เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ – ตอนที่ 185 – ตอนที่ 177 มหาปีศาจฟ้า ปีศาจกฎฟ้า

===============
*** ระดับของปีศาจฟ้าในวังปีศาจ : จ้าวปีศาจฟ้า >> มหาปีศาจฟ้า >> ปีศาจฟ้า >> อนุปีศาจฟ้า >> ปีศาจดิน >> ปีศาจมนุษย์

เพียงแค่ดูอาการบาดเจ็บคร่าวๆ ที่เขาได้รับ เจ้านี่น่าจะตายไปนานแล้ว ต่อให้มีสิบชีวิตก็ตาม

แต่เขาก็ยังมีชีวิตอยู่

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือสีหน้าของเขา มีรังสีฆ่าฟันเย็นเยียบราวกับคมมีด

เจ้ายักษ์สิงเหมิ่ง และปีศาจเรืองแสงติ่งซ่างไม่รู้ว่าทำอย่างไรจึงจะดีที่สุด จะร่วมมือลุยหน้าฆ่าเขาหรือไม่? หรือว่ารอให้เซียนหงส์ฟ้า อนุปีศาจฟ้าลงมือแทน? ภายใต้สายตาทุกคน ศีรษะของกู่จุยถูกเจ้าเด็กนี่บิดจนขาด และภาพก็ฟ้องในตัวเองอยู่แล้ว เสียนกง ที่เป็นเต่าพันปีก็ยังตายอยู่ใต้น้ำ เขาตายได้อย่างไร? หัวของเขาไปอยู่ในมือของเจ้าเด็กนี่ได้อย่างไร? ไม่มีใครรู้.. เจ้าเด็กนี่ให้ความรู้สึกที่ลึกลับตั้งแต่หัวจนจรดเท้า ไม่มีใครสามารถเห็นเขาได้เลย

นอกจากพวกเขาทุกคน คนที่มีความรู้สึกแบบนี้มากที่สุดก็คือเซียนหงส์ฟ้า

นางสังเกตศัตรูอย่างใจเย็น นางตระหนักว่าเจ้าเด็กนี่เผยพลังที่แท้จริงออกมาชั่วขณะ

เขาแทบไม่เคยคิดถึงความล้มเหลว เขาไม่เคยคิดว่าเสียนกง, กู่จุย, สิงเหมิ่งเป็นศัตรูหลักของเขา นางสามารถเห็นได้ว่าเป้าหมายที่เขากลัวและต้องการล่าที่สุดก็คือตัวนางเอง

เขายอมถูกทำร้ายดีกว่ายอมเผยความเคลื่อนไหวจนถึงที่สุดหรือ?

เมื่อเสียงหอนที่เศร้าและทรมานดังออกมาจากด้านนอกถ้ำ สีหน้าของเซียนหงส์ฟ้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“เกิดอะไรขึ้น?” สีหน้าของติ่งซ่างและสิงเหมิ่งเปลี่ยนไปทั้งคู่ พวกเขารู้ชัดว่านี่ไม่ใช่เสียงขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน ทั้งไม่ใช่เสียงของเจ้าเมืองโล่วฮัว ตรงกันข้าม ดูเหมือนจะดังมาจากสหายของพวกเขา

เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาล้มเหลวเมื่อสู้ 4 ต่อ 2 หรือ? อสูรทั้งสี่เหล่านั้นถูกส่งไปขัดขวางองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเจ้าเมืองโล่วฮัว..

ทำไม? เป็นไปได้อย่างไร?

พอถอนหายใจเบาๆ เซียนหงส์ฟ้าผู้ทรงเสน่ห์งดงามยกนิ้วนางแตะริมฝีปาก จากนั้นถอนหายใจเบาๆ “แผนล่าล้มเหลว ข้าเห็นด้วยให้ยกเลิกภารกิจ พวกเจ้าทุกคนไปได้” คำพูดของนางเหมือนฟ้าผ่า เป็นเหตุให้ติ่งซ่างและสิงเหมิ่งทั้งคู่ต่างยืนตะลึง แผนการล้มเหลวหรือ? ยกเลิกภารกิจหรือ? นางยังไม่เคลื่อนไหวเลยก็ยกเลิกภารกิจเสียแล้ว…

