ตอนที่ 477 ทำลายราบคาบ!
องครักษ์แต่ละคนท่าทางสง่าผ่าเผย จิตใจฮึดสู้แกร่งกล้ากระจายทั่วร่าง ม่านตาทหารองครักษ์เหล่านั้นต่างหดเล็กลง ในดวงตามีความยำเกรง หากพูดถึงทหารองครักษ์ องครักษ์ตระกูลเฟิ่งสิถึงจะสมชื่ออันดับหนึ่ง!
พวกเขาทุกคนหนึ่งสู้สิบยังทำได้ แม้สู้เป็นร้อยก็ไหว! พวกเขาติดตามผู้นำตระกูลเฟิ่งไปสังหารศัตรูในสนามรบ องครักษ์ตระกูลเฟิ่งคือมีดปลายแหลมที่คมกริบที่สุดของตระกูลเฟิ่งและแคว้นแสงสุริยัน หากเป็นต่างแคว้น พวกเขาคงกู่ร้องแซ่ซ้องเพื่อมีดปลายแหลมนี้ แต่ภายในแคว้น เมื่อคนที่มีดปลายแหลมจะเผชิญหน้าคือพวกเขา นอกจากความเกรงกลัวยังมีความหวาดหวั่น เป็นความหวาดหวั่นที่ผุดขึ้นจากก้นบึ้งหัวใจ
เพราะพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมีดปลายแหลมนี้ แม้จำนวนคนจะเยอะกว่าพวกเขามากโข แต่เมื่อในใจทุกคนต่างชัดเจนว่าผลลัพธ์ของการเข้าไปสู้สุดชีวิตคือความตาย ความหวาดกลัวยิ่งยึดครองหัวใจและกลืนกินจิตฮึดสู้ ทำให้พวกเขาไม่อาจสู้ต่อไปได้อีก
ต่างจากสิ่งที่ทหารองครักษ์เหล่านั้นเห็น พวกผู้นำตระกูลมองเห็นองครักษ์ตระกูลเฟิ่งที่แต่งเครื่องแบบกรีธาทัพ แววตาแต่ละคนหดลงเล็กน้อย นัยน์ตาฉายแววเหลือเชื่อ
เพิ่งผ่านไปนานแค่ไหนเอง? ทำไมกลิ่นอายและราศีบนร่างพวกเขาถึงเปลี่ยนไปแล้ว? คล้ายว่าทุกคนต่างบรรลุขั้น กลิ่นอายพลังเร้นลับบนร่างแกร่งขึ้นไม่น้อย พลังเร้นลับนั้นรวมเข้าด้วยกัน จิตใจฮึดสู้ที่เอ่อล้นออกมาจึงรุนแรงกว่าเดิม
แต่จะบรรลุขั้นทุกคนได้อย่างไร? ชัดเจนว่าคือเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ยามนี้กลับปรากฏอยู่เบื้องหน้าพวกเขา จะเหลือเชื่อเกินไปแล้วกระมัง?
เมื่อองครักษ์ตระกูลเฟิ่งปรากฏตัว ทหารองครักษ์ทุกคนต่างถอยหลังโดยไม่รู้ตัว แววตามู่หรงป๋อบนราชรถทั้งอำมหิตและบ้าคลั่ง มือจับสองข้างราชรถไว้แน่น พลางมองร่างสีแดงที่ยืนเหนือประตูใหญ่จวนตระกูลเฟิ่งอย่างกรุ่นโกรธ
“เฟิ่งชิงเกอ! อย่านึกว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้าวางยาข้า! ส่งยาถอนพิษมาซะ! มิเช่นนั้นคืนนี้ข้าจะทำลายจวนตระกูลเฟิ่งให้ราบคาบแน่!”
ยามเสียงที่แก่ชราและแหบแห้งเปล่งออกไปด้วยอารมณ์รุนแรง คนจากตระกูลเหล่านั้นก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ ป่วยหนักเพียงนั้นเชียว? เสียงนั้นไม่มีกลิ่นอายพลังเร้นลับสักนิด เหมือนกับคนแก่ธรรมดาๆ ซ้ำยังเป็นคนแก่ที่พลังชีวิตจวนจะถึงจุดสิ้นสุดแล้ว
ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง มิน่าเขาถึงออกคำสั่งและทำเรื่องไร้เหตุผลเช่นนี้ ไม่ว่าจะทำหรือไม่ จุดจบที่รอเขาอยู่มีเพียงความตาย ในเมื่อเป็นเช่นนี้เขาจะไม่สู้สุดชีวิตได้อย่างไร? อาจเพราะสำหรับเขา มีเพียงคาดคั้นให้คนจวนตระกูลเฟิ่งส่งยาแก้มาเขาถึงจะมีชีวิตรอดได้ แต่ทำไมถึงคิดว่าเป็นคนจวนตระกูลเฟิ่งที่ทำร้ายเขา?
