บทที่ 126 หยางเหวินป๋อยอมรับผิด
มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง
หยางเหวินป๋อสวมหน้ากากอนามัยเดินกลับเข้าสู่ห้องทำงานของตนเองด้วยความรวดเร็ว
หลังจากเก็บของเสร็จเรียบร้อย เขาก็รีบเดินออกจากห้องทำงานกลับมาสู่ลานจอดรถด้วยความรวดเร็วมากพอ ๆ กับตอนเข้าไป
หยางเหวินป๋อพยายามหลบหน้าทุกคน
เมื่อเดินเข้ามาถึงลานจอดรถ
ฝีเท้าของหยางเหวินป๋อก็ต้องหยุดชะงักลง ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวด้วยความโกรธแค้น
หยางเหวินป๋อเพิ่งลงจากรถไปได้ไม่นาน แต่กลับมีคนแอบมาปล่อยลมยางล้อรถของเขาอีกแล้ว!
เมื่อมองดูดี ๆ คณบดีผู้ถูกพักงานจึงได้เห็นว่ามีกระดาษแผ่นหนึ่งแปะอยู่ข้างประตูรถ
“นี่คือครั้งสุดท้าย”
มันเป็นข้อความที่ถูกปรินต์ออกมาจากคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่ข้อความที่เขียนด้วยลายมือ
เมื่อเห็นข้อความที่อยู่บนกระดาษ หยางเหวินป๋อก็ถึงกับตกตะลึง ก่อนความเศร้าจะกัดกินหัวใจ
“ตกลงแกเป็นใครกันแน่?”
โชคดีที่ครั้งนี้ผู้ร้ายปล่อยลมยางล้อรถของเขาแค่ข้างเดียวเท่านั้น
หยางเหวินป๋อกลับเข้าไปนั่งอยู่ในรถยนต์ ก่อนจะขับออกมาพร้อมกับยางแบน ๆ อย่างนั้นภายใต้แสงแดดที่สดใสและอบอุ่น
จนถึงตอนนี้ เขาก็ยังไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายเป็นใคร
หลังจากลองสืบค้นข้อมูลดูแล้ว หยางเหวินป๋อมั่นใจว่าต้องไม่ใช่พวกคู่แข่งที่หมายจะเลื่อยขาเก้าอี้ของเขาแน่ ๆ
“แล้วมันจะเป็นใครไปได้นะ?”
“หรือว่าจะเป็นหลี่เคอหมิงจริง ๆ?”
เพราะนับดูในช่วงหลังนี้ หยางเหวินป๋อก็มีปัญหาแค่กับหลี่เคอหมิงเพียงผู้เดียวเท่านั้น
หยางเหวินป๋อคิดว่าหลี่เคอหมิงไม่ใช่คนที่จะทำอะไรแบบนี้ แต่ฝ่ายนั้นก็ดูมีความเป็นไปได้มากที่สุดแล้ว!
หยางเหวินป๋อจึงโทรไปหาหลี่เคอหมิงทันที
“อาจารย์หลี่ บอกความจริงผมมาเถอะ คุณเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรือเปล่า?”
หลังมีคนรับสาย หยางเหวินป๋อก็พูดออกไปโดยไม่ลังเล “ตอนนี้ผมไม่เหลืออะไรแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องปิดบังผมอีกต่อไป ถือว่าผมขอในฐานะเพื่อนร่วมงาน ช่วยบอกความจริงให้ผมรู้ที”
“ผมไม่รู้เรื่องด้วย”
หลี่เคอหมิงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ถ้าไม่ใช่หลี่เคอหมิง แล้วจะเป็นใครได้อีก?
หยางเหวินป๋อมืดแปดด้าน
“มีใครอีกหรือเปล่านะ?”
…
หลี่เคอหมิงกดวางสายด้วยสีหน้างงงวย
“หรือว่าจะเป็นซูเย่?”
หลี่เคอหมิงนึกถึงลูกศิษย์ของตนเองขึ้นมาทันที
แต่แล้วเขาก็ส่ายศีรษะ รวบรวมความคิดใหม่อีกครั้ง ก่อนจะพูดพึมพำกับตัวเอง “เด็กดีตั้งใจเรียนอย่างเจ้าหนุ่มนั่น คงไม่มีเวลาไปทำเรื่องเหลวไหลแบบนี้หรอก”
อีกอย่าง ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเปิดโปงหยางเหวินป๋อคงต้องมีเส้นสายใหญ่ไม่ใช่น้อย
ไม่อย่างนั้นแล้วคงไปขุดข้อมูลของรองอธิการบดีขึ้นมาไม่ได้แน่ ๆ
แล้วนักศึกษาธรรมดาอย่างซูเย่จะสามารถทำได้อย่างไร?
