ตอนที่ 455 คำสาบานต่อฟ้าดิน!
ได้ยินคำพูดนี้ เจ้าตำหนักยมราชเอามือไพล่หลังยืนเงียบสักพัก ถึงจะเดินไปยังภูเขาด้านหลัง ไม่ได้ไปช่วย แค่ไปดูเสียหน่อยว่านางกำลังทำอะไร? รู้จักกันมานานเพียงนี้ เขาควรจะรู้แต่แรกว่านางเป็นคนเข้มแข็ง มีเรื่องอะไรล้วนวางแผนจัดการและแบกรับด้วยตนเอง ในเมื่อเป็นเช่นนี้เขาแค่คอยมองอยู่ข้างๆ ก็พอ
จริงอยู่ที่โลกกว้างใหญ่เพียงนี้ ผู้แข็งแกร่งห่างชั้นกันแค่ไหน นางในตอนนี้ไม่อาจรู้ได้ คนที่ต้องการออกจากแคว้นเล็กระดับเก้าอย่างนางไม่อาจให้เขาปกป้องได้ตลอด หากคอยปกป้องนางร่ำไป เกรงว่าอนาคตจะยิ่งลำบาก
นึกถึงตรงนี้ ริมฝีปากบางก็เม้มเบาๆ ดวงตาดำสงบลึกล้ำ ในใจมีความรู้สึกที่พูดออกมาไม่ได้
ในเวลาเดียวกันนี้ ภูเขาด้านหลัง
ยามนี้เป็นครั้งแรกที่เฟิ่งจิ่วเรียกเหล่าองครักษ์ประจำตระกูลมา และเป็นครั้งแรกที่ให้พวกเขาแต่งตัวเต็มยศมาปรากฏตัวต่อหน้าเธอ ระหว่างมองเหล่าทหารอารักขารวมถึงหัวหน้าทั้งแปดที่ยืนอยู่หน้าทุกกองย่อย ก็เปล่งเสียงเย็นออกมา
“ตั้งแต่ข้ารับช่วงต่อองครักษ์ตระกูลเฟิ่ง นี่เป็นครั้งแรกที่เรียกพวกเจ้ามาพูดคุย พวกเจ้าทุกคนล้วนมีตระกูลเฟิ่งชุบเลี้ยง เป็นทหารอารักขาผู้โดดเด่นที่สุดที่คัดเลือกมาอย่างละเอียดถี่ถ้วน บ้างก็ติดตามพ่อข้าไปสังหารศัตรูหลายร้อยครั้ง ข้าจึงไม่เคยสงสัยในความภักดีของพวกเจ้า แต่ว่า!”
เหล่าองครักษ์หวั่นใจเล็กน้อย ได้ยินนางพูดคำว่าแต่แล้วหยุดชะงักไม่พูดต่อไป พวกเขากลั้นลมหายใจโดยพลัน แต่ละสายตาจับจ้องบนร่างนาง คิดว่านางจะพูดอะไรต่อไป?
สำหรับนายใหม่คนนี้ พวกเขายังรู้จักนางไม่ลึกซึ้ง ถึงกับพูดได้เลยว่ามีเพียงภาพประทับใจที่นางมอบให้พวกเขาหน้าประตูจวนวันนั้น หลังจากผู้เฒ่ากับผู้นำตระกูลเกิดเรื่องกันต่อเนื่อง ในใจจึงสงสัยในพละกำลังของนาง
ทว่าหลังจากเผชิญหน้ากับแคว้นเหินเวหาวันนั้น พวกเขารู้ได้ว่านายท่านคนนี้ไม่ได้อ่อนแอไร้ความสามารถอย่างที่คนภายนอกบอกกัน ตรงกันข้าม ภาพนั้นที่นางสังหารแม่ทัพที่ผู้ครองแคว้นส่งมาอย่างเด็ดขาดยังคงฝังลึกในห้วงความทรงจำของพวกเขา
คนที่กล้าลงมือเช่นนั้นหรือจะเป็นผู้อ่อนแอไร้ความสามารถ? เหอะ! อย่าล้อเล่นเลย!
หากอ่อนแอไร้ความสามารถจริง หัวหน้าแต่ละกองย่อยคงไม่นับถือนางเป็นนาย แต่…คล้ายว่านอกจากหลัวอวี่แล้ว หัวหน้ากองย่อยคนอื่นๆ แม้จะเรียกนางว่านายท่านกลับเหมือนว่ายังไม่ยอมรับ?