ขณะกำลังคิด ก็ได้ยินเสียงเย็นเยือกเจือความเกียจคร้านลอยชายอยู่บางส่วนดังขึ้นกลางค่ำคืน
“ผู้ครองแคว้น ตระกูลเฟิ่งซื่อสัตย์ภักดีมาหลายต่อหลายรุ่น ฝ่าบาทจะให้ร้ายพวกเราเช่นนี้ได้อย่างไร? ทรงตรัสว่าหม่อมฉันทำร้ายฝ่าบาท หม่อมฉันมีเหตุจูงใจหรือเพคะ?”
“เหตุจูงใจ? ฮ่าๆๆๆ! เฟิ่งชิงเกอ เจ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าข้าส่งคนไปซุ่มลอบสังหารเฟิ่งเซียวมิใช่หรือ? ดังนั้นเจ้าถึงวางยาให้ข้าทรมานจนตาย! ถูกต้อง! ข้าพาคนไปซุ่มโจมตีพ่อเจ้าเอง น่าเสียดายที่ตอนนั้นไม่อาจสังหารเขา ซ้ำยังทำให้เขายื้อชีวิตรอดไปได้ แต่ยามนี้เขามีชีวิตแทบไม่ต่างกับตาย คนที่หมดสติไม่ฟื้นกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ ต่อให้มีชีวิตอยู่จะมีความหมายอะไร?”
“ฮ่าๆๆๆ…วันนี้ข้าไม่สนว่าเจ้าจะส่งยาแก้มาหรือไม่ เรื่องที่ข้าทำไป ตอนนี้ไม่กลัวใครจะรู้แล้ว ขอเพียงเจ้ารู้ว่าหากข้าไม่รอด จวนตระกูลเฟิ่งเจ้าก็ต้องรับเคราะห์ไปด้วย!”
………………………………………………….
ตอนที่ 478 ล้มล้างตระกูลมู่หรง
ทุกคนต่างเบิกตาโตมองมู่หรงป๋อที่เหมือนบ้าแล้วด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ ใครก็นึกไม่ถึงว่าเขาที่ใกล้บ้าคลั่งจะพูดจาเช่นนี้ออกมา ต้องรู้ไว้ว่า ต่อให้เขาพาคนไปจู่โจมเฟิ่งเซียวจริง ก็พูดเรื่องนี้ออกมาต่อหน้าคนมากมายเพียงนี้ไม่ได้ ไม่เพียงสูญเสียใจจากชาวปประชา แต่ยิ่งทำให้ผู้คนผิดหวัง…
เป็นไปตามคาด เหล่าทหารองครักษ์ได้ยินคำพูดเขาต่างระส่ำระสายกันชั่วขณะ ทั้งที่ตรงนั้นโกลาหลขึ้นมาเล็กน้อย
ส่วนมู่หรงป๋อยามนี้เหมือนไม่สนใจ ใช่แล้ว เขาไม่สนใจอีก เพราะเขาในตอนนี้ไม่เหมือนทั้งคนและผี เหลือเพียงความบ้าคลั่งเท่านั้น ถูกคำพูดเฟิ่งจิ่วกระตุ้นจึงพูดอะไรออกมาหมด
ในห้วงความคิดเขามีเพียงยาแก้พิษ ยาแก้พิษ และยาแก้พิษ! นอกจากยาแก้พิษยังมีความคิดรุนแรงที่ต้องการโค่นล้มจวนตระกูลเฟิ่ง และทำลายให้ราบคาบ!
