===============
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน เจ้าเมืองโล่วฮัวและเย่ว์หวี่รอมาทั้งวันทั้งคืน แต่เย่ว์หยางและเย่ว์ปิงก็ยังไม่กลับออกมา พวกนางกังวลอย่างเห็นได้ชัด
อย่าว่าแต่ทั้งสามคนเลย แม้แต่เย่ว์คง, เจ้าอ้วนไห่และพี่น้องตระกูลหลี่ที่ตามมาทีหลังก็กระสับกระส่ายและพลอยหงุดหงิดไปด้วย พวกเขาไม่เคยเห็นใครอยู่ข้างในนานเกินไป ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่เย่ว์หยาง ทุกคนอาจรู้สึกผิดหวังและสิ้นหวัง เย่ว์หยางและเย่ว์ปิงแต่เดิมทีเข้าไปในวิหารคนคู่เมื่อตอนบ่ายวันวาน แต่จนกระทั่งตะวันขึ้นในวันนี้แล้ว ทั้งสองคนก็ยังไม่กลับออกมา
ตามแผนการในตอนแรกของพวกเขา ผ่านด่านวิหารคนคู่ไม่น่าจะใช้เวลามากกว่าสองชั่วโมง
อย่างไรก็ตาม พวกเขาก็ยังผ่านด่านไม่เสร็จหลังจากผ่านไปหนึ่งวันและหนึ่งคืน
หัวหน้าองครักษ์เกราะทองจัดอาหารและเครื่องดื่มมาให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและคนอื่นๆ แต่ทั้งสามนางไม่มีความอยากกินอะไรเลย พวกนางแค่จับมือกันและกันคอยปลอบโยนให้กำลังใจกันเองโดยยืนอยู่หน้าประตูเทเลพอร์ตและยังคอยต่อไป
เย่คงและเจ้าอ้วนไห่ห่วงมาก ทั้งคู่เดินวนไปวนมา อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่กล้าปลอบพวกผู้หญิง พวกเขาเกรงว่าเหตุผลของสามสาวจะหมดสิ้นไปทันทีที่พวกเขาพูด จนกระทั่งรุ่งขึ้นของวันใหม่ เย่ว์หยางและเย่ว์ปิงก็ยังไม่กลับออกมา แต่หญิงงามลึกลับผู้รักการอ่านมาถึงแล้ว แววตาของนางเต็มไปด้วยความห่วงใย เมื่อนางมาถึง ทั้งสี่นางโผเข้ากอดกันทันที และช่วยกันปลอบเจ้าเมืองโล่วฮัวและเย่ว์หวี่ที่เริ่มจะตาแดงและร้องไห้ “ไม่เป็นไร เราต้องมีความมั่นใจว่าเขาจะสามารถผ่านด่านกลับมาได้”
“เป็นความผิดของข้าที่ขอให้เขาเข้าแข่งขันท้าประลองในวิหารสิบสองนักษัตร รู้ทั้งรู้ดีว่าเขากำลังท้าแข่งในวิหารคนคู่ แต่ข้าก็ยังสนับสนุนให้เขาผ่านด่านให้ได้..” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกอดไหล่หญิงงามลึกลับแน่น ไม่ว่านางจะเข้มแข็งเพียงใด นางก็ยังต้องการคำปลอบโยนจากหญิงงามลึกลับ
