งจิ่วอย่างระแวดระวัง นำกล่องมากอดไว้ในอ้อมอก กล่าวว่า “นี่เป็นสมบัติล้ำค่าในหมู่สมบัติทั้งปวง เจ้าสนใจมันให้น้อยๆ หน่อยเถอะ ของเช่นนี้ ต้องเก็บไว้ใช้ยามต้องช่วยชีวิตคน”
“รู้แล้วขอรับๆ ข้าแค่ลองดู” เธอยิ้มหน้าเหยเก ในใจกลับกำลังคิด รอถึงเวลาไป จะขโมยโสมพันปีชิ้นนี้ออกไปด้วยแน่นอน
ทั้งวันนี้ เฟิ่งจิ่วคอยหลบนายท่านเหยียนอยู่นิดหน่อย พยายามไม่พบหน้า จนกระทั่งกลางคืนที่ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอคำนวณเวลาถึงจะเดินไปยังบ่อน้ำพุร้อนหลังเขา คืนนี้กะจะแช่น้ำพุร้อน รอเวลาที่นายท่านเหยียนออกไปข้างนอกหรือไม่อยู่หลายวันนี้ ค่อยออกไปเงียบๆ
หลังจากถอดเสื้อผ้า บนตัวนุ่งผ้าบางไว้ผืนหนึ่ง ถึงจะเดินลงบ่อน้ำพุร้อนด้วยความระมัดระวัง บ่อน้ำพุร้อนหลังเขานี้ค่อนข้างลึก เธอทำได้เพียงเดินไปตามขอบข้าง แล้วนั่งลงแช่น้ำตรงริมบ่อ
เอนพิงขอบพลางถอนหายใจเบาๆ “สบายตัวจริงๆ!” เพราะค่ำคืนค่อยๆ มืดลง ท้องฟ้าจึงเต็มไปด้วยดวงดาว งดงามอย่างยิ่ง
“อยากแช่น้ำร้อน ทำไมถึงมาเองโดยไม่บอกข้าเล่า?”
เสียงที่ดังมาอย่างกะทันหัน ทำให้เธอตกใจเสียจนแทบจะกระโดดขึ้นมา แต่พอคิดว่าบนตัวมีแค่ผ้าบางผืนเดียว ก็รีบมุดลงน้ำไปทันที แววตามีความโกรธเคืองมองยังคนที่เดินออกมาจากมุมมืด
“ท่านมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
นายท่านเหยียนที่เอามือไพล่หลังเดินออกมาบนใบหน้าไม่สวมหน้ากาก เผยให้เห็นรูปโฉมหล่อเหลาราวเทพบุตร แต่ว่า เวลานี้ดวงตาอันลึกล้ำคู่นั้นกลับมองตรงมาบนร่างคนที่อยู่ในน้ำ เมื่อเห็นสองไหล่กลมมน ก็ไม่คิดจะหันหนี กลับชื่นชมมันอย่างใจกว้าง
พูดถึงแล้ว นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาเห็นนางอยู่ในน้ำ ครั้งก่อนในใจไม่มีความคิดอื่นใด จึงไม่ได้ใส่ใจ และไม่สังเกตนัก
แต่พอมองตอนนี้ กลับรู้สึกว่าสาวน้อยอยู่ในน้ำกลางค่ำคืนช่างงดงามดั่งภาพวาด แม้ว่า บนใบหน้าจะพอกยาไว้ ก็ยังคงไม่ส่งผลต่อความเจริญตาสบายใจในดวงตาเขา
เขาเอามือไพล่หลัง ยืนอยู่ริมบ่อน้ำพุร้อน มองสาวน้อยที่คดตัวกลมอยู่ในน้ำ ใบหน้างดงามแข็งแกร่งจึงผุดรอยยิ้มที่เหมือนจะไม่มีอะไร “ที่นี่เป็นที่ของข้า จะโผล่มาที่นี่ ก็ไม่มีอะไรน่าแปลกกระมัง?”
ระหว่างพูดก็ถอดรองเท้าออก ปลดเข็มขัดหยกตรงเอว ถอดเสื้อนอกออก ตามด้วยชุดซับใน เผยให้เห็นร่างครึ่งบนที่กำยำทรงเสน่ห์
เห็นชายหนุ่มยื่นมือไปที่กางเกง คิดจะถอดมันออก เธอก็ร้อนรนเสียจนพูดติดอ่างขึ้นมา
“ทะ ทะ ท่านจะทำอะไรน่ะ?”
………………………………
ตอนที่ 204 พอใจหรือไม่?
“ถอดเสื้อผ้า เจ้าเห็นแล้วไม่ใช่รึ?”
น้ำเสียงเขาทุ้มต่ำและมีแรงดึงดูด หากไม่สนใจ คงไม่สังเกตว่าเดิมทีในน้ำเสียงนั้นมีความยิ้มเยาะอยู่
เธอถลึงมองเขาด้วยความโกรธเกรี้ยว บอกว่า “แน่นอนข้ารู้ว่าท่านกำลังถอดเสื้อผ้า! ข้าถามว่าท่านจะถอดเสื้อผ้าทำไม!”
“แน่นอนว่าจะแช่น้ำร้อนน่ะสิ!” เขาตอบกลับอย่างสมเหตุสมผล
“ท่านไม่เห็นรึว่าข้ากำลังแช่อยู่?” เธอขบเขี้ยวเคี้ยวฟันถาม
“ต่างเป็นผู้ชาย แช่น้ำร้อนด้วยกันจะมีอะไรได้เล่า?” เขาเลิกคิ้วเบาๆ พูดทั้งยกมุมปากเล็กน้อย
ได้ยินคำพูดนี้ เฟิ่งจิ่วแทบจะผุดขึ้นมาพุ่งไปด่าทอเขา
ต่างเป็นผู้ชายอะไรกัน? แช่น้ำร้อนด้วยกันไม่มีอะไรเนี่ยนะ? เธอไม่ได้สวมเสื้อผ้าไม่ใช่รึ? คดตัวเป็นก้อนแล้ว หากเขาลงน้ำมาอีกจะยังไหวรึ?
