ตอนที่ 21 ขวัญหนีดีฝ่อ!
จนกระทั่งเขาเห็นภาพต่อมา ในที่สุดก็รู้ว่าความไม่สงบในใจนั้นมาจากที่ใด…
เขาเห็นเพียงขอทานน้อยผู้นั้นแยกเท้าข้างหนึ่งออกแล้วงอเข่าลงเล็กน้อย พลังทั้งร่างเหมือนกระจายออกไป สองมือที่เคยแนบอยู่ข้างลำตัวอย่างอ่อนเปลี้ยเพลียแรงค่อยๆ ยกขึ้น ขณะที่หลานชายเขาออกหมัดโจมตี ฝ่ายนั้นก็ดึงขากลับพร้อมหันตัวไปทางซ้ายเพื่อรับหมัดไว้ มืออ่อนนุ่มที่ดูไร้เรี่ยวแรงจับง่ามระหว่างนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ไว้อย่างแม่นยำ
พละกำลังถูกส่งออกไป เฟิ่งจิ่วใช้แรงจากการเก็บเท้าหักล้างพลังของหมัดนั้น แล้วหันตัวหักแขนของเขา ได้ยินเสียงดังกร๊อบ เสียงกรีดร้องดังขึ้นมา
“อ๊าก!”
ชายหนุ่มร้องลั่น ความเจ็บรุนแรงที่แขนทำให้สีหน้าเขาสีซีดเผือด แต่นี่ยังไม่เท่าไหร่ แขนที่ถูกหักเขาไม่มีทางดึงกลับได้ และไม่สามารถถอยออกไปได้ด้วย หลังจากแขนข้างนี้ถูกบิดหัก แขนอีกข้างที่เหวี่ยงออกไปก็กลับถูกดึงไว้ หลบไปได้ยากเช่นกัน
“กร๊อบ!”
“อ๊าก…”
“ท่านพี่!”
“คุณชาย!”
เหล่าองครักษ์และเด็กสาวต่างส่งเสียงร้องตกใจด้วยใบหน้าถอดสี เพราะความหวาดกลัวเสียงจึงสั่นอยู่เล็กน้อย สิ่งที่ทำให้พวกเขายิ่งหวาดผวากว่าเดิมคือหลังจากสองแขนถูกบิด ครั้งนี้สองมือที่ดูเหมือนไม่มีพลังทำลายอะไรกลับคว้าลำคอเขาไว้
“ไม่ อย่านะ…” เวลานี้ ในที่สุดชายหนุ่มก็เผยสีหน้าตื่นตระหนก กลิ่นอายแห่งความตายห้อมล้อมเขาไว้ ทำให้ทั้งร่างเขาสั่นเทิ้มขึ้นมาอย่างไม่อาจหยุดได้
“อย่า อย่าฆ่า เขา!”
สีหน้าชายวัยกลางคนเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาเอ่ยปากห้ามปราม ทว่ายังพูดไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงกร๊อบ คอหลานชายหักพับลง โอกาสรอดชีวิตพลันถูกลิดรอน จนกระทั่งตาย ดวงตาเขาก็ยังคงเบิกกว้างอยู่อย่างไม่ยอมแพ้และน่าหวาดกลัว…
“ท่านพี่! ท่านพี่…”
เด็กสาวร่ำไห้เสียงแหลมอย่างโศกเศร้า นางอยากจะพุ่งตัวไป แต่ถูกชายวัยกลางคนฉุดรั้งไว้ไม่ให้ออกไป
“คุณ คุณชาย…”
เหล่าองครักษ์ต่างก็ตกใจกับภาพตรงหน้า พวกเขาไม่กล้าเชื่อว่าคุณชายผู้เป็นถึงบุตรชายคนแรกของตระกูลจะถูกขอทานคนหนึ่งฆ่าตายอย่างไม่คาดคิด หากหัวหน้าตระกูลรู้เข้าจะต้องโกรธกริ้วมากขนาดไหน?
“ฆ่ามันซะ แก้แค้นให้คุณชาย!”
คนหลายสิบคนพุ่งไปด้านหน้าอย่างกระเหี้ยนกระหือรือ กระบี่ในมือตวัดฟาดฟัน พลังกระบี่รุนแรงตามไฟโกรธที่ลุกโหม ราวกับมีเพียงเลือดสดๆ ของเฟิ่งจิ่วที่สามารถคลายความเศร้าโศกและความขุ่นเคืองในใจพวกเขาได้
สาวน้อยทรุดลงนั่งบนพื้นอย่างอ่อนแรง มองพี่ชายที่สิ้นใจล้มอยู่บนพื้นด้วยสายตาตะลึงงัน ไม่อยากเชื่อเลยว่าคนที่ยังมีชีวิตอยู่เมื่อครู่ กลับตายไปแล้วในตอนนี้…
“ท่านอารอง นี่มันไม่จริงใช่หรือไม่? ท่านพี่เก่งกาจขนาดนั้น จะถูกขอทานคนหนึ่งฆ่าตายได้อย่างไร? ท่านอารอง ท่านบอกข้าทีว่าไม่จริง นี่ไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหมเจ้าคะ?”