“ถ้าลูกผู้ชายคนหนึ่งไม่ลองใช้ความพยายามผ่านด่านสักครั้งในชีวิต เขาจะประสบความสำเร็จในอนาคตได้อย่างไร? เชี่ยนเชี่ยน! ไม่ใช่ความผิดของเจ้าหรอก ถ้าเป็นข้า ข้าก็จะทำอย่างเดียวกัน สนับสนุนการตัวสินใจของเขา” หญิงงามลึกลับลูบหลังองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน และพูดด้วยน้ำเสียงมุ่งมั่นและมั่นคงว่า “บางที อาจมีปัญหาบางอย่างเกิดขึ้น แต่ข้าเชื่อว่าเขาจะสามารถผ่านปัญหาเหล่านั้นไปได้ ทุกคน เชื่อข้าสิ เขาจะกลับมาได้พร้อมกับน้องสาวของเขาในที่สุด”
ด้วยคำยืนยันหนักแน่นของนาง แม้แต่เย่ว์หวี่ที่ดูอ่อนแอที่สุดก็ยังเห็นพ้องด้วย
เจ้าเมืองโล่วฮัวค่อยๆ เรียกความมั่นใจที่นางมีต่อเย่ว์หยางกลับคืนมา นางพยักหน้าให้หญิงงามลึกลับ เห็นพ้องด้วยว่าตอนนี้ นางไม่เป็นไรแล้ว
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนลอบปาดน้ำตาจากหน้านาง พอนางกำลังจะพูดบางอย่างเผอิญนางเห็นแสงรัศมีฉายออกมาจากประตูเทเลพอร์ตกะทันหัน นางตะโกนอย่างดีใจว่า “พวกเขากลับมาแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็กลับมา”
คนผู้หนึ่งร่างเต็มไปด้วยเลือดและแผลบาดเจ็บเต็มตัวพุ่งออกมา ขณะที่เขาพุ่งออกมาด้วยด้วยเร็วมากเกินไป เขาพุ่งชนใส่องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่กำลังรอรับพวกเขาจนล้มลงกับพื้นด้วยกัน
คนที่มีเลือดเต็มตัวก็คือเย่ว์หยางแน่นอน
เขาแบกเย่ว์ปิงไว้บนหลัง ใบหน้าของเย่ว์ปิงเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด มีบาดแผลเหวอะที่ต้นขาและที่หลังมีเลือดเต็มไปหมด แต่อาการบาดเจ็บของนางยังดีกว่าของเย่ว์หยางมากนัก ยิ่งไปกว่านั้น ที่แตกต่างจากเย่ว์หยางก็คือนางไม่ได้หมดสติทันทีที่พุ่งออกมา สติของนางยังแจ่มชัดมากกว่า เมื่อนางเห็นเจ้าเมืองโล่วฮัวและพี่รองเย่ว์หวี่ นางน้ำตาไหลพรากทันที หญิงงามลึกลับรีบดึงนางออกมาจากตัวเย่ว์หยางและตรวจดูบาดแผลของเขา นางพบว่าเย่ว์หยางบาดเจ็บสาหัส จึงรีบส่งสัญญาณให้เย่ว์หวี่ “เร็วเข้า! ต้องรีบรักษาเขา พี่โล่วฮัว, นี่ ช่วยอุ้มเย่ว์ปิงที, ข้าจะช่วยพี่หวี่.. เย่คง เจ้าอยู่ห่างๆ และอย่าทำอะไรโง่ๆ ให้พวกเราช่วยเขาเอง เข้าใจนะ, หัวใจและชีพจรของเขายังปกติ เขาจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต.. พี่หวี่ ท่านเรียกวารีบำบัดออกมาได้ไหม?”
ทุกคนมัวแต่กังวลและตื่นตระหนก มีเพียงหญิงงามลึกที่ยังใจเย็นพอที่จะรับมือต่อสถานการณ์
มือของเย่ว์หวี่ยังสั่นขณะที่นางเรียกบอลวารีบำบัดออกมา แต่อาการบาดเจ็บของเย่ว์หยางสาหัสเกินไป บอลวารีบำบัดไม่กี่ลูกของนางจึงเป็นเหมือนกับเอาน้ำในแก้วไปดับไฟป่า
เย่คงและเจ้าอ้วนไห่แบ่งผลึกบำบัดให้ แต่หญิงงามลึกลับห้ามพวกเขาไว้ ทั้งนี้เป็นเพราะนางพบว่า การฝืนรักษาอาการบาดเจ็บของจะไม่เป็นผลดีต่อร่างกายของเขา สิ่งที่เขาต้องการก็คือการรักษาจากภายใน ตราบใดที่เขายังมีความแข็งแรงพอ ร่างของเขาก็จะฟื้นความแข็งแกร่งได้เอง การใช้ผลึกบำบัดเพื่อรักษาบาดแผลของเขาอาจทำให้เขาฟื้นพลังได้ลำบาก ซึ่งจะไม่เป็นผลดี
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเริ่มระงับความวิตกได้ขณะที่นางเริ่มตรวจสอบร่างกายของเย่ว์หยางตั้งแต่หัวยันเท้า นางตะโกนอย่างดีใจว่า “กระดูกของเขาไม่เป็นอะไร เขาแค่บาดเจ็บแต่เพียงภายนอกและอวัยวะภายในได้รับการกระทบเทือนบ้าง”
เจ้าเมืองโล่วฮัวรีบตรวจดูอาการของเย่ว์ปิงอย่างรวดเร็วและพยักหน้า “ปิงเอ๋อก็ปลอดภัย… จริงๆ แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ปิงเอ๋อ! ทำไมพวกเจ้าถึงอยู่ข้างในเสียนานเล่า? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
เย่ว์ปิงร้องไห้ลั่นเมื่อได้ยินคำถามของเจ้าเมืองโล่วฮัว “ในวิหารเทพสตรี (เวอร์โก) มีท่านแม่สองคน, ชวงเอ๋อและข้า พวกนางทุกตนคล้ายกับเงาในวิหารคนคู่ พวกนางทำให้พี่สามตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ทันทีที่เราเข้าไป ประตูเทเลพอร์ตของวิหารเทพสตรีก็หายไปทันที เราไม่มีทางหนีออกมาได้ ดังนั้นพี่สามจึงแบกข้าหนีไปเรื่อยๆ เราไม่รู้ว่าผ่านไปนานเพียงใดก่อนที่ประตูเทเลพอร์ตจะปรากฏออกมาอีกครั้ง พี่สามรีบหลบหนีออกมาทั้งที่ยังแบกข้าไว้”
“ว่าไงนะ?” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและคนอื่นๆ ชะงักค้างเมื่อได้ยินนางเล่าให้ฟัง
เย่ว์หยางและเย่ว์ปิงเข้าไปท้าประลองในวิหารคนคู่มิใช่หรือ?
พวกเขาไปถึงวิหารเทพสตรีได้อย่างไร? เป็นไปได้หรือนี่ที่เจ้าเด็กนี่ผ่านด่านวิหารคนคู่, วิหารกรกฎและวิหารราชสีห์ได้แล้ว, ก่อนจะมุ่งตรงเข้าสู่วิหารเทพสตรีอย่างนั้นหรือ?
หญิงงามลึกลับแบกเย่ว์ปิงทันทีและชำเลืองมองเจ้าเมืองโล่วฮัวและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน คงไม่ใช่เรื่องดีแน่ที่พวกเขาจะหารือเรื่องนี้ในที่สาธารณะ เย่ว์หวี่รีบยื่นมือมาปิดปากเย่ว์ปิงขณะปลอบใจนาง “ปิงเอ๋อ, เป็นเด็กดีนะ, ตอนนี้เรากลับบ้านกันก่อนแล้วค่อยปรึกษาเรื่องนี้กันอีกครั้ง!”
เย่คง, เจ้าอ้วนไห่และคนอื่นตะลึงค้างกันหมด พวกเขาเพิ่งจะดึงความรู้สึกกลับมาได้หลังจากผ่านไปนาน
ในที่สุด เมื่อพวกเขาเห็นหญิงงามลึกลับแบกเย่ว์หยางและเดินจากไป พวกเขาก็รีบตามมาข้างหลังทันที
หัวหน้าองครักษ์เกราะทองรีบพุ่งพรวดเข้ามาหาพวกเขาแล้วพูดว่า “พวกเจ้า รีบไปจากที่นี่ทันที และจงลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่ด้วย!”
เจ้าอ้วนไห่ต้องการตะโกนบอกว่า “อย่ามาแทรกแซงธุระของพวกเราจะ” แต่พอเห็นสีหน้าจริงจังของหัวหน้าองครักษ์เกราะทองที่มีสีหน้าน่ากลัว เขารีบพยักหน้าทันที
“เมื่อเย่คงและคนอื่นๆ จากไปแล้ว องครักษ์เกราะเงินไม่รู้จะทำอย่างไรกัน แต่ก็เริ่มคุยกัน “พวกเขาไปท้าประลองวิหารไหนกันหรือ? ทำไมพวกเขาพูดถึงวิหารเทพสตรี? พวกเขาท้าแข่งประลองที่วิหารคนคู่ก่อนไม่ใช่หรือ?”
