ตอนที่ 167 เสี่ยงหน้าอกโผล่!
มุมปากเฟิ่งจิ่วยกขึ้นเล็กน้อย ยิ้มอยู่จางๆ “ต้องให้ยอดปรมาจารย์พลังวิญญาณทั้งสองและผู้ฝึกตนขั้นสร้างรากฐานอีกท่านมารับ ข้าก็ได้รับความกรุณาอย่างไม่คาดฝันเช่นกัน”
ได้ยินคำพูดนี้ นัยน์ตาทุกคนในห้องก็ฉายแววแปลกใจ นึกไม่ถึงว่าภูตหมอจะมองวรยุทธ์พวกเขาออก ทว่าบนร่างเขา กลับไม่รู้สึกถึงวรยุทธ์พลังเร้นลับหรือพลังวิญญาณใดๆ เลย เช่นนั้น เขามองออกได้อย่างไรกัน?
“เหอะๆ นี่เพื่อแสดงให้เห็นว่าตลาดมืดเราให้ความสำคัญกับใต้เท้าขอรับ ต่อให้ต้องออกหน้ามาต้อนรับ ก็ไม่อาจละเลยได้เป็นธรรมดา” ชายวัยกลางคนพูดยิ้มๆ ประสานมือกล่าวว่า “เวลาก็สายแล้ว เรือบินคอยอยู่ด้านนอก เชิญขอรับ”
เขาทำท่าทางเชื้อเชิญ ให้ภูตหมอเดินไปก่อน
“อืม” เฟิ่งจิ่วตอบรับ ก่อนจะลุกยืนขึ้นปัดๆ ชุดแดงบนร่าง แล้วสาวก้าวเดินออกไป
เวลานี้เหลิ่งซวงที่เฝ้าอยู่นอกประตูห้องแต่งตัวเป็นชายชาตรีในชุดสีดำ ผมสีหมึกเกล้าขึ้น สวมหน้ากากไว้บนใบหน้า หลังจากเห็นเฟิ่งจิ่วออกมาก็ตามไปข้างกาย เดินลงไปพร้อมๆ กัน
ด้านนอกตลาดมืดเวลานี้มีคนล้อมเต็มไปหมด สำหรับชื่อภูตหมอ พวกเขาต่างเคยได้ยิน กลับไม่เคยเห็นว่าเป็นคนแบบไหนกันแน่? ด้วยเหตุนี้ เมื่อเงาร่างสีแดงที่สง่างามหาที่เปรียบไม่ได้เดินออกมาจากด้านใน หลังจากตกตะลึง ผู้คนก็ตะโกนเสียงสูง
“ภูตหมอ! ภูตหมอ! เป็นภูตหมอ!”
ทุกคนแก่งแย่งเบียดเสียดผลักกัน อยากจะไปข้างหน้า แต่รอบๆ เรือบินถูกทหารอารักขาตลาดมืดล้อมเป็นวงกำแพงคุ้มกันคน พวกเขาจึงเข้ามาไม่ได้โดยสิ้นเชิง
กวนสีหลิ่นยืนอยู่บนตึกตลาดมืดมองส่งนางจากไป ไม่ได้เข้าใกล้ เพราะหากเดินใกล้นางเกินไป ตัวตนนางจะถูกคนรู้เข้า
“เชิญขอรับ” ชายวัยกลางคนทำท่าเชื้อเชิญ ให้ภูตหมอขึ้นเรือ
“อืม” เฟิ่งจิ่วขานรับ สาวก้าวเดินขึ้นเรือบิน เหลิ่งซวงก็ตามขึ้นไป
หลังจากทุกคนขึ้นมา เรือบินก็เคลื่อนลอยขึ้นห่างจากพื้นดินไปยังกลางอากาศ…
เมื่อมู่หรงป๋อ มู่หรงอี้เซวียน และเฟิ่งเซียวรีบมา ก็ทำได้เพียงมองเรือบินค่อยๆ เคลื่อนห่าง เวลาไม่นานนัก ก็หายลับเข้ากลีบเมฆ…
สามวันต่อมา ค่ำคืน ณ แคว้นเหินเวหา ที่บ่อน้ำพุร้อนตลาดมืดหลังเขา
เฟิ่งจิ่วปลดเปลื้องเสื้อผ้า ถอดหน้ากาก เปลือยเท้าเดินลงน้ำไปทีละก้าวๆ ผิวกายก็แช่อยู่ในน้ำไปตามท่ากึ่งหมอบ แล้วหาที่เหมาะๆ นั่งลงในบ่อน้ำพุร้อน สองแขนวางราบไว้บนขอบหิน แหงนหน้าขึ้นน้อยๆ พลางหรี่ตาลงอย่างสบายๆ
ความเหน็ดเหนื่อยสามวันนี้ ได้มาผ่อนคลายในบ่อน้ำพุร้อน ช่างสบายตัวเสียจนทำให้เธอง่วงหงาวหาวนอนอยู่นิดหน่อย