นางดึงแขนชายวัยกลางคนพลางคร่ำครวญถาม นางไม่อยากเชื่อว่าภาพอันโหดร้ายตรงหน้าเป็นเรื่องจริง
พี่ชายนางคือบุตรชายคนโปรดของตระกูล และเป็นคนที่โดดเด่นที่สุด จะถูกขอทานคนหนึ่งสังหารได้อย่างไร?
ทว่าเวลานี้ ชายวัยกลางคนกลับไม่มีเวลามาเสียใจและโกรธแค้น เพราะเขาเห็นว่าองครักษ์สิบกว่านายที่ล้อมโจมตีขอทานคนนั้นล้มลงไปทีละคน คนฝ่ายพวกเขากำลังลดลง พอมองย้อนกลับไปที่ร่างขอทานคนนั้นกลับไม่มีแม้แต่บาดแผล
“ลุกขึ้นมา! พวกเราต้องรีบไปแล้ว!” เขาพูดอย่างตัดสินใจเด็ดขาด ก่อนจะใช้แขนข้างที่ไม่บาดเจ็บบังคับดึงหลานสาวที่นั่งพับบนพื้นขึ้นมา
“ข้าจะต้องแก้แค้นให้ท่านพี่! ข้าจะฆ่ามัน! ข้าจะฆ่ามัน!” เด็กสาวตะโกนร่ำไห้ พยายามจะดิ้นให้หลุดจากมือของเขาแล้วกระโจนตัวออกไป
“มีสติหน่อย! เจ้าฆ่าเขาไม่ได้หรอก!”
ชายวัยกลางคนตะคอกเสียงดัง “รีบไป! หากไม่ไปก็ไม่ทันกาลแน่แล้ว!” เขาฝืนลากนางไป พอสบกับดวงตาที่เหมือนยิ้มแต่ไม่ยิ้มนั้นคู่นั้นเข้าโดยไม่ตั้งใจ เขารู้สึกเพียงอกสั่นขวัญแขวนเท่านั้น
…………………………………………………….
ตอนที่ 22 ภารกิจตามล่า!
จิตสังหารในดวงตาคนผู้นั้นน่ากลัวเกินไปแล้ว…
เพียงมองใจเขาก็ถึงกับสิ้นเรี่ยวแรง ขนาดสองขายังอ่อนเปลี้ยไปบ้าง สายตาและรังสีฆ่าฟันเช่นนั้น แม้แต่บนร่างของพี่ใหญ่เขาก็ยังไม่เคยเห็น…น่าหวาดผวาเกินไปแล้ว!
ใครเล่าจะเชื่อ ระดับปรมาจารย์นักรบเช่นเขากลัวเด็กเหลือขอที่ไร้พลังเร้นลับคนหนึ่งจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน?
แต่กลายเป็นว่าเขาก็หนีมาแล้ว ด้วยเหตุนี้เขาจึงชัดเจนดี หากไม่หนีพวกตนคงไม่ได้มีชีวิตอยู่ต่อไปแน่!
เมื่อเห็นชายวัยกลางคนฝืนลากเด็กสาวหนีไป เฟิ่งจิ่วแปลกใจเล็กน้อย ไหนบอกว่าเธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาไง? ทำไมหนีไปเสียแล้วเล่า? เธอยังคิดอยู่เลยว่าหลังจากจัดการองครักษ์พวกนี้แล้วจะไปสู้กับเขาน่ะ!
กริชในมือตวัดฟันลำคอองครักษ์คนสุดท้าย เห็นเพียงเลือดสาดกระเซ็น แล้วคนผู้นั้นก็ล้มตามไป
ยามมองสิบกว่าศพบนพื้น สีหน้าท่าทางของเธอเฉยเมยไม่เห็นแม้ความเวทนา
แต่ไหนแต่ไรเธอสืบทอดคำสอนบรรพบุรุษที่ว่า ใครไม่ทำร้ายเธอเธอก็ไม่ทำตอบ แต่สำหรับคนที่อยากเอาชีวิตกัน เธอก็จะไม่ใจอ่อนออมมือให้
เธอดึงถุงฟ้าดินจากเอวชายหนุ่มที่ตนหักคอมา แต่กลับพบว่าตัวเองเปิดไม่ได้ พอคิดอย่างละเอียดจึงนึกออก ของวิเศษชิ้นนี้ต้องมีพลังเร้นลับถึงจะสามารถเปิดได้ ทว่าตอนนี้บนร่างเธอไม่มีพลังเร้นลับเลยสักนิด เปิดถุงใบนี้ไม่ออกก็เป็นเรื่องธรรมดา
ทว่าเธอเจอกระบอกจุดไฟหลายอันบนร่างเหล่าองครักษ์ จึงนำกระบอกจุดไฟกับถุงฟ้าดินใส่ไว้ในอกเสื้อ จากนั้นค่อยนึกถึงคนที่เธอลืมไปโดยไม่ระวัง
“ท่านอาล่ะ? คงไม่ได้จากไปอีกแล้วหรอกนะ?” เธอมองไปรอบๆ ก่อนจะตะโกน “ท่านอา? ท่านอา?” เธอเดินไปด้านหน้า ก็เห็นเพียงร่างสัตว์ร้ายเกลื่อนพื้น
“เนื้อ…” ดวงตาเธอเป็นประกายน้อยๆ เมื่อเห็นร่างของเหล่าสัตว์ร้าย สิ่งที่เธอนึกถึงกลับเป็นเนื้อย่างที่ย่างเสียจนส่งกลิ่นหอมกรุ่น
เฟิ่งจิ่วลูบท้องกลืนน้ำลาย ดึงกริชออกมาตัดเนื้อขาหลังชิ้นหนึ่งมา ถึงค่อยถือขาหลังสัตว์ร้ายชิ้นนั้นเดินไปด้านหน้าเพื่อหาสถานที่ย่างเนื้อกินสักมื้อ
ประมาณหนึ่งชั่วยามให้หลัง ชายวัยกลางคนกับเด็กน้อยที่เดิมจากไปแล้วก็กลับมาอีกครั้ง
“ท่านพี่!”
สาวน้อยกระโจนเข้าไปกอดศพของพี่ชายไว้พลางร่ำไห้ไม่หยุด “กลับไปข้าจะบอกกับท่านพ่ออย่างไรว่าท่านตายแล้ว? ท่านพี่ ทำไมท่านถึงมาตายเช่นนี้ได้… ฮือๆ…”
ครั้นเห็นองครักษ์สิบแปดนายของตระกูลที่คัดสรรมาอย่างดีล้มหายตายจากไม่มีเหลือรอด แม้แต่หลานชายตัวเองก็จบชีวิตที่นี่ ดวงตาชายวัยกลางคนเต็มไปด้วยความเศร้าสลด มือหนึ่งกำหมัดแน่น แต่อีกข้าง แขนที่ได้รับบาดเจ็บกลับลู่ลงราวกับไร้ความรู้สึกและหมดเรี่ยวหมดแรง
“อิ้งโหรว แบกศพพี่ชายเจ้ากลับไปทำพิธีฝังดีๆ ซะ แค้นในวันนี้ พวกเราต้องชำระแน่!”
สาวน้อยเช็ดน้ำตาพลางพูดว่า “ท่านอารอง ขอทานนั่นอยู่ในป่าเก้าหมอบ หากพวกเราไปแล้วจะแก้แค้นอย่างไร? เมื่อออกจากป่าเก้าหมอบ เราจะไปตามแก้แค้นเขาได้ที่ใดก็ยังไม่รู้เลย”
“ไม่ พวกเราไม่ต้องลงมือ กลับไปอาจะป่าวประกาศภารกิจตามล่าไว้ที่สมาคมทหารรับจ้าง จะมีคนไปเอาหัวมันมาแทนพวกเราเอง!”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงขึงขัง สายตาหลุบลงมองแขนตัวเองที่ลู่ลงอย่างไร้เรี่ยวแรง ในใจมีจิตสังหารที่ยากจะเลือนหาย นึกไม่ถึงว่าเขาจะไม่ใช่คู่มือของขอทานนั่น!
หลังได้ฟังคำพูดนั้น สาวน้อยก็เช็ดน้ำตาแล้วแบกร่างของพี่ชายขึ้นมา ตอนนี้ถึงจะพบว่าถุงฟ้าดินที่ข้างเอวของพี่ชายหายไป นางจึงพูดว่า “ท่านอารอง เขาเอาถุงฟ้าดินของท่านพี่ไปแล้ว”
“เช่นนี้ก็ยิ่งดี! พวกเรามีวิธีตามหามันแล้ว!”
เขามองลึกไปด้านในป่าด้วยสายตาหนักอึ้ง แม้การเดินทางครั้งนี้จะมาเพื่อสัตว์เทวะ แต่ชัดเจนมากว่าตอนนี้พวกเขาไม่เหมาะที่จะเข้าไปอีกแล้ว
ส่วนเจ้าเด็กเหลือขอนั่น เขาสาบานว่ามันจะต้องอยู่อย่างตายทั้งเป็น!
…………………………………………………….