===============
เขาก็เชื่อมั่นเช่นกันว่าเขาสามารถได้รับชัยชนะในที่สุดได้… วิธีการของเขาคือ ผ่าเปลวไฟเหล่านั้น
ปีศาจเรืองแสงติ่งซ่างสะบัดแขนยักษ์ทันที เรียกเปลวไฟขนาดยักษ์ออกมา เปลวไฟเหล่านั้นดูเหมือนมีชีวิต ลอยอยู่บนอากาศร้อนและพุ่งเข้าหาเย่ว์หยางอย่างรวดเร็ว
พวกทหารบางส่วนไม่สามารถทนดูได้อีกต่อไป ภายใต้เปลวไฟที่ยังลุกโชนสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า พวกเขาเกรงว่าผลจะออกมาเป็นเหมือนขุนพลเฒ่าหม่า ที่้ล้มลงด้วยการปะทะกันเพียงครั้งเดียว
“ข้าแต่เทพเจ้า โปรดคุ้มครองเขาด้วยเถิด!” เย่ว์ปิงและอี้หนานทั้งคู่ต่างหลับตาและภาวนาให้เย่ว์หยาง
“อ๊าาาา…” เจ้าอ้วนไห่ร้องลั่นด้วยความกลัว
“สวรรค์โปรดเถิด!” เย่คงและพี่น้องสกุลหลี่ทั้งคู่ร้องออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจพร้อมกัน นี่ยิ่งทำให้เย่ว์ปิงและอี้หนานกลัวจนหน้าซีดขาวแทบจะสลบล้มลงกับพื้น เมื่อพวกนางลืมตาที่มีน้ำตาคลอเบ้าดู พวก นางพบว่าเย่ว์หยางโดนกระแทกถอยไปสิบเมตร เหมือนกับขุนพลเฒ่าหม่า พวกนางทำอะไรไม่ถูกจึงได้แต่ร้องออกมา พวกนางกลัวว่าเย่ว์หยางจะมีจุดจบเหมือนกับขุนพลเฒ่าหม่าที่ถูกโค่นล้มเพียง เพราะติ่งซ่างโบกมือเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เหตุอัศจรรย์เกิดขึ้นจนได้
เย่ว์หยางฟันดาบลง เหมือนกับใช้การฟันนั้นเป็นโล่ เขาไม่ได้ล้มลงเหมือนกับขุนพลเฒ่าหม่า และยังคงเดินตรงเข้าหาติ่งซ่าง
ติ่งซ่างไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง เจ้าเด็กนี่รับการโจมตีของเขาไปแล้ว แต่ทำไมยังยืนอยู่ได้?
ความโกรธในตัวเขายิ่งเพิ่มขึ้น เมฆเปลวไฟโหมกระหน่ำใหญ่กว่าครั้งก่อนถึง 2-3 เท่าเสียงดังครืนครัน ในมือของเขา มันก่อรูปเป็นบอลเปลวเพลิงขนาดยักษ์มองดูเหมือนดวงอาทิตย์ ขณะที่เขาขว้างใส่เย่ว์หยางด้วยความโกรธ
บึ้ม!
ภายใต้สายตาของทุกคน เย่ว์หยางรับมันไว้เหนือหัวโดยไม่ยอมหลบมัน เขาใช้ดาบฮุยจินสกัดมันไว้
เสียงระเบิดกึกก้องดังอยู่ในอากาศและทุกคนล้มลงกับพื้นเพราะคลื่นแรงระเบิด หลังคาและกำแพงบ้านบางส่วนแตกร้าว ขณะที่บ้านบางหลังพังทลายจากคลื่นความร้อนของแรงระเบิด
ในกระแสลมร้อน เย่คงและคนอื่นพยายามอย่างหนักที่จะยึดให้มั่น พยายามอย่างสุดความสามารถตนเองที่จะหายใจในอากาศที่เผาไหม้ พวกเขาพยายามหาร่างเย่ว์หยางในความมืดมิด เย่ว์ปิงและอี้หนานร้องไห้จนน้ำตานองเต็มหน้า พวกเขาไม่รู้จักความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเย่ว์หยาง ดังนั้นพวกเขาจึงกังวลความปลอดภัยของเขามาก
ณ ที่ห่างจากติ่งซ่าง 30 เมตร ยังมีร่างเด่นโดดเดี่ยวยืนอยู่
เย่ว์หยางนั่นเอง
เขายังคงยืนอยู่ ถือดาบทั้งสองเล่มในมือ ไม่ขยับเลยแม้แต่นิ้วเดียว
พอเมื่อคนอื่นๆ กังวลว่าเขาอาจจะล้มลงกับพื้นเหมือนกับขุนพลเฒ่าหม่า ทันใดนั้น ขยับตัวเดินหน้าเข้าไปหาปีศาจเรืองแสงติ่งซ่างต่อ
“นี่.. มัน..เป็นไปไม่ได้!” ติ่งซ่างตะลึงบ้างแล้ว ความแข็งแกร่งของเจ้าเด็กนี่ชัดเจนแล้วว่า ไม่มากไม่น้อยไปกว่าของหม่าสิงคง แต่ทำไมเขายังสามารถต้านรับภูตไฟนรกของเขาได้?
