===============
พอง้างขากรรไกรล่างของแม่สี่ เย่ว์หยางตรวจดูไม่ให้ทางเดินลมหายใจนางมีการอุดตัน เขาเตรียมใช้วิธีกู้ชีพ
แต่ในทันใดนั้นเขามีความคิดที่สองขึ้นมาทันที เย่ว์หยางหยุดและมองดูองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน, เจ้าเมืองโล่วฮัวและคนอื่นๆ เขาดึงมือองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและพูดว่า “เจ้าทำได้!””
“ขะ..ขะ..ข้าไม่รู้วิธี!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนลนลานโบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน
“มันง่ายมาก แค่บีบจมูกนาง จากนั้นใช้ปากเจ้าประกบปากแม่สี่และเป่าลมหายใจเข้าไป เจ้าต้องหายใจลึกๆ ก่อน พยายามหายใจเก็บอากาศให้ลึก จากนั้นถ่ายลมหายใจเข้าไปในปากนาง หลังจากเป่าลมหายใจใส่สองครั้ง ให้โล่วฮัวเริ่มกดหน้าอกนาง ทาบฝ่ามือทั้งสองซ้อนกันและกดลงที่หน้าอก พวกเจ้าทำอะไรน่ะ? เอาแต่จ้องมองด้วยสายว่างเปล่าเหมือนคนโง่เลย?” เย่ว์หยางตระหนักว่าเขารู้แต่เพียงทฤษฎี บอกกล่าวให้คนอื่นช่วย ถ้าเขาไม่นับเมื่อครั้งที่เขาอยู่กับเจ้าเมืองโล่วฮัวเขาไม่เคยพยายามช่วยชีวิตคนอื่นมาก่อนสักครั้ง
“ข้าก็ยังไม่รู้วิธี!” เจ้าเมืองโล่วฮัวมองดูอย่างหวาดๆ มือของนางยังคงสั่นไม่หยุด เหมือนกับเป็นการแสดงความหวั่นวิตกในใจนางขณะนี้
“หน้าโง่! ทำด้วยตัวเจ้าเองสิ… ถ้าเจ้าเป็นผู้รู้เพียงคนเดียวไม่ยอมช่วยนาง แล้วเจ้าจะปล่อยให้พวกนางช่วยแม่สี่ได้อย่างไร? นี่เกี่ยวกับการช่วยชีวิตคน เจ้าคิดยังไงกับเรื่องนี้? เจ้าทึ่ม! ถ้าอย่างนั้นข้าจะทำให้ก็ได้!” หญิงงามลึกลับเห็นว่าทุกคนมัวแต่เกี่ยงที่จะทำในสิ่งที่ต้องทำ ดังนั้นนางเริ่มโน้มตัวเข้าหาแม่สี่และกดหน้าอกนาง องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็รีบโน้มตัวลงเช่นกัน แต่นางไม่เข้าใจสิ่งสำคัญที่นางต้องทำจึงไม่อาจเป่าลมหายใจเข้าไปในตัวแม่สี่ได้ พอเห็นว่ามันแทบเป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยให้นางทำ เย่ว์หยางตัดสินใจช่วยแม่สี่ด้วยตนเอง
นี่คือการช่วยชีวิตคน
เขาต้องช่วยแม่สี่ เขาไม่คิดอะไรอื่นอีกต่อไป ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องอะไรอย่างนั้น
เขาเอาผ้าคลุมศีรษะของหญิงงามลึกลับวางลงบนริมฝีปากแม่สี่ จากนั้นผายปอดช่วยชีวิตนาง เย่ว์หยางเคยเห็นวิธีนี้ทางโทรทัศน์มาก่อน นี่จะช่วยป้องกันสิ่งแปลกปลอมอย่างเช่นน้ำลายหรือสิ่งอื่นๆ จะหลุดเข้าไปในปอดของผู้เคราะห์ร้าย วิธีหนึ่งก็คือใช้ชิ้นผ้าหรือผ้าสำหรับปิดแผลกันไว้
แน่นอนว่า อาจจะไม่มีของอะไรอย่างนั้นในสถานที่ๆ พวกเขาทำการผายปอด ดังนั้นวิธีนี้ไม่ถือว่าเป็นหลักจำเป็นในการผายปอด
เย่ว์หยางไม่สนใจมองหน้าของหญิงงามลักลึบนัก เขารีบโน้มตัวเป่าลมหายใจเข้าในปากของแม่สี่สองครั้ง
หญิงงามลึกลับรีบร่วมมือกับเย่ว์หยาง นางเริ่มกดหน้าอกแม่สี่ทันทีหลังจากเขาเป่าลมหายใจเสร็จ
การกดของหญิงงามลึกลับเบาเกินไป นางไม่กล้าใช้แรงกดมากนัก เกรงว่าจะทำให้แม่สี่ซี่โครงหัก เย่ว์หยางคอยเตือนให้นางกดช้าลงเหมือนจังหวะก้าวเท้าแต่เพิ่มแรงขึ้นอีกเล็กน้อย องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน ตรงกันข้าม คอยเตือนหญิงงามลึกลับไม่ให้ใช้แรงกดมากไป ส่วนเจ้าเมืองโล่วฮัวคอยช่วยนวดมือของแม่สี่ขณะที่นางพูดกับเย่ว์หยางที่กำลังเป่าลมหายใจเข้าปากนาง “เร็วเข้า มือแม่สี่เย็นมากแล้ว พวกเจ้าต้องรีบช่วยนาง…”
“เราไม่อาจทำเร็วเกินไป ทุกคนใจเย็นๆ อย่าวิตกเกินไป และอย่าเพิ่งร้อง! พวกเจ้าต้องดำเนินการกู้ชีพต่อไป!” เย่ว์หยางเองก็ยังกังวลมาก แต่เขารู้ว่าถ้าเขาแสดงอาการวิตกของตัวเองออกไป อย่างนั้นทุกคนจะถอดใจ เขาต้องอดทนและดำเนินการช่วยแม่สี่ต่อไป
“เจ้ามีวิธีช่วยแบบอื่นบ้างไหม?” หญิงงามลึกลับตระหนักว่าไม่มีอาการตอบสนองมากนักหลังจากทำการผายปอด ดังนั้นนางรีบขอให้เย่ว์หยางคิดหาวิธีอื่น
“กระตุ้นด้วยไฟฟ้า เราต้องการไฟฟ้ากระตุ้นให้หัวใจนางให้ทำงาน อีกวิธีก็คือผ่าตัดหน้าอกนางและนวดหัวใจโดยตรง” เย่ว์หยางรู้วิธีช่วยคนหลายวิธี แต่เขาไม่เคยลองทำมาก่อน
เมื่อเขาคิดถึงวิธีที่เขาจะผ่าตัดอกของเจ้าเมืองโล่วฮัวและทำการนวดหัวใจนางครั้งก่อน เย่ว์หยางถึงกับเหงื่อกาฬไหล
วิธีนั้นอันตรายเกินไป
เขาไม่เคยศึกษาวิธีช่วยคนมาก่อน และไม่เคยลองนวดหัวใจโดยตรงด้วย เขาไม่เคยคิดถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเมื่อเขาผ่าตัดเปิดหน้าอก เย่ว์หยางกลัวมากว่า พลังไฟฟ้าที่มากเกินไปจะทำร้ายแม่สี่มากขึ้น ดังนั้นเขารีบพูดต่อ “ไฟฟ้ากระตุ้นต้องไม่แรงเกินไป เราต้องใช้ฝ่ามือของเราปล่อยไฟฟ้ากระตุ้น บนพื้นผิวที่สัมผัสกับหน้าอกนางต้องมากพอ ช่วงเวลาที่สัมผัสต้องสั้น พอที่จะกระตุ้นนางเบาๆ … ข้าคิดนะ เราต้องรู้ว่าจะมีเลือดมากไหลออกมาจากแผลที่ผ่าตัดหากเราต้องเปิดแผลเพื่อนวดหัวใจของนาง ถ้ามีเลือดมาก ก็หมายความว่าหัวใจนางยังเต้นอยู่ เราต้องรอจนกว่าเลือดนางจะไม่เดิน ซึ่งก็หมายความว่าไม่มีแรงสูบฉีดเลือดและนั่นก็คือหัวใจของนางจำเป็นต้องนวด.. ความจริง.. ข้าไม่เคยลองด้วยตัวเองมาก่อน!”
หญิงงามลึกลับปฏิเสธวิธีใช้ไฟฟ้ากระตุ้นทันที “ไฟฟ้าของข้ามีแต่ใช้สังหารศัตรู ข้าไม่สามารถใช้ช่วยคนได้ นาคาสายฟ้าก็ทำไม่ได้เช่นกัน อสูรของเราไม่ใช่ประเภทใช้บำบัด!”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนย่ำเท้าไม่หยุด นางห่วงใยที่จะช่วยชีวิตแม่สี่ แต่นางไม่สามารถช่วยอะไรได้ หัวใจนางเต็มไปด้วยความกังวลจนแทบระเบิดออก
หลังจากกู้ชีพถึงสามรอบ แม่สี่ก็ยังไม่มีอาการตอบสนอง
เย่ว์หยางแข็งใจ ถ้าตอนนี้เขายังลังเลต่อไป แม่สี่อาจต้องตาย ถ้าสมองของนางไม่ได้รับอ็อกซิเจนสำรองภายในสิบนาที จะก่อให้เกิดความเสียหายจนยากจะกู้คืนได้ ตอนนี้เขาไม่ควรทอดเวลาออกไป เขาล้วงมีดทองฆ่ามังกรออกมาและเตรียมเปิดอกแม่สี่เพื่อนวดหัวใจโดยตรง…
ทันใดนั้นมือน้อยๆ ยื่นมาจากด้านหลังของเขา ร่างน้อยๆ ของเสี่ยวเหวินหลีเบียดขึ้นมาอยู่ด้านหน้าของเขา
ลูกกลมเรืองแสงสีขาวลูกหนึ่งในมือน้อยๆ ของเธอถูกวางไว้เบาๆ บนร่างของแม่สี่ หลังจากได้รับพลังจากลูกกลมเรืองแสงสีขาว สีหน้าของแม่สี่กลายเป็นสดใสและมีชีวิตชีวามากขึ้น อย่างไรก็ตาม ลมหายใจและสัญญาณเต้นของหัวใจนางยังคงไม่ปรากฏ เสี่ยวเหวินหลียื่นมือเธอช่วยขยายเสื้อผ้าของแม่สี่ แสงสีรุ้งฉายออกมาจากร่างของเธอ ก่อนที่จะหายไปในอากาศเบาบาง มือของเสี่ยวเหวินหลีเหมือนกับว่าจะหลอมรวมเข้ากับตัวของแม่สี่ สิบวินาทีต่อมาเย่ว์หยางและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็ได้ยินเสียงเต้นของหัวใจเบาๆ ทันที แต่หญิงงามลึกลับไม่ทันได้สังเกตเห็นเพราะนางมัวแต่ตรวจดูลมหายใจของแม่สี่ นางขอให้เย่ว์หยางช่วยให้แม่สี่หายใจต่อไป
เย่ว์หยางทั้งแปลกใจระคนยินดี เขารีบเป่าลมหายใจเข้าไปในปากแม่สี่ต่อไป
มือของเสี่ยวเหวินหลีล้วงเข้าไปในร่างของแม่สี่ มือของเธอยังคงนวดหัวใจของแม่สี่ต่อเนื่องจนเห็นว่าหัวใจเต้นได้เองแล้ว เธอจึงค่อยๆ ดึงมือออก
ร่างของแม่สี่สั่นช้าๆ แม้ว่าหัวใจนางจะเต้นได้เองแต่ก็อ่อนมาก เย่ว์หยางรู้สึกได้ชัดว่าเริ่มมีลมหายใจแล้ว
ลมหายใจของนางปรากฏแล้ว แม้ว่าจะเบาบางก็ตาม แต่ก็เบาบางมากในตอนแรก จากนั้นค่อยๆ แรงขึ้นๆ และกลายเป็นลมหายใจปกติในที่สุด ริมฝีปากของนางเริ่มมีเลือดฝาดอีกครั้ง และมือเท้าของนางเริ่มอุ่นขึ้นมาอีก เย่ว์หยางกอดเสี่ยวเหวินหลีแน่น รู้สึกซาบซึ้งกับสุดที่รักตัวน้อยของเขา โชคดีจริงๆ ที่เธออยู่ที่นี่เพื่อช่วยแม่สี่ มิฉะนั้น ถ้าเขาพยายามช่วยนางด้วยทักษะที่งุ่มง่ามอย่างนั้น เขาคงไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเขาผ่าเปิดอกแม่สี่และนวดหัวใจนางโดยตรง ถ้าสัญญาณเต้นของหัวใจและความดันโลหิตของนางหายไป นางอาจตกเลือดจนถึงแก่ความตายก็ได้ จากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น เย่ว์หยางไม่กล้าคิดผลที่จะตามมาเลยจริงๆ
สามสาวกอดกันแน่นอย่างปลาบปลื้มใจและร้องไห้ออกมาอย่างไม่อาจกลั้นไว้ได้
ในช่วงเวลานี้น้ำตาของพวกนางไหลหยดออกมาเหมือนกับไข่มุกที่ร่วงหลุดจากสายสร้อยร้อย
แน่นอนว่า นี่คือน้ำตาแห่งความปลาบปลื้ม
เมื่อเย่ว์หยางวางเสี่ยวเหวินหลีลง หญิงงามลึกลับก็ใส่ผ้าคลุมหน้ากลับคืนอีก
แม้ว่าเย่ว์หยางไม่ได้สนใจที่จะดูหน้านาง แต่เขาก็เพิ่งจะเห็นไปบ้าง แม้ว่าเขาไม่ได้สังเกตดูหน้านางอย่างพินิจ เมื่อเขาคิดเรื่องนั้นอีกในตอนนี้ ดูเหมือนเขามีความประทับใจใบหน้าของนาง… หญิงงามลึกลับดูคล้ายกับผู้อำนวยการคนสวยมาก แทบจะคล้ายกับเป็นคนๆ เดียวกัน ต่างกันเพียงว่าหน้าของนางดูดีกว่ามีสุขภาพที่ดีกว่าใบหน้าที่ซีดของผู้อำนวยการคนงาม นอกจากทรงผมที่ต่างกันแล้ว เย่ว์หยางไม่อาจจำแนกความแตกต่างหญิงงามลึกลับกับผู้อำนวยการคนงามได้เลย
เย่ว์หยางคงไม่ถามหญิงงามลึกลับในตอนนี้แน่นอน เขาได้แต่ทำเป็นไม่เห็นใบหน้านาง
“เด็กดีจริงๆ เจ้าทำได้ดีจริงๆ!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็ยังกอดเสี่ยวเหวินหลีและจูบแก้มเธอ เย่ว์หยางลนลานเล็กน้อย เขาไม่รู้เลยว่าหญิงสาวดุร้ายนางนี้จะเป็นคนที่รักเด็ก
เสี่ยวเหวินหลีอ่อนเพลียใบหน้าน้อยๆ ของเธอดูเขินเล็กน้อยขณะที่เธอดิ้นรนออกจากอ้อมแขนองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน
เธอกลายเป็นสายรุ้งและกลับเข้าไปในร่างของเย่ว์หยางและนอนหลับต่อ
เย่ว์หยางเกรงว่าพื้นจะเย็น ดังนั้นเขารีบแบกแม่สี่ขึ้นหลัง หลังจากคิดเล็กน้อย เขาเตือนสามนางว่า “เรื่องนี้ไม่ต้องพูดกับใครๆ ต่อไปนะ คิดเสียว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน!” พอเห็นว่าเย่ว์หยางจับตามองนางโดยเฉพาะ เวลาที่เขาพูดอย่างนี้ องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนออกตัวทันทีว่า “ทำไมเจ้าต้องมองข้าอย่างนั้นด้วย? ข้าไม่ใช่คนพูดมากนะ เจ้านึกหรือว่าข้าจะพูดกับคนอื่น? จริงๆ แล้วข้าเกลียดวิธีที่เจ้ามองข้าแบบนี้ ทำไมเจ้ามองข้าอย่างสงสัยนักเล่า? ไม่ต้องมองข้า มิฉะนั้น ข้าจะทุบตีเจ้า!”
นางยกหมัดเหมือนจะป้องกันความสงสัยของเย่ว์หยาง
เจ้าเมืองโล่วฮัวรีบไกล่เกลี่ยอย่างนุ่มนวลว่า “ไม่มีอะไรมากหรอกน่า เจ้าก็แค่ช่วยชีวิตแม่สี่ ข้าไม่คิดว่ามีอะไรผิด ช่วยชีวิตคนเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว!”
หญิงงามลึกลับตอบเย่ว์หยางโดยตรง “เจ้าคิดอะไรอยู่กันแน่? เอาความคิดมองคนในแง่ร้ายออกไปจากหัวได้แล้ว!”
เย่ว์หยางลอบปาดเหงื่อ มันเป็นเรื่องดีที่พวกนางไม่เข้าใจผิด เขากลัวว่าสามสาวจะคิดมากเกินไป เขาผูกร่างแม่สี่ไว้กับหลังของเขาด้วยเชือก ขณะที่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแบกอี้หนานขึ้นหลังนางอย่างระมัดระวัง
คนทั้งสี่มองหน้ากันและกัน ทุกคนเหน็ดเหนื่อยอย่างมาก
พวกนางต่อสู้อย่างหนักหน่วงต่อเนื่อง ตอนแรกพวกนางต่อสู้ในถ้ำสายสวรรค์ในทะเลสาบเทียมเมฆที่เหวสิ้นหวัง เป็นการต่อสู้นองเลือดกับนักสู้จากวังปีศาจ ร่างกายของพวกนางยังไม่ทันได้ฟื้นตัว ยังต้องมาที่นี่เพื่อช่วยเหลือแม่สี่ ตอนนี้พวกนางเพิ่งช่วยแม่สี่ได้เรียบร้อย ร่างกายของพวกนางจึงรู้สึกเหนื่อยล้า แม้แต่เย่ว์หยางเองที่ต่อสู้กับถูเฉิงมาก่อนนี้และเปิดเผยพลังปราณก่อเนิดทำให้ร่างกายของเขาทั้งเหนื่อยล้าทั้งเจ็บปวดไปหมด เขาแบกแม่สี่แล้วเดินไปข้างหน้า องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแบกอี้หนานเดินไปอย่างระโหยโรยแรง
เจ้าเมืองโล่วฮัวและหญิงงามลึกลับทั้งสองคนคอยช่วยประคับประคองเดินตามหลังพวกเขา
เย่ว์หยางใช้เวลามากกว่าชั่วโมงเดินอยู่ในอุโมงค์ใต้ดินเป็นระยะทางเกินกว่าสิบกิโลเมตร ก็ถึงจุดที่เขาสังหารนางปีศาจมีปีกและบุรุษกรงเล็บหมาป่า
เย่ว์หยางเก็บศพทั้งสองไว้ในแหวนลิช หญิงงามทั้งสามนางก็สงสัยเหตุผลที่เขาทำอย่างนั้น แต่ไม่ได้ถามอะไรมาก
“นี่เป็นทางลับที่อาจจะเกี่ยวข้องกับ “บันไดสวรรค์” ก็ได้ มิฉะนั้นคงไม่มีการป้องกันเข้มแข็งที่นี่แน่” หญิงงามลึกลับสันนิษฐาน “ถ้ามีเวลาในอนาคต เราน่าจะสำรวจที่นี่อีกครั้งและตรวจสอบอย่างรอบคอบ ความเคลื่อนไหวของนิกายพันปีศาจน่าสงสัยยิ่งนัก เราต้องระมัดระวังให้มากขึ้น….”
“เอาไว้พูดเรื่องนี้ทีหลังเถอะ ตอนนี้ข้าเหนื่อยจริงๆ ข้าแค่ต้องการพัก” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก้าวมาอยู่ด้านข้างเย่ว์หยาง “โชคดีนะที่พี่อี้หนานของเจ้าตัวไม่หนัก มิฉะนั้น ข้าคงไม่มีแรงแบกเขาแน่ ข้าก็พูดโกหกเล็กน้อย เจ้าก็ชอบทำแบบนี้ใช่ไหม?” หญิงงามลึกลับและเจ้าเมืองโล่วฮัวไม่ได้พูดอะไร แต่พวกนางล้างหูรอฟังคำตอบของเย่ว์หยาง
“ข้าไม่มีเวลาพูดไร้สาระกับเจ้า!” เย่ว์หยางรู้สึกเหมือนกระดูกในร่างกายของเขาแตกหักหมดสิ้น ที่จริงแม่สี่ก็น้ำหนักตัวเบา แต่เขารู้สึกหนักเหมือนแบกภูเขาอยู่บนหลัง
“ข้าช่วยเจ้าแบกนางได้สักครู่นะ!” เจ้าเมืองโล่วฮัวยังคงใจดีที่สุด นางมีความคิดจะแบ่งเบาภาระให้เย่ว์หยาง
“ไม่ต้องก็ได้!” เย่ว์หยางไม่ต้องการถูกมองว่าอ่อนแอ จึงปฏิเสธข้อเสนอของนางทันที
คนอื่นจะนินทาว่ายังไงถ้าเขาปล่อยให้ผู้หญิงแบกคนบาดเจ็บ และตัวเขาที่เป็นผู้ชายกลับเดินตัวเปล่า?
เมื่อพวกเขามาถึงอุโมงค์ใต้ดินที่ท้ายทะเลสาบ ในที่สุดเย่ว์หยางก็ทนต่อไปไม่ไหว เขาวางแม่สี่ลงและพักชั่วขณะ เขาไม่มีแรงแบกแม่สี่ออกจากทางเข้าอุโมงค์ตรงจุดท้ายทะเลสาบที่อยู่ใต้น้ำ องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเจ้ามืองโล่วฮัวยังคงเหนื่อยแทบตาย พวกนางเหนื่อยมาก เหนื่อยยิ่งกว่าเย่ว์หยาง ทันทีที่พวกเขาเอนตัวพิงกันและกันก็หลับไปในท่านั่งนั้นเอง เหลือเพียงหญิงงามลึกลับนั่งลงอย่างระมัดระวังและอยู่คุ้มกันให้ เผื่อว่าอาจมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น.. เมื่อเย่ว์หยางมองนาง หญิงงามลึกลับพึมพำเบาๆ “หลับเสียเถอะ!”
ในห้วงนิทรา เสียงหัวเราะขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน, เจ้าเมืองโล่วฮัว, หญิงงามลึกลับและอี้หนานแว่วเข้ามาในหูของเย่ว์หยางไม่ขาด
เย่ว์หยางรู้สึกว่าพวกนางซุกซนร่าเริงมาก เห็นได้ชัดว่าพวกนางยังคงอยู่ข้างเขา และยังแอบซ่อนตัวจากเขา เขาแค่เห็นพวกนางเป็นครั้งคราว
เขาต้องการจับตัวพวกนาง แต่เขาไม่สามารถตามจับได้ทัน
ขณะที่เขาหลับลึก เย่ว์หยางตระหนักว่าเขาเข้าไปสู่ดินแดนแห่งความฝันของเขา
พี่สาวคนสวยผู้เคยทุบตีเขานับครั้งไม่ถ้วนก่อนหน้านั้นกำลังรอเขาอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน และฝึกฝนทักษะของนาง