ส่วนด้านนอกเธอวางค่ายกลกระบี่ไว้ก่อนแล้ว ซ้ำยังมีเหลิ่งซวงคอยเฝ้าอยู่ ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนพรวดพราดเข้ามา
ถึงแม้สบายตัว แต่เธอก็รู้ว่าจะแช่อยู่ในบ่อน้ำพุร้อนนานเกินไปไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ หลังจากแช่ไปประมาณครึ่งชั่วยาม เธอก็เตรียมจะลุก ทว่าขณะที่กำลังจะยืนขึ้น ละอองน้ำที่กระจายออกมาเพราะความร้อนของน้ำพุ ในหมอกนั้นเห็นเงาร่างสีดำแวบเข้ามาราวกับกำลังหลบเลี่ยงอะไรบางอย่างอยู่
นี่ทำให้ร่างกายที่เดิมทีกำลังจะลุกยืนขึ้นต้องลดลงไปในน้ำ อาศัยละอองน้ำปกปิดหน้าอกไว้
“ใต้เท้าซ่อนตัวอยู่รึ?”
น้ำเสียงที่เกียจคร้านและมีความแหบแห้งบางส่วนไม่ได้ใส่ใจอย่างเห็นได้ชัด ทั้งมีความสงบนิ่งเนิบนาบ เหมือนการพรวดเข้ามากะทันหันของคนแปลกหน้าหาได้ทำให้เธอตกใจไม่ และน้ำเสียงที่จู่ๆ ก็ดังมาจากด้านหลัง กลับทำให้เงาร่างสีดำที่กำลังแนบกำแพงหินสังเกตการณ์ด้านนอกผงะไป พลันไหวตัวหันกลับไปมองบริเวณต้นเสียง
เห็นเช่นนี้ คิ้วคู่งามก็ขมวดขึ้นมาเล็กน้อยทันที
……………………………
ตอนที่ 168 กางเกงในสีแดง!
มองทะลุผ่านละอองน้ำไป เพียงเห็นเงาร่างหนึ่งนั่งพิงอยู่ในน้ำท่ามกลางม่านหมอก เห็นไหล่คู่กลมมนที่โผล่พ้นน้ำอยู่ลางๆ และลำคอขาวงดงามน่าหลงใหล แต่เพราะม่านหมอกละอองน้ำนั้นจึงไม่อาจเห็นใบหน้าชัดเจน
ทว่าประเมินจากท่าทางใจเย็นสงบนิ่งและน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยที่มีความแหบพร่าบางส่วน อีกฝ่ายต้องเป็นบุรุษอย่างแน่นอน อันที่จริง หากสตรีพบสถานการณ์เช่นนี้ คงตกใจส่งเสียงกรีดร้องไปนานแล้ว
“ขออภัยที่รบกวนคุณชาย”
เมื่อเขาเปล่งเสียง เฟิ่งจิ่วในน้ำถลึงดวงตาอย่างตกตะลึงอยู่บ้าง แทบจะอุทานว่า ‘ท่านอา?’
เธอกับเขาไม่มีที่ไหนที่ไม่ได้พบหน้ากันเลยจริงๆ? ถึงจะมายังแคว้นเหินเวหาก็ยังได้เจอเขาอีกอย่างไม่คาดฝัน แต่เห็นได้ชัด ว่าเขาจำเธอไม่ได้
นึกถึงจุดนี้ ตัวเธอก็ผ่อนคลายลง เอนกายอยู่ในบ่อน้ำพุร้อน มองเงาร่างตั้งตรงที่ยืนตรงขอบ มุมปากยกขึ้น เผยรอยยิ้มหยอกล้อ
“ตกใจหมดเลย เดิมนึกว่าคนของตลาดมืดส่งสาวงามมาให้ข้า นึกไม่ถึงว่าที่เข้ามากลับเป็นผู้ชาย”
ได้ยินคำพูดนี้ หลิงโม่หานก็ขมวดคิ้วลึกยิ่งขึ้น แววตาลึกซึ้งมองทะลุละอองน้ำอยากจะเห็นคนให้ชัดๆ ทว่าคำพูดต่อมา กลับทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะกระตุกมุมปาก ใบหน้าก็มืดลงมาทันใด
“โปรดรู้ไว้ว่าตอนนี้ข้าล่อนจ้อนอยู่ในน้ำ จ้องข้าด้วยตาเปล่าเช่นนี้ หรือว่าใต้เท้าชอบผู้ชายด้วยกัน?”