“พวกเจ้าซุบซิบนินทาเรื่องอะไรกัน? นี่ใช่เรื่องที่พวกเจ้าจะเอามาพูดกันได้อย่างนั้นหรือ?” หัวหน้าองครักษ์เกราะทอง ตะคอกใส่พวกเขาอย่างขึงขัง
“ไม่นะ, ระ..เราก็แค่…” พวกองครักษ์เกราะเงินบางส่วนกลัวมากจนชักจะพูดติดอ่าง
“ลืมทุกอย่างที่นี่ไปซะ!” หัวหน้าองครักษ์เกราะทองล้วงไม้เท้าแก้วผลึกที่ถูกแกะสลักด้วยอักษรรูนออกมาทันทีและชูมันขึ้น ในทันใดนั้น แสงเจิดจ้าที่สว่างกว่าดวงอาทิตย์เป็นพันเท่าส่องไปทั่วทั้งบริเวณด้านนอกของวิหารสิบสองนักษัตร สิบนาทีต่อมา ไม้เท้าแก้วผลึกของหัวหน้าองครักษ์เกราะทองก็หายไปโดยไม่ทิ้งร่องรอยพร้อมกับแสงสีขาว
ในทางตรงกันข้าม องครักษ์เกราะเงินทั้งหมดล้มสลบลงบนพื้น
หัวหน้าองครักษ์เกราะทองเตะปลุกพวกเขาทีละคนพลางตะคอกลั่นว่า “พวกเจ้ามาทำบ้าอะไรกันอยู่ตรงนี้? กล้าหลับระหว่างปฏิบัติภารกิจได้อย่างไรกัน?”
องครักษ์เกราะเงินรีบลุกขึ้น สีหน้าของพวกเขาตื่นเต้นและสับสน ขณะที่พวกเขาจำไม่ได้เลยว่าพวกเขาเผลอลงไปนอนหลับระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่กล้าถามอะไรมากและรีบไปทำหน้าที่เฝ้าทางเข้าวิหารสิบสองนักษัตรต่อไป
อย่างไรก็ตาม หัวหน้าองครักษ์เกราะทองก็ยังไม่ปลอดภัยนัก ถ้าสังเกตดูแววตาของแต่ละคน เกรงว่าความทรงจำของพวกเขายังคงไม่ได้ลบออกไป
ณ โรงเตี๊ยมกระดิ่งลม เย่คง, เจ้าอ้วนไห่และพี่น้องตระกูลหลี่เดินวนไปวนมาอยู่ด้านรอบนอกที่พัก
ข้างในที่พัก พวกเขาไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่รู้สึกมั่นใจว่า พวกเขาไม่ได้มาอยู่ตรงนี้เพื่อรอข่าว
หลังจากผ่านไปนาน หญิงงามลึกลับและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็ออกมาในที่สุด เมื่อพวกนางเห็นเย่คงและคนอื่นๆ กำลังรี่เข้ามาหาพวกนาง หญิงงามลึกลับรีบโบกมือทันที “พวกเจ้าไม่ต้องห่วง ตอนนี้เย่ว์หยางปลอดภัยแล้ว อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเขาจำเป็นต้องใช้เวลาฟื้นตัวมากขึ้น ตอนนี้พวกเจ้าควรรีบกลับไปที่สถาบันฉางชุนเฉิงเพื่อฝึกฝนตนเองตามปกติได้แล้ว ไปฝึกเพื่อเตรียมเข้าร่วมประลองสุดยอดร้อยโรงเรียน พวกเราจะรีบกลับไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นอกจากแม่เฒ่าอู่เถิง, ผู้อำนวยการ, รองผู้อำนวยการแล้ว อย่าบอกเรื่องเย่ว์หยางผ่านด่านประลองกับใครๆ ให้มีคนรู้เรื่องนี้น้อยคนก็ยิ่งดี ถ้าพวกเจ้าพบอี้หนาน บอกให้นางรีบมาที่นี่ ดูเหมือนว่านางจะเชี่ยวชาญในการรักษาด้วยเช่นกัน ดังนั้นจะได้ช่วยกันรักษาอาการบาดเจ็บของเย่ว์หยาง เขาจะได้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้น”
“เข้าใจแล้ว” เมื่อเย่คงได้ยินเช่นนี้ เขายิ่งตื่นเต้นมาก
ตราบใดที่เย่ว์หยางปลอดภัย ทุกอย่างจะไม่เป็นไร
แม้แต่เจ้าอ้วนไห่ก็ยังสัมผัสได้ ดูเหมือนว่าสิ่งที่เย่ว์ปิงเพิ่งจะพูดออกมานั้น เป็นความจริง เย่ว์หยางผ่านด่านวิหารคนคู่และมุ่งหน้าไปจนถึงวิหารเทพสตรีแล้ว
มิฉะนั้น เย่ว์หยางคงไม่รับบาดเจ็บหนักขนาดนั้น
แน่นอนว่า เจ้าอ้วนไห่เชื่อมั่นในร่างกายและความสามารถที่ผิดธรรมดาของเย่ว์หยาง อาการบาดเจ็บอย่างนั้นไม่มีผลมากต่อเขา บางทีมันอาจไม่มีความหมายอะไรต่อเขาด้วยซ้ำ เขาควรจะกลับไปรอฟังข่าวดีของเย่ว์หยางได้แล้ว!
เจ้าอ้วนไห่และเย่คงมองหน้ากันและกันอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะหมุนตัวเดินแยกจากมา
พี่น้องตระกูลหลี่ให้ความนับถือหญิงงามลึกลับและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมาก พวกเขาโค้งคำนับให้พวกนางก่อนจะเดินจากมา
การคำนับของพวกเขายังแฝงความหมายของการฝากให้พวกนางดูแลความปลอดภัยของเย่ว์หยางด้วย
พอกลับมายังที่พัก หญิงงามลึกลับประกาศเรื่องที่น่าหนักใจออกมา “เย่ว์หวี่จะดูแลปิงเอ๋อ ขณะที่พวกเราทั้งสามคน จะช่วยกันพันแผลรักษาอาการบาดเจ็บให้เขา อาการบาดเจ็บภายในของเขาฟื้นเกือบหมดแล้ว เนื่องจากเขามีรากฐานปราณก่อกำเนิดที่ดี กลับกลายเป็นว่าอาการบาดเจ็บผิวเผินของเขากลับจะสร้างความลำบากให้เล็กน้อย เราต้องรีบทำความสะอาดแผลของเขาและพันแผลให้เขา โล่วฮัว, เชี่ยนเชี่ยน ไม่ต้องลังเลอีกต่อไปแล้ว วางเรื่องการสงวนตัวและเอียงอายออกไปก่อน เราทุกคนมีสำนึกที่ชัดเจนอยู่แล้ว มาช่วยกันตรงนี้!”
พอเห็นหญิงงามลึกลับประคองเย่ว์หยางเข้าไปในห้องอาบน้ำ เจ้าเมืองโล่วฮัวกัดฟันเบาๆ เดินตามเข้าไป
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนกลับตรงกันข้าม ยังคงลังเลใจไม่อาจจะตัดสินใจได้
นางออกไปที่นอกประตู จากนั้นหันกลับมาอีกครั้งและนั่งบนเก้าอี้ จากนั้นก็ยืนขึ้นอีกครั้ง
เย่ว์หวี่เพิ่งจะพาเย่ว์ปิงเข้าไปในห้องของนางเพื่อพันแผลให้นาง แต่เมื่อนางเห็นองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมีสีหน้ากังวล นางจึงรีบออกมา องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก้มหน้าไม่ต้องการจะสบตาเย่ว์หวี่ ขณะที่นางพูดออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ “พี่หวี่! ข้าคิดว่าข้าช่วยท่านจะดีกว่า!”
“เชี่ยนเชี่ยน! ยังลังเลใจอะไรอีก ในสถานการณ์แบบนี้? รีบไปช่วยเย่ว์หยางเถอะ!”