ทว่าในชั่วขณะนั้น เห็นเขาถอดกางเกงขายาวแล้วจะถอดกางเกงชั้นในต่อ เห็นเช่นนี้ หัวใจก็หวั่นๆ ขึ้นมาด้วยความกังวล ชัดเจนว่าควรจะหลับตาเสีย แต่สองตากลับคล้ายถูกแม่เหล็กดึงไว้ จ้องมองตรงไปยังเขา
เห็นแววตานางจ้องท่าทางเขาโดยไม่คิดหลบเลี่ยงสักนิด นายท่านเหยียนยกมุมปากเบาๆ มือที่วางอยู่บนกางเกงชั้นในชะงักลงเล็กน้อย เอ่ยอย่างอารมณ์ดี “ข้าได้ยินฮุยหลางบอกว่า ครั้งก่อนเจ้าช่วยเขารักษา โดยแค่ฝังเข็มตรงจุดชีพจรข้างเอวรึ?”
“แล้วยังไงเล่า?” เธอกลอกตามอง ทว่า สิ้นสุดน้ำเสียง นึกถึงคำพูดที่เขาถามในตอนนั้น รวมถึงท่าทางแปลกๆ ก็ตกใจอย่างอดไม่ได้ ถามว่า “ท่านคงไม่ คิดว่าข้าเห็นเขาเปลือยแล้วหรอกนะ?”
เห็นยอมรับโดยไม่ปริปาก เธอก็หัวเราะลั่นออกมาอย่างอดไม่ได้ “สวรรค์! ท่านคิดถึงเพียงนั้นได้เช่นไร? คิดว่าข้าบ้ากามเช่นนั้นเชียวรึ?”
เห็นเขาจ้องมองมาเหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้ม เธอก็ยิ้มหน้าเหยเก “เอาล่ะ! ถึงแม้ข้าจะหื่นกามนัก แต่สายตาก็ช่างเลือกนักไม่ใช่รึ? อย่างฮุยหลาง ต่อให้เปลือยกายมาข้ายังไม่สนใจมองเลย”
“โอ้? งั้นอย่างข้านี้เล่า?”
ได้ยินคำพูดนี้ เธอก็กระตุกมุมปาก “นายท่านเหยียน ข้าจำได้ ท่านเหมือนเคยพูดว่าท่านไม่มีนิสัยแย่ๆ อะไรเช่นนั้นไม่ใช่หรือ?”
คำพูดบุรุษเชื่อไม่ได้ดังคาด ชัดเจนนักว่าหมอนี่ชอบมีอารมณ์ตอนเปลือยกาย! หรือว่าฤดูแห่งความรักใกล้มาถึง? แม้แต่นายท่านเหยียนถึงเริ่มหวั่นไหวใจ?
“ถูกต้อง แนวทางของข้าช่างปกติยิ่ง”
เขามองนางตรงๆ มุมปากยกยิ้มชั่วร้ายขึ้น มือที่วางบนกางเกงชั้นในถอดลงมาโดยไม่ทันให้ไหวตัว ร่างกายเปลือยเปล่ายืนอยู่ข้างบ่อน้ำพุร้อน มองสาวน้อยที่สีหน้าเปลี่ยนไปยกใหญ่ รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ได้
“บ้าจริง! ช่างเป็นนกที่ตัวใหญ่นัก!”
เธออุทานขึ้น ตะโกนออกมาตามสัญชาตญาณ ทว่าพอพูดออกไป ก็ยิ้มๆ หน้าเหยเก โดยเฉพาะเมื่อเห็นชายหนุ่มกำลังสาวเท้าก้าวย่างลงในบ่อน้ำพุร้อน ร่างกายก็ยิ่งตึงเครียดขึ้นมา
มือหนึ่งใช้ผ้าผืนบางปิดบังร่างกายไว้ครึ่งหนึ่ง อีกมือสำรวจบนขอบบ่อ คลำหาเสื้อผ้าตัวเอง คิดจะหนีไปด้านหลัง แต่ว่า น้ำเสียงทุ้มต่ำที่ลอยตามมาติดๆ กลับทำให้มือที่เอื้อมไปแข็งทื่อ และหดกลับมาอย่างทำอะไรไม่ถูก
“หากเจ้าจะเล่นซ่อนแอบในน้ำ ข้าก็ยินดีจะอยู่เล่นเป็นเพื่อน”
น้ำเสียงทุ้มต่ำลอยมาอย่างเอื่อยเฉื่อย กลับทำให้เฟิ่งจิ่วโกรธเสียจนกัดฟันกรอด จ้องมองชายหนุ่มที่อ้าสองแขนนั่งแช่อยู่ในน้ำ เพียงคิดว่าหากทำได้ ก็อยากพุ่งเข้าไปชกเขาแรงๆ สักยกเสียจริง
เห็นนางถอยออกไปสามเมตร ด้วยท่าทางกล้าโกรธไม่กล้าพูด นายท่านเหยียนก็เลิกคิ้วเล็กน้อย ใบหน้าคมคายแข็งแรงมีรอยยิ้มชั่วร้ายขึ้นประดับ น้ำเสียงทุ้มต่ำเปล่งออกจากปากอย่างมีความยิ้มเยาะ
“ร่างกายข้าทำให้เจ้าพอใจได้หรือไม่เล่า?”
………………………………