===============
“อ่า..ก็ คลุมเครือไม่ชัดเจนนัก” เย่ว์หยางคิดว่าถ้าเขาพูดผิด นางจะมองดูเขาอย่างขุ่นเคืองแน่นอน ถ้าพี่สาวขี้เมาฟื้นขึ้นมาและเจอเรื่องนี้เข้า นางคงฝังเขาทั้งเป็นแน่ ดังนั้นเขาตัดสินใจว่าเขาควรพูดความจริง
“คลุมเครือเหรอ?” อู๋เสียตาเป็นประกาย “เจ้าแน่ใจนะ?”
“ส่วนใหญ่อาจเป็นเพราะไม่มีตัวอย่างเปรียบเทียบก่อนหน้านี้ก็ได้..” เย่ว์หยางต้องการพูดว่าเขาอาจแน่ใจได้ถ้ามือของเขาได้สัมผัสของนางบ้างเล็กน้อย
“ข้าเข้าใจแล้ว, ข้าจะให้โอกาสเจ้าทำดู!” คำพูดของอู๋เสียทำให้เย่ว์หยางคิดว่าเขาได้ฟังเสียงของเทพธิดา
“จริงหรือ?” เย่ว์หยางเต็มไปด้วยความเบิกบานใจ
“ถ้าเจ้าสามารถช่วยอู๋เหินญาติของข้า, สัมผัสจับต้ององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเจ้าเมืองโล่วฮัวได้ ข้าก็จะไม่ว่าอะไรจริงๆ” อู๋เสียชมชอบมองสีหน้าของเย่ว์หยางในตอนนี้จริงๆ นางใช้ตาที่เป็นประกายมองดูเย่ว์หยางโดยไม่กระพริบตา
“อย่างนั้นเจ้าจะเอาแต่ใจกว้างเสียสละให้คนอื่นๆ…” เย่ว์หยางร้องออกมาด้วยความตกใจ แน่นอนว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน, โล่วฮัวและคนอื่นก็ยังเป็นเป้าหมายของเขา แต่คนที่เขาต้องการสัมผัสจับต้องตอนนี้ก็คือแม่สาวหนอนตำราผู้น่ารักอู๋เสียนางนี้เท่านั้น เขารู้สึกว่าสตรีนางนี้จับต้องได้ยากที่สุด แต่ถ้าทำได้จริงเขาจะรู้สึกว่าเป็นความสำเร็จมากที่สุด แม้ว่าเขาจะชอบสาวๆ อกทรงโต ไม่ว่าจะเป็นคัพดี, อี, เอฟ หรือมากกว่านั้น ก็ไม่มีทางเทียบได้กับอู๋เสียผู้งามพร้อมนางนี้
“เย่ว์หยาง, เจ้าต้องจดจำไว้อย่างหนึ่ง ตอนนี้เจ้าเป็นคู่หมั้นของพี่โล่วฮัวและน้องอี้หนานแล้ว ข้าไม่ใช่คู่หมั้นของเจ้าอีกต่อไปแล้ว ถ้าข้าจำไม่ผิด ข้ายินยอมให้เจ้าถอนหมั้นไปเมื่อปีที่แล้ว ดังนั้น ในความเป็นจริง ข้าไม่มีความสัมพันธ์กับเจ้าแม้แต่น้อย” ในที่สุดคำพูดของอู๋เสียก็ทำให้เย่ว์หยางมั่นใจว่าสาวน้อยหนอนตำราผู้ลึกลับก็คือแม่นางเสวี่ยที่หมั้นหมายกับสหายผู้น่าสงสาร นางคือเสวี่ยอู๋เสีย
“เจ้าก็รู้ว่านั่นเป็นจดหมายปลอม ข้าไม่เคยเขียนจดหมายถอนหมั้นอะไรอย่างนั้นเลย ใครบางคนปลอมตัวเป็นข้า!” พอได้ยินคำเฉลยของนาง เย่ว์หยางรีบคว้ามือของนางอย่างมีอารมณ์
“นั่นก็จริง แต่ข้าไม่เคยเห็นด้วยที่ยอมเป็นคู่หมั้นของเจ้ามาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว” อู๋เสียดึงมือนางออกมาจากมือเขา
“อย่างนั้นตอนนี้ก็เห็นด้วยสิ” เย่ว์หยางทำอย่างดีที่สุดเพื่อแสดงความต้องการให้อีกฝ่ายได้รับรู้
“ไม่” อู๋เสียปฏิเสธเขาในชั่วอึดใจ
“ทำไมเล่า? ข้าจริงจังกับเรื่องนี้นะ แม้ว่าข้าจะไม่มีเวลาเตรียมแหวนหมั้นในตอนนี้ แต่ก็มีบางอย่างที่ข้าต้องการบอกเจ้า ข้าพยายามเก็บซ่อนมันเอาไว้มาเป็นเวลานาน เก็บไว้ในภายใน..” แม้แต่เย่ว์หยางเกือบจะน้ำตาร่วงเพราะนิยายรักของเขาเอง ถ้าเรื่องนี้สร้างเป็นภาพยนตร์ได้ จะเรียกน้ำตาจากผู้ชมได้บ้างไหม?
