===============
เสียงกง, กู่จุยและติ่งซ่างทุกคนยังคงเพ่งดูต่อไปอย่างโง่งม มันเป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นสิงเหมิ่งถูกคนทำร้ายจนบาดเจ็บหนัก
เรี่ยวแรงดิบเถื่อนของสิงเหมิ่งและระดับพลังต่อสู้ทางกายที่เหนือชั้น เรื่องแบบนี้เป็นไปได้อย่างไรกัน?
เป็นไปได้ไหมว่าพลังของเจ้าเด็กนี่ยังมากกว่าสิงเหมิ่ง?
“บัดซบเอ๊ย! ข้าขยับไม่ได้ ทำไมพวกเจ้าไม่ยอมช่วย!” สิงเหมิ่งพยายามกระตุ้นตัวเองให้พ้นจากการถูกจับฟาดกับภูเขาอย่างเจ็บปวด เขาสั่นหัวไล่ความมึนงง ได้แต่บ่นถึงสหายของเขาที่เอาแต่ยืนดูโดยไม่กระดิกนิ้วเพื่อช่วยเขา
“เจ้านี่มีทักษะตรึงความเคลื่อนไหวของคนอื่นได้” เสียนกงตื่นตัวทันที ก่อนหน้านี้เขาก็โดนเล่นงานย่ำแย่มาแล้ว
ไม่ใช่เป็นเพราะความแข็งแรงของสิงเหมิ่งไม่อาจเทียบได้กับเย่ว์หยาง มันเป็นเพราะความเคลื่อนไหวของเขาถูกจำกัดไว้ไม่สามารถจะดิ้นรนได้ นั่นคือสาเหตุที่เขาถูกศัตรูทุบตีอย่างหนัก พอได้ยินว่าไม้ตายของเย่ว์หยางถูกสหายสนิทของเขาเปิดเผยแล้ว ประกายรังสีฆ่าฟันในดวงตาของกู่จุยก็เพิ่มขึ้น ได้เวลาแสดงฝีมือแล้ว ระบำมรณะของเขา เขาสามารถแยกร่างได้มากกว่าสิบ ร่างแยกของเขา ค่อยๆ เข้ามาใกล้และปิดล้อมเขาไว้
ในทางตรงข้าม เสียนกงกับโจมตีโดยตรง
กระดองทองของเขาพุ่งเข้าใส่ศีรษะของเย่ว์หยาง
ร่างของเย่ว์หยางหายไปทันทีและมาปรากฏอีกทีใกล้หินเปราะบางส่วน และกระแทกหินให้ลอยขึ้นมาด้วยเสียงดังสนั่น รูปเงาๆ หนึ่งถูกโจมตีจากพื้นหิน
ภาพลวงตาที่จู่โจมใส่เย่ว์หยางหายไปสิ้นเชิง ร่างจริงของกู่จุยล้มลงบนพื้นเสียงดังปัง “เขาสามารถเห็นภาพลวงตา!” กู่จุยร้องไม่ทันจบเมื่อเย่ว์หยางพุ่งใส่ตัวเขา และโอบกู่จุยไว้แน่น เขาใช้ขาทั้งสองหนีบเอวของกู่จุยไว้และใช้มือบิดศีรษะของกู่จุย ตั้งใจจะบิดหัวของเขาให้หลุด ขณะเดียวกัน เขาคำรามอย่างใจเย็น “ถูกต้อง, รางวัลของเจ้าคือ หัวคนตาย!”