“เย่ว์หยางกับข้า ไม่ใช่คู่หมั้นหมายกัน ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ดูดีขึ้นบ้างแล้ว ข้าจะไม่ช่วยพันแผลให้เขา ให้ข้าช่วยท่านแทนเถอะ!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมีบุคลิกแก่นแก้วเหมือนเด็กผู้ชาย นางเป็นคนพูดตรงทำตรง อย่างไรก็ตาม ความจริงแล้วในภายใจนางเป็นคนขี้อายมาก และนางไม่สามารถโยนมันทิ้งไปได้เลยจริงๆ ไม่ใช่ว่านางไม่มีความรู้สึกอะไรต่อเย่ว์หยาง แต่เย่ว์หยางไม่เคยสัญญาอะไรกับนางอย่างเป็นทางการเลย นางเกรงว่านางจะกลายเป็นศัตรูกับพี่น้องสาวเพราะเย่ว์หยาง นางไม่ต้องการเป็นผู้หญิงที่ไร้ยางอายแย่งชิงสามีของคนอื่น
“เจ้าคิดมากไปแล้ว พวกเรายอมรับว่าความเป็นพี่น้องของพวกเราแข็งแกร่งกว่าอะไรทั้งหมดไม่ใช่หรือ? ทั้งหมดเป็นความผิดของน้องชายข้า เขามีความดื้อรั้นและยืนกรานจะต้องได้รับในสิ่งที่เขาต้องการ แล้วเจ้าคิดว่าจะหลบหลีกเขาได้นานแค่ไหน? เชี่ยนเชี่ยน, เจ้าก็เป็นเด็กผู้หญิงที่ดีคนหนึ่ง แค่ไปช่วยน้องชายข้าตอนนี้ก่อน ข้าขอร้องนะ!” เย่ว์หวี่รู้ว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนขี้อายมาก นางต้องการแรงผลักดันเท่านั้น นางพยายามจะเกลี้ยกล่อมองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและผลักดันนางเข้าไปในห้องน้ำ
เมื่อพวกนางเปิดประตูเข้าไป สองนางก็ตระหนักได้ว่าโล่วฮัวกำลังพยายามถอดกางเกงของเย่ว์หยางด้วยมือที่ยังสั่นอยู่
เย่ว์หวี่รีบหมุนตัวเดินจากมาทันที ปล่อยองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนให้จ้องดูภาพข้างหน้าตะลึงค้างเหมือนคนโง่
หญิงงามลึกลับตรวจสอบที่ศีรษะของเย่ว์หยาง นางกำลังคร่ำเคร่งมาก ขณะที่เรียกองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนไปช่วยเจ้าเมืองโล่วฮัวโดยไม่หันหน้ามามองนาง “พี่โล่วฮัวกำลังทำความสะอาดแผล “เชี่ยนเชี่ยนไปตรวจดูอวัยวะสำคัญของเขาซิว่าได้รับบาดเจ็บตรงนั้นบ้างหรือไม่..”
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนแทบเป็นลมเมื่อได้ยินเช่นนั้น “เจ้าขอให้ข้าช่วยตรวจสอบดูด้วยหรือ? อู๋เสีย, ทำไมเจ้าไม่ขอให้พี่โล่วฮัวทำอย่างนั้นเล่า? ข้าไม่เข้าใจว่าจะตรวจสอบได้อย่างไรนี่”
“ข้าก็ไม่นะ!” เจ้าเมืองโล่วฮัวหน้าแดงด้วยความเขิน พลางโบกมืออย่างตื่นเต้น
“พวกท่านทั้งคู่ทำให้ข้าพูดไม่ออกเลย” หญิงงามลึกลับสูดลมหายใจลึก ขณะที่นางพยายามสงบใจที่กำลังเต้นรัว นางรีบถอดผ้าชิ้นสุดท้ายในตัวของเย่ว์หยางและข่มความอายลูบตัวของเขาด้วยความยากลำบาก จากนั้นนางพูดออกมาด้วยเสียงที่ไม่ราบเรียบเหมือนเมื่อก่อนว่า “ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บตรงส่วนนี้ ข้าไม่มีความรู้เรื่องตรงส่วนนี้ของผู้ชาย จึงไม่แน่ใจเต็มร้อย พวกท่านทั้งคู่มาทดสอบดูสักเดี๋ยว ทุกคนควรจะร่วมกันตรวจสอบ เพื่อให้แน่ใจว่าตรงส่วนนี้ของเขาไม่เป็นไร!”