“อ๊าาา”

เสียงหอนเศร้าสร้อยอีกเสียงดังออกมาจากถ้ำ มันชัดเจนกว่าเสียงครั้งก่อน

ไม่ใช่เพียงแค่นั้น เสียงนี้ยังแตกต่างจากเสียงก่อนนั้นสิ้นเชิง

นี่คือสหายอีกคนหนึ่ง

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเจ้าเมืองโล่วฮัวอยู่ด้านนอกกำลังสู้สองต่อสี่ แต่พวกเขายังไม่เพียงแค่เอาชนะได้เท่านั้น แต่ยังสามารถฆ่าปีศาจมนุษย์ที่มีสัตว์อสูรศัตรูโดยธรรมชาติของพวกเขาได้อย่างรวดเร็วได้ด้วยหรือ?

ติ่งซ่างและสิงเหมิ่งทั้งสองรู้สึกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้แปลกมากเหลือเกิน มีคำถามเป็นร้อยๆ ที่ตอบไม่ได้และมีความลึกลับอยู่ทุกที่

ทันใดนั้นพวกเขาได้ยินที่ปากถ้ำเริ่มเงียบเสียงลงอีกครั้ง มันแทบเหมือนกับว่าไม่มีการต่อสู้กันมาก่อน ปีศาจเรืองแสงติ่งซ่างกับสิงเหมิ่งมองหน้ากันและกัน พวกเขาทั้งคู่คาดว่า องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเจ้าเมืองโล่วฮัวได้โค่นสหายทั้งสี่ไปแล้ว

สายลมเย็นพัดมาอย่างเงียบกริบ

ปีศาจเรืองแสงติ่งซ่างและเจ้ายักษ์สิงเหมิ่งไม่สามารถทำอะไรได้ ทว่ารู้สึกหนาวสะท้าน

ร่างพวกเขาสั่นขณะที่ความกลัวปรากฏอยู่บนสีหน้าของพวกเขา นักสู้ระดับไหนกัน ที่ใช้ความเย็นยะเยือกได้อย่างเงียบกริบทำให้เขาหนาวสะท้านจากความเย็นได้? สัตว์อสูรแบบไหนที่มีพลังความเย็นขนาดนี้? ติ่งซ่างและสิงเหมิ่งพบว่าบริเวณรอบตัวพวกเขาเปลี่ยนเป็นเยือกแข็ง แม้แต่บ่อใกล้ๆ ก็เริ่มจับแข็งสะสมเป็นชั้นน้ำแข็งที่หนาขึ้น

แต่เพียงเมื่ออากาศที่พวกเขาหายใจยังพ่นออกมาเป็นไอควัน ทั้งสองคนตระหนักดีว่าภายในหนึ่งนาที ถ้ำทั้งหมดจะเป็นถ้ำน้ำแข็ง

นี่กลับกลายเป็นโลกเยือกแข็งไปแล้ว

เซียนหงส์ฟ้าเริ่มยิ้ม นางหัวเราะคิกคัก อกมหึมาของนางกระเพื่อมอย่างแรง “งั้นเจ้าก็เผยความเชี่ยวชาญออกมาทั้งหมดสินะ ไม่น่าแปลกใจที่เจ้ายังใจเย็นอยู่ได้”

“มันเป็นไข่เงียบ!*” เย่ว์หยางพูดเสริมขึ้น (เป็นภาษาทวิตเตอร์ของคนจีนบางกลุ่มหมายถึงสบายๆ)

“อะไรนะ?” เซียนหงส์ฟ้าสับสนกับการเล่นคำแปลกๆ ของเย่ว์หยาง

“เจ้ายังไม่ตายอีกเหรอ?” จากช่องข้างบน เสียงขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนดังก้อง เป็นเสียงแหลมสูงด้วยความโกรธจัด “ดูเหมือนเจ้าควรจะตายและทิ้งปากของเจ้าไว้ เจ้ายังคงต้องการทำเป็นล้อเล่นกับสาวๆ อีกหรือ?”