โครงกระดูกมีปีกบนหลังของกู่จุยแทงร่างเย่ว์หยางเหมือนพายุฝนและเลือดกระเซ็นไปทั่ว
แต่เย่ว์หยางไม่สนใจมัน เขาไม่สะดุ้งสะเทือน แต่ยังกดกู่จุยไว้และใช้สองมือบิดหัวของกู่จุย
เสียงหักล้่นที่น่ากลัวจากการบิดกระดูกคอ เทียบกับสิงเหมิ่งแล้ว พลังป้องกันของกู่จุยอ่อนด้อยกว่ามาก นอกจากนี้ เขาลอบทำร้ายด้วยความเร็วสูงเป็นส่วนมาก ทันทีที่เขาถูกเย่ว์หยางล็อคตัวไว้ได้ ก็เท่ากับเปิดเผยจุดอ่อนที่สุดให้กับมือมารของเย่ว์หยาง
ถ้าเย่ว์หยางใช้ดาบวิเศษฮุยจินหรือมีดทองฆ่ามังกรทำร้ายเขา กู่จุยก็จะไม่กลัวเขา เพราะโครงกระดูกสามารถป้องกันมีดและดาบได้
แต่เย่ว์หยางเลือกใช้วิธีการตรงที่สุด
บิดคอและหักกระดูกคอและสมองของเขา เขาไม่ใช่เต่าพันปีเหมือนกับเสียนกง เป็นแค่นักสู้ชาวมนุษย์คนหนึ่ง แน่นอนว่าเขาไม่สามารถทำให้สมองงอกใหม่หลังจากถูกบิดออกไปแล้วแน่นอน
“ช่วยด้วย!” กู่จุยต้องการดิ้นรน แต่เขาตระหนักได้ว่าเขาไม่สามารถขยับได้แม้แต่นิ้วเดียว
ด้วยเพียงอสูรที่เขาเรียกออกมา โครงกระดูกเทพสลายช่วยป้องกันการบาดเจ็บจากการบิดคอ เขายังคงใช้ปีกกระดูกโจมตีตอบโต้ ด้วยหวังว่าจะทำให้ศัตรูถอยออกไปได้
เสียนกงต่อยเข้าที่หลังของเย่ว์หยางเต็มแรง ด้วยพลังภายในเทียบเท่ากับแรงระเบิดภูเขา
เย่ว์หยางกล้ำกลืนรับหมัดที่หนักหน่วงปานฟ้าร้องได้ แต่ร่างของเขายังไม่เป็นอะไร
แต่ในทางตรงกันข้าม เป็นเลือดเนื้อของกู่จุยถูกพ่นออกมาจากจมูกและปากของเขา ปีศาจเรืองแสงติ่งซ่างรีบตะโกนทันที “เจ้านี่รู้วิธีรับพลังและยังสามารถสลายไฟนรกของข้าได้ เสียนกง ท่านต้องใช้พลังโจมตีและทำลายร่างของเขาโดยตรง”
“ให้ข้าเอง!” สิงเหมิ่งยกหมัดยักษ์ของตนเองและทุบลงไปที่หลังของเย่ว์หยางเหมือนกับฝนดาวตก เขารัวหมัดจนกระทั่งจนกระทั่งมีบาดแผลเลือดและเนื้อกระเด็นไปทั่วทุกที่
จากนั้นเขายกร่างของกู่จุยขึ้นมาพร้อมกับเย่ว์หยาง ชูค้างในอากาศและและรัวหมัดใส่ถี่ๆ
เขาตั้งใจจะชกเย่ว์หยางให้หมดสติเพื่อช่วยกู่จุยออกมา
หลังจากรัวหมัดเป็นร้อยราวกับคนบ้า แม้แต่สิงเหมิ่งก็หอบหายใจด้วยความเพลีย เขาโยนกู่จุยและเย่ว์หยางออกไป คิดว่าตอนนี้เย่ว์หยางคงตายไปเรียบร้อยแล้ว และกระดูกเขาคงโดนทุบแหลกเหลวแล้ว
เมื่อเสียนกงและติ่งซ่างเห็นว่าทั้งสองกลายเป็นเลือดเนื้อเลอะเลือนแล้ว พวกเขาถอนหายใจอย่างโล่งอก
มีแต่เพียงเซียนหงส์ฟ้าที่ยังนั่งอยู่บนโขดหินที่หน้าผาขมวดคิ้วอยู่
“เขาตายหรือยัง?” ติ่งซ่างถามสิงเหมิ่ง
“ตายแน่นอน!” เมื่อสิงเหมิงพูดเช่นนี้ ความจริงเขายังไม่แน่ใจเท่าไรนัก แต่ก็พยายามเรียกความมั่นใจ
หลังจากโดนไปขนาดนี้แล้วจะไม่ตายได้อย่างไร
คงเป็นเรื่องตลก ภายใต้การโจมตีโดยใช้พลังป่าเถื่อนอย่างนั้น แม้แต่แมมม็อธยักษ์ยังตายได้ เด็กหนุ่มจะเอาตัวรอดไปได้อย่างไร? สิงเหมิ่งรู้สึกว่า แม้กู่จุยจะมีโครงกระดูกเทพสลายคอยป้องกันตัว แต่ก็อาจโดนพลังของเขาทุบตายไปแล้วก็ได้…
“ข้าสามารถพิสูจน์ได้ว่ากู่จุยตายแล้ว เขาตายสนิท ขณะที่ข้า ดูเหมือนว่ายังจะมีชีวิตอยู่!” เย่ว์หยางที่มีเลือดตั้งแต่หัวจนจรดเท้าลุกขึ้นนั่งทันที เขายกศีรษะมนุษย์ของกูจุ่ยที่มีเลือดออกจากนัยน์ตา หู ปากและจมูก และนัยน์ตาของเขายังค้างอยู่ในอาการตกใจสุดขีด เขาโยนหัวนั้นไปที่สิงเหมิ่ง ใบหน้าของเย่ว์หยางยังมีรอยยิ้มเหมือนปีศาจ “โชคดีที่ข้าได้เจ้าช่วยไว้ มิฉะนั้น ข้าคงไม่สามารถบิดหัวเจ้านี่ได้ง่าย เขามีโครงกระดูกเทพสลายคอยปกป้องทั้งตัว จนข้าเกือบเสียท่าอย่างหนักเสียแล้ว!”
