เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ – ตอนที่ 266 – ตอนที่ 246 อสูรคะนองตาทอง

===============
รองหัวหน้ากรรมการสองคนรีบลุกขึ้นมาจากพื้นและรีบสงบสติอารมณ์ แต่มือของพวกเขาเริ่มสั่นเอง

ความกลัวผุดขึ้นในใจลึกๆ ของพวกเขา

แม้ว่านักรบโดยทั่วไปจะมองไม่เห็นเรื่องนี้ แต่นักสู้อย่างเหยียนพั่วจวินไม่ลำบากที่จะสังเกตเห็น

บุรุษชุดแดงสองคนเหล่านี้ดูเหมือนจะเอาชนะพลังโจมตีสุดกำลังของกรรมการทั้งสามคนด้วยร่างกายล้วนๆ พวกเขาไม่จำเป็นต้องใช้วิทยายุทธเหมือนเย่ว์หยาง นี่…น่ากลัวเกินไปไม่ใช่หรือ? พวกเขาเป็นใครกันแน่?

ทำไมพวกเขาถึงมาปรากฏตัวที่นี่?

บุรุษลึกลับในจุดที่นั่งชมกดไป๋หวินเฟยซึ่งอยู่ในอาการตระหนกให้นั่งลงแล้วกล่าวว่า “ใจเย็นๆ ข้าจะส่งท่านออกไปจากที่นี่โดยปลอดภัย ข้าคิดไม่ถึงเลยว่านิกายเจดีย์ราชสีห์ตะวันตกจะระดมกำลังเผ่าปีศาจแดนบูรพาดินแดนนอกทงเทียนเข้ามาด้วย พวกเขาทำได้ในเวลานี้จริงๆ เชิญเทพเจ้าเป็นเรื่องง่าย แต่ไม่ง่ายที่จะกำจัดเทพเจ้า เผ่าปีศาจแดนบูรพาไม่ใช่พวกที่พวกเขาจะไปตอแยได้ พวกเขาจะต้องเสียใจกับเรื่องนี้แน่นอน หวินเฟยใจเย็นๆ คอยฟังสิ่งที่คนของเผ่าปีศาจแดนบูรพาพูดก่อน”

คลื่นกระแทกจากพลังโจมตีสุดยอดแต่ล้มเหลวของกรรมการทั้งสามคนสะท้อนกึกก้องไปทั่วสนามแข่งขัน

สนามกีฬาตกอยู่ในความวุ่นวาย

ผู้ชมทุกคนตกใจลุกขึ้นยืน

ตอนนี้ แม้แต่คนตาบอดก็เห็นได้ว่าบุรุษประหลาดสวมชุดแดงทั้งสองคนเป็นศัตรู และเป็นศัตรูผู้แข็งแกร่งอย่างมาก

อาจารย์จิ้งจอกเฒ่ารีบเข้ามารวมกลุ่มกับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน, เจ้าเมืองโล่วฮัว, เย่ว์หวี่, เย่ว์ปิง, อี้หนานและนักเรียนสถาบันฉางชุนเฉิง เหมือนกับแม่ไก่เตรียมป้องกันลูกน้อย เขายืนอยู่ข้างหน้าพวกนักเรียน สีหน้าของเขาเคร่งเครียดจริงจัง เหยียนพั่วจวินและเฟิงชิซารีบออกคำสั่งให้นักเรียนสถาบันฉางจิงออกมาข้างหน้า องค์ชายเทียนหลัวพากลุ่มองครักษ์และนักเรียนจากสถาบันจ้งเซียงมารวมตัวกันข้างหน้าด้วยกัน ด้านตรงกันข้าม สถาบันหมาป่าเทาและศิษย์นิกายเจดีย์ราชสีห์ตะวันตกรวมตัวกันเป็นอีกกลุ่มหนึ่ง ศิษย์นิกายภูเขาหมอกลอยฟ้าและเพื่อนร่วมชั้นเรียนของไป๋หวินเฟยยังคงรวมตัวอยู่ด้วยกัน