“ทำไมข้าต้องทำเป็นล้อเล่นกับสาวๆ ด้วยเล่า? คืนนี้ ห้องสำหรับคู่บ่าวสาวไม่น่ามีปัญหาเช่นกัน” พอได้ยินเสียงขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน เย่ว์หยางก็ล้มลงนอนแผ่กับพื้นเหมือนกับว่าเขาเป็นลม สิงเหมิ่งดีใจเหลือประมาณ เขารีบลอยตัวขึ้นพร้อมกับเงื้อหมัด ตั้งใจจะทุบเย่ว์หยางให้เละ สำหรับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน สิงเหมิ่งรู้สึกว่า ไฟนรกของติ่งซ่างสามารถยับยั้งนักรบประเภทเสริมพลังได้ทั้งหมดอยู่แล้ว คงไม่เป็นไรหากจะปล่อยให้เขาจัดการ

พอเมื่อยักษ์สิงเหมิ่งเริ่มเคลื่อนไหว ทันใดนั้น มีเงาสองสายร่วงลงมาอยู่เหนือเขา

พร้อมกับเสียงโครม พวกเขาร่วงลงไปบนหิน ทำให้หินแตกกระจายนับชิ้นไม่ถ้วน

หนึ่งในชิ้นส่วนทรงกลมนั้นกลิ้งไปทางเท้าของสิงเหมิ่ง เมื่อสิงเหมิ่งมองดูมัน เขาก็ตระหนักได้ว่านี่คือหนึ่งในศีรษะของสหายของเขาที่ถูกแช่จนเป็นน้ำแข็ง ตายังคงเบิกโพลงทั้งที่เขาตายไปแล้ว ตาเหล่านั้นมีลักษณะคล้ายกับตาปลาตาย ยังคงจ้องมองมาทางเขา เหมือนกับกู่จุยและผู้เฒ่าเสียน ดูแล้วน่ากลัวน่าสยดสยองอย่างแท้จริง

ปีศาจเรืองแสงติ่งซ่างยังคงจ้องมองหนึ่งในชิ้นส่วนอย่างงุนงง

เขาจำได้ว่ามันเหมือนกับเป็นร่างกายท่อนบนของหนึ่งในสหายอีกคนของพวกเขา แม้ว่ามันจะแตกหักจนแทบจำไม่ได้ แต่เขาก็ยังพอระบุได้ว่าเป็นหนึ่งในสหายของพวกเขา ติ่งซ่างสามารถยืนยันได้ว่าสหายทั้งสี่ที่อยู่ด้านนอกตายในการต่อสู้หมดทุกคนแล้ว อย่างน้อยที่สุด สองคนในนั้นตายหลังจากถูกแช่แข็ง ไม่ได้มีแค่การโจมตีคนทั้งสามเท่านั้น พวกเขาโจมตีคนทั้งสี่ ยังมียอดฝีมือลึกลับอีกคนหนึ่งเชี่ยวชาญในทักษะแช่แข็ง มันเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนที่จะดำเนินการเลย ทักษะของยอดฝีมือผู้เชี่ยวชาญนี้ยังปกปิดตัวตนได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่มีใครในพวกเขาแม้แต่เซียนหงส์ฟ้าจะตระหนักได้ว่า คนผู้นี้ซ่อนตนเองอยู่ที่ด้านนอก

ตอนนี้ ในที่สุดเขาก็เข้าใจเหตุผลที่เจ้าเด็กนี่รีบส่งองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเจ้าเมืองโล่วฮัวออกไปนอกถ้ำ

นั่นก็เพื่อดึงดูดความสนใจของศัตรูทั้งสี่คนที่ถูกวางกำลังไว้ที่ด้านนอก เขารู้นานแล้วว่ามีคนซุ่มรอทำร้ายอยู่ข้างนอก เขาจึงล่อความสนใจพวกเขาแทน และปล่อยให้ยอดฝีมือซ่อนตัวที่ด้านนอกลงมือโจมตีศัตรูทั้งสี่อย่างไม่คาดหมาย และประสานร่วมมือกับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกับเจ้าเมืองโล่วฮัวโค่นล้มศัตรูลง

สหายสี่คนของเขาที่ด้านนอกตายในการสู้ครั้งเดียว และถูกกำจัดไปหมดแล้ว

ไม่ใช่ว่าพวกเขามีความแข็งแกร่งไม่พอ แต่เป็นเพราะพวกเขาถูกเจ้าเด็กนี่และยอดฝีมือลึกลับที่ซ่อนตัวอยู่ด้านนอกหลอกล่อ

องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนโอบเจ้าเมืองโล่วฮัวเข้ามาข้างในจากแนวเส้นทางขอบฟ้าอีกครั้ง เกราะเงินของนางแตกตรงจุดที่ดูเหมือนยากที่จะปกปิดร่างกายของนางได้ ร่างของนางเต็มไปด้วยเลือดและนางมีบาดแผลมากพอๆ กับเย่ว์หยาง ต้นขาและไหล่ของนางมีบาดแผลถูกฟันลึกหลายแผล ติ่งซ่างจำได้ว่าเป็นบาดแผลที่เกิดจากอาวุธของปีศาจมนุษย์ร้อยทหาร เขาได้รับเลือกมาให้จัดการตอบโต้เจ้าเมืองโล่วฮัวโดยเฉพาะ แต่เขากลับถูกองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเล่นงานแทน ขณะที่อสูรอื่นที่เตรียมไว้จัดการองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนในการสู้ระยะประชิด ก็คือปีศาจมนุษยพันขนนก กลับใช้อาวูธลับของเขา ธนูเงินยิงใส่อกของเจ้าเมืองโล่วฮัวแทน แต่ก่อนที่ปีศาจมนุษย์พันขนนกจะตาย มันร้องโหยหวนอย่างน่าสงสารราวกับว่าวิญญาณของมันแตกดับ ดูเหมือนมันถูกฆ่าตอนเสี่ยงชีวิตสู้กับเจ้าเมืองโล่วฮัวที่ยิงแสงอุษาของนาง

สำหรับปีศาจอื่นอีกสองตนคือ ปีศาจมนุษย์หมาป่า และปีศาจมารมนุษย์ พวกมันถูกแช่แข็งทั้งเป็นกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งโดยยอดฝีมือลึกลับ

พวกมันไม่สามารถใช้จิตมารของปีศาจมารมนุษย์เพื่อก่อกวนการรวบรวมพลังปราณของเจ้าเมืองโล่วฮัวในการปล่อยพลังแสงอุษา ทั้งพวกมันไม่สามารถใช้วิญญาณหมาป่ารุมเล่นงานองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนได้ แม้ว่าทักษะของพวกมันสามารถยับยั้งองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเจ้าเมืองโล่วฮัวได้ แต่พอเจอกับยอดฝีมือลึกลับสามารถปล่อยพลังน้ำแข็งได้ พวกเขาจึงต้องพบจุดจบอย่างน่าอนาถ

จิตใจของติ่งซ่างแว่บไปแว่บมา ขณะที่เขาคิดถึงความเป็นไปได้ต่างๆ

เขาสามารถจินตนาการถึงวิธีต่อสู้ขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเจ้าเมืองโล่วฮัวในระหว่างต่อสู้แทบทุกวิธี

ทันใดนั้น ติ่งซ่างเห็นเซียนหงส์ฟ้าชี้นิ้วของนาง

นี่คืออากัปกิริยาที่มีเพียงนักสู้วังปีศาจที่อัญเชิญคัมภีร์ได้ รู้กันเท่านั้น มันคือ รหัส “ปีศาจฟ้า ถอนกำลัง”

หากปราศจากคัมภีร์อัญเชิญ ไม่ว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งขนาดไหน วังปีศาจจะไม่ฝึกฝนพัฒนาผู้นั้นจนถึงที่สุด ทั้งนี้เป็นเพราะไม่ว่าคนผู้นั้นจะแข็งแกร่งขนาดไหนก็ตาม หรือมีศักยภาพมากแค่ไหนก็ตาม พวกเขาก็ไม่มีทางจะมีคุณค่าเพิ่มขึ้นเมื่อฝึกฝน เมื่อเทียบกับคนที่มีคัมภีร์อัญเชิญ ถ้าคนที่มีคัมภีร์อัญเชิญไม่สามารถต่อต้านศัตรูได้ สิบมหาปีศาจฟ้าแห่งวังปีศาจอนุญาตให้พวกเขาถอนตัวเพื่อเก็บความแข็งแกร่งของพวกเขาไว้

ปีศาจติ่งซ่างรู้ว่า แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม แต่เขาก็ยังเป็นคนที่สำคัญที่สุดในกลุ่ม ทั้งนี้เป็นเพราะ เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ครอบครองคัมภีร์อัญเชิญ

“ปีศาจฟ้าถอนกำลัง เป็นคำสั่งให้ไปจากตำแหน่งปัจจุบันโดยเร็ว นี่คือภารกิจใหม่ที่เซียนหงส์ฟ้าแอบมอบให้ติ่งซ่าง

อย่างไรก็ตาม ในมุมมองของยักษ์สิงเหมิ่ง ท่านิ้วมือนี้ให้ความหมายแตกต่างกันสิ้นเชิง เขาคิดว่าเซียนหงส์ฟ้าตัดสินใจลงมือกับเย่ว์หยางด้วยตัวนางเอง…

“ไปกันเถอะ!” ติ่งซ่างรู้ว่า ยอดฝีมือลึกลับยังคงรอเขาอยู่ด้านนอก เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหลบหนีไปได้ด้วยพลังของตนเองและเขาต้องหาแพะรับบาป เป็นไปตามคาดเจ้ายักษ์สิงเหมิ่งทะยานขึ้นไปในท้องฟ้าทันทีและส่งต่อสนามรบให้เซียนหงส์ฟ้า เขาแซงติ่งซ่างและพุ่งเข้าไปในทางเข้าถ้ำสายสวรรค์ สิงเหมิ่งไม่ใช่คนโง่ เขารู้สึกว่าถูกตัดสินโดยนิสัยฝ่ายตรงกันข้าม ไม่ว่าจะเป็นเจ้าเด็กเจ้าเล่ห์หรือองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็ตาม พวกเขายินดีจะสกัดติ่งซ่างมากกว่า ทั้งนี้เป็นเพราะจะคุ้มค่ามากกว่าหากฆ่าติ่งซ่างได้ ในฐานะที่เขาเองเป็นนักสู้สายอสูรเสริมพลัง พลังป้องกันของเขาแข็งแกร่งมาก เจ้าคนลึกลับและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนคงไม่โง่ที่จะขัดขวางตัวของเขาแน่

“ช่างโง่เขลานัก…” ติ่งซ่างเยาะเย้ยเขา

ติ่งซ่างไม่เคยรู้สึกว่าเย่ว์หยางและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนจะกดดันและโจมตีเขา แม้ว่าทั้งสองคนยังสามารถต่อสู้ได้ พวกเขากลับสงวนพลังเอาไว้ต่อสู้กับเซียนหงส์ฟ้าในภายหลัง

สิงเหมิ่งและติ่งซ่างวิ่งไปตามแนวถ้ำสายสวรรค์

ทันใดนั้น พายุน้ำแข็งก็ถาโถมเข้าใส่ที่ปากทางเข้าถ้ำ

แทบจะทันที ติ่งซ่างเรียกคัมภีร์ของเขาและกางโล่ของเขา พายุน้ำแข็งทำอันตรายเขาไม่ได้ อย่างไรก็ตามสิงเหมิ่งกลายเป็นแท่งน้ำแข็งล้มลงบนพื้นเสียงดังสนั่น เงาร่างหนึ่งที่สวมชุดเหมือนขโมยมองดูติ่งซ่างด้วยนัยน์ตาเย็นเยียบขณะที่ไม่ได้ใช้น้ำแข็งโจมตีเขาต่อไป พายุวิ่งเข้าหาสิงเหมิ่งที่ถูกแช่แข็งอยู่ในก้อนน้ำแข็ง ถ้าติ่งซ่างไม่มีคัมภีร์อัญเชิญ เขารู้สึกว่าเขาคงตายแน่นอน ได้พบศัตรูที่มีอสูรธาตุจำเพาะสามารถยับยั้งเขาได้ พายุน้ำแข็งที่ศัตรูใช้ด้วยความเร็วที่น่ากลัว ทั้งความเหมาะเจาะของเวลาและความรู้สึกที่น่ากลัว มันคือดาวข่มของเขาโดยธรรมชาติ

ถ้าเขาไม่ได้ครอบครองคัมภีร์อัญเชิญ เขาเชื่อว่าศัตรูคงจู่โจมใส่เขาก่อนแน่นอน

ติ่งซ่างปาดเหงื่อบนใบหน้า พอมองลงไป เขาพบว่านางเซียนหงส์ฟ้าทำสัญญาณนิ้วมือให้เขาหนีไป เขามั่นใจและกลืนน้ำลาย เขารีบทะยานออกมาจากถ้ำพุ่งตรงไปที่หน้าผาอย่างบ้าคลั่ง จากนั้นกระโดดไปตรงจุดหน้าผาที่สูงที่สุด เขาเรียกอสูรปีกลมและผสานร่างกับมัน ปีกยักษ์งอกออกจากหลังของเขา จากนั้นหันหน้าไปทางใต้ลมแล้วร่อนลงไป มีเพียงตอนนี้ที่เขาตระหนักได้ว่าเขายื้อชีวิตตนเองกลับมาได้

ขณะร่อนลงไป ติ่งซ่างพบว่าสุนัขดำที่เต็มไปด้วยบาดแผลตัวหนึ่งกำลังรักษาจิ้งจอกขาวตัวน้อย มันใช้เล็บขุดลึกลงไปในหิน จากนั้นปีนกลับมาช้าๆ อย่างยากลำบาก

ติ่งซ่างตกใจสุดขีด

ความรู้สึกสังหรณ์ที่ไม่ดีแว่บเข้ามาในใจของเขา….. เป็นไปได้ไหมว่า ปีศาจมนุษย์ร้อยสัตว์อสูร ยังไม่สามารถเอาชนะหมาป่าปีศาจสองหัวและจิ้งจอกหิมะสามหางที่เขาล่าอยู่หรือ? อย่างนั้น เจ้านั่นที่ได้รับการจัดอันดับอยู่ในร้อยอันดับแรกของนักสู้วังปีศาจก็ยังพ่ายแพ้หมาป่าและจิ้งจอกหรือ?

นี่…เจ้าพวกนี้เป็นสัตว์อสูรแบบไหนกันแน่?

น่ากลัวเหลือเกิน

ติ่งซ่างหนาวสะท้านอย่างช่วยไม่ได้ หลังจากผ่านไปชั่วขณะ เขาร่อนลงที่ชะง่อนเขาเล็กๆ และเก็บปีกของเขาทันที จากนั้นล้วงม้วนเทเลพอร์ตออกมาและเปิดออกหลบหนีไปจากที่นั่น

เขาไม่กล้ารั้งอยู่ในที่นี้ต่อแม้แต่เพียงครู่เดียว

ติ่งซ่างเชื่อว่า หากเขาอยู่ต่อนานกว่านี้ ชีวิตของเขาคงจะตกอยู่ในอันตราย ไม่ใช่เฉพาะเจ้าตัวประหลาดที่มีพลังเหนือเขามากเท่านั้น แม้แต่อสูรของพวกเขาก็ยังมีพลังต่อสู้เหลือเฟือ

ภายในถ้ำ องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนพาเจ้าเมืองโล่วฮัวที่หมดสติไปแล้วมาอยู่ข้างๆ เย่ว์หยาง นางยิ้มให้เย่ว์หยางเป็นเชิงขอโทษ “ธนูนี้ตั้งใจจะยิงข้าไม่ใช่เจ้าเมืองโล่วฮัว นางตั้งใจรับลูกศรนี้แทนข้า โชคดีที่ไม่โดนหัวใจของนาง มิฉะนั้นชีวิตนางคงจบสิ้นไปแล้ว ตอนนี้พวกท่านพักก่อน รอจนกว่าข้าจะตัดเซียนหงส์ฟ้าเป็นชิ้นๆ จากนั้นข้าจะรักษาให้ท่านทั้งคู่ เรียกคัมภีร์ของเจ้าออกมาก่อน”

“ไม่มีเขา เราก็เอาชนะไม่ได้ พาเขามานี่เดี๋ยวนี้!” หญิงงามลึกลับได้รับอันตรายเพียงผิวเผิน แต่ชุดดำที่คลุมหน้านางมีรอยเปื้อนเลือด เห็นได้ชัดว่าว่าอาการบาดเจ็บภายในของนางสาหัสไม่เบา

“ข้าบอกแล้วว่าพวกผู้หญิงทำอะไรไม่ได้มากนักหรอกเมื่อไม่มีผู้ชายไม่ใช่เหรอ…” เย่ว์หยางยืนขึ้นโงนเงนเล็กน้อย เขาเอาระฆังทองที่เขาได้รับมาจากวิหารราศีเมษ และมอบให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน “ถ้าเราไม่รักษาอาการบาดเจ็บของเราตอนนี้ เลือดของเราคงไหลหมดตัวแน่ เจ้ารู้จักวิธีใช้สิ่งนี้ไหม?”

“หน้าโง่, เจ้าไม่สามารถใช้มันได้ นี่จำเป็นต้องได้เลือดของคนที่เหมาะสมเพื่อปลดผนึก! องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรู้จากการมองครั้งแรกว่านี่คือสมบัติที่ถูกผนึกไว้ด้วยคำสาป หากยังไม่ได้ปลดผนึกมัน เป็นไปไม่ได้ที่จะเอามาใช้ได้

“แย่จริงๆ นี่คือสมบัติที่สามารถใช้รักษาได้ เอ๊ะ?” หญิงงามลึกลับพุ่งเข้ามาหาพวกเขาทันที เมื่อนางคว้ามันมาจากมือองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน แสงสีขาวค่อยๆ เล็ดลอดออกมาจากในระฆังทอง เหมือนกับว่ามันมีชีวิตได้เอง แสงอาบอยู่เต็มพื้นที่ ต่อจากนั้น พลังมหาศาลของแสงสีขาวก็แผ่กระจายออกมาด้านนอกส่องสว่างไปทั้งถ้ำ

“เกิดอะไรขึ้น?” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแปลกใจ ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เมื่อนางถือมันไว้ แต่พอหญิงงามลึกลับคว้ามาถือไว้กลับมีปฏิกิริยาได้อย่างไรกัน?

“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน” หญิงงามลึกลับแค่รู้สึกเพียงว่าแสงสีขาวที่เปี่ยมไปด้วยพลังซึมซาบเข้าไปในตัวนาง อาการบาดเจ็บรุนแรงที่นางได้รับมาก่อนหน้าก็ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

“…..” พอมองดูหญิงงามลึกลับ นางเซียนหงส์ฟ้าตะลึงในตอนแรก จากนั้นไม่นาน เมื่อนางเห็นสมบัติ ดูเหมือนว่านางจะปีติยินดี แต่นางก็ยังมองอย่างเสียดาย สีหน้าของนางซับซ้อนและสับสนอย่างมาก

อาการบาดเจ็บขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและของเย่ว์หยางก็ได้รับการรักษาเช่นกัน

พอได้อาบแสงสีขาว อาการบาดเจ็บของพวกเขาก็หายอย่างรวดเร็วถึงขนาดมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ภายในหนึ่งนาที นอกจากอาการบาดเจ็บจากลูกศรที่เจ้าเมืองโล่วฮัวได้รับและนางยังไม่ได้สติ อาการบาดเจ็บของเย่ว์หยาง, องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและหญิงงามลึกลับหายเกือบหมด พอไอเบาๆ 2-3 ครั้งฝอยเลือดก็กระเด็นออกมาจากปอดของหญิงงามลึกลับด้วย องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนใช้มีดหักงัดตรงไหล่และต้นขาของนางเพื่อให้แสงสีขาวอาบแผลรักษาอาการบาดเจ็บ

เดิมที เย่ว์หยางต้องการจะถอนธนูลับออกมา แต่หญิงงามลึกลับเอื้อมมือมาห้ามไม่ให้เขาทำโดยประมาท