“คุณชายคิดมากไปแล้ว”
น้ำเสียงเขาแข็งกร้าวนิดหน่อย แต่น้ำเสียงน่าดึงดูดที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ชายชาตรีกลับยังคงฟังเสนาะหูอยู่เช่นนั้น
กำลังคิดจะไปจากที่นี่ กลับได้ยินเสียงการค้นหาดังมาจากด้านนอก ย่างก้าวที่จะสาวเดินออกไปจึงชะงักลง หันกลับไปมองที่ในน้ำนั้นทันที
เธอที่กำลังคิดว่าจะลุกขึ้นยังไงดีพลันเห็นสายตาเขาจ้องมา ผงะไปอย่างอดไม่ได้ ทันใดนั้น เหมือนนึกอะไรออก แต่ไม่รอให้ปริปาก ก็เห็นเขาก้าวยาวเดินมาทางนี้
“เจ้าหยุดนะ!”
เธอแผดเสียงเย็น ละอองน้ำไม่อาจบดบังสายตาได้ในระยะใกล้ ตอนนี้ร่างกายเปลือยเปล่า เขาเดินมาใกล้อีกหน่อยก็ไม่มีที่ให้ซ่อนแล้ว
เท้าหลิงโม่หานที่ลงก้าวเดินยังไม่หยุดชะงัก ยังคงก้าวยาวเดินไปด้านนั้นอย่างใจเย็น น้ำเสียงทุ่มต่ำที่มีแรงดึงดูดก็เปล่งตามออกมาจากปาก “เท่าที่ข้ารู้ ค่ายกลกระบี่นี้คงยังมีอีกทางออกหนึ่ง ซึ่งอยู่ด้านหลังคุณชาย”
ไร้สาระ! ข้ารู้แน่นอน!
เฟิ่งจิ่วถลึงตามองเงาร่างที่เดินมาด้านนี้ กัดฟันกรอด แล้วมือที่ดึงกลิ่นอายพลังเร้นลับไว้ก็ตะกุยบนผิวน้ำ หยดน้ำจึงจู่โจมไปทางเขาอย่างรุนแรง
ในเวลาเดียวกัน เธอสะบัดมือลงบนผิวน้ำอีกครั้ง ระหว่างที่สาดม่านน้ำขึ้นมา ตัวก็ม้วนขึ้นจากน้ำ หยิบชุดสีแดงออกจากห้วงมิติ อาศัยช่วงที่ม่านน้ำบดบังอยู่สวมชุดไว้บนร่างอย่างรวดเร็ว
แต่เมื่อม่านน้ำร่วงกลับลงบ่อน้ำพุร้อน บนตัวเธอเพิ่งสวมชุดแดงเรียบร้อย เมื่อร่างคืนสู่ผืนดิน เท้าเปลือยกลับลื่นไถลไปบนขอบหิน พุ่งไปด้านหน้าอย่างไม่อาจยืนให้มั่นได้
“อ๊ะ!”
ร่างกายโผไปด้านหน้าอย่างเสียสมดุล เธอคว้าสิ่งของที่พอยึดหยัดร่างกายได้ไว้ตามสัญชาตญาณ แต่ใครจะรู้ เพียงได้ยินเสียงผ้าขาดดังแควกลอยมา จึงมองไปด้วยความตกตะลึง พอเห็นก็อึ้งทึ่งไปชั่วขณะ
กางเกงท่านอาถูกเธอฉีกขาดดึงลงมาจากด้านหลังเสียดื้อๆ เผยให้เห็น… กางเกงชั้นด้านในตัวนั้นที่โดดเด่นทรงเสน่ห์
ทว่า ที่ทำให้เธอนึกไม่ถึง คือท่านอาผู้เป็นชายที่ภายนอกเย็นชาแต่จิตใจอบอุ่น ด้านในกลับสวมกางเกงชั้นในสีแดงตัวหนึ่ง…
………………………………