“ท่าน..ปลอดภัยหรือเปล่า?” เย่คงทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ตะโกนถาม อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะโพล่งชื่อของเย่ว์หยางออกไป เขาคิดว่าต้องไม่ยอมให้ศัตรูรู้จักชื่อของเย่ว์หยาง! ไม่ว่าผลของการต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นเช่นไร วังปีศาจเองก็น่ากลัวมากพออยู่แล้ว คงไม่ดีแน่หากพวกมันพยายามตามหาเขาหลังจากนั้น
“นี่มันแค่การละเล่นของเด็ก, เล่นกับไฟมันคืองานถนัดของข้าอยู่แล้ว!” ทันใดนั้นเย่ว์หยางเผยยิ้มสดใสและโบกมือให้เย่ว์ปิงและอี้หนานเป็นทำนองว่าไม่ต้องห่วงอะไรเกี่ยวกับเขา
“ไฟนรกสิบเท่า!” ปีศาจเรืองแสงติ่งซ่างโกรธหนักยิ่งขึ้น ทั้งตัวของเขามีไฟครอบคลุมทันที ผ้าคลุมเขาถูกไฟไหม้จนเป็นเถ้าถ่าน ขณะที่ตัวของเขาเปลี่ยนเป็นมนุษย์เปลวไฟ เปลวไฟแดงเข้มพุ่งสูงเป็นลำขึ้นไปบนทองฟ้าราวสิบเมตร จากนั้นค่อยๆ รวมตัวกันกลายเป็นเปลวขนาดยักษ์มองดูเหมือนมังกรไฟ มีทั้งหัว ตัว ปีก และหางมังกร และอวัยวะทุกส่วนของร่างมังกรไฟมีเพลิงโหมลุกไหม้ตลอด จากนั้นมังกรไฟก็แหวกอากาศพุ่งเข้าหาเย่ว์หยาง
ขณะนั้นเอง เจ้าอ้วนไห่และเย่ว์ปิงเรียกคัมภีร์ออกมาและกางโล่แสงป้องกันไว้
มีแต่พวกที่มีโล่แสงป้องกันตัวเองเท่านั้นที่ยังปลอดภัยอยู่ในสนามรบ ส่วนทหารคนอื่นๆ ถูกพายุไฟกวาดจนปลิว และบ้านเรือนก็พังทลายลงทีละหลัง บ้านไม้มีไฟลุกไหม้ เมืองซือว่างทั้งหมดตกอยู่ในพายุฝุ่นทรายและอยู่ในความมืด มีแต่เพียงมังกรตัวเดียวที่มองเห็นได้ตรงกลาง มันพยายามกลืนร่างสีดำ
เย่คงและคนอื่นๆ ร่ำร้องในใจ “จบกัน!”
