===============
ในวันรุ่งขึ้น เย่ว์หยางตื่นขึ้นจากการหลับอย่างสบายในยามค่ำคืน
เขารู้สึกว่าทั้งร่างเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน
นอกจากทักษะใช้พลังไฟหยางและพลังน้ำแข็งหยินในตัวเขาแล้ว ยังมีความสามารถลึกลับในตัวเขาที่ดูแลความสมดุลระหว่างไฟกับน้ำแข็ง ยอมให้พลังทั้งสองนี้ผสานกันได้อย่างบริบูรณ์ในจุดตันเถียนของเขา พลังลึกลับนั้นเบาบางมากแต่ทรงพลังมากเช่นกัน สามารถเคลื่อนพลังหยางไฟและพลังหยินน้ำแข็งได้โดยง่าย มันสามารถเคลื่อนพลังทั้งสองไปทั่วร่างเขาเมื่อใดก็ได้ คอยเสริมสร้างพลังและปรับพลังของเย่ว์หยาง มันสามารถดูดซับพลังงานฟ้าดินที่บริสุทธิ์อย่างช้าและสะสมไว้ภายในจุดตันเถียนของเย่ว์หยาง ทำให้พลังไฟและน้ำแข็งของเขาก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง
เย่ว์หยางไม่เข้าใจ ทักษะที่ลึกลับนี้ ปรากฏขณะที่เขามีสัมพันธ์กับหญิงงามอู๋เหินหรือ?
เขาได้ทักษะนี้มาเมื่อคืนนี้หรือ?
เกี่ยวกับหลายเรื่องที่เขาไม่เข้าใจ เย่ว์หยางใช้วิธีจัดการโดยปล่อยผ่านไว้ก่อน
เมื่อเขาลืมตาขึ้น เขาพบว่าหญิงงามอู๋เหินพาดชิ้นส่วนของเสื้อผ้าไว้บนตัวเขา นางกำลังสังเกตดูร่างของเขาขณะที่นางบันทึกบางอย่างลงในหนังสือบันทึกของนาง…
เย่ว์หยางพูดไม่ออก เขาไม่รู้ว่านางมีงานอดิเรกแบบนี้
เย่ว์หยางจะหยอกล้อนางเล็กๆ น้อยๆ ก่อนที่เขาตั้งใจจะเปิดศึกกับนางในรอบที่สอง เพราะเมื่อวานนี้การเดินทางสู่เป้าหมายถูกระงับเนื่องจากกำลังรบของนางอ่อนแอ มือของเขาโอบเอวบางของนางไว้ แต่ทันใดนั้นเขาก็ต้องประหลาดใจ เขาพบว่าร่างของเขาเต็มไปได้อักษรรูนต่างๆ มิน่าเล่าหญิงงามอู๋เหินถึงได้หยิบสมุดออกมาบันทึกอักษรรูนเหล่านี้ นางเป็นคนคลั่งไคล้อักษรรูนนั่นเอง
“อย่าขยับ, ข้ายังคงเห็นไม่ชัด” อู๋เหินหยุดมือที่ซุกซนของเขาที่กำลังเลื่อนต่ำลงไปให้ขยับมาอยู่ที่เอวนาง
นางจูบริมฝีปากเขาเบาๆ เพื่อเอาใจ
จากนั้นก็บันทึกอักษรรูนต่อไป
มือของเย่ว์หยางเลื่อนลงมาและลูบบั้นท้ายนางที่นุ่มยืดหยุ่นอย่างน่าแปลกใจ
หญิงงามอู๋เหินจ้องเขาอย่างน่ารัก แต่นางไม่ได้ห้ามเขา
ถ้าเป็นเมื่อก่อน นางคงห้ามเขาแน่นอน
แต่ตอนนี้ นางกลายเป็นภรรยาเขาแล้ว
มือขาวราวหิมะของนางกดลงที่หน้าอกของเขา นางยังคงกดไว้เพื่อสังเกตดูอักษรรูนบนร่างของเขา ทำให้ความปรารถนาของเขาลดลง นางรู้ว่าเขาคงไม่เห็นด้วยแน่นอน ถ้านางยังจะสังเกตดูอักษรรูนต่อไป ดังนั้นนางจึงพูดด้วยท่าทีน่ารักว่า “พ่อตัวร้าย! ข้ายังคงเจ็บอยู่นะ เมื่อคืนนี้ใครบอกให้เจ้าทำรุนแรงนักเล่า? เอวข้าแทบหัก ตอนนี้ข้ายังไม่สามารถทำอะไรต่อได้” พอเห็นสีหน้าเย่ว์หยางเต็มไปด้วยความเสียใจ นางรีบให้ความมั่นใจกับเขาด้วยท่าทีของภรรยาผู้อ่อนโยนว่า “แค่ให้ข้าพักสักระยะ เจ้ายังไม่ต้องรีบร้อนอีก!”
