===============
ทดสอบเลือดเพื่อระบุความสัมพันธ์ในครอบครัวเป็นเรื่องที่ค่อนข้างง่าย
บนโต๊ะมีถ้วยอยู่สามถ้วยเต็มไปด้วยน้ำศักดิ์สิทธ์ ฉือเหลียว นักสู้ปราณก่อกำเนิดชาวปีศาจหยดเลือดของเขาลงในขวดกลางและกำหนดให้เป็นมาตรฐาน จากนั้น เย่ว์ชิวตัวปลอมและเย่ว์หยางปลอม ลุงรองเย่ว์หลิ่ง, เย่ว์เยี่ยน, เย่ว์เฟิง เย่ว์หยาง, เย่ว์หวี่และเย่ว์ปิงสามารถเลือกขวดซ้ายขวาและหยดเลือดพวกเขาได้ ถ้าปฏิกิริยาคล้ายกับของปีศาจ อย่างนั้น ก็เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ใช่ลูกหลานตระกูลเย่ว์
ถ้าดูจากภายนอก การทดสอบเลือดเพื่อระบุความสัมพันธ์ดูเหมือนจะยุติธรรมดี ไม่มีปัญหาเลยแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม บุรุษผู้มาจากโลกอื่น เย่ว์หยางรู้ว่า การทดสอบเลือดง่ายๆ นี้จัดการได้ง่ายมาก
ความลับที่ใหญ่ที่สุดก็คือว่าทำไมเย่ว์ชิวถึงมั่นใจมากว่าเลือดของเย่ว์หยาง, เย่ว์หวี่และเย่ว์ปิงจะแสดงผลตอบสนองเช่นเดียวกับเลือดของฉือเหลียว?
ความคาดหวังที่มองไม่เห็นนี้ ทำให้พวกเขาน่าสงสัยมาก ถ้าพวกเขาไม่เล่นตุกติกอะไร ทำไมเขาถึงมั่นใจว่าทุกคนที่ไม่ใช่ข้างเขาเป็นปีศาจเล่า? เป็นไปได้ไหมว่า จะเป็นมนุษย์ที่พยายามปลอมเป็นคุณชายสาม? ทำไมพวกเขาต้องเป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจ? ถ้าเขาใช้เลือดของนักสู้ปราณก่อกำเนิดอย่างฉือเหลียวเป็นตัวอย่าง นั่นก็หมายความว่าเย่ว์ชิวปลอมได้เล็งเห็นแล้วว่าเลือดเย่ว์หยางและคนอื่นๆ จะมีผลตอบสนองเช่นเดียวกับนักสู้ปราณก่อกำเนิดเผ่าปีศาจไม่ใช่หรือ?
“….” เจ้าเมืองโล่วฮัวและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนต่างคนต่างมอง พวกนางคิดว่าเย่ว์ชิวตัวปลอมคงเตรียมกลอุบายไว้แน่นอน แต่พวกนางยังคงไม่เข้าใจถึงเหตุผลที่แท้จริง
“เนื่องจากว่าใช้วิธีแบบนั้น เราจะร่วมทดสอบด้วย” เย่ว์หยางตัดสินใจ
ปฏิเสธการทดสอบ จะทำให้ศัตรูของเขามีข้ออ้างคร่ากุมเขา
ตราบใดที่เขายังมองเห็นแผนการของตัวปลอมที่น่ารังเกียจนี้ระหว่างการทดสอบ เขาก็ยังสามารถพลิกสถานการณ์ได้
แน่นอน เย่ว์หยางรู้สึกว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงตกลงไปในกับดักของเย่ว์ชิวได้ ที่แตกต่างกันก็คือไม่ว่าอย่างไรองครักษ์พิทักษ์ฟ้าของต้าเซี่ยและเทียนหลัว เซียนนักพรตและบัณฑิตวัยกลางคนจะมีเหตุผลสู้ให้ฝ่ายพวกเขา