เรื่องราวความรักแบบเก่าในภาพยนตร์สมควรตกกระป๋อง มีแต่เรื่องราวความรักของเขาเท่านั้นที่ต้องใช้เวลาฟันฝ่ามิติถึงจะได้พบกับรักแท้
เย่ว์หยางมั่นใจว่าเขาชอบอู๋เสีย เขาแน่ใจเต็มร้อย
นี่ไม่ใช่แค่เรื่องใช้ชีวิตทั้งชีวิตร่วมกับนางและยังเสี่ยงชีวิตสู้เพื่อนาง แต่ความรู้สึกที่อยู่ในใจนั้นยากจะอธิบายออกมาได้ เป็นการเรียกร้องของจิตวิญญาณ โหยหาที่จะได้อยู่กับนางไปตลอดชีวิต เป็นชะตาที่พรหมลิขิตไว้ ไม่สามารถจะพรรณนาอธิบายได้ นอกจากนางแล้ว ไม่มีสตรีอื่นที่จะเข้ากันได้ดีกับเขาอีกแล้ว
นางคือชีวิตอีกครึ่งหนึ่งของเขาที่เขามองหาในโลกอื่นแห่งนี้
นางคือหญิงสาวในอุดมคติที่ดีที่สุดที่หัวใจเขาปรารถนา
เย่ว์หยางมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าเขารักหญิงสาวนางนี้ เขารักนางมานานแล้ว เขาเริ่มรู้สึกว่ารักนางหลังจากเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายร่วมกันสู้กับสื่อจินโหว หลังจากนั้นมา พวกเขาผ่านการต่อสู้เสี่ยงชีวิต และความรู้สึกของเขาก็ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
แม้ว่าเย่ว์หยางยังคงชอบแม่เสือสาวองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเจ้าเมืองโล่วฮัวผู้มีนิสัยชอบหัวเราะเป็นแบบฉบับของตนเอง หญิงงามอมโรคผู้อ่อนแอและบอบบางมากและอี้หนานผู้น่ารัก เขามีทั้งมารดาและน้องสาวผู้อ่อนโยน ทว่าคนที่เขารักที่สุด คิดถึงมากที่สุด, โหยหามากที่สุดก็ยังคงเป็นสาวงามลึกลับผู้ฉลาดมีพรสวรรค์นามว่าเสวี่ยอู๋เสียนั่นเอง
“พอเลย! เจ้าไม่ต้องมาพูดคำลวงที่หวานหูกับข้า เรื่องผู้ชายจับอกสาวอื่นหลังจากแยกกับข้าได้ห้านาที เจ้าไม่คิดว่าข้าควรคิดอย่างจริงจังว่ามันเกินไปหน่อยไม่ใช่หรือ?” นัยน์ตาอู๋เสียเป็นประกาย คำพูดของนางเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึก ถ้าบุรุษผู้ถูกถามไม่ใช่ตัวเขา เย่ว์หยางคงเห็นด้วยกับนางเต็มร้อย
“โปรดฟังเหตุผลโต้แย้งของคนชายโฉดเขลาก่อนเถิด” เย่ว์หยางเตรียมตัวเต็มที่เพื่อใช้วิชาลิ้นเงินของเขาพูดกลับกลายความจริง
ข้อโต้แย้งของเขาก็คือว่า ถ้าคนเราหิวมากๆ แม้แต่อาหารสุนัขเขาก็กิน
เพราะพวกขอทาน ไม่อาจจะเลือกได้
ในทางตรงกันข้าม ถ้าคนผู้หนึ่งกินจนอิ่มแปล้จุใจทุกวัน พวกเขาก็จะไม่สนใจเหลียวแลเนื้อชิ้นโต ปลาตัวโตๆ ด้วยซ้ำ ความหมายพื้นฐานของเขาก็คือ ถ้ามีเทพธิดานางหนึ่งสามารถตอบสนองความรักความต้องการของเขาได้ทั้งวันทั้งคืน อย่างนั้นเขาจะยังสามารถเป็นเด็กดีได้แน่นอนและไม่แอบจับหน้าอกสาวอื่นตามอำเภอใจตนเอง ในทางตรงกันข้าม ถ้าเขาไม่มีทางเลือกอื่น เขาอาจต้องเสี่ยงกับความผิดหวังจนถึงจุดที่ว่าแม้ต้องตายในวันพรุ่งนี้ ก็ขอจับหน้าอกสาวๆ ให้ได้ในวันนี้
ข้อโต้แย้งของเย่ว์หยางเป็นเหตุผลตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นมุมมองของธรรมชาติมนุษย์ สุขภาพจิตและสุขภาพกาย ทั้งหมดเป็นข้อสรุปของคนที่อยู่ห่างจากสตรีนานเกินไป
หญิงใดเล่ามิเคยเป็นไข้ใจ? ชายใดเล่ามิเคยหมกมุ่นกับความรัก?