ขณะนี้ พวกเขาไม่กล้าหวังว่าเย่ว์หยางจะสามารถสู้ได้ต่อไป พวกเขาเพียงแต่หวังว่า เขาจะเรียกคัมภีร์ออกมากางโล่ป้องกันได้ทันเวลา มิฉะนั้น หลบหนีไปได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ
เขาต้องไม่เคยเผชิญหน้ากับเปลวไฟซึ่งหน้า นั่นไม่ใช่ไฟนรกที่คนธรรมดาจะสามารถป้องกันต่อต้านได้ตามลำพัง
แต่การกระทำของเย่ว์หยางและความเคลื่อนไหวของเขายังคงดื้อรั้นยืนกราน
แทนที่เขาจะกางโล่ป้องกัน เขาใช้ดาบวิเศษฮุยจินในมือวาดวงกลมแสงอย่างสบายๆ มันคล้ายกับสายรุ้ง นุ่มนวลเหมือนสายน้ำไหล มังกรไฟที่กลืนกินทั้งแผ่นดินและแผ่นฟ้า เจอกับแรงฟันที่เหมือนกับกระแสน้ำซึ่งเย่ว์หยางปล่อยออกมา ติ่งซ่างคิดว่าเจ้าเด็กนี่คงจบสิ้นแล้วในตอนนี้ ต่อไปเขาจะใช้มังกรไฟเผาผลาญจนเหลือแต่เถ้าถ่านได้แน่นอน เจ้าเด็กนั่นน่าจะหยุดเพ้อฝันเรื่องที่จะดับไฟนรกสิบเท่าของเขา ด้วยพลังดาบที่อ่อนด้อยเล็กน้อยอย่างนั้น!
รอยยิ้มเย็นชาปรากฏขึ้นที่มุมปากของติ่งซ่าง
เจ้าเด็กนี่พยายามหาที่ตายโดยแท้
ในวินาทีต่อมา ขณะที่เย่ว์ปิงและอี้หนานมองดูด้วยความห่วงใยเปี่ยมว่าพวกนางแทบจะหมดสติไปเพราะความเครียด ความจริงเย่ว์หยางไม่ได้ถูกมังกรไฟกลืนลงไป แต่เขากลับหมุนตัวเองช้าๆ จนร่างมังกรไฟที่ใหญ่กว่าตัวเขาเป็นร้อยเท่า อวัยวะของมังกรไฟก็หายไปหนึ่งส่วนด้วยการหมุนทุกครั้งที่เขาทำ ในท้องฟ้า ปรากฏวงแหวนไฟลึกลับเมื่อเขาหมุนตัวหนึ่งรอบ หลังจากเย่ว์หยางหมุนตัว 9 ครั้ง มีวงแหวนไฟ 9 วงในท้องฟ้ารอบตัวเขาและมันโคจรรอบตัวเขาอย่างลึกลับ ภายใต้การควบคุมของเขา วงแหวนไฟเหล่านี้ดูสงบและเชื่องมาก เหมือนกับว่ามันไม่ได้ระเบิดมาก่อนเลย
“เหวออออ!” เย่คง, เจ้าอ้วนไห่และคนอื่นๆ ตกใจสุดขีดเมื่อเขาเห็นเหตุการณ์นี้ถึงกับกระโดดถอยหลังกลับไป 2-3 เมตร
“นี่… นี่มันเป็นไปไม่ได้…” ติ่งซ่างเริ่มรู้สึกกลัวเมื่อเขาเห็นภาพต่อหน้าต่อตาเขาเช่นนี้ เขาไม่อาจทำใจเชื่อกับสิ่งที่เขาเห็นด้วยตาตนเอง
แม้ว่าดาบอ่อนหยุ่นของเย่ว์หยางจะไม่สามารถดับไฟนรกของเขาได้ แต่เย่ว์หยางก็แยกชิ้นส่วนมังกรไฟและเปลี่ยนเป็นวงแหวนไฟ 9 วง หลังจากเข้าถึงพลังหยินหยางระดับ 2 และหลังจากเรียนรู้จักความล้มเหลว 2 ครั้งของเขาในการควบคุมผิดพลาดครั้งก่อน ในที่สุดเย่ว์หยางก็เข้าใจถึงวิธีควบคุมทักษะไฟได้อย่างแท้จริง
การเรียนรู้เชี่ยวชาญพลังวงกลมหยินหยางระดับ 2 เป็นเป้าหมายที่เย่ว์หยางพัฒนาฝึกฝนมาอย่างยาวนาน
ในตอนนี้ เย่ว์หยางก็เข้าใจทักษะการใช้ไฟอย่างปรุโปร่งจากพลังหยินหยางของเขา