ขณะที่นางพูดจบ นางตวัดลิ้นเลียริมฝีปากเขา เกลี้ยกล่อมเขาขณะที่นางผลักตัวเขาลง “เมื่อคืนนี้เจ้ายังหลับไม่พอ เจ้านอนต่อเถอะ”
แม้ว่าเย่ว์หยางไม่รู้สึกเหนื่อย เขาต้องการรู้สึกถึงความสามารถลึกลับใหม่ในตัวเขา
เขาหลับตาขณะที่หญิงงามอู๋เหินยังคงบันทึกอักษรรูนบนตัวเขาลงในบันทึกของนางต่อไป เขาพยายามปลดปล่อยความสามารถลึกลับที่จุดตันเถียนของเขา และจับความรู้สึกอย่างใกล้ชิด
ความสามารถอย่างนี้ อาจถูกปลุกจากตัวของเขาเองก็ได้ หรือได้รับมาจากร่างของหญิงงามอู๋เหิน เย่ว์หยางไม่สามารถรู้สึกได้ถึงที่มาของความสามารถชนิดนี้ ในขณะนี้เลย แต่เขารู้ว่ามันรักษาระเบียบให้ร่างกายเขาและเป็นประโยชน์ต่อร่างกายเขา ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นพลังงานที่บริสุทธิ์มาก แต่แตกต่างจากปราณก่อกำเนิดเล็กน้อย ปราณก่อกำเนิดจะไม่สามารถรักษาสมดุลของพลังขั้วตรงข้ามสองอย่างได้ มันดำรงอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่ซ้ำใครและไม่มีอะไรเปรียบเทียบ พลังงานลึกลับชนิดนี้สามารถผสานพลังที่ตรงกันข้ามกันและแยกพวกมันออกจากกันได้อีกครั้ง มันควบคุมพลังทั้งสองนั้นด้วยความเคลื่อนไหวที่นุ่มนวลอ่อนโยน และเคลื่อนย้ายมันได้
ความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของความสามารถที่ลึกลับก็คือทักษะกลางๆ ที่ไม่มีความสามารถในการโจมตีแต่อย่างใด
มันช่วยพัฒนาความสามารถในร่างกายเขา
แน่นอนว่า ทักษะเสริมส่งเช่นนี้ในทางหนึ่งก็ถือว่าน่ากลัว เย่ว์หยางสามารถรู้สึกได้ว่า ถ้าเขาพัฒนาความสามารถลึกลับนั้นได้มากขึ้น พลังต่อสู้ของเขาจะเพิ่มขึ้นได้อีกหลายเท่า
เย่ว์หยางหลับตาขณะที่เขาสัมผัสที่จุดตันเถียน (ท้องน้อย) ของหญิงงามอู๋เหิน
หญิงงามอู๋เหินคิดว่าเขาซุกซนและต้องกระตุ้นไฟปรารถนาให้นาง นางจึงตีมือเขาเบาๆ แล้วจับขึ้นมาจูบ ก่อนที่จะวางมือเขาไว้ที่เอวนางอีกครั้งบอกให้เขากอดนางแล้วหลับเสีย แม้ว่าจะเป็นเพียงไม่กี่วินาที แต่เย่ว์หยางรู้สึกได้ชัดเลยว่ามีความสามารถลึกลับอยู่ในร่างหญิงงามอมโรคผู้นี้ ความสามารถลึกลับที่อยู่ในตัวนางยังอ่อนอยู่มาก แทบจะไม่รู้สึกเลย ดังนั้นนางจึงไม่สามารถรู้สึกถึงมันได้
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เย่ว์หยางนึกขึ้นมาได้ทันที
นี่อาจเป็นขอบเขตผสานกายสามีภรรยาที่มารดาของสหายผู้น่าสงสารได้พูดถึงว่ามีอยู่ในสมัยโบราณ
มารดาของสหายผู้น่าสงสารไม่ได้บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับความสามารถนี้
บางทีนางบันทึกไว้ แต่ทักษะญาณทิพย์ระดับ 4 ของเย่ว์หยางไม่สามารถเห็นข้อมูลได้ทั้งหมด ดังนั้น เขาจึงไม่ค่อยเข้าใจ เมื่อเย่ว์หยางรู้สึกว่าหญิงงามอู๋เหินก็มีความสามารถเช่นนี้ในร่างนาง เขาจึงตระหนักได้ว่าเขาเชี่ยวชาญทักษะผสานร่างระดับสูงโดยไม่ได้ตั้งใจนั่นคือผสานร่างคู่รัก