ส่วนนักเรียนที่เหลือจะล้อมรอบกรรมการทั้งสี่คน

แม้ว่าสนามกีฬาจะตกอยู่ในความวุ่นวายก็ตาม แต่ก็มีบางคนลุกขึ้นยืนและออกคำสั่งในที่สุด นักเรียนที่หาครูของตนไม่เจอสามารถไปหากรรมการทั้งสี่ก่อนและรออยู่ชั่วคราว

องครักษ์เกราะเงินนับร้อยวิ่งออกมายืนเป็นแนวป้องกันนักเรียน

พลังต่อสู้ของพวกเขาไม่ได้ดีกว่านักเรียนแน่นอน แต่หน้าที่ความรับผิดชอบของพวกเขาทำให้พวกเขาจำต้องไปยืนอยู่แนวหน้าเพื่อปกป้องนักเรียนทันที พอปฏิบัติตามคำสั่งของหัวหน้าทีมแต่ละทีม องครักษ์เกราะเงินก็เรียกอสูรออกมาทีละตัวๆ เพื่อเตรียมต่อสู้

สำหรับพวกทหารรับจ้างที่นั่งอยู่ที่ภูเขาโดยรอบหรือนักรบแต่ละคนที่มาดูการแข่งขันรอบพบกันหมด ทุกคนต่างตกตะลึงโดยสิ้นเชิง

พวกเขายืนตะลึงค้างอยู่กับที่ ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร

จะสู้หรือ? พลังรบของพวกเขาไม่มีค่าควรแก่การมองด้วยซ้ำ

หลบหรือ? ไม่มีเส้นทางหลบหนีในภูเขาเสียด้วย

เย่ว์ปิงต้องการขอให้พี่ชายนางที่ยังอยู่บนเวทีต่อสู้กลับลงมา เพราะมีเพียงเขาและองค์ชายสือจินอยู่บนเวที พวกเขาเป็นเป้าหมายที่แจ้งชัดเกินไป

ถ้าศัตรูโจมตี อย่างนั้น บางทีพวกเขาคงมุ่งหมายที่ตัวพี่ชายนางก่อน

นางแค่กังวลกับเรื่องนี้ หญิงงามลึกลับปรากฏตัวอยู่ข้างหลังเย่ว์ปิงและกอดนางเบาๆ ปลอบนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ปิงเอ๋อ! อย่ากลัวไปเลย พี่ชายเจ้าจะปลอดภัย ตอนนี้เจ้าต้องให้ความสำคัญความปลอดภัยของตัวเองก่อน อย่าห่วงเขา! เจ้ากับอี้หนานควรจะอยู่ตรงนี้ และอย่าออกมา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้า, อู๋เหิน, เชี่ยนเชี่ยนและโล่วฮัวจะคอยสนับสนุนพี่ชายเจ้าได้ทุกเมื่อ เจ้ากับอี้หนานต้องอยู่อย่างสงบ อย่าให้คนอื่นรู้สถานะของพวกเจ้า เมื่อเราใช้ม้วนเทเลพอร์ตได้อีกครั้ง พวกเจ้าควรกลับไปที่บ้านสวนบุปผาน้อยในทันทีก่อน รอพวกเราอยู่ที่นั่น”

เวลานี้ อาจารย์จิ้งจอกเฒ่ากำลังตบตีเย่คง, เจ้าอ้วนไห่, เหยียนพั่วจวินและเฟิงชิซาห้ามพวกเขาไม่ให้พยายามออกไปสู้ด้วยเสียงดังปานฟ้าฝ่า “พวกเจ้าทุกคนเบื่อหน่ายชีวิตแล้วหรือ? ไม่เข้าใจหรือไงว่าช่วงเวลาวิกฤติหมายความว่าไง? ในเวลานี้ พวกเจ้าต้องอดทนเก็บชีวิตเอาไว้และพวกเจ้าต้องปกป้องสหายและเพื่อนในสถาบันของพวกเจ้าเช่นกัน! เย่ว์หยางเปิดเผยตัวตั้งแต่ขึ้นไปอยู่บนเวทีแล้ว ไม่มีวิธีอื่นที่จะทำอะไรได้ แต่พวกเจ้าต้องการวิ่งออกไปหาที่ตายพร้อมกับเขา นั่นไม่ได้เป็นการช่วยเขา ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเราก็คือต้องไม่สับสนวุ่นวาย เราต้องรวมตัวกันไว้