เมื่อบรรลุทักษะการใช้ไฟได้ในที่สุดแล้ว เย่ว์หยางรู้สึกว่าความสามารถของเขาก้าวหน้าไปอีกมาก เหมือนกับว่าเขาสามารถคว้าโลกทั้งโลกมาไว้บนฝ่ามือ ในชั่วเวลาขณะนั้น เขาสามารถสัมผัสได้ถึงขอบเขตปราณก่อกำเนิดชั้นที่สี่ของเขา
ตราบใดที่เขาบรรลุขอบเขตปราณก่อกำเนิดชั้นที่สี่ อย่าว่าแต่ปีศาจเรืองแสงติ่งซ่างนี้เลย ต่อให้สู้กับสื่อจินโหวอีกครั้ง เขาเชื่อว่ามันไม่ใช่เรื่องลำบากอีกต่อไป
ความรู้สึกเข้าถึงทักษะของเขานี้ทำให้เย่ว์หยางตื่นเต้นมากในที่สุด
จากช่วงเวลาที่เขาสร้างวงกลมหยินหยางของเขา เขาใช้เวลาเพียงไม่ถึงเดือนก็เข้าใจทักษะการใช้ไฟในตอนนี้แล้ว
เย่ว์หยางถอนหายใจ เขาแค่เพิ่งจะเริ่มต้นเส้นทางของนักสู้ของเขาเพื่อกลายเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด ใน อนาคต เขาไม่รู้ว่าจะมีเรื่องลึกลับรอเขาอยู่อีกมากแค่ไหน.. แม้แต่ทักษะสลายฟ้าทลายดินของพี่เทพธิดากระบี่ฟ้าก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ที่จะเรียนให้สำเร็จ
มันขึ้นอยู่กับว่าเขาไม่มีเวลาฝึกที่เพียงพอ วิทยายุทธ์ของเขายังคงอ่อนด้อยอยู่บ้าง
สักวันเขาเชื่อว่า เขาจะสามารถขึ้นไปถึงระดับนั้นจนได้ ตราบใดที่เขายังฝึกฝนพัฒนาและมีความก้าวหน้าใหม่ๆ ต่อไป
“……” ปีศาจเรืองแสงติ่งซ่างจ้องดูเย่ว์หยางด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน ทันใดนั้นเขาล้วงม้วนเทเลพอร์ตออกมา เขาไม่สนใจว่าจะมีการรบกวนในมิติทำให้เทเลพอร์ตผิดพลาดขนาดไหนก็ตาม เขาพยายามจะหลบหนีทันที
“เอ๊ะ?”
เป็นครั้งแรกสำหรับเย่ว์หยางที่พบคนที่เอาตัวรอดแบบนั้น พวกเขาแค่สู้ไปได้แค่ครึ่งๆ กลางๆ และเขาก็คิดจะทอดทิ้งสหายหนีเอาตัวรอดหรือ?
นักรบวิบัติยังรออยู่บนยอดเขา เริ่มต้นจะปั่นป่วนวุ่นวาย อย่างไรก็ตาม พวกมันเงียบทันทีเมื่อนักรบระดับหัวหน้าเข้าควบคุมสถานการณ์
พวกมันยังคงยืนเฝ้าระวังอยู่ เป็นที่แน่ชัดว่าพวกมันตัดสินใจล้อมเมืองต่อไป
ขุนพลผู้เฒ่าหม่าที่บาดเจ็บหนักก่อนหน้านี้พรวดพราดลุกขึ้นยืน จากนั้นวิ่งเข้าไปหาเย่ว์หยางขณะที่ผงกหัวพูดว่า “ดูเหมือนว่าติ่งซ่างจะถอนกำลังวังปีศาจกลับไปแล้ว ได้โปรดช่วยฆ่าสังหารศัตรูที่ล้อมเมืองอยู่และไปที่เมืองหลวงอาณาจักรเทียนหลัวขอกำลังเสริมได้ไหม? โปรดทูลขอฝ่าบาท อย่างน้อยให้ส่งหนึ่งในราชองครักษ์พิทักษ์ฟ้ามาช่วย จากนั้นเราถึงจะออกไปได้โดยปลอดภัย มิฉะนั้น เมื่อนักสู้ฝีมือสูงส่งจากวังปีศาจมาสมทบที่นี่ เราทั้งหมดจะตกอยู่ในอันตราย”
เย่ว์หยางขมวดคิ้วเล็กน้อยและกล่าวว่า “ข้าเป็นแค่นักเรียนจากอาณาจักรต้าเซี่ย ฝ่าบาทจะยอมเชื่อคำพูดข้าหรือ?”..
++++++++++++++++