ในที่สุดเย่ว์หยางก็ใช้คำพูดเหล่านี้เป็นข้อสรุป แม้แต่ตัวเขาเองก็เคลื่อนไหวตามคำพูดของเขา เจ้าคิดหรือว่าการเอาแต่เก็บตัวจะเป็นเรื่องง่าย?
เมื่ออู๋เสียฟังคำโต้แย้งของเขา นางพยักหน้าเบาๆ “ฮืม..พูดเข้าท่าเหมือนกัน”
เย่ว์หยางตื่นเต้นและคว้ามือของนางทันที “เจ้าตอบตกลงใช่ไหม?”
หญิงงามลึกลับผู้รักการอ่าน หรือแม่นางเสวี่ยอู๋เสียเหมือนกับยิ้มอยู่ในดวงตาขณะพูดว่า “ข้าเสียใจมากนะ เย่ว์หยาง, ข้าแค่บอกได้ว่าข้าเห็นใจกับความลำบากของเจ้า แต่คงเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะเอาชีวิตไปหล่อเลี้ยงเจ้า เพราะเจ้าเป็นเหมือนสุนัขป่าหิวโหยที่เกือบจะหมดหวังแล้วใช่ไหม? นี่ไม่ใช่เหตุผลที่ข้าจะยอมอยู่ด้วยกันกับเจ้า เย่ว์หยาง! รอจนกว่าเจ้าจะมีเหตุผลที่ดีกว่านี้แล้วค่อยมาชวนข้าโต้แย้งกับเจ้าอีกครั้ง เราจะดูผลงานของเจ้า ข้าไม่ปฏิเสธว่าเจ้าเป็นอัจฉริยะมีพรสวรรค์ในเรื่องการต่อสู้และทักษะอัญเชิญ แต่ในเรื่องจีบสาวเกี้ยวสาว ข้าเห็นว่าเจ้ายังโง่เง่าอยู่มาก…”
เย่ว์หยางไม่ค่อยเห็นด้วยกับนาง
เขาคิดว่าวิธีจีบสาวของเขายังคงใช้ได้ อย่างน้อยที่สุดก็มีสาวๆ 2-3 คนคบหากับเขาแล้ว
แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ระดับ ใบไม้ไม่ทันหยุดก็ผ่านสวนหมื่นบุปผา แต่อย่างน้อยเขาก็เป็นระดับจันทร์ส่องนกกางเขนบนกิ่งไม้ลาดยินเสียงจั๊กจั่นโหยหวนยามราตรี กลิ่นหอมของข้าวทำนายเรื่องราวความรัก และเสียงหอนของสุนัขป่ากว้างไกล ดารา 7-8 ดวงเหนือเส้นขอบฟ้า ฝนสองสามหยดลงบนเนินเขา ไม่มีเงินเช่าห้อง เราเดินลัดเลาะชายป่ามีคนรักข้างกายาอยู่ ณ ริมฝั่งธาร (เป็นกวีนิพนธ์จีน แต่ลิงค์เว็บภาษาอังกฤษต้นที่อ้างอิงมาใช้ไม่ได้ ก็เลยไม่เข้าใจนัก)
ดีแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีที่นัดพบของคนรักจริงๆ แต่เขาก็มีความคิดเรื่องนี้อยู่ในใจ