ตามบันทึกของมารดาของสหายผู้น่าสงสาร เย่ว์หยางไม่น่าจะเข้าถึงได้เร็วขนาดนี้
เย่ว์หยางสงสัยว่าเขาสามารถเชี่ยวชาญได้เร็วมาก เพราะเขาเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิด หรือบางทีเป็นเพราะเขาเชี่ยวชาญปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ บางทีเป็นเพราะการผสานร่างของหญิงงามอู๋เหินและของเขาสมบูรณ์แบบจนถึงระดับที่เชี่ยวชาญผสานร่างคู่รักไปโดยธรรมชาติ
เกี่ยวกับความคิดนี้ ทำให้จินตนาการเย่ว์หยางเริ่มเตลิด
มีการผสานร่างคู่รักกับหญิงงามอู๋เหิน ทำให้เขาได้รับความสามารถลึกลับ จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาพยายามฝึกฝนผสานร่างคู่รักกับโล่วฮัว, เชี่ยนเชี่ยน, อู๋เสียและคนอื่นๆ
ถ้าเขายังคงฝึกกับพวกนางต่อไป เขาจะสามารถพัฒนาทักษะลึกลับนี้ได้หรือไม่?
ถ้าคำตอบคือใช่ แล้วเขาก็จะมีชีวิตรักร่วมกับอีกสามนางทั้งยังฝึกฝนให้แข็งแกร่งได้ไม่ใช่หรือ? ที่สำคัญที่สุด ถ้าเขามีข้ออ้างนี้ ก็จะมีเหตุผลที่ดีเลิศให้พวกนางได้ฝึกผสานร่างคู่รักกับเขาได้เช่นกัน พวกนางจะได้ไม่รู้สึกอึดอัดที่จะฝึกกัน ทันใดนั้นเย่ว์หยางมีแรงบันดาลใจที่จะเอาบันทึกลับของมารดาสหายผู้น่าสงสารมาอ่านดู ดูเหมือนว่ายังคงมีความลับที่ซ่อนอยู่ภายใน ครั้งก่อนทักษะญาณทิพย์ระดับ 4 ของเขาอาจไม่สามารถมองเห็นได้ แต่ตอนนี้มันยกระดับเป็นระดับ 5 แล้ว บวกกับทักษะตาทิพย์ที่สามารถใช้ร่วมประสานกับทักษะญาณทิพย์เป็นกลายเป็นจักษุญาณทิพย์ เขาน่าจะมองเห็นความลับที่ซ่อนอยู่ได้มากยิ่งขึ้น
เมื่อเย่ว์หยางคิดถึงเรื่องนี้ ทันใดนั้นเขาพลิกตัวและยืนขึ้น
การกระทำนี้เองทำให้หญิงงามอู๋เหินสะดุ้งด้วยความตกใจ
ตอนแรกนางคิดว่าเขาไม่อาจทนต่อไปได้ ดังนั้นนางจึงตีเขาอย่างเขินอาย “ให้ถึงกลางคืนก่อน ข้ายังเจ็บอยู่นะ”
เมื่อนางเห็นเขาเอาบันทึกออกมาจากแหวนลิช นางถึงได้รู้ว่าเขาแค่ต้องการอ่านบันทึก ไม่ใช่ต้องการนาง ทันใดนั้นนางเขินเล็กน้อยและรู้สึกผิดบ้างที่เข้าใจผิดไป อู๋เหินจูบเขาเบาๆ ขณะที่นางเอื้อมมือมาลูบท้องของเขา ความจริงนางต้องการจะเลื่อนมือต่ำลงมาเพื่อบรรเทาความปรารถนาของเขา แต่เนื่องจากนางยังเขินอายอยู่จึงลูบหน้าอกเขาแทน “ให้ข้าลอกแบบอักษรรูนก่อนนะ มันค่อยๆ หายไปแล้ว แล้วข้าจะช่วยเจ้าทีหลัง…”
แม้ว่าความต้องการของเย่ว์หยางจะมีมาก แต่เขาไม่รีบร้อนต้องการนางทันที
ไม่ว่ายังไงก็ตาม ร่างกายนางยังอ่อนแอกว่าผู้หญิงธรรมดาเสียอีก และนางเพิ่งสูญเสียความบริสุทธิ์ ถ้าเขาแข็งขืนกับนางในตอนนี้ เขาอาจทำให้ร่างกายนางบอบช้ำก็ได้
เขายิ้มให้แล้วกอดนาง จากนั้นก็อ่านบันทึกและเดินปราณก่อกำเนิดของเขา ด้วยพลังจักษุญาณทิพย์ เขาพยายามค้นหาความลับลึกลงไปอีกชั้นหนึ่ง อู๋เหินไม่รู้ว่าความลับแบบไหนที่ซ่อนอยู่ในบันทึกลับนั้น แต่นางไม่ถามเรื่องส่วนตัวของเย่ว์หยาง
นางใจจดใจจ่อกับการลอกแบบอักษรรูนอีกครั้ง ทุกครั้งที่นางลอกแบบอักษรรูนเสร็จ นางจะจูบร่างของเย่ว์หยางอย่างสุขใจ เป็นการแสดงความสบายใจของนาง
เพื่อค้นหาความลับที่ซ่อนอยู่ในบันทึก เย่ว์หยางปล่อยพลังปราณก่อกำเนิดระดับ 1 ไปเล็กน้อย
โชคดีที่ตอนนี้เขาเชี่ยวชาญในทักษะพลังหยินอย่างสมบูรณ์
มิฉะนั้น บางทีเขาอาจระเบิดผ้าห่มที่คลุมร่างพวกเขาออกไปโดยเพียงการปล่อยพลังปราณก่อกำเนิดเบาๆ เท่านั้น
เย่ว์หยางควบแน่นพลังปราณก่อกำเนิดเป็นลูกกลมโดยใช้ทักษะพลังน้ำ จากนั้นเปลี่ยนมันให้เป็นริบบิ้นม้วนพันรอบมือเขา ปกติ ถ้าเขาทำแบบนี้เหมือนเมื่อก่อน เขาคงทำไม่สำเร็จ เพราะพลังปราณก่อกำเนิดจะทำลายบันทึกเมื่อสัมผัสมัน อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เย่ว์หยางควบคุมปราณก่อกำเนิดของตนเองได้ เขาสามารถทำให้มันเป็นแสง สายลมและสายน้ำที่อ่อนโยนได้
แน่นอนว่าวิธีนี้ใช้ได้ดีเลยทีเดียว ดูเหมือนว่าบันทึกนี้จำเป็นต้องใช้ปราณก่อกำเนิดในการเปิด
เย่ว์หยางดีใจ
ทันใดนั้น มีเสียงหนึ่งที่ไพเราะก้องอยู่ในใจของเขา “ลูกรักของแม่! ถ้าลูกได้ยินเสียงแม่ ลูกคงกลายเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดคนหนึ่งไปแล้ว แม่มีความสุขจริงๆ ลูกรักของแม่! แม่มีเรื่องมากมายจะบอกเจ้า แม่ต้องการบอกความลับที่ปกปิดไว้ให้เจ้าทราบและถ่ายทอดความรู้ทั้งหมด แม่จะเปิดเผยให้เจ้าได้รู้ อย่างไรก็ตามมีความทรงจำอย่างจำกัดในบันทึกนี้ ดังนั้นแม่ไม่อาจบอกลูกได้ทุกอย่าง ลูกรักของแม่! ยกโทษให้แม่ด้วย แม่ไม่ใช่แม่ที่ดี แม่ไม่สามารถให้อะไรแก่ลูกในโลกนี้ได้ ไม่อาจแสดงอารมณ์ส่งเสริมตามที่เจ้าต้องการ เทียบกับอาเซียนแล้ว แม่เป็นแม่ที่ล้มเหลวจริงๆ.. แม่ไม่รู้ว่าลูกบรรลุขอบเขตปราณก่อกำเนิดได้อย่างไร แต่แม่รู้ว่าลูกต้องฝึกอย่างหนัก ลูกต้องใช้ความพยายามมากมายกว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ แม่ภูมิใจในตัวลูกจริงๆ”
“แม่ปรารถนาว่าแม่จะเห็นและตามดูแลว่าลูกเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดได้อย่างไร บางทีตอนนี้ลูกอาจตัวสูงกว่าแม่ไปแล้ว หรือบางทีลูกอาจแต่งงานมีลูกไปแล้ว”
“ลูกแม่! บางทีเจ้าคงคิดว่าเขตแดนปราณก่อกำเนิดคือดินแดนสูงสุดที่มนุษย์คนหนึ่งจะไปถึงได้ ทว่าแม่ต้องการบอกลูกว่าคำตอบคือไม่ พลังปราณก่อกำเนิดเป็นเพียงด่านหน้า เป็นเพียงหินหยั่งเท้าเพื่อก้าวไปสู่ดินแดนที่สูงมากที่มนุษย์สามารถไปถึงได้”