วีรสตรีทวนมังกรผู้สวมหน้ากากเงิน บุรุษน้ำแข็งเสวี่ยทันหลางและทูตมังกรชังหลันวี่วิ่งเข้ามารวมตัวกันโดยเร็ว

สนามกีฬาทั้งหมดมีการรวมตัวเป็นกลุ่มใหญ่หรือเล็กขึ้นอยู่กับโรงเรียนและนิกาย

แต่ละกลุ่มจะถูกนำโดยอาจารย์ประจำสถาบันหรือสมาชิกเชื้อพระวงศ์

มิฉะนั้น ก็มีกรรมการคอยนำพวกเขา

“ทุกคน อย่ากลัว ความจริง เรามาที่นี่ ไม่ได้มีเจตนาร้าย” บุรุษประหลาดชุดแดงที่อยู่ข้างขวาประกาศเสียงดังลั่นทันที “ตอนนี้ ข้าขอให้ทุกท่านอยู่ในความสงบชั่วครู่ ความจริงเรามาหาคนเพียงไม่กี่คน ข้ารับรองได้ว่า ตราบใดที่พวกท่านไม่ต่อต้าน และดูอยู่อย่างสงบ พวกท่านก็จะไม่มีอันตรายถึงชีวิต”

เมื่อบุรุษคนนั้นพูดคำนี้จบ ทหารรับจ้างแต่ละคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก พวกเขารู้ว่า คนที่พวกเขาพยายามหาไม่ใช่พวกเขาแน่นอน

คนจำนวนหนึ่งที่มีสภาพจิตใจแข็งแกร่งกว่าคนอื่นๆ เริ่มทยอยนั่งลงและจับตาดูเหตุการณ์ต่อไป

ถ้าเกิดกรณีฟ้าถล่มทลายพวกเขาก็คงตายด้วยกัน แม้แต่คนชั้นสูงเหล่านั้น ทั้งเจ้าชายและเจ้าหญิงก็ยังไม่กลัวบุรุษแปลกหน้าสองคน แล้วทำไมพวกเขาจะต้องกลัวด้วยเล่า? ไม่ใช่ว่าทหารรับจ้างทุกคนจะสงบจิตใจได้โดยง่าย ยังมีคนไม่น้อยคิดว่า “ต่อให้ฟ้าถล่มลงมาก็ยังจะมีคนตัวสูงๆ คอยค้ำฟ้าเอาไว้อยู่ดี”

เมื่อพวกเขาได้ยินว่าแขกที่ไม่ได้รับเชิญไม่ได้มาเพื่อฆ่าแต่มาเพื่อหาคนไม่กี่คน พวกเขาก็สงบลงได้มาก

เมื่ออาจารย์จิ้งจอกเฒ่าได้ยินเช่นนี้ หัวใจของเขาตกวูบทันที

แน่นอนว่า พวกเขามาหาเย่ว์หยางและคนอื่นๆ ก็คือเด็กรุ่นหลังที่มีพรสวรรค์เหล่านี้

ดูเหมือนการบุกพระราชวังต้าเซี่ยเป็นแค่กับดัก พวกเขาตั้งใจมากวาดต้อนเด็กรุ่นหลังที่มีพรสวรรค์ไปทั้งหมด

“พวกเขามาจากเผ่าปีศาจบูรพา พวกเขาไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นเหมือนสาวมังกร เพียงแต่แตกต่างกันบ้างเล็กน้อย ปิงเอ๋อ! ตอนนี้เจ้าซ่อนตัวอยู่ในหมู่คนไปก่อน อย่าออกมาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม” เย่ว์หยางส่งกระแสจิตปลอบโยนเย่ว์ปิงด้วยทักษะที่ได้มาจากวิหารคนคู่ ขณะเดียวกัน เขายังขอให้นางอยู่กับอี้หนาน, เย่ว์หวี่และคนอื่นๆ ป้องกันอย่าให้พวกนางเคลื่อนไหวโดยพลการ

“บอกเขาให้ระวังตัวและไม่ต้องสนใจเรา เราดูแลกันเองได้!” องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรีบเตือนเย่ว์หยาง