อาการบาดเจ็บของเจ้าเมืองโล่วฮัวหนักมาก แสงขาวอาจจะจางหายไป หากรักษาไม่ทันเวลา

แสงสีขาวจากระฆังทองค่อยๆ หายไปช้าๆ กลายเป็นระฆังสีเทา

เย่ว์หยางไม่มีเวลาดูมัน เขาเก็บมันไว้ในแหวนลิชในตอนนี้ก่อน

“พวกเราสามคนจะผลัดกันโจมตี เจ้าจะเป็นหลักในการโจมตี ข้าจะสนับสนุน เชี่ยนเชี่ยนคอยปกป้องโล่วฮัวก่อน แล้วค่อยร่วมสู้กับเราเมื่อเราตกอยู่ในอันตราย อย่างไรก็ตาม อสูรของเจ้าเป็นอสูรสายเสริมพลัง เรียกคัมภีร์อัญเชิญของเจ้าออกมาก่อนและพักรอไว้” หญิงงามลึกลับให้หน้าที่หลักในการจู่โจมกับเย่ว์หยาง

“นางคืออนุปีศาจฟ้า และมือของนางเคลือบด้วยยาพิษ นางสามารถสังหารข้าได้ทันที เจ้ายังต้องการให้ข้าเป็นผู้จู่โจมหลักอีกหรือ?” เย่ว์หยางดูเหมือนจะไม่ค่อยยินดีกับการจัดภารกิจครั้งนี้

“ข้าสงสัยว่านาคืออนุปีศาจฟ้าคนหนึ่ง แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่าในความเป็นจริงนางคือปีศาจฟ้าที่ลดตัวเองเป็นเหยื่อล่อ…” หญิงงามลึกลับยังกล้าสงสัยมากกว่าเย่ว์หยาง

“ทำไมพวกเจ้าถึงไม่สงสัยบ้างว่าข้าเป็นหนึ่งในสามมหาปีศาจฟ้า “ปีศาจกฎฟ้า” แห่งเขาทลายจองจำเล่า?” เซียนหงส์ฟ้ายิ้ม

คำพูดของนางเหมือนกับฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ

มันก้องอยู่ในแก้วหูของเย่ว์หยาง, องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและหญิงงามลึกลับจนตกตะลึงทั้งสามคน

********************

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

LLS, Triệu Hoán Vạn Tuế, Zhaohuan Wansui, 召唤万岁
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2010 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ทวีปมังกรทะยานคือโลกแห่งการอัญเชิญ คุณจะกลายเป็นคนแข็งแกร่งได้ ถ้าเพียงแต่คุณเป็นผู้อัญเชิญ! ยิ่วหยางเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาถูกส่งเข้ามาในโลกนี้อย่างฉับพลันทัน ด่วน เมื่อเขาฟื้นขึ้นกลับได้พบใบหน้าของหลายคนที่เต็มไปด้วยความห่วงใย และพบว่าเขาเป็นตัวตนของอีกคนหนึ่ง กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นบุตรที่ไม่เอาไหนของตระกูลยิ่ว จนถึงกับโดดน้ำตายเพราะถูกปฏิเสธการหมั้น อีกทั้งไม่สามารถจะทำพันธสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ แต่ยิ่วหยางกลับประสบความสำเร็จทำสัญญากับคัมภีร์ ส่วนเรื่องราวจะเป็นเช่นไรต่อไป ขอเชิญติดตามดูครับ ความจริงในการแปลครั้งนี้มาจากแรงบันดาลใจที่ไม่ได้จะเป็นนักเขียนนักแปล หรอกครับ เกิดจากการอ่านมันฮัวการ์ตูนของจีนแล้วชอบ พยายามหาดูที่แปลเป็นอังกฤษ ก็แปลกันไปได้น้อยนิด แต่พอดูฉบับนิยายรู้สึกว่าเขาแปลไปได้เยอะ จึงลองเข้าอ่าน แต่เพราะความที่ภาษาไม่แข็งแรง จึงต้องดูไป เปิดดิคฯ ไปใช้โปรแกรมแปลช่วยบ้าง มีความรู้สึกว่าอ่านไม่ต่อเนื่อง จึงคิดว่าน่าจะแปลข้อมูลเก็บไว้ในเว็บๆ หนึ่งแล้วค่อยอ่านเป็นตอนๆ ให้ต่อเนื่องไปเลยดีกว่า แล้วก็นึกถึงที่นี่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset