บทที่ 41 เกมเสมือนจริง
ซูเย่เดินกลับไปที่หอพักพร้อมกับหมวก VR ขณะที่มืออีกข้างหนึ่งสะพายกระเป๋าเป้ของตนเองไปตามถนน
“หืม ทำไมนายได้มันมาเร็วจังล่ะ?”
เมื่อเห็นว่าเพื่อนของตนกลับมาที่ห้องพร้อมกับหมวก VR ซุนชือจึงถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ
“พวกฉันต้องรอถึงสองอาทิตย์เชียวนะกว่าจะได้มันมา แต่ของนายเพิ่งผ่านไปไม่กี่วันเอง?”
“นายจะเอาตอนนี้ไปเปรียบเทียบกับตอนที่นายซื้อมันมาตอนแรก ๆ ได้ยังไงล่ะ?” จินฟานกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ก็จริงอย่างที่นายว่า”
ซุนชือพยักหน้า “ตอนนี้ในประเทศเรามีคนเล่นเกมนี้เกินหกสิบล้านคน เพราะฉะนั้นการจัดหาสินค้าคงจะไม่ล่าช้าอย่างในตอนแรกแน่”
“ช่างเถอะ เดี๋ยวหลังจากนี้มาเล่นกันให้ข้ามคืนไปเลย ในเกมนี้ นายจะเรียกลมหรือเรียกฝนมาก็ได้ มันสวยสุดยอดไปเลย!”
“ถึงตอนนั้นแล้วอย่าลืมเพิ่มเพื่อนด้วยล่ะ แล้วพวกเราจะช่วยนายฆ่าตั๊กแตนเอง ไม่อย่างนั้นนายคงไม่สามารถฆ่ามันได้ภายในคืนนี้แน่”
“ได้เลย” ซูเย่ยิ้มบาง ๆ หลังจากที่ซักผ้าเสร็จสิ้น เขาก็ล้มตัวลงบนเตียงทันที
“เร็ว ๆ เร็วสิ รีบเข้าเกมเร็ว!” ในเวลา 22.00 น. ซุนชือตะโกนเร่งซูเย่ที่นอนอยู่บนเตียง ชายหนุ่มรีบสวมหมวก VR ก่อนจะหลับตาลงและกดปุ่มเริ่มที่อยู่ด้านข้างของตัวหมวก
เริ่มเกมได้!
ทันใดนั้นเองซูเย่ก็พบว่ามีพลังบางอย่างถูกส่งเข้ามาในสมองของตน สติของเขาก็เริ่มพร่าเลือน
เข้าสู่สภาวะของการหลับใหลที่ไม่ได้หลับ ความรู้สึกถึงการมีอยู่ของร่างกายของตัวเองค่อย ๆ หายไปราวกับเข้าสู่ห้วงนิทรา
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น
“ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนอื่น ๆ ถึงบอกว่าการเล่นเกมนี้เปรียบได้กับการนอนหลับ ปรากฏว่ามันทำให้คนนอนหลับจริง ๆ ” ซูเย่กล่าวในใจ
เวลานี้ ท่ามกลางความมืดมิด แสงสว่างค่อย ๆ ปรากฏขึ้น
ประกอบกันเป็นตัวหนังสือขนาดใหญ่
“ยินดีต้อนรับเข้าสู่เกมโลกแห่ง ‘ความฝัน’ นี่เป็นครั้งแรกที่คุณได้เข้าสู่โลกแห่งเกม ดังนั้นทางระบบจึงจะสร้างไฟล์ตัวละครขึ้นมาตามคุณสมบัติทางร่างกายของคุณ”
“เริ่มการวิเคราะห์ร่างกาย”
พร้อมกับเสียงเตือนของระบบที่ดังขึ้น ซูเย่รู้สึกถึงบางสิ่งที่ร่วงลงมาจากฟ้า ครอบร่างของเขาเอาไว้ราวกับต้องการจะแทรกซึมเข้ามาในร่างของเขาในทุกรูขุมขน
ความรู้สึกนี้ทำให้ดวงตาของชายหนุ่มหรี่เล็กลง
“หึหึ ทดสอบความแข็งแกร่งทางจิตใจสินะ?” มุมปากของเขายกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
ภายในราชวังแห่งความทรงจำ ปรากฏร่างที่มีใบหน้าและรูปร่างเช่นเดียวกันกับซูเย่ขยายใหญ่ขึ้น ก่อนจะซ้อนทับกับร่างกายของซูเย่ในที่สุด
ร่างจำแลงนี้คือพลังจิตที่แท้จริงของเขา มันมักจะอยู่แต่ในราชวังแห่งความทรงจำในเวลาที่เขาไม่ได้ใช้มัน
และตอนนี้มันก็รวมเข้ากับร่างของเขา ปกป้องร่างของเขาออกจากพลังที่ตกลงมาจากฟากฟ้า
ถึงแม้ว่าพลังที่ตกลงมาจะยังอาบไปทั่วร่างของซูเย่ แต่มันก็ไม่ได้วิเคราะห์พลังจิตที่แท้จริงของเขา และไม่สามารถตรวจพบถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขาได้
“วิเคราะห์ร่างกายเสร็จสิ้น”
ซูเย่ยิ้มออกมาเมื่อได้ยินเช่นนั้น ร่างจำแลงของเขาหดเล็กลงก่อนจะกลับเข้าไปอยู่ในราชวังแห่งความทรงจำอีกครั้ง
แปลก เราถูกตรวจจับพลังจิตตั้งแต่ครั้งแรกที่เข้าเกมนี้ คนที่สร้างเกมนี้ขึ้นมาคงจะมีจุดประสงค์บางอย่าง…
“สร้างไฟล์ตัวละครเสร็จสิ้น”
“กรุณากรอกชื่อตัวละครของคุณ”
ในเวลานี้ ภาพตรงหน้าของเขาสว่างขึ้นอย่างเต็มตา ซูเย่ตกตะลึงกับภาพตรงหน้าของตนเป็นอย่างมาก ทิวทัศน์ที่ดูไกลสุดสายตา ภูเขาและแม่น้ำสายใหญ่ที่มีชื่อเสียง ทั้งยังทะเลสาบ ป่า ห้วยหนองคลองบึงต่าง ๆ
ซึ่งสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าของเขาในตอนนี้….คือภูเขาที่เขียวชอุ่ม
เขากำลังยืนอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่ง
ทุกอย่างมันดูเหมือนจริงเกินไป
“น่าสนใจดีนี่…” ซูเย่เอ่ยออกมาเบา ๆ พร้อมกับระบุชื่อตัวละครสมมุติของเขา
“ชื่อนี้มีผู้ใช้แล้ว กรุณาเปลี่ยนชื่อ” เสียงของระบบดังขึ้นอีกครั้ง
ซูเย่ผงะไปเล็กน้อย แต่เมื่อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เป็นเพียงความฝัน”
“ชื่อนี้มีผู้ใช้แล้ว กรุณาเปลี่ยนชื่อ”
“อายุ 2500 ปี”
“ชื่อนี้มีผู้ใช้แล้ว กรุณาเปลี่ยนชื่อ”
“ออร่าจะคงอยู่”
“โชคชะตาคือกรรม”
“ผลผลิตแห่งเต๋า”
“สงฆ์เฒ่า”
“บุปผาทั้ง 41 ข้าจะทำลายมันให้สิ้นยามเบ่งบาน!”
“สายรุ้งทางทิศใต้ ทิศตะวันออกและทิศตะวันตกเฉียงเหนือ!”
“เกิดมาเพื่อเป็นประโยชน์ บริหารเวลาเป็นสิ่งสำคัญ!”
ชายหนุ่มพยายามคิดชื่อแปลก ๆ แล้วแท้ ๆ แต่ผลของมันคือ…
“ชื่อนี้มีผู้ใช้แล้ว กรุณาเปลี่ยนชื่อ”
……
ซูเย่พูดอะไรไม่ออก
เขาไม่คิดเลยว่าการตั้งชื่อในเกมจะยากขนาดนี้
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ซูเย่ก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง
“X”
“กรุณายืนยันชื่อตัวละครของคุณ: X”
ในที่สุดเขาก็ได้ยินคำอื่นสักที
“ใช่!” ซูเย่พยักหน้าอย่างรวดเร็ว
เขาไม่อยากจะเสียเวลากับการตั้งชื่อที่ไม่มีประโยชน์นี่
ในความคิดของเขา เรื่องชื่อนั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งสำคัญคือเขาจะต้องรีบเข้าเกมให้ได้เร็วที่สุด
“ตั้งชื่อตัวละครสำเร็จ ต้องการจะซ่อน ID เกมของคุณหรือไม่?”
“ใช่”
“ต้องการปรับภาพในเกมหรือไม่?”
“ไม่ปรับ”
“เลือกเสื้อผ้าให้ตัวละคร”
ซูเย่เลือกชุดที่ดูเรียบง่ายที่สุดและรองเท้าแตะฟางสำหรับผู้เล่นใหม่
“ต้องการสวมใส่สิ่งใดบนใบหน้าหรือไม่”
“หน้ากาก”
…
เมื่อเลือกทุกอย่างเสร็จสิ้น ซูเย่ก็เห็นตัวละครที่มีความคล้ายคลึงกับตนเองถึง 80% ปรากฏขึ้น
“สมกับเป็นเกมจำลองจริง ๆ” ซูเย่เอ่ยเบา ๆ
“คุณกำลังจะเข้าสู่โลกแห่งเกม ขอให้สนุก” เมื่อชุดคำสั่งตรงหน้าหายไป ภาพตรงหน้าของชายหนุ่มก็กลับสู่ความมืดมิดอีกครั้ง
เสียงบางอย่างดังเข้ามาในหู
เมื่อลืมตาขึ้น ซูเย่ก็พบว่าตัวเขากำลังยืนอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง
เขากำลังยืนอยู่บนพื้นดินสีเหลือง ทั้งสองฝั่งของถนนอัดแน่นไปด้วยผู้คน และคนพวกนั้นต่างก็มีท่าทีมึนงงเช่นเดียวกันกับตอนที่เขาเพิ่งลืมตาขึ้นมาในตอนแรก
ทุกอย่างดูเสมือนจริงมาก ๆ มันเหมือนกับว่าเขากำลังยืนอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงไม่มีผิด
ซูเย่มองไปรอบ ๆ หลังจากที่ใช้ชีวิตมานานถึง 2500 ปี เขาก็แทบจะไม่ได้เจอสิ่งของหรือสถานที่ที่น่าสนใจมาเป็นเวลานานมากแล้ว
“นี่มันอะไรกัน? ทำไมทั้งระดับและพลังโจมตีของฉันเป็น 0 ล่ะ?”
“นายคิดว่ายังไงล่ะ?”
“ลองเปิดหน้าต่างคุณสมบัติดูสิ”
เสียงพูดดังเข้ามาในหู
หัวใจของซูเย่เต้นแรงขึ้น
ทันใดนั้น หน้าต่างคุณสมบัติก็ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าของเขา
มันแตกต่างจากเกมอื่น ๆ ที่เขาเคยเห็น หน้าต่างคุณสมบัติของมันเรียบง่ายมาก ๆ มันมีแค่ค่าเดียวเท่านั้น และนั่นก็คือ…ระดับ
หลังจากไปซื้อหมวก VR มา ซูเย่ก็ศึกษาเกมนี้จากในอินเทอร์เน็ต
“Fantasy Dream” คือเกมจำลองภาพเสมือนจริงที่ทางรัฐบาลเป็นผู้ให้การสนับสนุน จุดเด่นของเกมนี้คือความมีเสรีภาพ มันเป็นเหมือนกับโลกอีกใบหนึ่ง ไร้ซึ่งข้อบังคับมากมายเหมือนเกมออนไลน์ทั่วไป
ไม่มีอาชีพ ไม่มีคุณลักษณะ ไม่มีทักษะ ไม่มีภารกิจ หรือแม้แต่ความพรั่งพร้อมต่าง ๆ
หรืออีกนัยหนึ่งก็คือทุกอย่างดำเนินไปด้วยตัวผู้เล่นเอง
สิ่งที่วัดความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียวในเกมนี้คือระดับของผู้เล่น
หากพูดกันตามตรง ทุกอย่างในเกมนี้เป็นอิสระมาก มากจนถึงขึ้นที่ว่าผู้เล่นที่มักจะคุ้นชินกับการถูกชี้แนะไม่รู้ว่าตนจะต้องเล่นเกมนี้อย่างไร
คุณสามารถเล่นได้แค่ตอนอยู่กับเพื่อนเท่านั้น
แม้แต่เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลเกมเองก็ไม่ได้มีส่วนควบคุมใด ๆ ทั้งสิ้น ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการสำรวจของผู้เล่นทั้งสิ้น
หรือในอีกความหมายหนึ่ง ผู้เล่นสามารถเล่นอย่างไรก็ได้ตามต้องการ
ข้อมูลเพียงอย่างเดียวที่เจ้าหน้าที่ได้เผยออกมาก็คือ: การฆ่ามอนสเตอร์ระดับบอสจะทำให้แต้มประสบการณ์พุ่งสูงขึ้น และสามารถเลื่อนระดับได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้…
ในเว็บมืด สิ่งของเพียงอย่างเดียวที่ยังไม่ได้รับการจำแนกประเภทในตอนนี้ก็คือดาบเวหา
ของที่จะทำให้ผู้ชนะสามารถบินไปที่ไหนก็ได้ภายในโลกแห่งเกมนี้
มันมีเพียงแค่คำบรรยายเบื้องต้น ไม่มีทั้งตัวอย่างหรือภาพจำลอง ทำให้ดูลึกลับเป็นอย่างมาก
แต่ถึงอย่างนั้น ดวงตาของผู้คนจำนวนมากต่างเป็นประกายขึ้นเมื่อได้ยินเรื่องราวนี้!