นักสู้ปราณก่อกำเนิดเผ่าปีศาจก้าวออกมาและกรีดแผลที่ฝ่ามือเล็กน้อยเล็บของเขาคมอยู่แล้ว จากนั้นหยดเลือดปีศาจของเขาลงในขวดน้ำศักดิ์สิทธิ์ ทันทีที่เลือดปีศาจหยดลงในขวด น้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ใสบริสุทธิ์แต่เดิมกลับเดือดทันที เหมือนกับว่าสัตว์ประหลาดตัวหนึ่งกำลังตีน้ำอยู่ภายใน น้ำศักดิ์สิทธิ์เดือดอย่างรวดเร็วและกลายเป็นไอลอยขึ้นไปในอากาศ…
ทุกคนเห็นได้อย่างชัดเจน เลือดปีศาจไม่สามารถเข้ากับน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้ มันจะเดือดทันทีที่ได้รับการผสม
หลังจากนั้น ก็เป็นเย่ว์ชิวตัวปลอมเดินเข้ามา
เขาใช้มีดกรีดนิ้วของเขาและหยดเลือดลงในขวดซ้าย นอกจากเปล่งแสงเรืองๆ แล้วก็ไม่มีผลตอบสนองอะไรอีก
เย่ว์ชิวปลอมก็ยังเป็นตัวอย่างที่ดีมากเช่นกัน พิสูจน์ได้ว่าเลือดของลูกหลานตระกูลเย่ว์จะมีผลตอบรับกับน้ำศักดิ์สิทธิ์ แม้ว่าจะมีผลตอบรับอยู่บ้าง ก็เป็นเพียงแสงเล็กน้อย คนอื่นจะคิดว่าเลือดของเย่ว์ชิวบริสุทธิ์มาก
ต่อจากนั้นก็เป็นเย่ว์หยางตัวปลอม เขาหยดเลือดลงในขวดขวา เลือดของเขามีแสงสว่างเล็กน้อย
หมายความว่าอย่างไร?
นี่หมายความว่าขวดน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามนี้เหมือนกันหมด ไม่ว่าเลือกขวดใดก็ตาม ก็ไม่มีปัญหา
“ต่อไป เราอยากเห็นบุตรชายของเย่ว์ซาน ผลตอบสนองของเลือดเย่ว์เทียน เย่ว์ซานพี่ของข้าถูกปีศาจตนหนึ่งฆ่าตายเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว เมื่อตอนข้าได้ยินข่าวในแดนอเวจี ข้าคิดว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ข้าจะต้องมีชีวิตรอดกลับไปทวีปมังกรทะยาน ทั้งนี้เพราะข้าจะไม่ยอมปล่อยให้ตระกูลเย่ว์ต้องล่มสลายในเงื้อมมือปีศาจ ข้าจะไม่ยอมให้ตระกูลเย่ว์ถูกทำลายในรุ่นข้า ก่อนนั้น เมื่อผู้อาวุโสของตระกูลและข้าได้จับเย่ว์ซานไว้ ปีศาจตัวหนึ่งปรากฏกายมาช่วยเขาหนีไป ตอนนี้ ข้าต้องการแสดงให้ทุกคนเห็นหลักฐานนั้น” เย่ว์ชิวตัวปลอมปรบมือ ขณะที่เย่ว์หยางตัวปลอมและเย่ว์เยี่ยนลากเย่ว์เทียนออกมา ตอนนี้เขามีร่างกายอ่อนล้ามาก เย่ว์เป่าใช้มีดเงินกรีดแผลยาวบนนิ้วของเย่ว์เทียนและหยดเลือดของเขาลงในขวดซ้าย
“ซี่….ซี่….”