นึกถึงตรงนี้ สีหน้าพวกเขาก็เผยความแปลกใจบางส่วน พากันมองไปทางพวกหัวหน้ากองตรงหน้า
เฟิ่งจิ่วชายตามองทุกคน น้ำเสียงเย็นเปล่งขึ้นอีกครั้ง “แต่ข้าต้องการให้พวกเจ้ายอมรับเป็นนายอีกครั้ง! ปฏิญาณด้วยคำสาบานต่อฟ้าดิน! สาบานว่าจะสวามิภักดิ์ต่อข้าเพียงผู้เดียว และจะไม่มีวันทรยศหักหลังตระกูลเฟิ่ง!”
ครั้นได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าพวกเขาแปรเปลี่ยนวูบหนึ่ง ปฏิญาณคำสาบานต่อฟ้าดิน? คำสาบานเช่นนี้พวกเขารู้จัก เป็นการใช้พลังเร้นลับในร่างตอบรับพลังแห่งฟ้าดินเพื่อเอ่ยคำสัตย์สร้างพันธสัญญา เมื่อเอ่ยคำสาบานเช่นนี้ไว้ หากพบว่ามีการทรยศหักหลัง ถึงขั้นที่ว่านายท่านไม่ต้องลงโทษ ฟ้าดินก็จะใช้สายฟ้าลงทัณฑ์ผู้ทรยศเอง!
แม้พวกเขาเป็นองครักษ์ตระกูลเฟิ่ง แต่ตลอดมาไม่เคยปฏิญาณด้วยคำสาบานเช่นนี้ นายท่านให้พวกเขาทำแบบนี้หมายความเช่นไร? หรือในใจยังไว้วางใจพวกเขาไม่มากพอ?
นึกถึงตรงนี้ สีหน้าท่าทีแต่ละคนต่างสั่นไหวเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ยินยอม แต่รู้สึกแปลกๆ อยู่บ้าง ในเมื่อไม่สงสัยในความภักดีของพวกเขา ทำไมยังต้องทำมากพิธีเพียงนี้อีก?
ทว่าในเวลานี้ หัวหน้ากองย่อยทั้งแปดเบื้องหน้ากลับคุกเข่าลงข้างหนึ่ง นิ้วชี้ขึ้นฟ้า น้ำเสียงทุ้มต่ำที่เคร่งขรึมและจริงจังเปล่งออกจากปากพวกเขา…
………………………………………………….
ตอนที่ 456 นายท่านคือภูตหมอ
“ข้าหลัวอวี่!”
“ฟั่นหลิน!”
“ฉีคัง!”
“เว่ยเฟิง!”
“หลู่อวิ๋น!”
“กู่โม่!”
“สวี่ตัว!”
“ฟางเฉิง!”
“ขอปฏิญาณตน ณ ที่นี้ ชีวิตนี้จะติดตามนายท่าน ไม่มีวันทรยศหักหลัง จงรักภักดีจวบจนวันตาย! หากผิดคำสาบานขอให้ฟ้าดินลงทัณฑ์!”
เสียงที่ทุ้มต่ำและเคร่งขรึมทั้งแปดดังขึ้นและกล่าวจบพร้อมๆ กัน เสียงกังวานทรงพลังของพวกเขาพร้อมกับคำสาบานดังเข้าหูเหล่าองครักษ์ด้านหลังรวมถึงตัวเฟิ่งจิ่วตรงหน้า เมื่อสิ้นเสียงพวกเขา ลวดลายอักขระเก่าแก่ซับซ้อนทั้งแปดก็ปรากฏขึ้นบนพื้นดินใต้ร่าง ก่อนจะกลายเป็นลำแสงพุ่งเข้ากลางหว่างคิ้วพวกเขาและหายไป
ในเวลานี้ เหล่าองครักษ์ด้านหลังเห็นแล้วก็คุกเข่าลงข้างหนึ่งทันที แววตาต่างจับจ้องบนร่างเฟิ่งจิ่ว เสียงกึกก้องมากด้วยพลังที่ทรงอำนาจราวกับจะสังหารศัตรูกระหึ่มขึ้นตรงภูเขาด้านหลังอย่างพร้อมเพรียงและขึงขัง
“พวกข้าขอปฏิญาณตนไว้ ณ ที่นี้ ชีวิตนี้จะติดตามนายท่าน ไม่มีวันทรยศหักหลัง จงรักภักดีจวบจนวันตาย! หากผิดคำสาบานขอให้ฟ้าดินลงทัณฑ์!”
