ตอนที่ 419 ยอดฝีมือวิชาแพทย์?
เนี่ยเถิงที่พอกยาทาไว้บนหน้ากำลังหรี่ตานอนเอนบนตั่งตัวนุ่มพลางฟังชายวัยกลางคนข้างกายรายงานเรื่องคืนนี้
“เดิมทีพวกเขาสองคนคิดจะไปพาตัวคนที่ล่วงเกินนายท่านกลับมาจากจวนตระกูลเฟิ่ง แต่ไม่นึกว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น คนหนึ่งในนั้นกำลังคุกเข่าขอรับโทษอยู่ที่ลาน ส่วนอีกคนบาดเจ็บไม่น้อยจึงเรียกหมอที่ตามมามาตรวจดูแล้วขอรับ”
ชายวัยกลางคนรายงานอย่างระมัดระวัง พลางมองสังเกตนายท่านที่ปิดตาไว้ไม่รู้ว่านอนหลับหรือกำลังฟังแวบหนึ่ง ในใจกระวนกระวายอยู่บ้าง สองคนนั้นไปจวนตระกูลเฟิ่งในสถานการณ์ที่นายท่านไม่มีคำสั่ง หากจับคนกลับมาได้จริงยังพอได้ แต่กลับไปทำให้อับอายขายหน้า เรื่องนี้ไม่รู้ว่านายท่านจะลงโทษพวกเขาอย่างไร
หลังจากฟังคำพูดเขาจบ เนี่ยเถิงที่หลับตาอยู่ก็ลืมตาคมปลาบขึ้นมา จ้องมองชายวัยกลางคนผู้นั้นพลางบอกเสียงเข้มว่า “ผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของบรรพชนนักรบขั้นกลาง? เจ้ากำลังล้อข้าเล่นรึ”
“ข้าน้อยไม่กล้า แต่ผู้ฝึกตนคนนั้นได้รับบาดเจ็บมาจริง ซี่โครงหักสองสามจุด อาการบาดเจ็บไม่เบา ส่วนอะไรคือสาเหตุเฉพาะที่ทำให้เขาพ่าย ข้าน้อยให้ท่านหมอลองตรวจสอบดูแล้วว่าเขาโดนวางยาหรือไม่ เชื่อว่าอีกไม่นานคงมีข่าว”
กล่าวคำพูดนี้จบ เขาก็ก้มหน้าลงไม่กล้ามอง อาจเพราะพวกเขาประมาทเกินไปจริงๆ ไม่เห็นคนตระกูลเฟิ่งในสายตา เขากับนายท่านไม่เพียงเคยติดกับอยู่ในเงื้อมมือคุณหนูใหญ่เฟิ่งระหว่างทาง ถึงตรงนี้ เดิมทีคิดว่าคนที่นี่คงทำอะไรนายท่านไม่ได้ ใครจะนึกว่ากลับโดนคนของจวนตระกูลเฟิ่งทำร้ายและส่งตัวกลับมา
แล้วยังมีคืนนี้อีก ไม่นึกเลยว่าผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังผู้ทรงเกียรติจะพ่ายแพ้ในเงื้อมมือของผู้ฝึกตนระดับบรรพชนนักรบขั้นกลาง พูดออกไปพวกเขาก็อับอายกันหมด
รู้เพียงว่าช่วงนี้ก็เกินพอแล้วจริงๆ สำหรับเรื่องนี้ เพียงเพื่อผู้หญิงคนเดียว เขาไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมนายท่านถึงต้องอดทนเสียเวลากับนางถึงเพียงนี้ หากต้องการตัวนางจริง ส่งคนไปจับตัวมา คืนนี้ก็ได้เสวยสุขกันแล้ว ไหนเลยต้องทำให้ยุ่งยากเพียงนี้ด้วย
ทว่าความไม่พอใจและไม่สบอารมณ์เหล่านี้ เขาแค่กล้าคิดในใจ ให้พูดออกไปหรือ? มีแต่ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเท่านั้นแหละ
เนี่ยเถิงฟังคำพูดเขาแล้วก็ไม่พูดอะไรอีก แต่หลับตาเอนลงนอน ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร
จนกระทั่งผ่านไปครึ่งชั่วยาม หมอท่านหนึ่งก็ขานเรียกพลางเดินเข้ามา คารวะเนี่ยเถิงด้วยความเคารพ “ข้าน้อยคารวะองค์รัชทายาท”
“ว่ามา” เนี่ยเถิงเอ่ยออกมาโดยไม่แม้แต่จะลืมตา
“องค์รัชทายาท ข้าน้อยพบสิ่งนี้พ่ะย่ะค่ะ”
เขาหยิบเข็มเงินในแขนเสื้อออกมา เห็นคนที่เดิมหลับตาอยู่ลืมตาขึ้นมองมาทางเขา จึงรีบร้อนบอกว่า “เข็มเงินเล่มนี้ดึงออกมาจากจุดลมปราณบริเวณตันเถียนของหลินเหล่า เขาบอกว่าตอนนั้นจู่ๆ ก็รู้สึกว่าพลังวิญญาณในร่างโดนผนึก ข้าน้อยจึงตรวจดูจุดชีพจรบนร่างสักพัก ถึงได้พบเข็มเงินเล่มนี้ ทว่าสามารถแทงเข็มเข้าตรงจุดนี้ได้ในระยะไกล คิดๆ แล้วคนคนนี้น่าจะเป็นยอดฝีมือวิชาแพทย์”
กล่าวจบ หมอคนนั้นกล่าวต่อไปว่า “ดังนั้นจึงบอกได้ว่าหลินเหล่าไม่ได้พ่ายแก่ผู้ฝึกตนระดับบรรพชนนักรบ แต่แพ้ให้ยอดฝีมือวิชาแพทย์ เพียงแต่ตามที่พวกเขาบอกมา ตอนนั้นไม่เห็นคนอื่นลงมือ จึงไม่รู้ว่าเข็มเงินนี้ใครเป็นคนทำพ่ะย่ะค่ะ”
ใช้อาวุธลับกับผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังซ้ำยังไม่โดนพบเห็น ต้องบอกเลยว่าคนคนนี้นอกจากเป็นยอดฝีมือวิชาแพทย์แล้ว ในด้านวรยุทธ์ก็มีระดับที่ไม่ได้อ่อนด้อย แต่สิ่งที่ทำให้เขานึกไม่ถึงคือการที่แคว้นเล็กๆ ระดับเก้าก็มียอดฝีมือเช่นนี้ได้ และไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้พบหน้ากันหรือไม่?
………………………………………………….
ตอนที่ 420 ค่อยๆ อบรมสั่งสอน?
“ยอดฝีมือวิชาแพทย์?” เนี่ยเถิงมองชายวัยกลางคนข้างๆ แล้วขมวดคิ้ว “เรื่องที่ให้เจ้าไปตรวจสอบยังไม่กระจ่างอีกรึ? ทำไมตระกูลเฟิ่งถึงมีคนเช่นนั้นคอยปกป้อง?”
กล่าวจบกลับเหมือนนึกอะไรออก แววตาลึกล้ำเฉียบคมมีประกายฉายผ่าน
“นายท่าน คนผู้นี้มีความเป็นไปได้สูงยิ่งว่าจะเป็นภูตหมอ เพียงแต่ภูตหมอเป็นเทพมังกรที่เห็นหัวไม่เห็นหางมาโดยตลอด พวกเราคิดจะตามหาเบาะแสเขาก็ยากยิ่งนักห หนำซ้ำเขายังมีความสัมพันธ์อันดีกับตลาดมืด พวกเราเองก็ทำอะไรเขาไม่ได้ขอรับ”
ชายวัยกลางคนแอบถอนใจ รายงานไปด้วยความเคารพ เรื่องที่ภูตหมอปรากฏตัวในแคว้นเหินเวหาก่อนหน้านี้อึกทึกครึกโครมยิ่ง ยาน้ำของเขาล้ำค่าหาใดเปรียบ แม้แต่ในแคว้นเหินเวหายังมีนักปรุงยาน้อยคนนักที่จะเทียบกับเขาได้ ไม่เช่นนั้น แม้แต่กลุ่มอำนาจตลาดมืดที่กระจายอยู่ตามแต่ละแคว้นเรืองอำนาจคงไม่ปฏิบัติต่อเขาเฉกเช่นแขกผู้มีเกียรติ
“นึกไม่ถึงว่าตระกูลเฟิ่งเล็กๆ จะได้ผูกสัมพันธ์กับคนอย่างภูตหมอ” เขายกริมฝีปากยิ้ม นึกถึงสาวน้อยที่มีท่าทางเย้ายวนใจ แววตายิ่งเคร่งขรึม “น่าเสียดาย ถึงเป็นภูตหมอก็ไม่อาจมาแย่งผู้หญิงกับข้าได้!”
ได้ยินคำพูดนี้ ชายวัยกลางคนก้มหน้าลงเล็กน้อย ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยความนบนอบ
ส่วนหมอคนนั้นก็มองหน้าเนี่ยเถิงที่พอกยาทาไว้อย่างแปลกๆ อยากจะพูดนักว่า ฝ่าบาท…หน้าท่านยังไม่ดีขึ้นเลยด้วยซ้ำ! ไม่ทันไรก็กังวลถึงคุณหนูใหญ่ตระกูลเฟิ่งคนนั้นเสียแล้ว หรือที่โดนซ้อมมายังไม่พอจริงๆ?
“ฝ่าบาท ผู้ครองแคว้นแสงสุริยันมาขอพบอยู่ด้านนอกพ่ะย่ะค่ะ” คนผู้หนึ่งเข้ามารายงาน แอบชำเลืองมองเนี่ยเถิงที่บนใบหน้าพอกยาทาไว้ จากนั้นก้มหน้าลงอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าเนี่ยเถิงจับสายตาคนคนนั้นได้ แววตาคมกริบจึงกวาดมองเขา “ให้เขาเข้ามา”
“ขอรับ!” เขาขานรับแล้วถอยไปอย่างว่องไว
ไม่นานนัก มู่หรงป๋อก็เดินเข้ามา เมื่อเห็นเนี่ยเถิงบนตั่งตัวนุ่มจึงรีบประสานมือคารวะ พลางบอกด้วยความโกรธเคือง “องค์รัชทายาท คนตระกูลเฟิ่งทำเกินไปแล้วจริงๆ พวกเขาช่างบังอาจโดยแท้! ถึงได้กล้าก่อเรื่องเช่นนี้ขึ้น เดิมกระหม่อมคิดจะจับคนกลับมาสั่งสอน แต่ไม่นึกว่าคนใต้อาณัติจะไร้ความสามารถ แค่คนไม่กี่คนยังจับกลับมาไม่ได้ กระหม่อม…”
ยังกล่าวไม่จบ ก็โดนขัดจังหวะเสียก่อน
“ท่านเข้ามาเพื่อบอกเรื่องนี้?” เนี่ยเถิงชายตามองเขา น้ำเสียงมีกลิ่นอายอันตรายบางส่วน
ได้ยินแล้วมู่หรงอี้เซวียนกระแอมไอ จัดการอารมณ์แล้วบอกว่า “อันที่จริงกระหม่อมอยากเข้ามาแจ้งองค์รัชทายาท ในเมื่อคนจวนตระกูลเฟิ่งไม่รู้จักดีชั่ว ฝ่าบาทก็ไม่จำเป็นต้องมีเมตตาด้วย ยามนี้กระหม่อมไม่รู้จะทำอย่างไรกับพวกเขา แต่ด้วยกำลังของแคว้นเหินเวหา จะจัดการแค่จวนตระกูลเฟิ่งก็ง่ายดายราวบี้มดตัวหนึ่งตาย ในเมื่อฝ่าบาทถูกใจคุณหนูใหญ่เฟิ่งคนนั้น ทำไมไม่จับนางกลับไปแล้วค่อยๆ อบรมสั่งสอนโดยตรงเล่า?”
“นี่ท่านกำลังสอนข้าว่าต้องทำยังไงรึ?” น้ำเสียงเขาหนักอึ้ง เผยความเย็นชาส่วนหนึ่ง ร่างกายมีกลิ่นอายหนาวเหน็บชวนขนลุกกระจายอยู่ ทำให้มู่หรงป๋อตกใจเล็กน้อย
มู่หรงป๋อฝืนพูดว่า “ไม่กล้า แต่กระหม่อมคิดว่าฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องเปลืองแรงเกินตัวเพื่อสตรีผู้เดียว”
ชายวัยกลางคนคนข้างๆ แอบพยักหน้า ถูกต้องแล้ว เขาก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องเสียแรงไปมากมายเพียงนี้เพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง แค่ผู้หญิงคนเดียวเท่านั้น หากนายท่านต้องการก็จับนางมา รอให้ได้นางมาแล้ว นายท่านอาจจะสนใจนางน้อยลงก็เป็นได้
นึกถึงข้อนี้ เขาแอบคิดในใจว่า ตนควรคิดหาวิธีนำตัวคุณหนูใหญ่เฟิ่งคนนั้นมาส่งถึงเตียงนายท่านไม่ใช่หรือ?