“เมื่อเจ้าบรรลุขอบเขตชั้นสูงได้ในที่สุด เจ้าจะเข้าใจว่าชีวิตคืออะไรกันแน่ เจ้าจะได้รับความเป็นอยู่ที่แม้แต่เทพเจ้าก็มิอาจเป็นได้ พอถึงที่สุดเจ้าจะเข้าใจความลับของชีวิตที่ซับซ้อนทุกอย่างที่ไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดได้ แม้จะใช้คำพูดเป็นล้านก็ตาม สิ่งที่แม่มีเป็นความรู้ความเข้าใจเพียงหนึ่งในพันของความรู้ทุกอย่าง หรืออาจจะน้อยกว่านั้น อย่างไรก็ตาม ลูกแม่ แม่หวังว่าลูกจะสามารถก้าวหน้าต่อไปในเส้นทางที่แม่ก้าวเดินมาก่อน และจงหาความรู้เพิ่มขึ้น จงก้าวเดินไปให้ไกลกว่าแม่.. ลูกรัก! แม่คิดถึงลูกจริงๆ คิดถึงทุกวัน อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าเสียใจที่แม่ไม่อาจอยู่กับลูกได้.. อาเซียนเป็นผู้ที่ทำหน้าที่แม่ได้ดีกว่าแม่ ด้วยการดูแลเอาใจใส่ของนาง แม่รู้สึกมั่นใจมาก แม่ไม่มีอะไรจะให้ลูก แม่ทำได้เพียงบอกความรู้ที่แม่ได้เล่าเรียนมาและหวังว่ามันจะช่วยลูกได้บ้าง”
ทันใดนั้นความรู้นับไม่ถ้วน ได้ถ่ายเทเข้ามาในใจของเย่ว์หยาง
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาคงไม่สามารถรับเอาไว้ได้แน่นอน
แต่หลังจากบรรลุปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ขั้นที่ห้า พลังของเขาพัฒนาแบบก้าวกระโดด มวลความรู้ที่เย่ว์หยางเก็บไว้ได้จึงขยายออกไปด้วยเช่นกัน เขาสามารถจะรองรับความรู้มากขึ้นโดยไม่มีปัญหา แม้ว่าเขาจะไม่สามารถจัดระเบียบความรู้และเข้าใจได้ทุกอย่าง แต่เขาสามารถเก็บมันไว้ได้ เย่ว์หยางสามารถทำความเข้าใจช้าๆ ในภายหลัง
มารดาของสหายผู้น่าสงสารต้องการส่งผ่านความรู้ให้บุตรของนาง คิดไม่ถึงเลยว่านางกลับส่งผ่านความรู้ให้เย่ว์หยางผู้มาจากโลกอื่น?
แน่นอนว่าในใจเย่ว์หยาง เขามองนางเหมือนกับเป็นมารดาของเขา
เช่นเดียวกับที่เย่ว์หยางมองแม่สี่เหมือนกับเป็นมารดาอีกคนหนึ่ง หลังจากได้รับความรู้ เย่ว์หยางกลายเป็นคนใหม่ทันที
อักษรรูนที่เขาไม่สามารถทำความเข้าใจได้ในตอนแรก เขาค่อยๆ เข้าใจความหมายที่อยู่เบื้องหลังนั้น
สำหรับบันทึกเรื่องทักษะผสานร่างคู่รักในบันทึกก็ยังไม่สมบูรณ์ เย่ว์หยางก็เข้าใจได้ในที่สุดเป็นอย่างดี ด้วยการเพิ่มพลังปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ที่เป็นทักษะระดับปราณก่อกำเนิดและทักษะความเข้าใจที่ไม่มีใครเทียบได้ เขากลายเป็นผู้มีความรู้เรื่องทักษะผสานกายคู่รักมากขึ้น เขามีประสบการณ์มากขึ้นสามารถเพิ่มพลังผสานกายคู่รักได้
“ขอบคุณท่านแม่!” เย่ว์หยางบังคับใจตนเองให้สงบและข่มความรู้สึกที่อยากกระโดดส่งเสียงก้องไปในท้องฟ้า เขาหายใจลึกๆ และขอบคุณมารดาที่ส่งผ่านความรู้ให้เขาอย่างจริงใจ เสียงของเขาสั่นเล็กน้อย
*************