“อู๋เสีย! ถ้าเจ้าบอกว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บ อย่างนั้นเราจะเชื่อเจ้า เราก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน” เจ้าเมืองโล่วฮัวหน้าแดงเหมือนกุ้งมังกรนึ่ง แต่ก็ยังกังวลและอยากรู้อยากเห็นถึงกับลอลชำเลืองดู 2-3 ครั้ง
“จะเป็นยังไงกันถ้าข้าไม่อยู่ที่นี่? ถ้ามีพวกท่านอยู่กันเพียงสองคน พวกท่านปล่อยให้เขาตายอย่างนั้นหรือ? มาช่วยกันตรงนี้ ไม่ว่าพวกท่านจะต่อต้านอย่างไรก็ตาม แต่เจ้าเด็กนี่ก็ยังจะได้ตัวพวกท่านในเร็วๆ นี้แน่ ตอนนี้อย่าทำมากเรื่องนักเลย ข้าขอให้ท่านทั้งคู่ได้เรียนรู้ความรับผิดชอบ เพื่อที่ว่าในอนาคตจะได้ทำหน้าที่ภรรยาของเขา… สุดที่รักของพวกท่านบาดเจ็บหนัก ยังจะยึดมั่นกับธรรมเนียมความภูมิใจอยู่อีกหรือ? มาตรงนี้, เร็วเข้า!” หญิงงามลึกลับเหลือกตา ขณะเอาผ้าเช็ดตัวคลุมเอวเย่ว์หยาง จากนั้นนางรีบใช้วารีบำบัดทำความสะอาดร่างกายที่เต็มไปด้วยแผลของเย่ว์หยาง
พอเห็นว่าเย่ว์หยางมีผ้าเช็ดตัวคลุมแล้ว เจ้าเมืองโล่วฮัวรีบเข้ามาช่วยทันที
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนตะลึงงันอยู่ชั่วขณะ แต่พอผ่านไปสักครู่นางเรียกสติกลับคืนมาได้ นางจึงรีบเข้ามาช่วย
สามสาวร่วมมือกันทำงาน แต่ในตอนแรก ทักษะการทำงานเป็นทีมของพวกนางยังไม่ดีนัก
พวกนางตื่นลนลานอยู่เรื่อย
แต่พอเจ้าเมืองโล่วฮัวและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนค่อยๆ สงบจิตใจได้ ทั้งสามสาวก็ทำงานกันได้เข้าขายิ่งขึ้น คนหนึ่งดูแลแผลของเย่ว์หยาง อีกคนหนึ่งค่อยๆ เช็ดทำความสะอาด ขณะที่อีกคนหนึ่งพันแผลให้อย่างรวดเร็ว ในที่สุด แม้ว่าผ้าขนหนูจะปลดออกไป แต่ทั้งสามนางก็มัววุ่นวายกับการทำแผลให้เย่ว์หยาง จนไม่ได้สนใจในส่วนตรงนั้น เมื่อหญิงงามลึกลับแบกเย่ว์หยางที่มีตัวพันผ้าพันแผลไปทั้งตัวกลับมาในห้อง องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเจ้าเมืองโล่วฮัวก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ขณะที่พวกนางนั่งพิงกันและกันอยู่ในห้องน้ำอย่างอิดโรย
ใบหน้าของพวกนางยังคงแดงซ่านอยู่เป็นเวลานาน
ก่อนหน้านี้ พวกนางไม่มีเวลาคิด เพราะพวกนางมุ่งแต่จะรักษาเยียวยาให้เย่ว์หยาง
ตอนนี้ที่พวกนางรักษาเย่ว์หยางเสร็จแล้ว เมื่อพวกนางจำทุกสิ่งทุกอย่างได้ว่าพวกนางเพิ่งเห็นอะไรมาบ้าง พอพวกนางจำได้ว่าอวัยวะแสดงความเป็นชายของเย่ว์หยาง แตกต่างจากผู้หญิงสิ้นเชิง พวกนางทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะได้แต่หน้าแดงด้วยความอาย
เย่ว์หยางกรนเสียงดังสนั่น ไม่รู้ว่าเจ้าเมืองโล่วฮัว เชี่ยนเชี่ยนและหญิงงามลึกลับมองเห็นร่างกายของเขาทุกซอกทุกมุมไปแล้ว
แน่นอนว่า ต่อให้เขารู้เรื่องนั้น บางทีเขาคงไม่ใส่ใจอะไรเลย
อยากจะดู ก็เชิญดูเลย ไม่ช้าก็เร็ว เราคงได้ดูกันและกันแน่
พอถึงวันที่สอง เมื่อเย่ว์หยางฟื้นขึ้น เขาพบว่าเจ้าเมืองโล่วฮัวฟุบศีรษะอยู่ทางด้านขวาของเขา องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอยู่ทางด้านซ้ายกำลังพิงผนังนั่งหลับ บนพื้นล่างเย่ว์ปิงหลับอยู่บนพรมสีขาวราวหิมะ ขาของนางถีบผ้าห่มจนหลุดออกไป เย่ว์หวี่ญาติผู้พี่ของเขาดูเหมือนกำลังวุ่นกับการเข้าครัว เย่ว์หยางกวาดสายตาไปทั้งห้อง รู้สึกเหมือนกับว่ามีใครบางคนขาดหายไป เขาจำได้ว่าก่อนที่เขาจะหมดสติไปเมื่อวานนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะมองเห็นหญิงงามลึกลับผู้ชอบอ่านหนังสือยืนรอเขาอยู่ข้างนอกด้วย นางไปไหนแล้ว?
ในตอนเช้า เย่ว์หยางยังคงรู้สึกอ่อนเพลียมาก เขาเสียเลือดไปมาก
อย่างไรก็ตาม ในตอนบ่าย หลังจากซดซุปเนื้อสามชามใหญ่ เย่ว์หยางรู้สึกว่าร่างกายของเขาดีขึ้นมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากเสี่ยวเหวินหลีออกมาใช้บอลแสงสีขาวบริสุทธิ์รักษาเขา เย่ว์หยางลุกขึ้นจากเตียงได้ทันทีและวิ่งเข้าไปในห้องน้ำ ความรู้สึกตื่นตัวทางธรรมชาติมันเรียกร้อง พอเมื่อเขาถอดกางเกงออก ก็ต้องร้องออกมาอย่างแตกตื่นทันที “ใครพันแผลตรงนี้ของข้าด้วยละนี่? โอ..แม่เจ้า..ผูกโบว์ให้อย่างดีอีกต่างหาก ตรงส่วนนี้ของข้าไม่ได้บาดเจ็บซักกะนิด พวกเจ้าก็รู้!”
เจ้าเมืองโล่วฮัวและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนได้ยินร้องโวยวายของเย่ว์หยางจากในห้อง ก็หน้าแดงด้วยความโกรธ
ดูเหมือนว่าการพันแผลเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของพวกนาง
ในทางกลับกัน เย่ว์ปิงที่ไม่เข้าใจอะไรเลย ได้แต่ทำตาปริบๆ เหมือนกับว่านางสงสัยและอยากจะถามว่าตรงส่วนไหนของเย่ว์หยางไม่ได้รับบาดเจ็บและถูกพันแผลไปด้วย พอเห็นสีหน้าที่บริสุทธิ์และไม่ประสีประสาของเย่ว์ปิง องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน, เจ้าเมืองโล่วฮัวและเย่ว์หวี่ถึงกับหนักใจ
เพื่อเปลี่ยนหัวข้อสนทนา เย่ว์หวี่รีบถามเย่ว์ปิงทันที “ปิงเอ๋อ! จริงๆ แล้วเมื่อวานนี้เกิดอะไรขึ้น รีบบอกเรามาเร็วๆ”
***************