===============
ดาวระเบิดสะท้านฟ้าสะเทือนดิน
ปราสาทตระกูลเย่ว์สั่นสะเทือนจากแรงระเบิด บริเวณด้านหน้าปราสาทแยกออกจากกัน ดินพังทลายจนเป็นรอยแยก หลุมขนาดกว้างกว่าสิบเมตรลึกประมาณ 2-3 เมตรปรากฏอยู่ตรงตำแหน่งที่ตวนมู่หลงเฉิงเพิ่งยืนอยู่ ถนนที่ทอดยาวก่อนหน้านี้ถูกทำลายราบ ที่จุดศูนย์กลางระเบิด ตวนมู่หลงเฉิงหายไป ไม่แน่ชัดว่าเขาเป็นหรือตาย ยักษ์ทองอสูรเพชรระดับ 9 ที่อยู่ใกล้ระเบิดตัวชุ่มด้วยเลือดทั้งหมด ชุดของมันฉีกขาดรุ่งริ่ง ดูเหมือนว่ามันจะได้รับบาดเจ็บรุนแรง
มันกำดาบยาวสีทองขวางอยู่ระดับอก ดาบของมันยังสั่นจากแรงโจมตี
ความจริงอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่ดูคล้ายจักรพรรดิใช้ปราณกระบี่มาเสริมพลังป้องกันและป้องกันตัวเองจากแรงทำลายล้างของระเบิดดวงดาว
แม้ว่ามันจะยืนอยู่ห่างจากศูนย์กลางระเบิดและร่างของมันนั้นมีพลังป้องกันที่สูงมากของอสูรชั้นเพชรระดับ 9 ก็ตาม เย่ว์หยางค่อนข้างทึ่งมากที่มันสามารถทนต่อแรงกระแทกของสนามพลังระเบิดดวงดาวได้
นอกจากฮุยไท่หลางและปีศาจดอกหนามแล้ว สัตว์อสูรที่อยู่บนพื้นทั้งหมดถูกแรงอัดกระแทกกระเด็นออกไป หรือไม่ก็หลบออกไปอยู่ห่างไกลหลายร้อยเมตร
ก่อนหน้าที่เทียนฉวนจะถูกระเบิดดวงดาวของเย่ว์หยางทำลาย สัตว์อสูรอัญเชิญของเขาทั้งหมดพากันทิ้งเขาแล้วหนีไป
กริฟฟินพายุ อสูรชั้นทองระดับ 7 ตายคาที่ มันเป็นอสูรพิทักษ์ของเทียนฉวนและยังเป็นอสูรเพียงตัวเดียวที่ไม่หักหลังเทียนฉวน จ้าวมังกรบินหงอนแดง อสูรทองระดับ 7, ค้างคาวยักษ์ อสูรทองระดับ 6, และฮาร์ปี้ อสูรทองระดับ 6 บินอยู่ในท้องฟ้าทั้งหมด ทำให้พวกมันหลบพ้นจากแรงอัดกระแทกจากระเบิดดวงดาวได้
เย่ว์หยางเริ่มตีโต้
นางพญากระหายเลือดพุ่งลงมาจากในท้องฟ้า
นางใช้พลังเสียงหวีดโจมตี ค้างคาวยักษ์มีประสาทรับเสียงที่แหลมคมหมดสติทันที ควงสว่านร่วงตกลงมาบนพื้น
มังกรบินยักษ์หงอนแดงกระพือปีกอย่างหมดท่า พยายามสุดกำลังเพื่อสลัดให้พ้นปีศาจดอกหนามที่อยู่ข้างหลังมัน
ฮาร์ปี้บินได้เร็วที่สุด
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่านางจะเร็วขนาดไหนก็เป็นเพียงความสามารถที่ไร้ผลยามอยู่ต่อหน้าเสี่ยวเหวินหลี
เสี่ยวเหวินหลีปล่อยโซ่ล่องหนของเธอและใช้ดาบน้ำแข็งฟันด้วย ทำให้หัวฮาร์ปี้ขาดปลิวกระเด็นในอากาศ บนภาคพื้น โคเงาอาหมันและฮุยไท่หลางเริ่มแข่งกันฆ่า อาหมันสู้กับไฮดร้าเพลิง ขณะที่ฮุยไท่หลางจับคู่สู้กับเซอเบอรัส มีเพียงตั๊กแตนมรณะที่ระดับของมันได้แต่สู้กับมังกรบินแม็กม่าอย่างลำบาก อย่างไรก็ตาม เมื่อมังกรบินแม็กม่าเห็นตั๊กแตนมรณะ มันหมุนตัวแล้วเผ่นทันที ตั๊กแตนมรณะมักจะเป็นศัตรูคู่อาฆาตของเผ่ามังกรเสมอ แม้แต่มังกรกระดูกขาว, มังกรแดงที่เหี้ยมโหด, มังกรดำนรกทั้งหมดจะรีบเผ่นหนีเมื่อพวกมันเห็นตั๊กแตนมรณะ มังกรบินแม็กม่ายังจะมีโอกาสต่อต้านด้วยหรือ?
ลาวายักษ์เข้ามาช่วยมังกรบินแม็กม่า แต่ความเร็วของมันช้าเกินไป
แม่มดเพลิงถือแส้เพลิงในมือเตรียมจะหวดใส่โคเงาผู้อยู่ใกล้ แส้เพลิงยาวม้วนลงมาจากฟ้า หวดใส่ร่างอาหมัน
นางพญากระหายเลือดก็มีทักษะแส้เพลิงด้วยเช่นกัน แม้ว่านางยังใช้ได้ไม่ดีเท่ากับคลื่อนเสียงหวีด แต่ก็ยังนับว่าเป็นทักษะที่แข็งแกร่ง
นางถือทั้งมีดทองฆ่ามังกรและมีดเงินทำลายดวงตาในมือ ทันใดนั้นนางฆ่าค้างคาวยักษ์ที่หมดสติร่วงลงมาและบาดเจ็บหนัก
เป้าหมายต่อไปของนางคือแม่มดเพลิง
ลาวายักษ์เงื้อหมัดเพลิงของมันและเตรียมทุบใส่ฮุยไท่หลางที่กำลังกัดเซอเบอรัสเต็มแรง ทว่ายังมิทันที่ลาวายักษ์จะรู้ตัว อสูรทองน้อยก็กระโจนใส่หัวของมัน มันไม่กลัวไฟไหม้อยู่แล้วจึงขุดตัวลึกลงไป
แม้แต่ร่างของจ้าวอัคนีซึ่งประกอบจากหินอัคนี แข็งยอดเยี่ยมที่สุดในโลกยังไม่สามารถทนอสูรทองน้อยนี้ได้
เห็นได้ชัดว่า ลาวายักษ์มีแต่ลาวาและแม็กม่าป้องกันตัวก็ย่อมไม่มีโอกาส
อีกด้านหนึ่ง หลังจากถูกกัด 2-3 ครั้ง ฮุยไท่หลางระเบิดพลังออกมาด้วยความโกรธในที่สุด ปราณปีศาจของมันระเบิดออกมาเปลี่ยนจากอสูรทองแดงระดับ 3 กลายเป็นอสูรแพลตตินัมระดับ 5 ก่อนหน้านั้นมันเกียจคร้านเกินไปที่จะสู้เต็มกำลัง มันคงรู้ว่าจะถูกเซอเบอรัสรังแกแทนแน่ๆ มันจึงโกรธ เพลิงนรกสีดำของมันลุกโชนพุ่งขึ้นท้องฟ้าขณะที่ปราณปีศาจของมันระเบิดออก ตอนแรกเซอเบอรัสยังกัดฮุยไท่หลางได้ง่ายดายและสร้างบาดแผลให้มันหลายแผล แต่เมื่อฮุยไท่หลางยกระดับพลังเป็นอสูรชั้นแพลตตินัมระดับ 5 ฟันในปากทั้งหมดในปากทั้งสามหัวก็หักหมดทันที ไม่สามารถทนความแข็งแกร่งของเนื้อของฮุยไท่หลางได้
ฟันแหลมคมของมันไม่มีโอกาสผ่านพลังป้องกันของฮุยไท่หลางได้
นี่คือวิชาป้องกันที่เย่ว์หยางสอนให้ฮุยไท่หลาง มันเกิดมาจากหนึ่งในวิชาต่อสู้ระดับต่ำที่สุด ก็คือวิชาค้อนทุบศิลานั่นเอง
เย่ว์หยางดัดแปลงเล็กน้อย เปลี่ยนจากท่ารุกเป็นท่ารับแทน
ใช้ปราณหุ้มตลอดทั้งตัว ฮุยไท่หลางจะสร้างปราณของมันให้เป็นค้อนได้ เมื่อใดก็ตามที่ศัตรูของมันพยายามโจมตีมัน และทุบใส่ศัตรูของมันแทน นี่คือความต้องการของเย่ว์หยาง.. แต่แน่นอนว่า ฮุยไท่หลางยังไม่สามารถทำได้ถึงในระดับนี้
มันสามารถรวมปราณปีศาจเข้ากับธาตุองค์ประกอบในร่างของมันและโคจรปราณนั้นไปตลอดทั้งร่างของมัน ทันทีที่มันถูกศัตรูโจมตี มันจะเสริมพลังเฉพาะส่วนผิวหนังที่ถูกโจมตีได้ทันที จากนั้นใช้ปราณปีศาจโจมตีศัตรูกลับคืน
แม้ว่ามันจะยังไม่ถึงระดับผลที่เย่ว์หยางต้องการให้มันทำได้ แต่ก็เหลือเฟือสำหรับหยุดการโจมตีของเซอเบอรัส
ฮุยไท่หลางที่เพิ่มระดับพลังเป็นอสูรแพลตตินัมระดับ 5 ทั้งยังเพิ่มพลังรุกและรับได้อีกมาก
ด้วยการตะกุยเพียงครั้งเดียว มันก็ฉีกอกของเซอเบอรัสจนเปิด ขณะที่คมเขี้ยวของมันฝังลงที่หัวซ้ายของเซอเบอรัสและกระชากขาดออกมา เซอเบอรัสสามหัวกลายเป็นเซอเบอรัสสองหัวทันที มันกลิ้งกับพื้นร้องครวญครางเจ็บปวด ฮุยไท่หลางไม่มีความปราณีให้มันและใช้กรงเล็บตรึงมันไว้และกัดใส่อย่างไม่ปราณีเปลี่ยนสภาพมันจนกลายเป็นอาหาร มันตะกุยเลือดเนื้อเพื่อหาผลึกปีศาจแล้วกลืนลงไปทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ผู้เอาชนะการต่อสู้ได้เร็วที่สุด เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ฮุยไท่หลาง
กลับเป็นเสี่ยวเหวินหลีผู้สามารถฆ่าคู่ต่อสู้ของเธอภายในท่าเดียว, โคเงาอาหมันปล่อยพลังเนตรประหารฆ่าไฮดร้าเพลิงตายทันที แม้แต่นักสู้ปราณก่อกำเนิดชาวเผ่าปีศาจฉือเหลียวผู้เหลืออยู่แต่หัวซ่อนตัวอยู่ในโล่พลังก็ยังพลอยถูกฆ่าด้วยกระบวนการนี้ไปด้วย
เป็นเนตรโลหิตประหารซ้ำสอง เมื่อเนตรประหารถูกใช้งาน มีความน่าจะเป็นเล็กน้อยทำให้เนตรโลหิตประหารซ้ำสองทำงานไปด้วย ส่งผลให้พลอยสังหารศัตรูที่อยู่ใกล้ไปด้วย
ก่อนหน้านี้ในวิหารคนโทน้ำ อาหมันเคยใช้เนตรประหารซ้ำสองฆ่าองครักษ์พิทักษ์วิหารคณโฑน้ำและเทพธิดาอสูร ถ้าไม่ใช่เพราะเย่ว์หยางมีโชคดีที่อาหมันใช้พลังเนตรโลหิตประหารซ้ำสองโดยบังเอิญ เย่ว์หยางจะไม่มีทางผ่านด่านวิหารคนโทน้ำได้เลย ตอนนี้ โชคของเย่ว์หยางกลับคืนมาอีกครั้ง ฉือเหลียวซ่อนตัวอยู่หลังโล่พลังของคัมภีร์และคิดว่าตนเองปลอดภัย กลับถูกฆ่าโดยเนตรโลหิตประหารซ้ำสอง เพราะอสูรของเขาตายด้วยพลังเนตรประหาร…
ทันทีที่ฉือเหลียวตาย อสูรของเขาก็ระเบิดทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ก็มีแค่เพียงมังกรบินแม็กม่าและยักษ์ลาวา
แม่มดเพลิงถูกเสียบศีรษะโดยมีดทองฆ่ามังกรและตายเช่นกัน ขณะที่เซอเบอรัส ก็ถูกฮุยไท่หลางกินผลึกเวทกลืนลงท้อง มันเรออยู่ 2-3 ครั้ง
อสูรของเย่ว์หยางไม่เพียงแต่ดีกว่าในเรื่องของความเร็วและความสามารถเท่านั้น การอยู่ภายใต้ใบบุญของเย่ว์หยางทำให้พวกเขาเรียนรู้วิธีสู้เพื่อฆ่าและเพื่อส่วนแบ่งด้วย
ทุกประการต้องทำให้รวดเร็ว มิฉะนั้นก็มีแต่ของเหลือให้คนอื่น
ในสภาพที่น่ากลัวแบบนี้ซึ่งแย่ยิ่งกว่านรก อสูรของเย่ว์หยางต้องเรียนรู้วิธีฆ่าให้เร็ว
อาจกล่าวได้ว่าในปัจจุบันนี้ อสูรที่ฆ่าศัตรูได้ช้าที่สุดตอนนี้ก็คือตั๊กแตนมรณะ ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องความเร็วสูง ความคล่องตัวและความร้ายกาจของมัน
ตวนมู่หลงเฉิงหายไปแล้ว เย่ว์หยางยังคงยืนเงียบอยู่ในกลางพื้นที่ต่อสู้
ด้วยทักษะญาณทิพย์ระดับ 5 ของเขา เขากวาดสายตาไปรอบๆ
“เจ้านั่นหนีได้ไวจริงๆ!” เย่ว์หยางตระหนักว่าตวนมู่หลงเฉิงผู้ซ่อนตัวได้แอบหนีไปบริเวณเชิงเขา เจ้าผู้นั้นไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อย เขาหลบหนีไปทันทีที่เขาเห็นสหายตาย เย่ว์หยางยังคงพบว่าผู้ซ่อนตัวอีกคนหนึ่งเคลื่อนไหวเล็กน้อย เย่ว์หยางไม่สามารถเห็นความเคลื่อนไหวของเขาด้วยจักษุญาณทิพย์ได้ แต่เขามั่นใจว่าเจ้าผู้นี้ความจริงก็คือเหยี่อที่ตวนมู่หลงเฉิงวางไว้เพื่อฆ่าเขา
ในที่ห่างไกลออกไป ดวงไฟกลมสองดวงส่องแสงสว่างจ้าเหมือนดวงดาวกำลังกวดไล่กันและกัน
นั่นก็คือนางเซียนหงส์ฟ้าและซุ่นเทียนกำลังต่อสู้กัน
ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในสถานการณ์ระหว่างสองคนนั้นในตอนนี้ พวกเขาเพียงหาจุดอ่อนของกันและกันอยู่ ถ้าเพียงแต่คนใดคนหนึ่งพบจุดอ่อนของอีกฝ่ายได้ ก็หมายถึงจุดเปลี่ยนของการต่อสู้ครั้งนี้
สำหรับเซียนนักพรตและบัณฑิตวัยกลางคนกับองครักษ์พิทักษ์ฟ้าทั้งสองของอาณาจักรสือจิน ทั้งสี่คนร่วมกันต่อสู้ในการต่อสู้ที่ร้อนแรงจนถึงจุดที่เย่ว์หยางไม่สามารถเห็นถึงจุดพื้นที่ๆ เขาหายต่อไปได้
ในท้องฟ้า เสี่ยวเหวินหลีเหวี่ยงเจ้ายักษ์ทองลงได้ จากนั้นแปลงเป็นสายรุ้งกลับเข้าไปในร่างของเย่ว์หยาง
ทันใดนั้น เย่ว์หยางเทเลพอร์ตไล่ตามตวนมู่หลงเฉิงผู้กำลังซ่อนตัวอยู่
นางพญากระหายเลือด, ปีศาจดอกหนาม, อสูรทองน้อย, ตั๊กแตนมรณะรับหน้าที่ต่อจากเสี่ยวเหวินหลีและร่วมต่อสู้กับยักษ์ทองอสูรเพชรระดับ 9 ต่อ บนภาคพื้น ฮุยไท่หลาง, โคเงาอาหมันทุ่มเทพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาเตะร่างยักษ์ของมันกลับขึ้นไปสู่ท้องฟ้า อสูรทองน้อยร่วมมือกับนางพญากระหายเลือดและอสูรอื่นโจมตีกระหนาบยักษ์ทองทั้งจากข้างบนและข้างล่าง… ขณะที่ศัตรูของพวกเขาเป็นอสูรพิทักษ์ ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะฆ่ามัน ดังนั้น นางพญากระหายเลือดและฮุยไท่หลางเพีงแต่จู่โจมรบกวนมัน ถ่วงเวลาไว้เพื่อที่ว่ายักษ์ทองตัวนั้นจะได้ไม่รบกวนการต่อสู้ของเย่ว์หยาง พวกเขาไม่ได้ทำเพื่อฆ่าเหมือนตามปกติ
ขณะที่เย่ว์หยางไล่ตามจับตวนมู่หลงเฉิง จู่ๆ เขาก็หัวเราะออกมาทันที
เสียงหัวเราะของเขาน่ากลัวมาก
เหมือนกับว่าแผนร้ายของเขาสัมฤทธิ์ผลแล้ว ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความพอใจในผลสำเร็จ
เขาใช้สนามพลัง “อ่อนแอ” ของเขาเป็นครั้งที่สองและทักษะเร่งความเร็วฉับพลันพร้อมกัน ปล่อยหมัดใส่เย่ว์หยาง
“เจ้าเสร็จแน่!”
นัยน์ตาของตวนมู่หลงเฉิงเปล่งประกายอำมหิต มีสีหน้าเย็นชาขณะที่หมัดของเขาพุ่งใส่ราวกับดาวตกเป้าหมายคือที่อกของเย่ว์หยาง เย่ว์หยางต้องการหลบตั้งแต่แรก แม้เมื่อเผชิญหน้ากับทักษะเพิ่มความเร็วฉับพลับของตวนมู่หลงเฉิง เขาก็มั่นใจว่าจะหลบหมัดได้แน่นอน ทว่าตอนนี้ มีเงาที่น่ากลัวปรากฏอยู่ที่ด้านหลังเย่ว์หยางโดยไร้เสียง มือที่มีกรงเล็บผีขนาดยักษ์จับด้านหลังศีรษะของเย่ว์หยางทันที
พลังประหลาดที่ให้ความรู้สึกเหมือนโซ่ล่องหน แต่แตกต่างเล็กน้อยคือกักความเคลื่อนไหวของเย่ว์หยางไว้