ในท้องฟ้า

ขณะที่ลำแสงสีดำเชื่อมกับใจกลางวงเวทอักษรรูนสีดำ ก็มีร่างของคนสามร่างปรากฏขึ้น

สองคนสวมชุดดำ พวกเขามีรูปร่างสูงใหญ่ ดูเหมือนสูงอย่างน้อยสามเมตร

อย่างไรก็ตาม ร่างที่สูงใหญ่ของพวกเขาดูเบาเหมือนขนนกขณะที่พวกเขาลอยตัวอยู่กลางอากาศ คนที่อยู่ตรงกลางบุรุษร่างยักษ์แต่งชุดสีทอง เขาสวมมงกุฎสีม่วงอยู่บนศีรษะและถือม้วนหยกขาวที่เขียนอักษรรูนโบราณไว้

บุรุษในชุดคลุมทองเป็นชายวัยกลางคนดูหล่อเหลาสง่างาม

ขณะที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ เขาค้อมหัวให้ชาวทวีปมังกรทะยาน และประสานมือคาราวะพูดอย่างสุภาพว่า “สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษโปรดอภัยให้พวกเราที่มาเยี่ยมโดยไม่ได้รับเชิญ หนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ นักรบคนหนึ่งจากทวีปมังกรทะยานได้แนะนำอัจฉริยะรุ่นเยาว์คนหนึ่งแก่จักรพรรดิของเรา จักรพรรดิของเราโปรดคนที่มีพรสวรรค์ พระองค์จึงมีราชบัญชาเราโดยเฉพาะให้มาเชิญแขกผู้มีเกียรติชาวทวีปมังกรทะยานเหล่านี้ด้วยความจริงใจของพวกเรา ขอเชิญพวกเขามาร่วมชุมนุมยังพระราชวังสายรุ้งแห่งอาณาจักรของเรา ต่อจากนี้ไปขอเชิญนักรบระดับหัวกะทิผู้มีพรสวรรค์ที่ข้าขานชื่อ โปรดขึ้นมารวมตัวกันบนเวที ข้ารับรองว่าข้าจะไม่ทำอันตรายใดๆ กับพวกท่าน หลังจากจักรพรรดิของพวกเราได้ชื่นชมยินดีพวกท่านแขกผู้มีเกียรติเสร็จแล้ว เราจะส่งพวกท่านกลับมาที่นี่แน่นอน ข้าจะรักษาคำพูดแน่นอน โปรดอย่าสงสัยหรือไม่สบายใจในคำพูดของเราเลย”

“จากนั้น เขาค่อยๆ เปิดม้วนหยกในมือและอ่านรายชื่อแต่ละคนออกมาดังๆ “จักรพรรดิของเรามีราชโองการ เราขอเชิญแขกผู้มีเกียรติเหล่านี้มารวมกัน เย่ว์หยางคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์, เย่ว์ปิงคุณหนูเจ็ดแห่งตระกูลเย่ว์, เฟิงชิซาแห่งตระกูลเฟิง, เสวี่ยทันหลางแห่งตระกูลเสวี่ย, เหยียนพั่วจวินแห่งตระกูลเหยียน, ไป๋หวินเฟยประมุขน้อยนิกายภูเขาหมอกลอยฟ้า, องค์ชายสือจินฉู่ฟงเหลย, องค์ชายเทียนหลัว หัวจื่ออวี้, ทูตมังกรนิกายปราสาทแก้วชังหลันวี่..และคนสุดท้ายแต่ไม่ใช่ท้ายสุด องค์หญิงต้าเซี่ย เชี่ยนเชี่ยน รวมแล้วผู้เยาว์ผู้มีพรสวรรค์สิบคน โปรดก้าวขึ้นมาบนเวที จักรพรรดิของพวกเรารักผู้เยาว์ที่มีพรสวรรค์อย่างพวกเจ้า ดังนั้นพระองค์จะปฏิบัติต่อพวกเจ้าในฐานะแขกผู้มีเกียรติ”

“ข้าไม่ไป, ข้าจะไม่ไป!” เมื่อองค์ชายสือจินได้ยิน เขาตะโกนอย่างหวาดหวั่น “เราจะไม่ยอมให้พวกเจ้าพาพวกเขาไป และไม่พาใครไปจากนิกายเจดีย์ราชสีห์ไม่ใช่หรือ? ไม่ ข้าจะไม่ยอมไป!”