…
วันต่อมา
บรรยากาศในมหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยความร้อนระอุ
ทางมหาวิทยาลัยได้เผยแพร่ประกาศฉบับใหม่ออกมา
“แจ้งคณะอาจารย์และนักศึกษาทุกท่าน”
“สวัสดีคณะอาจารย์และนักศึกษา”
“ทางมหาวิทยาลัยของเรามีความเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับข่าวแง่ลบที่เกิดขึ้นในช่วงหลังนี้ และข่าวคราวพวกนี้คงส่งผลกระทบต่อขวัญกำลังใจของทุกท่านไม่มากก็น้อย”
“คณะผู้บริหารของมหาวิทยาลัยได้มีมติเห็นชอบ สั่งปลดรองอธิการบดีหลี่ชิงฝูและคณบดีหยางเหวินป๋อออกจากตำแหน่งโดยมีผลทันทีนับตั้งแต่นี้ และทั้งสองจะถูกส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป”
“การแต่งตั้งคณบดีประจำคณะแพทย์แผนจีนคนใหม่จะมีขึ้นในอีกสามวันข้างหน้า”
“เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนสำคัญให้ทางมหาวิทยาลัยได้พึงระวังว่า อนาคตจากนี้จะให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกไม่ได้เป็นอันขาด ทางมหาวิทยาลัยหวังว่านักศึกษาทุกท่านจะยังคงตั้งใจเรียนอย่างหนัก ยึดมั่นปฏิภาณที่แน่วแน่ เพื่อช่วยเหลือคนไข้ในอนาคตต่อไป”
นี่คือประกาศที่ทำให้บรรยากาศในมหาวิทยาลัยตกอยู่ภายใต้ความร้อนระอุ
โดยเฉพาะในเว็บบอร์ดรวมมิตรมหาลัย
เมื่อทุกคนอ่านจบแล้ว ก็ต้องคอมเมนต์แสดงความคิดเห็น
“อย่าเพิ่งรีบขอโทษแบบนี้สิ สิ่งที่เราต้องการคือความจริงต่างหาก! เราอยากรู้ว่าคนผิดจะถูกลงโทษยังไงบ้าง!”
“ใช่ เราต้องการแค่ความจริงเท่านั้น!”
…
คณะผู้บริหารของมหาวิทยาลัยเภสัชกรรมจี้หยาง
“ทำไมพวกแพทย์แผนจีนจี้หยางถึงได้จัดการเร็วแบบนี้เนี่ย?”
“หวังว่าครั้งนี้พวกนั้นคงเอาตัวรอดไม่ได้อีกนะ!”
…
ณ หอพักอาจารย์
หยางเหวินป๋อได้รับข้อความที่เป็นประกาศแจ้งเตือนจากทางมหาวิทยาลัยเช่นกัน
เมื่อเขาเห็นประกาศฉบับนั้น
“หึหึ…”
หยางเหวินป๋อก็ยิ้มออกมาโดยทันที
แต่ว่าตอนนี้ เขาเยือกเย็นมากขึ้นแล้ว
ความอาฆาตแค้นหายไปจากสีหน้าและแววตา ชายวัยกลางคนยอมรับความจริงได้โดยสะดวกใจมากขึ้น
เขาย่อมรู้ดีอยู่แล้วว่าวันนี้ต้องมาถึง
แต่เขาไม่มีวันลงนรกเพียงลำพังเด็ดขาด!
เขาจะต้องทำให้ทุกคนจดจำชื่อหยางเหวินป๋อไม่มีวันลืม!
“ก่อนหน้านี้ฉันต้องการความช่วยเหลือจากแกเพื่อให้ตำแหน่งของฉันมั่นคง และฉันก็อยากให้แกคอยช่วยฉันเพื่อเลื่อนสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นไป”
“แต่ตอนนี้ ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว”
“ฉันเริ่มเรียนแพทย์แผนจีนเพราะอยากจะรักษาคนไข้ แต่โชคร้ายที่ฉันลุ่มหลงในเงินทองมากเกินไป ถึงฉันจะทำเรื่องผิดกฎหมาย แต่ฉันก็เชื่อว่ามันไม่ได้ทำให้มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางต้องได้รับผลกระทบใหญ่หลวงไปด้วย และทุกอย่างที่ฉันทำ ก็เพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมด้วยซ้ำ…”
หยางเหวินป๋อก้มหน้ามองนาฬิกาข้อมือ
ในเมื่อมีประกาศส่งตัวเขาให้แก่ตำรวจออกมาแล้ว คงอีกไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมาหาถึงที่แน่ ๆ แต่กว่าจะถึงตอนนั้น หยางเหวินป๋อยังมีเวลาอีกพอสมควร
อดีตคณบดีนั่งลง
เขาเปิดโน้ตบุ๊กและกดเข้าสู่ระบบเว็บบอร์ดรวมมิตรมหาลัย
…
หอพักชาย
มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง
“คนเราจะใช้ชีวิตอยู่กับความผิดบาปตลอดไปไม่ได้หรอกนะ”
ซูชือส่ายหน้าด้วยความเอือมระอาเมื่อเห็นประกาศของทางมหาวิทยาลัย
“ถ้าเขาทำกับเด็กคณะเราดีมากกว่านี้ ฉันก็คงไม่เกลียดเขาแบบนี้หรอก และฉันก็คงสงสารและเห็นใจเขามากกว่านี้ด้วยซ้ำ”
“แต่นายเป็นคนเริ่มปล่อยลมยางเขาก่อนเลยนะ”
จินฟานหันมามองหน้าเพื่อนอย่างหยอกล้อ
“ปล่อยลมยางอะไร?”
ซูเย่ถาม
“ไม่มีอะไร”
จินฟานและซูชือสบตากันและรีบตอบอย่างรวดเร็ว
“ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง…”
ทันใดนั้น โทรศัพท์ของพวกเขาทั้งสามเครื่องส่งเสียงดังขึ้นพร้อมกัน