สำหรับเขา การต้องมีจุดจบเช่นตอนนี้ล้วนเป็นเพราะกลุ่มอำนาจจวนตระกูลเฟิ่งข่มเหงนาย แต่เขากลับไม่เคยคิดเลย จวนตระกูลเฟิ่งไม่เคยข่มเหงนาย พวกเขาถึงขั้นปกปักแคว้นแสงสุริยันและพิทักษ์ตระกูลมู่หรงมาโดยตลอด เพราะเขาหลงคิดจะทำร้ายคนที่จงรักภักดีต่อตนโดยไม่มีจิตใจเอื้อเฟื้อ จึงตกอยู่ในสภาพเช่นตอนนี้
ส่วนเฟิ่งจิ่วที่ได้ยินเขาพูดเรื่องนั้นออกมายกมุมปากขึ้นเล็กน้อย บนใบหน้าเผยรอยยิ้มบางๆ ยาที่เธอให้ฮุยหลางใส่ไป นอกจากแก่ลงแล้วยังทำให้เขาเสียสติท่ามกลางความตื่นตระหนก ถูกกระตุ้นได้ง่ายดาย
ต่อให้เธอวางแผนจัดการเขา ล้มล้างแคว้น โค่นล้มราชวงศ์ ก็ต้องทำให้ทุกคนรู้ด้วยว่ามู่หรงป๋อมีเจตนาร้ายต่อจวนตระกูลเฟิ่ง และบีบบังคับให้จวนตระกูลเฟิ่งต้องก่อกบฏเอง
อาศัยชื่อเสียงที่ซื่อสัตย์ภักดีมาหลายต่อหลายรุ่น เชื่อว่าหลังจากล้มล้างอำนาจมู่หรงป๋อ พ่อเธอจะรับช่วงต่อปกครองแคว้นแสงสุริยันอย่างง่ายดาย และขึ้นเป็นกษัตริย์ผู้ครองแคว้นนี้!
ถูกต้อง! เธอตัดสินใจเช่นนี้เสมอมา หลังจากมู่หรงป๋อลงมืออีกครั้ง เธอก็ตัดสินใจทำเช่นนี้!
เดิมทีคิดจะพาท่านพ่อกับท่านปู่ไปแคว้นอื่น แต่ลองคิดดูแล้ว นกที่ขนยังขึ้นไม่ทั่วตัวอย่างเธอ ยามไปแคว้นอื่นหากอยู่ข้างกายเธอยังปกป้องพวกเขาได้ แต่ถ้าเธอออกไปพเนจรหรือฝึกบำเพ็ญ กลับยังกังวลว่าไปอยู่ที่ใหม่แล้วพวกเขาจะโดนกลุ่มอำนาจต่างๆ กดขี่
อีกอย่าง ตระกูลเฟิ่งอาศัยอยู่ที่นี่มาหลายรุ่น แม้แสงสุริยันเป็นแคว้นเล็กระดับเก้า แต่ท่านปู่ท่านพ่อใช้ชีวิตและเติบโตที่นี่ อย่างไรก็มีความรู้สึกอยู่ หนำซ้ำตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราวท่านปู่ หากจากไป ในอนาคตเกรงว่าท่านปู่จะหาพวกเขาไม่พบ
ดังนั้นเธอจึงมีความคิดที่จะผลักดันท่านพ่อขึ้นรับตำแหน่ง ขอเพียงท่านพ่อขึ้นรับตำแหน่งกลายเป็นผู้ครองแคว้นคนใหม่ของแสงสุริยัน เช่นนั้นเขาก็ไม่ต้องตามเธอไปร่อนเร่ ไม่ต้องฝึกบำเพ็ญข้างนอกจนตกอยู่ในอันตราย ซ้ำยังรอท่านปู่กลับมาที่นี่ได้ด้วย
เฟิ่งจิ่วครุ่นคิดมาหลายตลบแล้ว รู้สึกว่าไปที่ไหนก็ล้วนไม่ดีเท่าการตัดสินใจเปลี่ยนแคว้นแสงสุริยันเป็นของพวกเขาตระกูลเฟิ่ง
ด้วยกำลังเธอกับเหล่าคนตระกูลเฟิ่ง ท่านพ่อจะนั่งตำแหน่งผู้ครองแคว้นแสงสุริยันได้มั่นคงแน่นอน! แม้ตอนนี้เป็นแค่แคว้นเล็กๆ ระดับเก้า แต่ในอนาคตแคว้นพวกเธอต้องได้รับการประเมินระดับสูงยิ่งขึ้นแน่!
เวลานี้ ในดวงตาเธอมีประกายแสงเจิดจ้า น้ำเสียงเย็นๆ เปล่งออกมาพร้อมกลิ่นอายพลังเร้นลับ ดังชัดเจนในหูผู้คนเบื้องล่าง เสียงที่มีแรงกดดันและความดุร้ายรวมถึงคำพูดเหล่านั้น ยิ่งส่งผลรุนแรงให้ใจของทุกคนเกิดความบ้าคลั่งที่ทำให้จิตวิญญาณสั่นสะท้าน…