“องค์ชายสือจิน, ท่านก็เป็นคนหนึ่งที่จักรพรรดิของเราหวังจะได้พบ มีผู้ชมอย่างจักรพรรดิของเรานับเป็นเกียรติของท่านแล้ว โปรดอย่าปฏิเสธราชประสงค์ของจักรพรรดิเราเลย” บุรุษชุดทองผู้หล่อเหล่าค้อมตัวอย่างสุภาพขณะพูดอย่างใจเย็นและไม่รีบร้อน แม้อยู่ภายในการจับตามองของคนนับแสน เขาก็ยังแสดงออกอย่างสงบได้ต่อไป “แขกผู้มีเกียรติอีกเก้าคน โปรดขึ้นมาบนเวที ข้าไม่ต้องการเสียเวลากับทุกคนมากเกินไป ตราบใดที่เราได้คนครบสิบคน เราจะจากไปทันที เราจะไม่รบกวนการแข่งขันของพวกท่าน”

“มันเรื่องอะไรของพวกเจ้า?” เย่ว์หยางตระหนักว่าเขาสามารถเห็นความคิดของบุรุษชุดแดงและบุรุษชุดดำได้ แต่มีเพียงคนเดียวที่เขาไม่สามารถเห็นได้ก็คือบุรุษวัยกลางคนที่สวมชุดทอง เขาไม่รู้จะทำอย่างไร จึงได้แต่ถามอย่างสงสัย

“เราไม่มีอะไรหรอก เราคือเผ่าปีศาจแดนบูรพา โปรดอภัยให้กับการกระทำของเรา เราก็แค่อยากคุยกับแขกผู้มีเกียรติของเรา ข้าขอถามว่าท่านเป็นหนึ่งในแขกผู้มีเกียรติของเราใช่ไหม?” บุรุษวัยกลางคนประสานมือคารวะ

“แม้ว่าข้าไม่ตั้งใจจะไป แต่ชื่อของข้าถูกระบุไว้แน่นอนแล้วนี่” เย่ว์หยางใช้ทักษะญาณทิพย์ของเขาตรวจสอบบุรุษวัยกลางคน ขณะที่ตอบอย่างช้าๆ

“ขอถามหน่อย ท่านคือคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์ที่จักรพรรดิของเราให้ความสนใจที่สุดใช่ไหม? ท่านมีฝีมือเหนือล้ำคนอื่นแม้ว่ายังมีอายุเยาว์วัยมาก นับว่ายากจริงๆ ที่จะได้พบเจออัจฉริยะเยาว์วัยอย่างท่าน จักรพรรดิของเขามีราชโองการโดยเฉพาะให้เราพาตัวท่านกลับไปให้ได้ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม พอเห็นคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์แสดงตัวเองออกมาทำให้เรามีความสุขจริงๆ ราชทูตผู้นี้นามว่าอสูรคะนองตาทอง เจ้าเรียกข้าว่าจินจิงก็ได้ ทูตผู้นี้ขอคารวะคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์” บุรุษชุดทองสำรวจเย่ว์หยางตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า สีหน้าของเขาเปลี่ยนเล็กน้อยขณะที่เขาแสดงความเคารพ

“อสูรคะนองตาทองหรือ?” เย่ว์หยางสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยิน

“ท่านจินจิง ทำไมท่านต้องสุภาพกับเจ้าเด็กนี่ด้วย? ลากเจ้าเด็กนี่ไปเป็นเรื่องง่ายมากสำหรับท่านไม่ใช่หรือ? แค่ข้าเล่าเฮยก็ลากเขาไปได้แล้ว” เจ้ายักษ์ชุดดำผู้ยืนอยู่ข้างๆ บุรุษชุดทองทะลุกลางปล้อง เสียงของเขากระโชกโฮกฮากเหมือนฟ้าผ่า

“ต้าเฮย, เจ้าต้องไม่เสียมารยาท” บุรุษชุดทองวัยกลางคนดุเบาๆ และคำนับเย่ว์หยางอีกครั้ง “คุณชายสามตระกูลเย่ว์ สหายผู้ใจร้อนและเจ้าอารมณ์ผู้นี้คือหัวหน้านักรบภูผาดำ คนตัวโตอีกคนหนึ่งคือน้อยชายของเขา พวกเขาทั้งสองอารมณ์ไม่ค่อยดี แต่จิตใจพวกเขาอ่อนโยน พวกเขาไม่ใช่คนที่หยาบคายก้าวร้าวแน่นอน ส่วนใหญ่แล้วพวกเขาจะไม่หาเรื่องสู้กับใครก่อน…”

บึ้ม!