“……” สิงเหมิ่งไม่ทราบว่าจะกลัวหรือโกรธดี แต่ร่างของเขากลับสั่นด้วยความกลัว
“ตอนนี้ ก็ถึงตาเจ้าบ้างแล้ว” ด้วยแผลทั่วทั้งตัวเขาและรูพรุนเต็มไปด้วยเลือดที่ถูกกระดูกทิ่มแทง เย่ว์หยางทำเป็นไม่เห็นแผลของเขา กลับยืนขึ้น เขาชี้ไปที่เสียนกง “คนที่สองที่จะตายก็คือเจ้า!”
“ตามนั้นเลย สหายน้อย!” เสียนกงยืดตัวสูงและเย่อหยิ่ง แม้พวกเขาจะให้การช่วยเหลือ แต่กู่จุยก็ยังถูกเจ้าผู้นี้สังหาร และนั่นทำให้เขาตกใจมาก แต่เขาก็ยังมั่นใจในการฝึกปรือของเขาหลายปีที่ผ่านมา ความลึกซึ้งและความแข็งแกร่งของพลัง แม้กระทั่งพลังป้องกันอย่างสูงของเกราะกระดองเต่า และเขายังไม่กลัวคู่ต่อสู้อีกด้วย เขาไม่ใช่กู่จุย เย่ว์หยางต้องการบิดหัวของเขาหรือ? เขาก็แค่ซ่อนหัวอยู่ในกระดองเท่านั้น และจะทำให้การเคลื่อนไหวของเย่ว์หยางไร้ประโยชน์
“เพราะข้ายังอายุน้อยกว่าเจ้า ข้าจึงสามารถทนการโจมตีได้ดีกว่าเจ้า” เย่ว์หยางที่มีเลือดเปรอะเปื้อนเดินเข้ามาเผชิญหน้ากับเสียนกง เขาไม่ได้ยิ้ม แต่รอยยิ้มเยือกเย็นแฝงอยู่ในแววตาของเขา “ก่อนที่เจ้าจะตาย ข้าจะบอกความลับที่ยิ่งใหญ่กับเจ้า เย่ว์กวนไม่ใช่เพียงคนเดียวในตระกูลที่สามารถทนต่อการโจมตีได้…”
พอได้ยินเช่นนี้ เสียนกงตะกุยกรงเล็บตรงมาที่อกของเย่ว์หยาง
เย่ว์หยางบิดตัวอย่างคล่องแคล่วและคว้าไหล่เสียนกงจับเหวี่ยงลงสระทำให้ติ่งซ่างและสิงเหมิ่งมองดูอย่างสงสัย จากนั้นเขาก็โดดลงไปในน้ำและไล่ตามเสียนกง
ปีศาจเรืองแสงติ่งซ่างยินดีว่า “เจ้าเด็กนี่หาเรื่องตาย เขากำลังแข่งทักษะว่ายน้ำกับเสียนกง แม้แต่ที่วังปีศาจ นอกจากจ้าวมังกรฟ้าแล้ว ทักษะต่อสู้ใต้น้ำของเสียนกงแข็งแกร่งที่สุด และยังไม่มีคนอื่นเทียบได้ เจ้าเด็กนี่บ้าไปแล้ว!”
