บทที่ 127 อาจารย์หลี่เนี่ยนะจะเป็นคณบดี?
มีข้อความเข้าอย่างต่อเนื่อง
“อะไรกันอีกล่ะเนี่ย?”
ซูชือถามด้วยความมึนงง ก่อนจะล้วงโทรศัพท์ออกมาดู
เมื่อเห็นข้อความบนหน้าจอ ชายหนุ่มก็ถึงกับเบิกตาโตด้วยความตกตะลึง
“หยางเหวินป๋อมาโพสต์กระทู้สารภาพผิดว่ะเฮ้ย!”
ข้อความที่แจ้งเตือนมานี้เป็นข้อความจากกลุ่มวีแชท ซึ่งสมาชิกคนหนึ่งได้แคปหน้าจอกระทู้ของหยางเหวินป๋อมาให้พวกเขาดูเบื้องต้น
สามสหายรีบเข้าสู่ระบบในเว็บบอร์ดรวมมิตรมหาลัยทันที
และเป็นไปตามที่คิด
หยางเหวินป๋อมาตั้งกระทู้เอาไว้จริง ๆ
“สิ่งที่อยากฝากไว้ให้จัดการ!”
นั่นคือชื่อกระทู้
“ตัวเองจะโดนลากเข้าซังเตอยู่แล้ว ยังจะมาฝากอะไรอีก?”
ซูเย่กวาดตาอ่านกระทู้ด้วยความประหลาดใจ
เนื้อหาในกระทู้ค่อนข้างตรงไปตรงมา
มันเป็นการแจ้งรายชื่อผู้บริหารและอาจารย์หลายท่านที่เคยรับผลประโยชน์จากหยางเหวินป๋อ
นอกจากนั้นก็ยังมีรายละเอียดว่าทุกคนรับสินบนอย่างไรและสินบนที่รับไปนั้นมีอะไรบ้าง
ในกระทู้ปรากฏชื่อบุคคลหลายสิบคนพร้อมด้วยความผิดทางกฎหมายอีกหลายกระทง
ช่วงท้ายของรายชื่อ ซูเย่ถึงกับเห็นชื่อของอาจารย์คนหนึ่งในคณะวิจัยสมุนไพรจีนปรากฏอยู่ด้วยเช่นกัน
เนื้อหาในกระทู้ระบุว่าอาจารย์ท่านนี้จะทำการสอนให้ยากกว่าปกติ และคำถามที่ออกในข้อสอบก็ยากมากกว่าข้อสอบทั่วไป เพราะมีเจตนาที่จะทำให้นักศึกษาไม่สามารถตอบข้อสอบได้นั่นเอง
ด้วยเหตุนี้ ก่อนเริ่มการสอบทุกครั้ง อาจารย์จากคณะวิจัยสมุนไพรจีนท่านนี้จึงจะเก็บ ‘ค่าเรียนพิเศษ’ จากนักศึกษาที่สนใจเป็นจำนวนเงินคนละ 200 หยวน
“บ้าไปแล้ว มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอวะเนี่ย?”
ซูชืออุทานออกมาด้วยความเหลือเชื่อ
อาจารย์ท่านนั้นสอนวิชาสถิติ ตอนนี้พวกเขายังเรียนไปไม่ถึง จึงไม่เคยรับทราบเรื่องราวมาก่อน เพียงแต่เคยได้ยินผ่าน ๆ ว่าวิชาสถิติเป็นวิชาที่ยากมากวิชาหนึ่งเท่านั้นเอง
ซูชือว่าจะลองส่งข้อความไปสอบถามรุ่นพี่ดูเหมือนกัน
แต่เมื่อไล่สายตาอ่านลงไปด้านล่างกระทู้ เขาก็พบว่ารุ่นพี่ที่ตนเองกำลังจะส่งข้อความไปสอบถาม ก็มีชื่ออยู่ในกระทู้นี้เช่นกัน เพราะว่าเขาคือนักศึกษาที่เป็นหน้าม้าให้แก่อาจารย์ท่านนั้นนั่นเอง
“ใช่แล้ว อาจารย์สอนวิชาสถิตินี่แหละตัวไถเงินของจริง ฉันก็เป็นหนึ่งในเหยื่อของเขาเหมือนกัน ก่อนหน้านี้เราร้องเรียนทางมหาวิทยาลัยไปแล้ว แต่ไม่เห็นมีใครสนใจสักคน!”
“ฉันก็ได้แต่หวังว่าไอ้เรื่องค่าเรียนพิเศษ 200 หยวนนี่ ทางมหาลัยคงไม่รู้ไม่เห็นด้วยหรอกนะ เพราะถ้ารู้เห็นมาตลอดแต่ไม่ทำอะไรเลย ก็ถือว่ามีความผิดในฐานสมรู้ร่วมคิดหลอกเอาเงินจากนักศึกษา!”
“เวรเอ๊ย อาจารย์คนนี้ร้ายกาจเป็นบ้า!”
ซูชือพูดด้วยความฉุนเฉียว “โชคดีนะที่ถูกแฉเสียก่อน ไม่งั้นปีหน้าพวกเราคงได้เสียอีกคนละ 200 หยวนแน่ ๆ!”
จินฟานพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ในที่สุด คณบดีหยางก็ทำเรื่องดี ๆ ให้กับคณะวิจัยสมุนไพรของเราบ้างสักที”
เมื่อทั้งสองหนุ่มเลื่อนลงดูข้อความจากชาวเน็ต พวกเขาก็พบว่าบรรดานักศึกษาจากมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยาง ต่างก็แสดงความคิดเห็นด้วยความเดือดดาล!
“มีอาจารย์รับสินบนเป็นสิบคนเลยเหรอเนี่ย?”
“ให้ตายสิ มหาลัยของเรายังเหลืออาจารย์ดี ๆ อยู่บ้างไหม?”
“ฉันนี่มันอ่อนต่อโลกเกินไปจริง ๆ ฉันนึกว่ามหาลัยของเรามีแค่รองอธิการบดีกับคณบดีเท่านั้นที่มีปัญหา แต่ที่ไหนได้ ยังมีปลาเน่าอยู่อีกตั้งหลายตัว!”
กระทู้ของหยางเหวินป๋อทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง เพราะพวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าอาจารย์ในมหาวิทยาลัยของตนเองจะมีปัญหามากมายถึงขนาดนี้
ดังนั้น ทุกคนจึงรู้สึกโกรธเคืองขึ้นมาทันที
พวกเขารู้สึกอับอายที่ตนเองได้รับการสอนโดยอาจารย์ผู้คดโกงเหล่านี้!
สมควรต้องล้างบางออกไปให้หมด!
“อย่างนี้ต้องตรวจสอบ! ทางมหาวิทยาลัยจะปล่อยให้อาจารย์พวกนี้ลอยนวลต่อไปไม่ได้เด็ดขาด!”
“ใช่ เรื่องนี้ปล่อยผ่านไปไม่ได้แล้ว!”
…
เนื้อหาในกระทู้ของหยางเหวินป๋อทำให้ซูเย่ต้องเบิกตาโตเช่นกัน
เขาไม่คาดคิดเลยว่าเรื่องราวจะดำเนินมาถึงจุดนี้
การเปิดโปงความผิดในครั้งนี้ ทำให้หยางเหวินป๋อสำนึกผิดได้จริง ๆ
อดีตคณบดีประจำคณะแพทย์แผนจีนถึงกับยอมสารภาพผิดด้วยตัวเอง…
“ที่เขาทำแบบนี้มีเหตุผลที่เป็นไปได้อยู่สองอย่าง อย่างแรกก็คือหยางเหวินป๋อไม่อยากตกเป็นเป้าของความเกลียดชังเพียงคนเดียว”
“ส่วนเหตุผลที่สอง เขาต้องการจะขจัดปลาเน่าในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ไปพร้อมกับตัวเอง ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ถือว่าหยางเหวินป๋อยังพอหลงเหลือจิตสำนึกอยู่บ้าง”
ซูเย่ขบคิดอยู่ในใจ
ในเวลาเดียวกันนี้ เหล่าอาจารย์ที่ถูกพาดพิงในกระทู้ของหยางเหวินป๋อต่างก็ทำอะไรไม่ถูก
พวกเขาตื่นตระหนกทั้งวัน
เดิมที ทุกคนเข้าใจว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตนเอง จึงไม่มีใครคาดคิดว่าไฟจะลามมาถึงพวกเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว
“หยางเหวินป๋อ ฉันจะขยี้แกให้แหลก!”
คณะอาจารย์ที่ถูกพาดพิงล้วนต้องรีบหาหนทางพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองโดยเร็วที่สุด เพราะพวกเขารู้ดีว่าตอนนี้มหาวิทยาลัยกำลังจริงจังกับการสืบสวน ไม่ว่าผู้ใดก็ตามหากถูกพบว่ากระทำผิดจริง บุคคลผู้นั้นก็จะถูกไล่ออกโดยทันที!