เกี่ยวกับเรื่องที่เย่ว์หยางมีความมั่นใจในตนเอง เสวี่ยอู๋เสียถึงกับเอามือแปะหน้าผากตนเองหลังจากฟังสิ่งที่เขาพูด
“เจ้าคิดหรือว่าจีบผู้หญิงครั้งแรกจะง่ายที่สุด? ตัวอย่างเช่น สุ่ยอู๋เหินญาติของข้า แม้ว่าโดยผิวเผินนางจะปฏิเสธข้อเสนอที่เจ้าจะรักษานาง แต่ถ้าเจ้าตื๊อนางจริงๆ นางก็จะยอมรับได้ เพราะในใจนางเลือกเจ้าอยู่แล้ว ตราบใดที่เจ้าไม่ทำให้นางผิดหวังในอนาคต เรื่องนั้นจะมีทางเป็นไปได้แน่นอน ยังมีพี่โล่วฮัว ที่ยังเป็นเป้าหมายที่ง่ายกว่านาง นางชอบความโรแมนติค เจ้าสามารถพานางไปนั่งชมจันทร์กระซิบกระซาบเรื่องชวนโรแมนติคอย่างเช่น “ก่อนขึ้นเตียงนอน จันทร์ฉายส่องสว่าง บนพื้นมีรองเท้าอยู่สองคู่” พวกบทกวีแบบนั้นนางชอบ เจ้ายังสามารถปลูกดอกไม้ให้นาง นางก็จะยิ่งหลงคารมของเจ้าได้อย่างง่ายดาย”
เมื่อเย่ว์หยางได้ยินเช่นนี้ เขาร่ำร้องอยู่ในใจ เขายังฝึกฝนมาได้ไม่พอเพียงแน่นอน
เขารีบขอคำแนะนำเพิ่มเติม น้ำเสียงของเขามีความจริงใจมาก “แล้วองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนเป็นอย่างไรบ้าง?”
หญิงงามลึกลับเสวี่ยอู๋เสียผู้รักการอ่านเป็นสาวงามชั้นหนึ่งแน่นอน ถ้าเย่ว์หยางไม่ได้ยินกับตัวเอง เขาจะไม่มีทางเชื่อว่านางจะสอนวิธีจีบสาวให้กับเขา นี่ช่างเหลือเชื่อจริงๆ แต่เย่ว์หยางก็ชอบ
จากนั้นเสวี่ยอู๋เสียพูดเบาๆ “องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนชอบฝึกฝนวิชาต่อสู้ เจ้าสามารถเข้าใกล้นางได้จากจุดนี้ ยิ่งกว่านั้น แม่เสือสาวนั่นปากร้ายแต่ใจดี บางทีปากนางกล่าวปฏิเสธเจ้า แต่เจ้าสามารถใช้การฝึกสอนวิชาต่อสู้ถือโอกาสถูกเนื้อต้องตัวนาง นางก็จะไม่ทำอะไรเจ้าแน่นอน ไม่ช้าไม่นานเจ้าก็จะใกล้ชิดนาง และความสัมพันธ์ของพวกเจ้าก็จะใกล้ชิดเองตามธรรมชาติ
ในโลกนี้ บางทีเสวี่ยอู๋เสียคงเป็นผู้เดียวที่สอนคู่หมั้นของตัวเองถึงวิธีจีบสาวอื่น
เย่ว์หยางสับสนเล็กน้อย
ทำไมนางถึงช่วยเขามากขนาดนั้น?
ถ้าเขาจีบสาวอื่นๆ อีกสามนางติด แล้วนางจะได้ประโยชน์อะไร?
แน่นอน เขาไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องที่แย่ เขาคิดว่าถ้าภรรยาในอนาคตของเขาสามารถสอนเขาถึงวิธีชนะใจสาวๆ ได้ เขาก็คงไล่ตามจีบสาวๆ ได้มากกว่าอุ้ยเสี่ยวป้อ ถ้าเขาไม่สามารถเอาชนะใจอู๋เหิน, โล่วฮัวและเชี่ยนเชี่ยนได้ ความคาดหวังในภรรยาในอนาคตของเขาคงพังทลาย
ในที่สุด เย่ว์หยางต้องการถามอู๋เสียถึงวิธีที่เขาจะเอาชนะใจนางได้จริงๆ
อย่างไรก็ตาม เขาคิดว่าคำตอบของนางอาจเป็นหมัดที่นางต่อยใส่หน้าเขาก็ได้
เย่ว์หยางคิดว่าเขาควรปล่อยวางได้แล้ว คนที่ชนะได้ยากที่สุด เขาควรจะทำด้วยกำลังตนเอง วิธีนี้เมื่อเขาชนะใจนางได้เขาจะรู้สึกได้ถึงความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
“ข้าซาบซึ้งคำแนะนำของเจ้ามากที่สุด จากก้นบึ้งหัวใจนะ โปรดให้ข้าได้ใช้ร่างกายตอบแทนเจ้าเถอะ” เย่ว์หยางทำเป็นซาบซึ้งใจและพุ่งเข้าหาอู๋เสียทันทีและกอดนางแน่นไว้ในอ้อมอก เขามีความสุขกับกลิ่นหอมและสัมผัสที่นุ่มนวล เขารู้สึกว่าถ้าเขาสามารถมีหญิงสาวอย่างนี้ในชีวิตของเขา เขาจะไม่มีทางใช้ชีวิตอยู่อย่างไร้สาระ ใครจะสนใจกันเล่าว่าจะถูกส่งไปโลกอื่น หากเขาได้พบกับหญิงงามอย่างนี้? มันคุ้มค่าแม้ว่าเขาจะถูกส่งถูกย้ายไปเป็นร้อยครั้ง
นี่เป็นครั้งแรกที่เย่ว์หยางรู้สึกซาบซึ้งขอบคุณนักพรตเฒ่าผู้เตะก้นเขากระเด็นเข้ามิติอื่น
เมื่อเขาคิดดูแล้ว ผู้เฒ่าท่านนั้นทำกับเขาได้ดีเลยทีเดียว ท่านไม่เพียงแต่ส่งเทพธิดากระบี่ฟ้ามาให้เขาเท่านั้น แต่ท่านยังยอมให้เขาได้พบกับสาวงามผู้สมบูรณ์แบบหลายคนในทวีปมังกรทะยาน บาปความผิดที่เตะเขาเข้าสู่โลกอื่น เขาจะยอมยกโทษให้ ถ้าเขายอมยกหลานสาวของเขาให้เย่ว์หยาง
ความรู้สึกยอดเยี่ยมที่ได้กอดตัวอู๋เสียนั้นทำให้เย่ว์หยางคิดว่าเขาจะไม่ลืมความรู้สึกเช่นนี้ไปชั่วชีวิต
ถ้าเป็นไปได้ เขาปรารถนาว่าสามารถกอดนางไปอย่างนี้ได้ตลอดชีวิต
เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวที่รุ่มร่ามของเย่ว์หยาง เสวี่ยอู๋เสียถึงกับขมวดคิ้วและพูดเบาๆ ว่า “ทำอย่างนี้หมายความว่าอย่างไร? เอาเปรียบข้าเมื่อเจ้าสบโอกาสงั้นหรือ?”
“นี่..ข้าเผลอตัวไป ข้าควบคุมตัวเองไม่ได้และต้องการจะแสดงความรู้สึกขอบคุณเจ้าจริงๆ อู๋เสีย ข้าตื่นเต้นจริงๆ นะ” เย่ว์หยางคิดว่าเขาเองได้ทำสิ่งที่กล้าหาญที่สุดในชีวิตเขาเอง นี่จะเป็นเรื่องราวให้จดจำที่เขาดึงสาวงามเข้ามาในอ้อมกอดเขาได้ โลกทั้งใบจะมีอะไรนักเชียว?
เย่ว์หยางรู้ว่าถ้าเขาพลาดท่า อย่างนั้นเขาคงตายอย่างอเน็จอนาถ
ที่สำคัญ เขาไม่ใช่เจ้าเหนือหัว ถ้าอู๋เสียโกรธขึ้นมา บางทีนางอาจใช้สายฟ้าในมือซ้ายและมีดน้ำแข็งในมือขวาของนางเล่นงานเขาก็ได้
“เจ้าสามารถแสดงความจริงใจให้ดีกว่านี้ โดยไม่แตะต้องสาวๆ คนใดภายในสามวันให้ได้ดีกว่า ต่อไปถ้าทำอย่างนี้อีก ข้าจะไม่ยกโทษให้” เสวี่ยอู๋เสียจ้องเย่ว์หยาง
นางไม่ได้โจมตีทำร้าย นั่นโชคดีแล้ว
แม้ว่านางจะไม่ติดตามเรื่องนี้ในอนาคต แต่ก็เป็นที่ชัดเจนว่านางมีอาการหึงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ก็ยังนับว่าดี ถ้าแม่สาวคนนี้มีอาการหึงหวง นั่นพิสูจน์ได้ว่าเขาจองพื้นที่ว่างในหัวใจนางได้แล้ว เขามีโอกาส… เย่ว์หยางปล่อยอู๋เสียอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจนักและพยายามจารึกความรู้สึกถึงตัวนางไว้ในใจ ก่อนจะมองดูอู๋เสียที่กำลังโกรธ ดูเหมือนนางไม่สามารถซ่อนความเอียงอายได้