น้ำศักดิ์สิทธิ์ในขวดแสดงผลตอบสนองเหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อนักสู้ปราณก่อกำเนิดเผ่าปีศาจฉือเหลียวได้ทดสอบไว้ ไอน้ำลอยขึ้นไปในอากาศทันที
ตามการทดสอบนี้ ไม่มีข้อสงสัยว่าเย่ว์เทียนเป็นทายาทปีศาจ
หน้าของเย่ว์เทียนซีดขาวขณะล้มลงกับพื้นด้วยความผิดหวัง เหมือนกับว่ามีคนถอดกระดูกสันหลังของเขาออกมา
เย่ว์เยี่ยน, เย่ว์เป่าและแม้แต่เย่ว์เฟิง ลูกหลานตระกูลเย่ว์หยดเลือดของพวกเขาลงในขวดซ้ายและขวาทีละคน เลือดของทุกคนไม่มีผลตอบสนองกับน้ำศักดิ์สิทธิ์แม้แต่น้อย มีเพียงเปล่งแสงเล็กน้อย ในบรรดาพวกเขา แสงของเย่ว์เฟิงแรงที่สุด เลือดของเย่ว์เยี่ยนมีแสงเล็กน้อย แต่เลือดของเย่ว์เป่าแทบไม่มีผลตอบสนองอะไรเลย ทุกคนสามารถเห็นได้ว่าบรรดาสามคนนี้ เย่ว์เฟิงมีศักยภาพมากที่สุด ขณะที่ผลตอบสนองของเขาแข็งแกร่งที่สุด ดูเหมือนความแข็งแกร่งในสายอายุ เขายังคงดีที่สุด
เย่ว์เยี่ยนหัวเราะอย่างเย็นชาใส่เย่ว์หยางและพูดว่า “เจ้าลูกหมา ตอนนี้ตาเจ้าแล้ว!”
เย่ว์หยางเงยหน้าขึ้นมองฟ้าอย่างสบายใจ ไม่สนใจความหยิ่งผยองของญาติผู้น้องเขาเลย
“เจ้าก็เป็นหมาของคนอื่นไม่ใช่หรือ? เจ้าคงสบายใจมากที่ได้เป็นหมาของคนอื่นสินะ นั่นหาได้ยากจริงๆ เย่ว์หยางขี้คร้านจะยุ่งกับคนงี่เง่าอย่างเจ้า ในฐานะลูกพี่ของเขา มันน่ารำคาญจริงๆ ที่ได้เห็นเจ้า เย่ว์เยี่ยน เจ้าหน้าโง่ ถ้าเจ้ามีความกล้าอย่างนั้นมาสู้กับข้าเลย ดูซิว่าข้าจะทุบเจ้าให้สะบักสะบอมได้หรือไม่ ถ้าเจ้าไม่มีฝีมือพอ อย่างนั้นไปนั่งหลบมุมรออยู่เฉยๆ อย่ามาทำขายหน้าต่อหน้าคนอื่นๆ อวดตัวเองเช่นนี้ เจ้าคิดหรือว่าเจ้าเท่ห์นัก?” เจ้าอ้วนไห่สามารถทนคำดูถูกของเย่ว์เยี่ยนได้
“เจ้าอ้วนไห่? เจ้าคันตัวนักใช่ไหม? นี่เป็นเรื่องของตระกูลของเรา เจ้ามีธุระอะไรที่นี่? ถ้าเจ้าทำให้ข้าโกรธ ข้าสาบานว่าจะเฉือนเนื้อเจ้าให้สุนัขกินซะ!” เย่ว์เยี่ยนตะโกนด้วยความโมโห
ถ้าเจ้าอ้วนไห่กล้าพูดเช่นนั้นกับเขาเมื่อปีที่แล้ว เขาจะต้องฆ่าเจ้าอ้วนไห่ทันทีแน่
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันนี้เจ้าอ้วนไห่ไม่ใช่คนที่เย่ว์เยี่ยนจะฆ่าได้ง่าย อย่าว่าแต่เย่ว์เยี่ยนเลย แม้แต่หนึ่งในสามดาวเพชรฆาต เหยียนพั่วจวิน ก็ยังไม่สามารถจัดการเจ้าอ้วนไห่ได้ ถ้าเย่ว์เยี่ยนรู้ว่าเจ้าอ้วนไห่เพิ่งจะทำสัญญากับแมมม็อธสายฟ้า อสูรทองระดับ 6 เขาคงไม่กล้าท้าทายเจ้าอ้วนไห่ต่อสู้แน่นอน
เย่ว์หยางตัวปลอมนั้นทำตัวเหมือนกับเป็นประมุขตระกูลในอนาคต ได้ห้ามเย่ว์เยี่ยน “น้องสี่ ทำไมเจ้าต้องลดตัวกับคนอย่างนั้นด้วย? ขณะทีทุกคนมองดูอยู่ ไม่ว่าพวกเขาจะก่อความวุ่นวายสับสนมากเพียงใด พวกเขาไม่สามารถปฏิเสธความสัมพันธ์กับปีศาจได้”
เย่ว์หวี่เดินออกมา ขณะที่นางขบริมฝีปาก
นางพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ข้าไม่ใช่ปีศาจ ไม่ใช่แน่นอน ข้าคือผู้อัญเชิญวารีศักดิ์สิทธิ์ สายบำบัด!”
เย่ว์หวี่คงจะไม่เชื่อแน่นอนว่านางเป็นปีศาจ และนางก็ไม่เชื่อว่าบิดาของนางเป็นปีศาจ แม้ว่าบิดาของนางจะคลั่งไคล้พลังและต้องการพิชิตตระกูลเย่ว์ก็ตาม แต่เขาก็ไม่ใช่ปีศาจแน่นอน.. นางเพิ่งเห็นผลทดสอบเลือดของเย่ว์เทียน แม้ว่าผลตอบสนองจะแสดงว่าเขาเป็นปีศาจ นางก็ไม่เชื่อเลยว่าพี่ชายนางเย่ว์เทียนจะเป็นปีศาจ ศัตรูของพวกเขาต้องใช้กลอุบายบางอย่างแน่นอน
แม้ว่านางจะรู้ดีว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่นางก็ไม่สามารถเห็นช่องว่างในสถานการณ์แบบนี้ สิ่งเดียวที่นางสามารถทำได้ก็คือใช้เลือดนางเองพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้บิดานาง
ผู้อัญเชิญสายบำบัดด้วยวารีศักดิ์สิทธิ์จะเป็นปีศาจด้วยหรือ?
นี่เป็นไปไม่ได้แน่นอน
เย่ว์หวี่หยดเลือดของนางลงในขวดด้วยความมั่นใจ
ตอนแรก ก็ไม่มีปฏิกิริยาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ไม่กี่วินาทีต่อมา น้ำในขวดก็ค่อยๆ เดือดและเป็นไอออกมาจากขวดจนหมด
“เป็นไปไม่ได้” เย่ว์หวี่ตกตะลึง นางไม่เคยคิดว่าเลือดของนางจะแสดงผลว่านางเป็นปีศาจ ในทันใดนั้น นางรู้สึกเหมือนว่าวิญญาณจะแหลกสลาย นางเป็นปีศาจจริงๆ หรือ? นางเป็นธิดาของปีศาจจริงๆ หรือ? เหมือนกับเย่ว์เทียนพี่ชายนาง เป็นทายาทของปีศาจ
“ฮ่าฮ่า ดูซิว่าตอนนี้ แกจะพูดอะไรได้อีก!” เย่ว์เยี่ยนหัวเราะลั่น
ร่างของเย่ว์หวี่เริ่มสั่น ขณะที่น้ำตานางไหลออกมาโดยมิอาจห้ามได้
นางต้องการปฏิเสธเขา โต้แย้งเขา
แต่ริมฝีปากนางสั่นอย่างมิอาจยับยั้งได้ นางไม่มีทางพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง
เย่ว์ปิงต้องการวิ่งลงไปจากรถม้าและกอดพี่สาวนาง แต่เสวี่ยอู๋เสียโบกมือห้ามนาง บอกไม่ให้นางลงไป อี้หนานกอดนางไว้แน่น เกรงว่าจะหุนหันทำบางอย่างที่มีผลต่อสมาธิเย่ว์หยาง
องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน กลับตรงกันข้าม นางห่วงใยเพื่อนที่ดีที่สุดของนาง นางรีบวิ่งลงมาและกอดร่างที่สั่นเทิ้มของเย่ว์หวี่และปลอบนาง
ในตอนนี้ สายตาทุกคนจับจ้องไปที่เย่ว์หยาง
ไม่มีความหมายเลยที่จะพิสูจน์ว่าเย่ว์เทียนและเย่ว์หวี่เป็นทายาทปีศาจ ต่อเมื่อเย่ว์หยางพิสูจน์ว่าเป็นปีศาจ จะทำให้เรื่องนี้จบลงอย่างแท้จริง
เย่ว์หยางเห็นด้วยกับการทดสอบเลือดไม่ใช่หรือ? มีเลือดเย่ว์เทียนและเย่ว์เยี่ยนเป็นตัวอย่างก่อนหน้าเขาแล้ว และจากนั้นก็มีผลตอบสนองเลือดปีศาจของเย่ว์หวี่ คนมากมายคิดว่าเย่ว์หยางคงจะโง่มากถ้าเขาเห็นด้วยกับการทดสอบ, เขาก็แค่ประกาศตัวว่าตนเองเป็นปีศาจเท่านั้น เจ้าอ้วนไห่, เย่คงและคนอื่นๆ ทุกคนก็คิดอย่างนี้ องค์ชายเทียนหลัวและเสวี่ยทันหลางมองหน้ากันเองและเตรียมจะห้ามไม่ให้เย่ว์หยางทดสอบเลือด พวกเขาเข้าใจว่านี่เป็นแผนการที่จัดเตรียมโดยศัตรูของพวกเขา ไม่ว่าเย่ว์หยางจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็ตาม ก็ยังจะมีกับดักวางรอเขาอยู่ เขาไม่สามารถหลบหนีแผนการของศัตรูไปได้
“เจ้าไม่มีความกล้าจะทดสอบเลือดใช่ไหมเล่า? ข้าบอกไว้ก่อนแล้ว, เจ้ามันลูกหมา! เจ้าลูกปีศาจบัดซบ!” เย่ว์เยี่ยนเยาะเย้ยเย่ว์หยาง
“หุบปากซะ, เจ้าตัวถ่วงความเจริญ, ที่นี่ไม่มีที่ให้เจ้าเสนอหน้าพูด เจ้าก็เหมือนคนโง่ กลายเป็นขี้ข้าของคนอื่นได้ง่ายดายนัก นึกหรือว่าเจ้าจะสามารถหาอาหารได้เองด้วยการเป็นคนโง่? ไปอยู่ห่างๆ ข้าซะ มิฉะนั้นข้าจะฆ่าเจ้าในท่าเดียว!” เย่ว์หยางใช้จักษุญาณทิพย์จ้องเขา และใช้พลังปราณระเบิดจนเย่ว์เยี่ยนกระเด็นออกไป
“เจ้า, เจ้า…” เย่ว์เยี่ยนและเย่ว์เป่าตกตะลึง ที่ถูกเย่ว์หยางจ้องจนกระทั่งพวกเขากระเด็นล้มลงกับพื้น พวกเขาหวาดกลัวสิ้นเชิง พวกเขาต้องการจะตอบโต้กลับและระดมคำบริภาษใส่เขา แต่พวกเขากลัวว่าเย่ว์หยางจะฆ่าพวกเขาในท่าเดียวได้จริงๆ
พวกเขาหวาดกลัวความเจ้าอารมณ์ของเย่ว์หยางอย่างเห็นได้ชัด
เจ้าเด็กนี่ไม่ได้รับผลกระทบจากแรงบังคับหรือความจูงใจเลย ในตระกูลเย่ว์ทั้งหมด นอกจากปู่ของเขา ประมุขตระกูลเย่ว์ไห่, และปู่ห้าที่มักจะปกป้องครอบครัวที่สี่แล้ว เขาไม่เกรงใจใครอี่นแม้แต่น้อย เมื่อเขาพูดว่าเขาจะสู้ เขาก็จะสู้จริงๆ และเมื่อเขาพูดว่าจะฆ่า เขาก็จะฆ่าจริงๆ แม้แต่เย่ว์ซานรักษาการประมุขตระกูลก็เกือบถูกเขาฆ่าในตอนนั้นแล้ว ตอนแข่งขันประลองในวันปีใหม่ต่อหน้าจักรพรรดิจุนอู๋โหย่ว เขาทำเป็นเมินเฉย เหยียบศีรษะของผู้อาวุโสแห่งนิกายเขาหมอกลอยฟ้า
แม้เมื่อเขารู้ว่าเย่ว์หยางเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิด เย่ว์เยี่ยนก็ตัดสินใจไม่ตามราวีเจ้าเด็กนี่อีกต่อไป
ถ้าเย่ว์ชิวไม่กลับมา นำหลักฐานที่น่าเชื่อถือและด้วยการสนับสนุนจากนักสู้ปราณก่อกำเนิดอีกหลายคน เย่ว์เยี่ยนก็ยังไม่กล้าตามราวีกับเย่ว์หยางแน่นอน
สายตาของเย่ว์หยางตัวปลอมเปลี่ยนเป็นเย็นชา เมื่อเห็นเย่ว์หยางระเบิดแรงอัดจนเย่ว์เยี่ยนและเย่ว์เป่ากระเด็นออกไป ด้วยพลังจ้องมองเท่านั้น
มีแววอิจฉาปรากฏอยู่ในสายตาของเขา
เปรียบเทียบกันแล้ว นักสู้ระดับ 6 ขั้นสูงยังมิอาจเปรียบเทียบได้กับพลังปราณก่อกำเนิดของเย่ว์หยาง
เย่ว์หยางไม่สนใจกับเย่ว์เยี่ยนอีกต่อไป ขณะที่เขาเดินไปที่โต๊ะอย่างไม่รีบร้อน
เขาหยิบมีดเงินบนโต๊ะและสังเกตดู จากนั้นก็สูดดมเล็กน้อยเช่นกัน จากนั้นก็โยนมีดเงินลงบนพื้น เย่ว์ชิวตัวปลอมแสดงรอยยิ้มเย้ยหยันเต็มใบหน้า เขาพยายามหาร่องรอยบนมีดเงินหรือ? นั่นเป็นไปไม่ได้ เขารู้แน่ชัดว่าเย่ว์หยางคงจะสงสัยเรื่องนั้นแน่ ทว่าเขาเชื่อว่าเย่ว์หยางจะไม่มีทางเข้าใจกลอุบายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังแผนนี้
“ตลอดชีวิตของข้า, นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินว่า ข้าเป็นปีศาจ!” เย่ว์หยางล้วงมีดเงินทำลายดวงตาของเขาออกมา และกรีดลงบนนิ้วอย่างระมัดระวังและบีบให้เลือดหยดออกมา
เขาปล่อยลงเพียงหนึ่งหยด จากนั้นเขารีบเอานิ้วใส่ปากดูดเลือดให้กลับไปในตัวของเขา เหมือนกับว่าไม่เต็มใจจะเสียเลือดอีกต่อไป
เจ้าอ้วนไห่และคนอื่นๆทุกคนเข้ามาใกล้ มองดูผลสนองตอบในขวดด้วยความกังวลใจ
ตอนแรก ไม่มีผลสนองตอบภายในขวดเลยแม้แต่น้อย
เพียงขณะที่เจ้าอ้วนไห่และคนอื่นๆกำลังจะถอนหายใจด้วยความโล่งใจ ทันใดนั้น ขวดก็ระเบิด ทว่าไม่มีน้ำสักหยดไหลออกมา น้ำทั้งหมดเปลี่ยนเป็นไอน้ำ ไอสีขาวม้วนตัวลอยขึ้นข้างบน มองดูเหมือนปีศาจขาวเหาะลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า ทุกคนพูดไม่ออก ผลตอบสนองรุนแรงเกินไปมิใช่หรือ? เลือดของเจ้าเด็กนี่ให้ผลตอบสนองที่แข็งแกร่งรุนแรงมากกว่าฉือเหลียว ปีศาจนักสู้ปราณก่อกำเนิด เป็นไปได้ไหมว่าเจ้าเด็กนี่ เป็นระดับจอมมารปีศาจ?
“กลายเป็น.. กลายเป็น… กลายเป็นว่าเจ้าคือปีศาจจริงๆ ด้วย” เย่ว์เยี่ยนร่ำร้องออกมาอย่างใส่อารมณ์ ที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า เย่ว์หยางเป็นปีศาจ ก็หมายความว่าเขาชนะ!
“หุบปากซะ, ข้ายังทดสอบไม่เสร็จเลย..” เย่ว์หยางไม่สั่น ไม่ตื่นเต้น ทำเหมือนกับว่านี่เป็นเรื่องปกติ สีหน้าของเขายังคงสงบเรียบเฉย เหมือนกับว่าเขาไม่เคยเห็นขวดแตกเป็นเสี่ยงและน้ำกลายเป็นไอ
“ต่อให้เจ้าจะลองอีกครั้ง เจ้าก็ยังเป็นปีศาจอยู่ดี!” เย่ว์เป่าตื่นเต้นจนหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง เขาก็ยังหวังว่าจะเห็นความหายนะของเย่ว์หยาง
“พวกเจ้าทั้งสองคน มานี่, หยดเลือดลงในขวดนี้ พวกเจ้าก็ลองด้วยเช่นกัน!” เย่ว์หยางชี้ให้หลินเหมี่ยวและหลินเหล่ยหยดเลือดด้วย สีหน้าของเย่ว์ชิวตัวปลอมเปลี่ยนไปทันที และเย่ว์หยางตัวปลอมก็ห้ามเย่ว์หยางจากการกระทำเช่นนั้นทันที ด้วยเหตุผลว่าหลินเหมี่ยวและหลินเหล่ยมิใช่ลูกหลานของตระกูลเย่ว์ เย่ว์หยางหัวเราะอย่างเย็นชา “ไม่ใช่แค่เพียงพวกเขาหรอก ข้าต้องการให้พวกเจ้าทุกคนมาลองกันอีกสักครั้ง เจ้านึกหรือว่าเจ้าจะใช้อุบายตบตาข้าได้? เจ้าคิดหรือว่าเจ้าจะสามารถสร้างกับดักใช้กับข้าด้วยสมองไร้พัฒนาการของเจ้า?”
พอได้ยินน้ำเสียงมั่นใจของเย่ว์หยาง เจ้าอ้วนไห่ก็มีความมั่นใจเช่นกัน
เขาพอใจและหยดเลือดลงในขวดน้ำศักดิ์ด้านขวาทันที
ในที่สุดโชคไม่ดี เลือดของเขาแสดงผลออกมาว่าเป็นเลือดปีศาจ.. เจ้าอ้วนไห่จ้องมองตะลึง ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะลั่น “กลายเป็นว่าไม่ใช่แค่เพียงตระกูลเย่ว์เท่านั้น เลือดของตระกูลไห่ก็ปนเปื้อนด้วยเลือดปีศาจ ฮ่าฮ่าฮ่า นี่เป็นการแสดงตลกทดสอบเลือด พวกเจ้าจะให้ข้าหัวเราะจนตายใช่ไหม?”
เลือดของเย่คงก็ยังคงมีผลตอบสนองเหมือนกับเป็นเลือดปีศาจ
หลินเหมี่ยวและหลินเหล่ยกำลังสั่นด้วยความกลัวก็ยังแสดงผลออกมาเป็นเลือดปีศาจ
แม้แต่เลือดของพี่น้องตระกูลหลี่, องค์ชายเทียนหลัวและเสวี่ยทันหลาง ก็แสดงสัญญาณว่าเป็นเลือดปีศาจ.. ในตอนแรกเย่ว์เยี่ยนต้องการยืนยันว่าพวกเขาทุกคนเป็นปีศาจจริงๆ แต่พอองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก้าวเข้ามาและหยดเลือดทดสอบ และผลก็คือนางมีเลือดปีศาจที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพมาก เย่ว์เยี่ยนก็หุบปากทันใด เขาจะพูดว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนก็เป็นปีศาจได้หรือ? พระบิดาของนางคือจุนอู๋โหย่วฮ่องเต้ ถ้าเขากล่าวหาจักรพรรดิว่าเป็นปีศาจ จุนอู๋โหย่วคงตัดสินจองจำพวกเขาตลอดชีวิตแน่
ที่น่าแปลกใจที่สุดก็คือเย่ว์หยางหยดเลือดของเขาลงในขวดกลางต่อไป
ผลก็คือ – ระเบิดออกเป็นแสงสว่างเจิดจ้า
เป็นภาพงดงามเกินเปรียบเทียบ มีสีรุ้งอยู่ภายในแสงสว่าง
ผลเช่นนี้ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิงกับผลทดสอบเลือดของนักสู้ปีศาจฉือเหลียว จากนั้นหยิบมีดทำลายดวงตาออกมาและกรีดแผลเล็กๆ บนตัวของฮุยไท่หลาง เขาหยดเลือดบางส่วนลงในขวด กลับมีผลตอบสนองเป็นเลือดปีศาจอีกครั้ง
“สุนัขของข้าเติบโตโดยกินเนื้อของจ้าวปีศาจ หมาป่าปีศาจหลังเหล็กตัวนี้ ด้วยเปลวเพลิงและคุณสมบัติโลหะดำแสดงผลตอบสนองที่เหมือนกันกับเลือดของฉือเหลียว” คำพูดของเย่ว์หยางทำให้เจ้าอ้วนไห่ระเบิดเสียงหัวเราะ เพราะเย่ว์หยางเปรียบเทียบฉือเหลียวกับสุนัขโดยไม่ได้ตั้งใจ นักสู้ปราณก่อกำเนิดเผ่าปีศาจฉือเหลียวโกรธทันทีเมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น และเขาจ้องมองเย่ว์หยางอย่างโกรธแค้น เย่ว์หยางไม่สนใจเขาและชี้ไปที่เย่ว์ชิวตัวปลอม, เย่ว์หยางตัวปลอมและเย่ว์เยี่ยนแทน “พวกเจ้าสามารถทดสอบเลือดเจ้าดูอีกครั้งไหมเล่า? ถ้าครั้งนี้ เลือดของเจ้ามีผลตอบสนองเหมือนกับสุนัขของข้า, ข้าก็เสียใจด้วย พวกเจ้าจะต้องอธิบายเหตุผลต่อหน้าทุกคนที่นี่ เจ้าพูดว่าเลือดของเจ้าเป็นเลือดบริสุทธิ์ของทายาทตระกูลเย่ว์ไม่ใช่หรือ? ท่านสุภาพบุรุษที่รัก, ท่านยังจะรออะไรอีก? ขึ้นมาตรงนี้ มาทดสอบเร็วๆ ทุกคนจะได้เห็นในไม่ช้าว่าผู้ใดเป็นปีศาจตัวจริง ผู้ใดเป็นทายาทตระกูลเย่ว์ตัวจริง…”
เย่ว์ชิวและเย่ว์หยางตัวปลอมตะลึงจ้องมองเย่ว์หยาง พวกเขารู้ว่าเย่ว์หยางคงไม่โต้ตอบพวกเขาจนล้มคว่ำได้ง่ายๆ แต่พวกเขาไม่เคยคิดว่าการตอบโต้กลับของเย่ว์หยางจะแหลมคมขนาดนี้
พวกเขาสามารถปฏิเสธได้ต่อหน้าพยานทั้งหมดหรือ?
ถ้าพวกเขาจะทดสอบจริงๆ อย่างนั้นพวกเขาจะสามารถปกปิดความจริงจากนักสู้ปราณก่อกำเนิดเหล่านี้ได้อย่างไร?
**************