ลวดลายอักขระขนาดใหญ่อันหนึ่งค่อยๆ กระจายออกไปใต้ฝีเท้าองครักษ์ทุกคน หลังจากรวมกับกลิ่นอายพลังเร้นลับของพวกเขา ก็กลายเป็นลำแสงแต่ละสายพุ่งเข้ากลางหว่างคิ้ว ความงดงามของภาพนั้นทำให้เจ้าตำหนักยมราชที่อยู่ไม่ไกลเห็นแล้วยังจิตใจสั่นไหวอย่างอดไม่ได้ แววตาลึกล้ำไร้ก้นบึ้งมองไปทางร่างสีแดงนั้น
อิ่งอีกับฮุยหลางตามอยู่ด้านหลัง ยามเห็นภาพเช่นนั้นใจก็ตกตะลึงไปบ้าง ทำให้คนพวกนั้นยินยอมพร้อมใจรับนางเป็นนาย และปฏิญาณด้วยคำสาบานฟ้าดินได้ นางไม่ธรรมดาจริงๆ
ต้องรู้ไว้ว่า การปฏิญาณคำสาบานต่อฟ้าดินนั้นเท่ากับมอบชีวิตไว้ในกำมือนาง แค่คนสองคนยังไม่เท่าไหร่ แต่องครักษ์หลายร้อยคนนี้กลับทำตามโดยไม่รีรอ ทำให้พวกเขาประหลาดใจจริงๆ ทว่าสิ่งที่ทำให้พวกเขายิ่งแปลกใจกว่าคือคำพูดต่อมาของภูตหมอ
“เหลิ่งซวง เหลิ่งหวา ส่งของที่เตรียมไว้ไป”
“ขอรับ/เจ้าค่ะ!” เหลิ่งซวงกับเหลิ่งหวาที่ยืนอยู่ด้านหลังเฟิ่งจิ่วขานรับ ก่อนมาด้านหน้าพวกหลัวอวี่แล้วแบ่งกันยื่นกล่องใบหนึ่งให้พวกเขา ด้านในใส่ขวดที่บรรจุยาอายุวัฒนะไว้
“พวกเจ้าส่งต่อไปกันเองเถอะ!”
หลัวอวี่รับมาแล้วมองแวบหนึ่ง มองเฟิ่งจิ่วด้วยความตื่นเต้น “นายท่าน นี่คือ?” สวรรค์! คงไม่ใช่อย่างที่เขาคิดกระมัง?
เฟิ่งจิ่วชำเลืองมองเขา เปล่งเสียงออกไปพร้อมกับกลิ่นอายพลังเร้นลับ “นี่คือยาอายุวัฒนะที่สามารถช่วยพวกเจ้าบรรลุขั้นวรยุทธ์ หลังรับยาอายุวัฒนะไป พวกเจ้าก็กินและฝึกบำเพ็ญอยู่ที่นี่เสีย บริเวณรอบๆ นี้จะมีผู้ฝึกตนระดับหลอมแก่นพลังสี่คนคอยคุ้มกัน ไม่ต้องกังวลว่าจะโดนรบกวน”
ได้ยินคำพูดนี้แล้วทุกคนต่างฮือฮาขึ้นมา อุทานกันเสียงหลง “อะไรนะ? ยาอายุวัฒนะ? นี่เป็นยาอายุวัฒนะสำหรับบรรลุขั้นจริงๆ หรือ?”
“ของจริงๆ พวกเจ้าดูสิ ข้าได้มาแล้ว!” องครักษ์นายหนึ่งที่รับยาอายุวัฒนะไปแล้วยกเม็ดยาในมือขึ้นมา “มันคือยาอายุวัฒนะ ด้านบนมีลวดลายเม็ดยาด้วย!”
“ซี๊ด! นี่ นี่มียาอายุวัฒนะตั้งเท่าไหร่กันเนี่ย! นายท่านได้มาจากไหนกัน?” พวกเขาต่างสูดหายใจอย่างเหลือเชื่อ ในแคว้นเล็กระดับเก้าเช่นนี้ แค่ยายังเห็นได้ยากนัก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงของหายากอย่างยาอายุวัฒนะเลย
“พวกเจ้ายังไม่รู้อีกรึ? อีกตัวตนหนึ่งของข้าคือภูตหมอ ของจำพวกยาหรือยาอายุวัฒนะ อีกหน่อยพวกเจ้าก็มีไม่ขาดแล้ว” เฟิ่งจิ่วพูดพลางยกริมฝีปากขึ้นยิ้ม น้ำเสียงเนิบๆ กลับทำให้องครักษ์ทุกคนใจเต้นขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง
สวรรค์! นายท่านคือภูตหมอ? หนำซ้ำนอกจากเป็นนักปรุงยายังเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุด้วย? มิน่านางถึงให้พวกเขาสาบานตน ตัวตนเช่นนี้ หากพวกเขาไม่เอ่ยคำสาบายต่อฟ้าดินก็ให้รู้ไม่ได้แน่ เพราะมันน่าตกใจเกินไปจริงๆ!