ตอนที่ 429 ผู้หญิงของเขา?
“ทำไมข้าไม่ยักรู้ ว่าทางเลือกของผู้หญิงของข้าอยู่ที่เจ้า?”
เสียงนี้เปล่งออกไป เห็นเพียงสายตาของทุกคนมองไปทางผู้มาใหม่ เมื่อผู้คนที่มุงดูไกลออกไปร้อยเมตรพากันหันกลับไปมอง ก็เปิดทางให้เดินโดยไม่รู้ตัว ในใจแอบแปลกใจ
บุรุษผู้นี้เป็นใครอีก ผู้หญิงของเขา? หมายถึงคุณหนูใหญ่เฟิ่งหรือ นี่มันละครปาหี่อะไรอีกกันแน่
ขณะที่ในใจตกตะลึง มองชายหนุ่มที่เยื้องย่างมา แต่ละคนหัวใจสั่นไหวเล็กน้อย ในเวลานั้นรู้สึกหวาดกลัวต่ออำนาจทรงพลังในการมาเยือนของเจ้าเหนือหัว ถึงกับทำให้พวกเขายืนนิ่งไม่ไหวติง แม้แต่เสียงยังไม่กล้าเปล่ง
เพียงรู้ว่าชายหนุ่มซึ่งไพล่มือหนึ่งไว้ด้านหลัง อีกข้างวางไว้ตรงเอวพลางเดินนวยนาดเข้ามาสวมชุดคลุมดำลวดลายอ่อนจาง ที่เอวคาดเข็มขัดหยก รูปร่างสูงโปร่งเหยียดตรงกว่าชายทั่วไป ทั่วร่างมีอำนาจราชันที่ดุร้ายน่าสะพรึงกระจายอยู่ นั่นคือความน่าเกรงขามทรงอำนาจที่มีมาแต่กำเนิด ไม่จำเป็นต้องใช้คำพูดใดบรรยาย แค่แววตาและท่าทางก็แสดงทั้งหมดอย่างชัดเจน
บนหน้าเขาสวมหน้ากากสีเงินไว้ จึงเห็นรูปลักษณ์ไม่ชัดเจน เผยให้เห็นเพียงรูปคางที่เค้าโครงชัดเจนและริมฝีปากบางน่าเย้ายวน มองขึ้นไปอีกคือดวงตาดำดูลึกลับที่ลึกล้ำราวมหาสมุทร ภายในดวงตาคู่นั้นแฝงกลิ่นอายชวนหวาดหวั่น ทั้งดุร้ายและเย็นยะเยือก เพียงแวบเดียวก็เหมือนถูกเขามองลึกถึงก้นบึ้งหัวใจ ทำให้พวกเขาหนาวสั่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
การปรากฏตัวของชายผู้นี้เป็นดั่งแสงสว่างปกคลุมมายังผู้คน ไม่เพียงเพราะกลิ่นอายสูงศักดิ์บนร่างเขา ยังมีความทรงอำนาจน่าเกรงขามที่ติดตัวมาแต่กำเนิด ทั้งหมดทำให้คนตรงนี้รู้ว่าเขาไม่ธรรมดา!
การปรากฏตัวของเขาไม่มีใครกล้าเพิกเฉย ไม่มีใครกล้าดูแคลน แม้ด้านหลังมีเพียงชายสองคนติดตาม แต่อำนาจบารมีที่เผยออกมากลับทำให้คนแคว้นเหินเวหาต่างระแวดระวัง
แม้กระทั่งตัวประหลาดเฒ่าระดับกำเนิดวิญญาณยังหวั่นใจ ขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางพินิจบุรุษในชุดคลุมดำ อยากจะมองวรยุทธ์และพลังเขาให้ออก แต่ยิ่งเห็นยิ่งตกใจ ศัตรูคล้ายบ่อน้ำไร้ก้นบึ้ง ลึกล้ำเกินคาดเดา!
เขาทำได้เพียงหายใจเข้าลึกๆ สงบอารมณ์ที่แปรปรวน และประสานมือคารวะบุรุษชุดคลุมดำ เอ่ยถามว่า “ไม่ทราบว่าท่านผู้สูงศักดิ์เป็นใคร เกี่ยวข้องอะไรกับคุณหนูใหญ่เฟิ่ง?”