ก่อนที่บุรุษวัยกลางคนจะพูดจบ องค์ชายสือจินที่พยายามหลบหนี ถูกยักษ์คนน้องผู้ยืนอยู่ด้านซ้ายจับได้ เขาคว้าตัวไว้แน่น

ตลอดทั้งร่างขององค์ชายสือจินจมลงไปในพื้นทันที

ไม่ต้องรอให้องค์ชายสือจินดิ้นรน ยักษ์ชุดดำผู้น้องยกขาขวาขึ้นแล้วย่ำลงไปบนตัวองค์ชายสือจินที่อยู่บนพื้นอย่างแรง ขณะที่องค์ชายสือจินร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด “แมลงมนุษย์น้อยน่ารำคาญ เจ้าส่งเสียงน่ารำคาญนัก”

ผู้ชมทั้งแสนคนในสนามแข่งขันตกตะลึงกันทั้งหมด ทุกคนไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ปรากฏอยู่ต่อหน้าพวกเขา

แม้ว่าองค์ชายสือจินจะใช้ไม่ได้ แต่เขาก็ยังเป็นหนึ่งในสามนักรบที่แข็งแกร่งที่สุด แล้วเขาจะตายทันทีได้อย่างไร?

เรื่องที่แปลกก็คืออาคันตุกะไม่ได้รับเชิญเหล่านี้ดูเหมือนจะมีสัมพันธ์กับองค์ชายสือจิน

อย่างนั้นทำไมพวกเขาจึงฆ่าองค์ชายสือจินเล่า?

*************

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

LLS, Triệu Hoán Vạn Tuế, Zhaohuan Wansui, 召唤万岁
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2010 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ทวีปมังกรทะยานคือโลกแห่งการอัญเชิญ คุณจะกลายเป็นคนแข็งแกร่งได้ ถ้าเพียงแต่คุณเป็นผู้อัญเชิญ! ยิ่วหยางเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาถูกส่งเข้ามาในโลกนี้อย่างฉับพลันทัน ด่วน เมื่อเขาฟื้นขึ้นกลับได้พบใบหน้าของหลายคนที่เต็มไปด้วยความห่วงใย และพบว่าเขาเป็นตัวตนของอีกคนหนึ่ง กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นบุตรที่ไม่เอาไหนของตระกูลยิ่ว จนถึงกับโดดน้ำตายเพราะถูกปฏิเสธการหมั้น อีกทั้งไม่สามารถจะทำพันธสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ แต่ยิ่วหยางกลับประสบความสำเร็จทำสัญญากับคัมภีร์ ส่วนเรื่องราวจะเป็นเช่นไรต่อไป ขอเชิญติดตามดูครับ ความจริงในการแปลครั้งนี้มาจากแรงบันดาลใจที่ไม่ได้จะเป็นนักเขียนนักแปล หรอกครับ เกิดจากการอ่านมันฮัวการ์ตูนของจีนแล้วชอบ พยายามหาดูที่แปลเป็นอังกฤษ ก็แปลกันไปได้น้อยนิด แต่พอดูฉบับนิยายรู้สึกว่าเขาแปลไปได้เยอะ จึงลองเข้าอ่าน แต่เพราะความที่ภาษาไม่แข็งแรง จึงต้องดูไป เปิดดิคฯ ไปใช้โปรแกรมแปลช่วยบ้าง มีความรู้สึกว่าอ่านไม่ต่อเนื่อง จึงคิดว่าน่าจะแปลข้อมูลเก็บไว้ในเว็บๆ หนึ่งแล้วค่อยอ่านเป็นตอนๆ ให้ต่อเนื่องไปเลยดีกว่า แล้วก็นึกถึงที่นี่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset