ตอนที่ 291 ส่งต่อของขวัญ!
เห็นเช่นนี้ ท่านผู้เฒ่าลูบเคราหัวเราะลั่นพลางโบกๆ มือ “ฮ่าๆๆ ดีๆ ว่าตามพวกเจ้าเลย ไปเถอะๆ แม่หนูเฟิ่ง พักผ่อนให้ดี คืนนี้ต้องมาดื่มเป็นเพื่อนปู่นะ”
“ได้เจ้าค่ะ งั้นข้าจะกลับไปพักก่อน”
เธอหัวเราะเบาๆ ฝีเท้าสาวไปสองก้าวกลับชะงักลง หันกลับไปมองพวกเขา หัวเราะแล้วเดินกลับมา “ยังไม่ได้ให้ของขวัญเลย!”
“เจ้าเด็กคนนี้ ออกไปฝึกวิชายังจะมีของขวัญอะไรมาให้พวกเราอีก?”
เฟิ่งเซียวส่ายหน้ายิ้ม คิดว่านางกลับมาได้อย่างปลอดภัยก็ดีแล้ว ของขวัญอะไรไม่ได้สนใจเลย แต่เมื่อเห็นสิ่งของที่หยิบออกมาก็เบิกดวงตากว้างอย่างอดไม่ได้ สีหน้าเหลือเชื่อ
“นี่ นี่ นี่คือปะการังหยกแดง? นี่ นี่ลูกได้มาจากไหนกัน?”
ทันใดนั้น ในหัวมีความคิดมากมายนับไม่ถ้วน มองปะการังหยกแดงแสนล้ำค่าตรงหน้า เขาเพียงรู้สึกว่าของขวัญชิ้นนี้ช่างดีเหลือเกิน!
ต้องรู้ไว้ ของชิ้นนี้เป็นสิ่งที่ประเมิณราคาไม่ได้ นอกจากไว้ชมยังสามารถใช้ฝึกบำเพ็ญ เขาอยู่ในราชวงศ์ยังเห็นแค่กระถางเล็กๆ แต่ลูกสาวกลับนำกระถางใหญ่เพียงนี้กลับมาให้ คิดๆ แล้วก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจ
เฟิ่งจิ่วหรี่ดวงตาลงยิ้ม บอกว่า “ท่านพ่อ ชิ้นนี้ให้ท่านเจ้าค่ะ!” พูดจบก็มองยังท่านปู่ข้างๆ ที่มีรอยยิ้ม ก่อนจะหยิบน้ำเต้าเหล้ายื่นไปให้
“ท่านปู่ นี่คือเหล้าวิญญาณที่หลานนำกลับมาให้ท่านเป็นพิเศษ หลานเคยชิมแล้ว รสชาติกลมกล่อมค้างอยู่ในลำคอไม่สิ้นสุด หนำซ้ำน้ำเต้าที่ใส่เหล้านี้ยังเป็นวัตถุเวท สามารถเก็บเหล้าได้อย่างน้อยร้อยห้าสิบกิโล อีกหน่อยท่านปู่อยากดื่มเหล้าก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเก็บไม่พอ”
“ฮ่าๆๆๆ ดีๆ แม่หนูเฟิ่งยังมีใจนึกถึงปู่ ถึงรู้ว่าสิ่งที่ปู่ชอบที่สุดคือเหล้า” ท่านผู้เฒ่ารับไปอย่างชอบใจ เปิดฝาน้ำเต้ามาดมกลิ่นหอมเหล้าอย่างร้อนอกร้อนใจ
เพียงเห็นเขาสูดหายใจเข้าลึกๆ หลับตาลงเบาๆ ด้วยสีหน้าแสนสำราญ “หอมจริงๆ! หนำซ้ำมีพลังวิญญาณอุดมสมบูรณ์นัก ทั่วทั้งแคว้นอวิ๋นเยวี่ยก็หาเหล้าชั้นเลิศแบบนี้ไม่ได้หรอกนะ!”
“จริงรึ? ข้าขอลองดื่มหน่อยสิ”
เฟิ่งเซียวได้ยินก็เข้าไปใกล้ ใครจะรู้ว่าท่านผู้เฒ่าโอบน้ำเต้าไว้ในอ้อมอกมือหนึ่งปัดเขาออก “ไปๆๆ นี่เป็นของที่หลานรักข้านำกลับมาให้ เจ้าก็มีของขวัญชิ้นนั้นอยู่ อย่าหวังจะได้ของพวกนี้เลย”
เห็นสองท่านหัวเราะคิกคัก ในดวงตาเฟิ่งจิ่วเผยแววอ่อนโยน ครอบครัวเช่นนี้ช่างดีจริงๆ เรียบง่าย อบอุ่น แม้คนน้อยแต่ทุกคนล้วนให้คุณค่ากับความรักในครอบครัว ความรักที่ไม่เคยสัมผัสอยู่ที่นี่เธอกลับได้รับมาทั้งหมด
“พี่ นี่ให้ท่าน” เธอหยิบกระดานแปดทิศมายื่นให้เขาทั้งรอยยิ้ม
กวนสีหลิ่นตกใจเล็กน้อย เอ่ยด้วยความประหลาดใจ “ข้าก็มีของขวัญรึ?”
ได้ยินเช่นนี้ เฟิ่งก็หัวเราะเบาๆ อย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ “แน่นอน ท่านเป็นครอบครัวข้า ท่านปู่ท่านพ่อต่างมี จะขาดของท่านไปได้อย่างไร?”
เธอพูดยิ้มๆ เห็นเขาถือของชิ้นนั้นโดยไม่รู้ว่าคืออะไร จึงบอกว่า “นี่คือกระดานแปดทิศ เป็นวัตถุเวท สามารถใช้เหาะเหินและตอบโต้ศัตรูได้”
ได้ยินคำพูดนาง กวนสีหลิ่นก็เล่นกระดานแปดทิศที่ถือไว้ด้วยสีหน้าระรื่นใจ
“งั้นข้ากลับเรือนก่อนนะเจ้าคะ” เธอพูดพลางยิ้ม ถึงจะเดินไปในเรือน
ถึงเวลาตอนเย็น เหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาก็กลับมา อาหารมื้อเย็นในเรือนกำลังจัดเตรียม ข้ารับใช้ที่วนไปวนมาต่างยุ่งวุ่นวาย ทำให้ทั่วจวนตระกูลเฟิ่งดูแล้วคึกคักไม่สิ้นสุด
เฟิ่งเซียวที่กำลังแกล้งหยางหยางเล่นตะโกนยกเสียง “เหลิ่งซวง เจ้าลองไปดูสิว่าชิงเกอตื่นหรือยัง ให้นางเข้ามา ข้าวของด้านนี้เตรียมไว้กำลังดี แค่รอนางมาก็เปิดงานได้เลย”
……………………………………………
ตอนที่ 292 ยกเลิกการหมั้น!
“เจ้าค่ะ”
เหลิ่งซวงขานรับ ขณะกำลังเดินไปเรือนด้านหลังก็เห็นนายท่านเดินหาวออกมา เช่นนี้นางจึงเรียก “นายท่าน”
“อืม” เฟิ่งจิ่วตอบรับ เพิ่งตื่นยังง่วงนอนอยู่นิดหน่อยร่างกายท่าทางเอื่อยเฉื่อย
“นายท่าน” เหลิ่งหวาเห็นนางก็เผยรอยยิ้มระรื่นออกมาอย่างอดไม่ได้ มายังข้างกายนางพร้อมขานเรียก
สายตาเฟิ่งจิ่ววนมองบนร่างเขา เอ่ยยิ้มๆ “ดูท่าทางร่างกายจะแข็งแรงขึ้นไม่น้อย”
“ข้าฝึกไทเก๊กทุกวันเช้าเย็น ตอนนี้ร่างกายจึงดีมากแล้วขอรับ” เหลิ่งหวาพูดด้วยความดีใจอยู่บ้าง
“งั้นก็ดี” เธอพยักหน้าก่อนจะเดินไปหาท่านผู้เฒ่าที่ดื่มเหล้าขึ้นมาอย่างอดใจไม่ไหว กล่าวทั้งรอยยิ้ม “ท่านปู่ ท่านไม่กลัวเมารึ? ฤทธิ์เหล้านี้แรงนัก ครั้งหนึ่งจะดื่มเยอะเกินไปไม่ได้นะเจ้าคะ”
“ฮ่าๆๆ ไม่เป็นไรๆ ปู่ดื่มเก่งอยู่!” ท่านผู้เฒ่าหัวเราะร่า รินเหล้าขึ้นจิบอีก กวักมือเรียก “ในเมื่ออยู่พร้อมหน้าแล้ว ก็ให้พวกข้ารับใช้ยกอาหารมาเถอะ มาๆ เข้ามานั่งกัน”
“พี่เฟิ่ง” หยางหยางวิ่งเข้ามากอดขานางด้วยสีหน้าร่าเริง “บ้านพี่เฟิ่งสวยมากจริงๆ ขอรับ ท่านลุงเฟิ่งพาหยางหยางไปชมปลาด้วย!”
ได้ยินเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วหัวเราะเบาๆ ลูบหัวเด็กน้อยพลางพูดว่า “ชอบก็ดี เจ้าอยู่ที่นี่ต้องเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่ายรู้หรือไม่?”
“อื้มๆ หยางหยางจะเชื่อฟังขอรับ” เขาผงกหัวหนักๆ รับปากเสียงสดใส
คืนนี้ครอบครัวสังสรรค์กันอย่างรื่นเริงยิ่ง กินอาหารพลางพูดคุย จนกระทั่งท้องฟ้าค่อยๆ มืดลงแต่ละคนถึงจะแยกย้ายกันไปอย่างเมามายบางส่วน…
สองวันต่อมา
ข่าวยกเลิกการหมั้นของมู่หรงอี้เซวียนกับเฟิ่งชิงเกอกระจายออกไปในเมืองอวิ๋นเยวี่ย พอข่าวแพร่ไปบางคนก็รู้สึกยินดี บ้างก็ปรบมือแซ่ซ้อง แทบพูดได้ว่าคนส่วนใหญ่ต่างไม่เห็นด้วยกับการหมั้นหมายของทั้งสอง ยามนี้การหมั้นถูกยกเลิกจึงทำให้ทุกคนแอบดีใจ
ถึงอย่างไรสำหรับพวกเขาแล้ว เฟิ่งชิงเกอไม่คู่ควรกับผู้มีพรสวรรค์อย่างท่านอ๋องสามมาแต่ไหนแต่ไร ชายหนุ่มเช่นเขา กลุ่มอำนาจที่หนุนหลังกับพลังกายของหญิงสาวข้างกายล้วนต้องโดดเด่นอย่างยิ่ง มิเช่นนั้น ลำพักแค่รูปโฉมก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย
ทุกคนต่างคิดว่าเฟิ่งชิงเกอไม่เหมาะกับมู่หรงอี้เซวียน มีเพียงคนจวนตระกูลเฟิ่งที่คิดว่ามู่หรงอี้เซวียนไม่เหมาะสมกับเฟิ่งชิงเกอ ด้วยเหตุนี้ เมื่อพวกชาวบ้านด้านนอกต่างกำลังลือกันอย่างหนาหู ทหารอารักขากับคนรับใช้ในจวนแต่ละคนต่างก็ไม่พอใจ
สำหรับพวกเขาคุณหนูใหญ่ทั้งแข็งแกร่งและโดดเด่นกว่าใครๆ ทั้งนั้น!
ส่วนเฟิ่งจิ่วที่อยู่ในลานบ้านกลับไม่เก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ แค่ต้องการรู้ว่าการหมั้นถูกยกเลิกก็พอ ยามนี้ความคิดทั้งหมดล้วนอยู่กับตำราในมือ ศึกษาอย่างละเอียดมาสองวัน ในห้วงมิติก็มีพวกยาทิพย์อยู่ ตอนนี้ขาดแค่เริ่มลงมือฝึกจากยากลั่นเซียนที่ง่ายที่สุด
ด้านวรยุทธ์พลังวิญญาณอยากจะบรรลุขั้นเป็นผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐาน ยาสร้างฐานพลังจะขาดไปไม่ได้ จะไปซื้อก็ห่างจากความจริงเกินไป ไม่ต้องพูดถึงการหายาสร้างฐานพลังสักเม็ดในแคว้นแสงสุริยันล้วนยากเย็นนัก ต่อให้มีก็ไม่คิดว่าจะทำให้สบายใจไปกว่าการปรุงด้วยตนเอง
หนำซ้ำในตำราที่ท่านอาจารย์ให้มาก็มีเอ่ยถึงรากฐานที่สมบูรณ์แบบ นั่นแทบจะเป็นรากฐานเพียงหนึ่งในหมื่น หากสามารถสร้างรากฐานที่สมบูรณ์ได้ นั่นเป็นการวางรากฐานที่ดีเยี่ยมเพื่อเข้าสู่ระดับหลอมแก่นพลังไปจนถึงระดับกำเนิดวิญญาณ
ด้วยเหตุนี้ ช่วงเวลานี้เธอจึงไม่รีบฝึกบำเพ็ญ แต่ต้องจัดเตรียมทั้งหมดไว้ให้เรียบร้อย เมื่อถึงเวลาบรรลุรากฐานสมบูรณ์ถึงจะมั่นใจได้เต็มร้อย
…………………………