ถึงแม้เขาเป็นผู้แข็งแกร่งระดับกำเนิดวิญญาณ แต่เมื่อเผชิญหน้าคนที่ไม่อาจคาดเดาได้ ก็ไม่กล้ายโสโอหังเกินไปนัก ทว่าอย่างไรเขาก็นึกไม่ถึง แคว้นเล็กระดับเก้ากลับมีคนเช่นนี้ปรากฏได้ หนำซ้ำยังปรี่มาหาคุณหนูใหญ่ตระกูลเฟิ่งเสียด้วย
ผู้หญิงของเขา? หรือว่าเขาคือคนในใจของคุณหนูใหญ่เฟิ่ง
หากเฟิ่งจิ่วในยามนี้รู้ว่าตัวประหลาดเฒ่าคิดอะไร เดาว่าคงโกรธแทบตาย เธอไม่รู้ว่าเจ้าตำหนักยมราชตามมาถึงที่นี่ได้อย่างไร ชัดเจนว่าเธอใช้ตัวตนภูตหมอและแต่งกายเป็นผู้ชายตลอดเวลาที่อยู่ต่อหน้าเขา! แล้วทำไมคนคนนี้ถึงมาหาเธอได้?
อีกอย่าง อะไรคือผู้หญิงของเขา? เธอกลายเป็นผู้หญิงของเขาตอนไหน ขณะในใจกำลังจะอาเจียน ก็ได้ยินเสียงเย้ายวนน่าหลงใหลที่กลมกล่อมเช่นสุราชั้นเลิศดังมาอย่างหยอกล้อ
“สาวน้อย เจ้าว่าพวกเราเป็นอะไรกัน?”
ทันใดนั้น ทุกคนต่างตะลึงงัน สายตาล้วนมองไปทางร่างสีแดงแสบตา
จริงด้วย! คุณหนูใหญ่เฟิ่งเป็นอะไรกับชายสวมหน้ากากคนนั้นกันแน่
แม้แต่เหล่าองครักษ์ยังมองนายท่านของพวกเขาด้วยดวงตาฉายแววใคร่รู้ อยากจะรู้ว่านางกับชายที่ราวกับเทพผู้นี้มีความสัมพันธ์เช่นไรกันแน่
………………………………………………….
ตอนที่ 430 ท่านผู้อาวุโสนี่เอง!
เห็นสายตาทุกคนหยุดลงบนร่างเฟิ่งจิ่ว ดวงตาที่ฉายความอยากรู้แต่ละคู่จับจ้องมา เธอก็อดขนลุกชันขึ้นมาบ้างไม่ได้
สายตาคนอื่นยังดี เธอเมินเฉยได้ แต่เจ้าตำหนักยมราชนี่อะไร ดวงตาลึกล้ำคู่นั้นจ้องเธออยู่นิ่งๆ เช่นนั้น ซ้ำยังเอ่ยถามเช่นนี้ออกมา คิดจะให้เธอตอบยังไง หนำซ้ำระหว่างเขากับเธอก็ไม่ได้คลุมเครืออย่างที่เขาบอกกระมัง?
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เธอแต่งตัวเป็นผู้หญิง! หากทำนิ่งไม่รู้จักเขา เขาจะทำอะไรเธอได้?
ดังนั้นเธอจึงเชิดหน้ายิ้ม กะพริบดวงตาน่าหลงใหล มองเขาด้วยรอยยิ้มร่า “ขออภัย พวกเรารู้จักกันด้วยรึ?”
กล่าวคำนี้ออกไป เธอรู้สึกอย่างชัดเจนว่ากลิ่นอายในอากาศเย็นขึ้นบางส่วน เห็นดวงตาดำขลับลึกล้ำคู่นั้นจ้องเธอไม่ละสายตา ในใจจึงอดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดเล็กน้อย ทว่าเวลาต่อมาเธอจัดการอารมณ์ แอบคิดว่าเธอกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันจริงๆ จะรู้สึกผิดทำไม?
ด้วยเหตุนี้ เธอยังคงหรี่ตามองเขากลับ คิดว่าแพ้ได้แต่อย่าไร้ความพยายาม อย่างไรก็ให้โดนดูถูกไม่ได้
เจ้าตำหนักยมราชมองเฟิ่งจิ่ว เห็นรอยยิ้มนั้นที่ประดับบนใบหน้างามเพริศพริ้ง มองดวงตาหยียิ้มของนางตรงๆ และเห็นความรู้สึกผิดที่แวบผ่านในดวงตา เขาแค่นเสียงเย็นในใจ ไม่สบอารมณ์นิดหน่อย
ผู้หญิงคนนี้ ยังคิดจะตัดความสัมพันธ์กับเขาอีก? เขามาหาตั้งไกลถึงที่นี่ นางจะตัดได้ลงคอหรือ?