การยืนอยู่บนดาบและหลอกตัวเองว่าตนกำลังบินอยู่… มีหนุ่มสาวตั้งกี่คนที่มีความฝันเช่นนี้?
พวกเขาไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ในโลกแห่งความเป็นจริง จึงอยากที่จะทำแบบนั้นภายในเกม นั่นคือข้อแตกต่างระหว่างเกมเสมือนจริงและโลกแห่งความจริง
ว่ากันว่าชาวเน็ตบางคนได้ทำการเสนอราคาสูงถึงสองแสนหยวนในการซื้อดาบเล่มนี้ ทว่าผู้ขายกลับไม่ยอมขายมัน
ผู้คนนับไม่ถ้วนทำการสังหารมอนสเตอร์ไปจำนวนมากเพียงเพื่อที่จะได้ดาบเวหามาครอบครอง
“เหมือนกับเข้ามาอยู่ในโลกคู่ขนานเลย…” ซูเย่เอ่ยด้วยรอยยิ้มขณะที่มองไปยังสิ่งแวดล้อมโดยรอบที่ดูคล้ายกับโลกแต่แตกต่างกันอย่างมหาศาล…
เขาเดินไปยังชั้นวางอาวุธที่อยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้าน
ซูเย่เลือกที่จะหยิบดาบยาวเล่มหนึ่งออกมาจากชั้นวางอาวุธที่จัดเตรียมไว้เป็นพิเศษเพื่อผู้เล่นมือใหม่โดยเฉพาะ
เขาสะพายมันไว้ด้านหลังก่อนจะเดินออกจากหมู่บ้าน
ชายหนุ่มเดินไปตามทางราบบนภูเขาที่นำไปสู่ภูเขาที่อยู่เบื้องหน้า
ซูเย่พบว่าตรงหน้าของเขาคือกลุ่มคนจำนวนมากที่กำลังวิ่งไล่ล่ามอนสเตอร์ตัวหนึ่ง
“คนเยอะชะมัด” เขาอุทานออกมาในใจ
ทันใดนั้นเอง เงาดำขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าของเขา
มันคือร่างของตั๊กแตนกลายพันธุ์ที่มีความสูงประมาณครึ่งหนึ่งของมนุษย์!
“หึ…”
ซูเย่เอื้อมมือไปจับด้ามดาบที่อยู่ด้านหลังและเหวี่ยงมันไปข้างหน้าอย่างสุดแรง
เพียงครั้งเดียว คมดาบเฉือนเข้าที่คอของตั๊กแตนกลายพันธุ์อย่างแม่นยำ
“โฮกกกก” มันร้องออกมาอย่างโกรธแค้น
จากนั้นจึงล้มลงกับพื้นจนเกิดเสียงดัง “ตุบ” และตายไปในที่สุด
ไม่มีเลือดหรือภาพทุรนทุรายน่ารังเกียจ
“ฮะ?” ซูเย่ชะงักไปครู่หนึ่ง
“ง่ายขนาดนี้เลยเหรอ?”
“ไม่ใช่ว่ามันควรจะยากกว่านี้หน่อยหรือไงนะ?”
ซูเย่หันไปมองรอบ ๆ
แต่เขากลับพบว่าเหล่าคนที่วิ่งไล่ตามเจ้าตั๊กแตนก่อนหน้านี้ต่างยืนตกตะลึงอยู่ไม่ไกลนัก
พวกเขาถือมีดเล่มใหญ่อยู่ในมือและจ้องมาที่ร่างของตั๊กแตนกลายพันธุ์ด้วยสายตามึนงง
จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมามองซูเย่ด้วยสายตาเหลือเชื่อ
“นายทำได้ยังไงน่ะ? ทำไมถึงจัดการมันได้ในครั้งเดียว?”
“เมื่อครู่ฉันมองไม่ทัน นายทำให้ดูอีกรอบได้หรือเปล่า?”
…
ซูเย่ไม่ได้สนใจคนพวกนั้นและเตรียมจะเดินทางต่อ
ทว่าทันใดนั้นเอง ตั๊กแตกตัวหนึ่งก็กระโดดออกมาจากฝูงชนและมุ่งหน้าตรงมาที่เขา
ชายหนุ่มมองตั๊กแตนตรงหน้าก่อนจะเหวี่ยงดาบในมืออีกครั้ง
“โฮกกก”
ตั๊กแตนกลายพันธุ์อีกตัวหนึ่งถูกสังหารไป
และคนทั้งหมดก็ต้องตกตะลึงอีกครั้ง
นี่พวกเขากำลังดูอะไรอยู่?
ตั๊กแตนที่พวกเขาพยายามสังหารมาเป็นเวลานานแต่ไม่สามารถทำได้ กลับถูกฟันโดยผู้ที่เพิ่งเข้าเกมเนี่ยนะ?
ซูเย่มองไปยังแถบค่าประสบการณ์ของตัวเอง หลังจากฆ่ามอนสเตอร์ไปสองตัวค่าประสบการณ์ของเขาได้เพิ่มขึ้นถึง 6%
ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของเขาจะส่งผลในเกมนี้เป็นอย่างมาก
ภายในโลกแห่งเกมที่แสนจะอิสระ ประสบการณ์การต่อสู้และทักษะการสังหารนับว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
ซูเย่คิดในใจ และเดินไปจากหมู่บ้านของผู้เริ่มเล่น
เมื่อเห็นแผ่นหลังที่ค่อย ๆ เดินจากไปของซูเย่ คนทั้งหมดจึงได้สติ
“ให้ตายเถอะ! นี่มันบ้าชะมัด เขาฆ่ามันด้วยการฟันแค่ครั้งเดียวได้ยังไง? เขาทำมันได้ยังไง? มีใครอธิบายให้ฉันฟังได้บ้าง?”
ทว่าสิ่งที่ทำให้เขาตกตะลึงมากกว่าเดิมก็คือตอนที่เห็นตำแหน่งบาดแผลบนร่างของตั๊กแตนตัวนั้น
คมดาบถูกฟันลงบนจุดตายของตั๊กแตนอย่างแม่นยำ
ชายหนุ่มผู้นั้นฆ่าพวกมันไปตลอดทาง ซากศพของตั๊กแตนกลายพันธุ์เกลื่อนกลาดไปทั่ว
เวลานี้ ผู้คนทั้งหมดที่มารวมตัวกันที่ทางเข้าหมู่บ้านเพื่อสังหารมอนสเตอร์ต่างมึนงงไปหมด
พวกเขามองไปยังภาพที่น่าเหลือเชื่อตรงหน้า
พวกเขาต้องใช้เวลาไล่ล่าและฟันตั๊กแตนพวกนี้เป็นเวลานานกว่าที่จะสามารถฆ่ามันได้ แต่พวกมันกลับถูกฆ่าอย่างง่ายดายโดยผู้เล่นเพียงคนเดียวราวกับการหั่นผักผลไม้เนี่ยนะ?
นั่นใช่คนหรือเปล่า? แล้วนี่ยังใช่ตั๊กแตนตัวเดียวกับที่พวกเขาพยายามสังหารหรือไม่?
เพราะหน้ากากที่ชายหนุ่มสวมอยู่ คนทั้งหมดจึงไม่สามารถเห็นหน้าของซูเย่ได้อย่างชัดเจน
“ท่านเทพ รอฉันด้วย บอกหน่อยสิว่านายใช้วิธีไหนฆ่ามัน ทำยังไงถึงจะผ่านด่านนี้ได้!”
“บอกฉันด้วยสิ!!!” คนจำนวนมากต่างวิ่งตามซูเย่ไป
ทว่าทันใดนั้น กลุ่มตั๊กแตนกลายพันธุ์กลุ่มใหม่ก็ถือกำเนิดขึ้น สกัดกั้นทางเดินของพวกเขาเอาไว้
พวกเขาทำได้เพียงตื่นตระหนกและจัดการมอนสเตอร์ตรงหน้าก่อน
ซูเย่หยุดชะงัก
จากนั้นจึงหันไปมองด้านหลัง มองไปยังกลุ่มคนที่กำลังพยายามโจมตีตั๊กแตนกลายพันธุ์
และไม่นานเขาก็พบว่าทุกคนในกลุ่มมีความชำนาญในการโจมตีไม่เหมือนกัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถสังหารมันได้ในการโจมตีเดียว และกลายเป็นกระตุ้นความบ้าคลั่งของเจ้าตั๊กแตนแทน
“น่าสนใจดีนี่….”
หลังจากที่หันกลับไปมองอยู่ครู่หนึ่ง ซูเย่ก็ดูเหมือนจะพบอะไรบางอย่าง