…
หอพักอาจารย์
หยางเหวินป๋อเปิดประตูห้องทิ้งเอาไว้ เขารินน้ำชาให้ตนเองแก้วหนึ่ง ก่อนจะจุดบุหรี่หนึ่งมวน และมองควันของมันลอยขึ้นไปในอากาศด้วยความเยือกเย็น
บุหรี่เผาไหม้อย่างรวดเร็ว เพียงไม่นานก็ใกล้จะหมดมวนแล้ว
หยางเหวินป๋อคิดอะไรเล็กน้อย แล้วก็ลองหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบดูสักครั้ง
“แค่ก ๆๆๆ…”
“ฉันไม่ควรลองของไม่ดีพวกนี้เลย สุดท้ายก็ทำร้ายตัวเองแท้ ๆ”
หยางเหวินป๋อสำลักควันจนน้ำตาไหล แต่ในเวลาเดียวกันนั้น เขาก็หัวเราะออกมาด้วยความสมเพชตัวเอง
เป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้ามาในห้องพอดี
“ผมยอมรับผิดครับ”
ก่อนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทันได้ทำอะไร หยางเหวินป๋อก็รีบลุกขึ้นยืน ยื่นมือออกมาข้างหน้า พูดด้วยความสงบสุขุม “ผมยอมรับผิดทุกอย่าง ผมอยากจะสารภาพและให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยครับ ก่อนหน้านี้ผมได้เขียนลงในกระทู้ไปแล้ว กระทู้นั้นอยู่ในเว็บบอร์ดรวมมิตรมหาลัย พวกคุณลองตรวจดูในโน้ตบุ๊กของผมก็ได้ ผมทำแบบนี้แล้วพอจะได้ลดโทษบ้างไหม?”
กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจหันมองหน้ากันด้วยความมึนงง ก่อนที่ตำรวจคนหนึ่งจะเดินไปตรวจสอบคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก
แล้วเขาก็ต้องเบิกตาโตด้วยความไม่อยากเชื่อ
…
สามวันต่อมา
ทุกคนก็ได้รับทราบข่าวที่ทำให้ตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง
“หลังผ่านการประชุมอย่างคร่ำเคร่งตลอดหลายวันที่ผ่านมา คณะผู้บริหารของทางมหาวิทยาลัยจึงมีมติเห็นชอบ แต่งตั้งให้ศาสตราจารย์หลี่เคอหมิงเข้ารับตำแหน่งคณบดีประจำคณะแพทย์แผนจีนคนใหม่เป็นการชั่วคราว”
เมื่อข่าวนี้เผยแพร่ออกไป
ไม่ว่าจะเป็นอาจารย์หรือนักศึกษาต่างก็ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน
สำหรับผู้ที่จะเข้ามารับตำแหน่งคณบดีคนใหม่ พวกเขาคาดเดาว่าบุคคลผู้นั้นอาจจะเป็นใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่หลี่เคอหมิงเด็ดขาด
เพราะว่านอกจากหยางเหวินป๋อแล้ว คณะแพทย์แผนจีนยังมีผู้ดำรงตำแหน่งรองคณบดีอยู่อีกถึงสามคน
ตามความน่าจะเป็นก็คือ หนึ่งในสามรองคณบดีนั้นจะถูกคัดเลือกขึ้นมารับตำแหน่งคณบดีคนใหม่เป็นการชั่วคราว หรือไม่ก็ย้ายคณบดีมาจากมหาวิทยาลัยอื่น แล้วอยู่ดี ๆ ทำไมทางมหาวิทยาลัยถึงแต่งตั้งหลี่เคอหมิงขึ้นมาเช่นนี้?
“อาจารย์หลี่เนี่ยนะจะเป็นคณบดี?”
ซูเย่คือหนึ่งในคนที่ตกใจมากที่สุดเมื่อได้รับทราบข่าวนี้
จังหวะนั้น
“ติ๊ง”
เสียงข้อความเข้า
หลี่เคอหมิงส่งข้อความมาหาเขา
“วันพรุ่งนี้ฉันไม่ได้ไปโรงพยาบาล แต่ฉันจะพาเธอไปอีกที่หนึ่ง มารอฉันอยู่ที่หน้าประตูมหาลัย ที่เดิมเวลาเดิม”
“รับทราบครับ”
ซูเย่ตอบกลับไป