นึกถึงว่าตลอดทางวิ่งแจ้นมา สิ่งที่ต้อนรับเขาไม่ใช่ท่าทางตื่นเต้นประหลาดใจ กลับกลายเป็นนางแสร้งทำว่าไม่รู้จักกัน และรีบเร่งตัดสัมพันธ์ เขาไม่ชอบใจอย่างมาก
ตอนนี้เขาชำเลืองมองนาง กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ไม่รู้จัก? เจ้าเปิดกระเบื้องหลังคาถ้ำมองข้ากลางดึกทำไมไม่บอกว่าไม่รู้จัก? ตอนโอบคอข้าไว้ไม่ปล่อยทำไมไม่บอกว่าไม่รู้จัก? คืนนั้นที่เจ้ากับข้า…”
“เหอะๆๆ เจ้าตำหนักยมราช ที่แท้เป็นท่านผู้อาวุโสนี่เอง!”
เห็นเขาจะพูดเรื่องพวกนั้นไม่จบไม่สิ้น เฟิ่งจิ่วฟังแล้วรีบร้อนตัดบท ความคิดพลันหมุนเปลี่ยนไปสามร้อยหกสิบองศา ดวงตาหรี่ยิ้มเข้าไปรับหน้า ทักทายด้วยท่าทางคุ้นเคย แต่ในใจโกรธเสียจนกัดฟันกรอด
ชัดเจนว่าเรื่องไม่ใช่อย่างที่เขาบอก แต่พอพูดออกจากปากเขาความหมายก็เปลี่ยนไป คนที่ไม่รู้เรื่องจะคิดว่าเธอหื่นกามสักแค่ไหน!
อืม… แม้ว่าเธอจะหื่นกามนัก แต่เรื่องที่ทำให้เสียภาพลักษณ์นายท่านตระกูลเฟิ่งพูดน้อยๆ หน่อยจะดีกว่า
ยามนี้ฮุยหลางกับอิ่งอีมองนายท่านอย่างเต็มไปด้วยความเคารพ ที่แท้นายท่านเป็นคนพาลขึ้นมาก็ไม่ธรรมดาเช่นนี้เอง แค่สามประโยคก็ทำให้ภูตหมอจำต้องยอมรับความสัมพันธ์ระหว่างนางกับเขา ร้ายกาจจริงๆ!
และตอนนี้เอง ผู้คนโดยรอบแต่ละคนจ้องมองเฟิ่งจิ่วด้วยท่าทีแปลกใจ ทำท่าทางเหลือเชื่อ เหมือนไม่อาจจินตนาการถึงภาพที่คุณหนูใหญ่ตระกูลเฟิ่งผู้สง่าและงดงามปีนหลังคาถ้ำมองคนอื่นกลางดึกได้…
อีกอย่าง โอบคอชายชุดคลุมดำไว้ไม่ปล่อย? จริงหรือนี่ ชายคนนี้ทั่วร่างเต็มไปด้วยกลิ่นอายอันตราย มองอย่างไรก็ไม่เข้ากัน ทำไมนางถึงกล้าโอบคอเขาไม่ปล่อย หรือว่าจะสนิทสนมกันมากจริงๆ?
เพียงแต่ตอนนี้สิ่งที่พวกเขาอยากรู้มากกว่าคือประโยคครึ่งหลังที่ชายหนุ่มชุดคลุมดำยังพูดไม่จบ คืนนั้นพวกเขาทำอะไรกัน ดื่มร่วมกัน? อาบน้ำร่วมกัน?
ครั้นนึกถึงประโยคด้านหลัง สีหน้าทุกคนมีชีวิตชีวาราวกับทาสี แต่ละคนจับจ้องคุณหนูใหญ่ตระกูลเฟิ่งด้วยดวงตาเป็นประกายเหมือนค้นพบความลับอะไรบางอย่าง
มิน่าคุณหนูใหญ่เฟิ่งถึงยกเลิกการหมั้นหมายกับท่านอ๋องสามมู่หรงอี้เซวียน ซ้ำยังปฏิเสธไม่เป็นชายารองของรัชทายาทแคว้นเหินเวหา ที่แท้นางก็มีคนในใจแล้ว!