พอเห็นน้ำในสระกระเซ็นไปทั่วด้วยระลอกคลื่นปนเลือดอย่างต่อเนื่องลอยขึ้นมา สิงเหมิ่งต้องการโดดลงไปช่วยเสียนกงอีกแรง
แต่เขารู้ว่าเขาไม่มีฝีมือในการต่อสู้ในน้ำ ถ้าเขาโดดลงไป เขาคงโดนต้อนทุบตีแน่ๆ
พอเงยหน้าอีกครั้ง เขามองดูที่เซียนหงส์ฟ้าที่ยังคงมองดูอย่างใจเย็นและมั่นใจ ทำให้เขาตัดสินใจ
กับสตรีที่เป็นอันตรายอย่างนี้ แม้ว่าเจ้าเด็กนี่จะรู้วิธีบินหนี แต่เขาก็ไม่สามารถหนีพ้นเงื้อมมือนาง
หลังจากผ่านไปไม่กี่นาที เสียงที่น่ากลัวอู้อี้ที่เล็ดลอดออกมาจากใต้น้ำเริ่มที่จะหยุด สิงเหมิ่งและติ่งซ่างเห็นร่างเต่าของเสียนกงค่อยๆ ลอยขึ้นมาจึงยืนโห่ร้องอย่างปลื้มใจ
“เสียนกงรู้คุณค่าในการต่อสู้ใต้น้ำอย่างแน่นอน มั่นใจได้เลยว่า เขาเป็นคนน่ากลัว!” ยักษ์สิงเหมิ่งไม่สามารถจะร่วมยินดี ขณะที่เขาวิ่งลงไปที่ข้างสระต้อนรับการกลับของเสียนกง ว่ากันตามตรง เขาชักกลัววิญญาณอมตะของเย่ว์หยางขึ้นมาบ้างแล้ว มันเหมือนกับแมลงสาบ เขาไม่เคยเห็นคนที่แปลกและบ้าระห่ำอย่างเขา มันคงไม่เป็นอะไรมากเมื่อเป็นการสู้สามต่อห้า แต่เขากลับส่งสหายของเขาสองคนหนีไปและสู้กับพวกเขาห้าคนตามลำพัง
พอนึกถึงการกระทำที่น่ากลัวอย่างการบิดหัวของกู่จุยภายใต้สถานการณ์ที่ทุกคนโจมตีเพื่อช่วยเขา สิงเหมิ่งไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อย
เขาเกลียดพวกที่มีวิญญาณนักสู้และความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งกว่าเขา
ร่างของเสียนกงโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำจนน้ำกระจาย สิงเหมิ่งยื่นมือไปดึงเสียนกงขึ้นฝั่ง เขาเพิ่งจะพูดเยินยออยู่ไม่กี่คำจู่ๆ ก็กรีดร้องออกมาอย่างหวาดผวา ติ่งซ่างรู้สึกสะท้านใจ เขาถามด้วยความกังวลว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
“เสียนกง… ไม่มีหัว..” หน้าของสิงเหมิ่งหวาดผวาเต็มที่
“ใครว่าเขาไม่มี? อยู่นี่ไงเล่า!” เย่ว์หยางค่อยๆ ลอยตัวโผล่ขึ้นมาจากน้ำ ชูศีรษะสีเขียวของมนุษย์ในมือขึ้นในอากาศ แล้วโยนศีรษะของเสียนกงออกไป จากนั้นจึงเดินขึ้นฝั่งด้วยความยากลำบาก “ข้าต้องใช้ความสามารถมากถึงจะตกมันขึ้นมาได้ อย่าบอกว่ามันไม่มีสิ! อืม..ใช่แล้ว ข้าไม่มีเรี่ยวแรงเหลืออยู่มากแล้ว พวกเจ้าคนไหนอยากจะตายก่อน?”
“…….” พอได้ยินเช่นนี้ ติ่งซ่างและสิงเหมิ่งกลัวหนักจนต้องกลืนน้ำลายอย่างหวาดผวา พวกเขารู้สึกปวดแสบปวดร้อนในลำคอ ถึงตอนนี้ พวกเขาจึงได้ตระหนักถึงเหตุผลที่มหาปีศาจฟ้าทั้งสิบต้องส่งสี่ปีศาจดินและห้าปีศาจมนุษย์มา แม้อย่างนั้น พวกเขาก็ยังคิดว่าไม่เพียงพอกับการป้องกันจึงได้ส่งอนุปีศาจฟ้ามาร่วมด้วยในนาทีสุดท้าย
การณ์กลับกลายเป็นว่า เจ้าเด็กนี่ ไม่ธรรมดาจริงๆ
***************