===============
หลังจากผ่านด่านเทวสถานโลก เย่ว์หยางได้รับมุกทลายภาคพื้น อย่างไรก็ตาม ก็ยังเป็นของปลอมอยู่ดี
มุกทลายภาคพื้น (ปลอม) : ผู้ใช้สามารถทำให้แผ่นดินไหวรุนแรงในระยะร้อยเมตรและทำลายสิ่งก่อสร้างบนภาคพื้นทั้งหมด ข้อจำกัดใช้ได้เพียงครั้งเดียว
หลังจากอ่านแล้ว เย่ว์หยางพูดไม่ออก
หลังจากฆ่าอสูรแข็งแกร่งไม่น้อยกว่าพันตัว เย่ว์หยางได้แค่มุกทลายภาคพื้นที่เหมือนสินค้าคิดเกินราคามาชิ้นหนึ่ง ใครกันที่จัดเตรียมรางวัลบ้าๆ แบบนี้? แถมเป็นของเทียม ก็ยังดีที่มันใช้ได้ครั้งหนึ่ง ว่าแต่นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ถ้ามีโทรศัพท์ เย่ว์หยางคงจะยื่นเรื่องร้องเรียนแน่.. เย่ว์หยางคาดว่าทันทีที่เขาไปถึงเทวสถานฟ้า รางวัลผ่านด่านก็คงเป็นของประเภทมุขแยกฟ้าเทียม เทวสถานสามโลกนี้ไม่เพียงยากจะท้าทายเท่านั้น แต่รางวัลของเทวสถานเหล่านี้ยังน้อยเกินไป เทียบกับวิหารสิบสองนักษัตรแล้ว นี่เป็นการแข่งขันที่ขี้เหนียวที่สุด
เมื่อเย่ว์หยางเทเลพอร์ตไปด่านที่สาม เทวสถานฟ้า เขาเกือบจะร่วงลงไปในตอนแรก
เทวสถานฟ้าไม่เหมือนเทวสถานดินและเทวสถานมนุษย์ ที่มีอสูรถึงสามประเภท คืออสูรบนฟ้า, อสูรภาคพื้นดินและอสูรในน้ำ
ในนั้นมีพื้นที่อยู่เพียงสองชนิด
มีเพียงอสูรจากท้องฟ้าและจากแดนปีศาจ
ภูมิประเทศเป็นเช่นกับแดนปีศาจ เต็มไปด้วยหนองน้ำและบ่อเลือด ภายในบ่อเลือด มีมังกรบึงปีศาจอยู่กันขวักไขว่ ลักษณะของมันคล้ายกับงูเหลือม รูปลักษณ์ภายนอกคล้ายกับไฮดร้าเก้าหัว เพียงแต่ไม่มีแขนขา พวกมันมีครีบอยู่บนหลังและว่ายน้ำได้คล่องแคล่ว พวกมันไม่มีกรงเล็บ มีแต่ร่างกายบางและหัวโต นัยน์ตาเขียว ปากแดงราวกับโลหิตของมันคล้ายปากงู พอมองตรงๆ เห็นว่ามีพวกมันอยู่ราวๆ สามสิบ และทั้งหมดคืออสูรชั้นทองระดับ 5
มังกรบินที่หนังเหี่ยวและเน่ายึดโขดหินแปลกประหลาดที่ยื่นโผล่ออกมาตรงกลางบ่อเลือดแดนปีศาจ ร่างของมันปกคลุมไปด้วยพิษดำ และมีจำนวนถึง 20 และพวกมันเป็นอสูรชั้นทองระดับ 5
ตรงท้ายบ่อเลือด มีปีศาจยักษ์และตัวสูง ความสูงของมันประมาณห้าเมตร พวกมันถือเคียวโลหิตอยู่ในมือ
พวกมันคล้ายกับจ้าวปีศาจ แต่พวกมันไม่ใช่พวกเดียวกัน
พวกมันยังคงเป็นอสูรทองระดับ 5 และมีอยู่ 6 ตน
ในบรรดาพวกนี้ หัวหน้าปีศาจดูเหมือนจะปลดข้อจำกัดปัญญาแล้วและเป็นอสูรชั้นทองระดับ 6
ปีศาจทั้งหมดนี้เพียงแต่มาจากพื้นที่เหมือนแดนปีศาจ ในท้องฟ้าด้านบนเต็มไปด้วยเมฆขาวและแสงรัศมีที่ฉายออกมาสดใส แต่เบื้องหลังเมฆ มนุษย์วิหคสวมชุดขาวยาวถือธนู คทาหรือดาบอยู่ในมือลอยไปลอยมา
ผู้บัญชาการของพวกเขาสวมชุดยาวขาวมือถือพิณเงิน (ฮาร์ป) เมื่อเขาดีดพิณก็เกิดเสียงไพเราะ เหมือนกับว่ามีคนคอยร้องเพลงคลอตาม อย่างไรก็ตาม เย่ว์หยางไม่เข้าใจสิ่งที่เขาได้ยิน
นอกจากมีปีกข้างหลังแล้ว ใบหน้าของมนุษย์วิหคเหล่านี้ไม่แตกต่างจากมนุษย์เลย
สิ่งเดียวที่แตกต่างก็คือทุกตนสวมพวงดอกไม้บนศีรษะเป็นเครื่องประดับ สำหรับการแต่งกายของพวกเขาเย่ว์หยางไม่กล้าวิจารณ์ ดูเหมือนมนุษย์วิหคที่สวมชุดยาวขาวสวมหมวกเขียว พวกเขาสวมมันอย่างเป็นธรรมชาติและมีความสุข (สำนวนจีนสวมหมวกเขียวหมายถึงภรรยามีชู้) เย่ว์หยางรู้สึกเหงื่อเย็นเยียบหลั่งไหลที่หลังของเขา นี่มันอะไรกัน? มนุษย์วิหคและปีศาจอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข ทำไมพวกเขาไม่สู้กันเองเล่า?
ขณะที่เย่ว์หยางยืนตะลึงและทำอะไรไม่ถูก หัวหน้าปีศาจก็เข้ามาทันที
เขาพูดอะไรบางอย่าง
เย่ว์หยางรู้ว่าเป็นภาษาปีศาจ แต่เขาไม่สามารถเข้าใจได้
ความจริงเย่ว์หยางก็พอทำความเข้าใจภาษาปีศาจทั่วไปที่แตกต่างถึงสามภาษาได้ นอกจากนี้เขายังพอเข้าใจอ่านได้สองภาษา และเขียนได้อีกหนึ่งภาษา นี่เป็นผลมาจากการเรียนรู้ด้วยพลังความทรงจำที่เพิ่มขึ้นของเขา ถ้าไม่ถูกจำกัดด้วยเรื่องเวลา เขาคงเรียนได้มากกว่านี้
อย่างไรก็ตาม เขาไม่เคยได้ยินภาษาปีศาจนี้มาก่อน
โชคดีที่เขามีนางพญากระหายเลือดหงและนางเป็นล่ามที่มีคุณภาพเสียด้วย “ปีศาจนี้บอกว่าพวกเขาถูกผนึกอยู่ในพื้นที่นี้มานานแล้ว และไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้ ถ้าเราช่วยให้พวกเขาไปจากที่นี่ได้ เขาจะให้มุกดูดเลือดเป็นรางวัลแก่เรา เขายังขอให้เราร่วมมือกับพวกเขาบินขึ้นไปในท้องฟ้า และโค่นมนุษย์วิหคทุกคนและกำจัดพวกเขาให้หมด ถ้าเราเลือกจะเป็นกลางไม่ยอมร่วมกับฝ่ายไหนรบ เขาจะปล่อยให้เรากลับไปวงกลมเทเลพอร์ตอนุญาตให้เราจากไปได้”
ขณะที่มนุษย์วิหคชุดขาวถือพิณบินลงมาจากท้องฟ้าอย่างสง่างาม เขาใช้ภาษาชาวทวีปมังกรทะยาน พูดด้วยความเย่อหยิ่งเหลือเกินว่า “นักรบมนุษย์ผู้รวนเร ข้าขอเตือนเจ้า เจ้ากำลังตกลงไปในแดนอเวจีอันชั่วร้าย.. คนหนุ่มอยู่ใกล้พวกปีศาจย่อมไม่ใช่เรื่องดี จงรีบตื่นมาพบกับความจริงและอยู่ห่างจากปีศาจซะ กลับมาอยู่ในร่มเงาของความยุติธรรมซะ… เอ๊ะ, อสูรของเจ้า ดูเหมือนพวกมันเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์หรือ?”
พอเห็นว่าเย่ว์หยางมีอสูรศักดิ์สิทธิ์ มนุษย์วิหคชุดขาว ทัศนคติของมนุษย์วิหคชุดขาวดีขึ้นเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังคงหยิ่งมากอยู่ดี มองดูเย่ว์หยางเหมือนกับเห็นเป็นคนธรรมดา ทำเหมือนกับว่าเขาเป็นชาวเมืองผู้สูงศักดิ์กำลังมองดูเศรษฐีบ้านนอก
ในช่วงเวลาสั้นๆ เขามีความหยิ่งลึกจนถึงกระดูกเสียแล้ว
“ถ้าเพียงแต่ความสามารถของเราไม่ถูกปิดผนึก เราเทวดาชั้นสูงมีเกียรติผู้ลงมาจากแดนสวรรค์ ไม่น่าจะถูกจำกัดอยู่ในสถานที่สกปรกและคับแคบอย่างนี้ นักรบชาวมนุษย์, ข้าจะมอบโอกาสรุ่งโรจน์ให้เจ้า, ให้คงอยู่ผ่านไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลานถึงสิบแปดชั่วคน มาร่วมมือกับเราช่วยกันตัดหัวปีศาจเหล่านี้และช่วยเรากำจัดผนึกบนร่างของเรา ถ้าเรากู้คืนอิสรภาพได้และกลับไปแดนสวรรค์ ข้าจะให้โอกาสเจ้าได้มีโอกาสรับใช้พระเจ้า และนำเจ้าไปยังดินแดนสวรรค์ซึ่งมีความสุขนิรันดร์กาลและมีพรอีกมากมาย” หลังจากมนุษย์วิหคผู้ถือพิณพูดจบ เย่ว์หยางก็ยิ้ม
ยิ้มของเขาสดใสมากยิ่งกว่าดวงอาทิตย์
ในรอยยิ้มของเขาแฝงด้วยรังสีฆ่าฟันที่เยือกเย็น อย่างไรก็ตาม หน้าของเขาไม่ได้เผยมันออกมาเลย
ทักษะแฝงเร้นอำพรางของเขาแสดงพลังสูงสุดในขณะนั้นทันที อย่าว่าแต่มนุษย์วิหคชุดขาวหรือหัวหน้าปีศาจ แม้แต่เย่ว์หยางก็ชื่นชมตัวเองอยู่บ้าง นักแสดงที่ยอดเยี่ยมรางวัลออสการ์ พวกเขาไม่มีอะไรมากต่อหน้าคนที่มีทักษะลวงที่ทรงพลัง
เย่ว์หยางถามทั้งยิ้มกว้างเต็มใบหน้า “ก่อนที่ข้าจะตัดสินใจ ข้าอยากถามคำถามพวกเจ้าสักสองข้อ ทำไมถึงไม่มีการต่อสู้ระหว่างพวกเจ้าทั้งคู่?”
มนุษย์วิหคชุดขาวถือพิณโกรธพลางตวาดใส่เย่ว์หยาง “เจ้ามนุษย์ผู้โง่เขลา, เจ้าเอาพวกเราเทวดาชั้นสูงผู้มีเกียรติไปเทียบอยู่ในระดับเดียวกับปีศาจ นี่คือคำระคายหูที่สุด อัปยศที่สุดเท่าที่ข้าเคยได้ยิน”
ในทางตรงกันข้าม หัวหน้าปีศาจหัวเราะเย็นชา “หยุดทำตัวของเจ้าเป็นเหมือนหญิงแพศยาเสียที เจ้าสุนัขน่ารังเกียจ เจ้าถูกผนึกที่นี่มาเป็นเวลานานแล้ว เท่าที่ข้าจำได้ก็เกินพันปีแล้ว ข้าสังหารมนุษย์วิหคโง่เง่าอย่างเจ้ามามาก แม้ว่าจะมีพวกเจ้าคนใหม่โผล่ออกมาอีกก็ตาม อย่างไรก็ตาม ใบหน้าที่น่าขยะแขยงของพวกเจ้าทำให้ข้าอยากฆ่าพวกเจ้าจนทนไม่ไหวแล้ว”
หัวหน้าปีศาจพุ่งตรงเข้าหาเขาและเงื้อเคียวโลหิต เขาสับลงเต็มแรง
พวกเห็นมนุษย์วิหคชุดขาวนี้ถือพิณกระพือปีกทันที และหลบหลีกรวดเร็วและบินขึ้นไปบนฟ้า
เขาหัวเราะเยือกเย็น “เจ้าพวกชีวิตโสมม ต้องการโจมตีข้างั้นหรือ?” ขนปีกสีขาวขนเดียวบนร่างข้ามีค่ามากกว่าตัวพวกเจ้าทั้งหมดเป็นร้อยเท่า ถ้าเจ้ามีฝีมืออย่างนั้นก็บินขึ้นมาสู้กับข้า”
“ถ้าข้าไม่ถูกผูกติดกับข้อจำกัดแล้ว แก..เจ้ามนุษย์วิหคอย่านึกนะว่าจะหนีข้าพ้น” หัวหน้าปีศาจกระทืบเท้าด้วยความรังเกียจ ถึงกับทำให้บ่อเลือดกระเพื่อม
“ข้าเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่เพิ่มขึ้นแล้ว หมายความว่าไม่ว่าข้าจะร่วมกับฝ่ายไหน ตราบใดที่ข้าเอาชนะศัตรูได้ อย่างนั้นข้าถึงจะสามารถรับรางวัลของข้างนั้น รางวัลจากฝ่ายปีศาจคือมุกดูดเลือด แต่จากชื่อของมัน ฟังดูเหมือนกับของที่ไร้ค่า ข้างฝ่ายของมนุษย์วิหค ข้าจะได้เป็นผู้รับใช้พระเจ้าเป็นรางวัล แต่บอกตามตรง ข้าไม่สนใจเป็นผู้รับใช้ใคร..” เย่ว์หยางยังพูดไม่จบเมื่อมนุษย์วิหคชุดขาวถือพิณ คำรามอย่างโกรธเคืองใส่เย่ว์หยาง “อะไรนะ? เจ้ามนุษย์ผู้เหลวไหล ผู้มีชีวิตชั้นต่ำเหมือนมด เจ้าปากพล่อยอย่างคาดไม่ถึงทำให้เราเหล่าเทวดาต้องอับอาย ข้าจะบอกเจ้าก็ได้ มนุษย์ผู้โง่เขลา เจ้าจะต้องถูกลงทัณฑ์อย่างหนักที่สุดเช่นเดียวกับที่ทำให้เทพเจ้าพิโรธ ข้าขอสั่งเจ้า คลานมาที่แทบเท้าข้าและกราบข้าเดี๋ยวนี้ ขอให้ข้ายกโทษให้ หรือจะให้ข้าโกรธและใช้แสงเทพบังคับให้เจ้าขออภัย”
“ก็ได้ เดิมทีข้าคิดว่าจะยอมให้เจ้าได้มีชีวิตนานขึ้นอีกนิด” เย่ว์หยางต้องการเข้าใจเรื่องราวในแดนสวรรค์เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ามนุษย์วิหคชุดขาวที่อยู่ต่อหน้าเขาเป็นคนที่ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา
แม้เขาครอบครองอสูรศักดิ์สิทธิ์ เขาบังอาจทำหยิ่งใส่เขาได้อย่างไร?
ความจริงเย่ว์หยางไม่รู้ว่าพวกมนุษย์วิหคมีนิสัยเย่อหยิ่ง หรือสมองกลวงอยู่แล้ว
นางพญากระหายเลือดหงต้องการจะฆ่ามนุษย์วิหคชุดขาวเมื่อครู่ที่ผ่านมา เจ้าคนเลวนี่กล้าพูดไม่ดีกับเจ้านายนาง
อย่าว่าแต่มนุษย์วิหคนี้มีความแข็งแกร่งเท่าอสูรทองระดับ 6 ต่อให้เขาเป็นอสูรแพลตตินัมระดับ 6 หรืออสูรเพชรระดับ 6 นางก็ยังจะฆ่าโดยไม่ลังเล นางพญากระหายเลือดไม่เคยเห็นคนที่มีความหยิ่งขนาดนี้ เขาเอาแต่อ้าปากพล่ามแต่เรื่องไร้สาระและโจมตีให้ร้ายเจ้านายของนาง นักสู้ปราณก่อกำเนิดผู้ทรงเกียรติน่านับถือถูกดูถูกว่าเป็นชีวิตชั้นต่ำต้อยและเป็นเหมือนมดโง่ พอได้ยินคำพล่ามเหล่านี้ทำให้นางไม่สามารถระงับความโกรธในใจนางได้
“ตาย” นางพญากระหายเลือดหง โกรธจัดจนนัยน์ตานางแดง นางพุ่งตรงใส่เขาดึงมีดทองฆ่ามังกรและมีดเงินทำลายนัยน์ตาออกมา
“อัญเชิญ…” มนุษย์วิหคชุดขาวรีบเตรียมอัญเชิญคัมภีร์ของเขาทันที
อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถขยับได้
ไม่รู้เกิดขึ้นเมื่อใด เสี่ยวเหวินหลีแว่บมาอยู่ด้านหลังเขา.. เสี่ยวเหวินหลีก็เรียนวิธีเทเลพอร์ต และใช้โซ่ล่องหนของเธอเล่นงานศัตรูได้อย่างคาดไม่ถึง แม้แต่ซุ่นเทียน จักรพรรดิแห่งจื่อเว่ยและราชันย์จ้าวปีศาจคุกโลหิตบารุธ นักรบที่แข็งแกร่งขนาดนั้นยังประมาทเสี่ยวเหวินหลีไม่ได้ ประสาอะไรกับมนุษย์วิหคผู้ถูกผนึกความแข็งแกร่งที่แท้จริงไว้และปัจจุบันมีเพียงความแข็งแกร่งเท่าอสูรทองระดับ 6
ดาบโค้งคู่แทงลึกเข้าหลังของมนุษย์วิหค นางพญากระหายเลือดเสริมพลังด้วยเงาปีศาจยักษ์พุ่งตรงเข้ามาข้างหน้าของมนุษย์วิหคชุดขาวเหมือนฟ้าผ่า
เสียงคลื่นกรีดดังสะท้อนไปทั่ว
มนุษย์วิหคชุดขาวตะลึงทันที มีดทองฆ่ามังกรและมีดทำลายดวงตาแทงเข้าหน้าผากและตาซ้ายของเขาตามลำดับ
เสี่ยวเหวินหลีสะบัดหางเหมือนกับแส้หวดกลับหลังใส่มนุษย์วิหคชุดขาว
ชิ้นส่วนอุกกาบาตตกลงมายังพื้นทำให้เกิดคลื่นแผ่นดินต่อเนื่องไม่สิ้นสุด
“ฆ่า!!!” อาหมันเงื้อดาบจันทร์เสี้ยวมือซ้ายและถือหอกราชสีห์ทองด้วยมืออีกข้างหนึ่ง ขณะที่นางกระโดดขึ้นไปในอากาศ ดาบจันทร์เสี้ยวบั่นศีรษะมนุษย์วิหคชุดขาวเต็มแรง หลังจากโจมตีเสร็จแล้วและรู้สึกว่ายังไม่เพียงพอ นางเงื้อหอกราชสีห์ทองและพุ่งใส่หลังของมนุษย์วิหคชุดขาวเต็มแรง
“อ๊า….” แม้ว่าพลังของมนุษย์วิหคจะถูกผนึกไว้ แต่พลังชีวิตของเขาก็ยังคงเป็นเช่นเดียวกับตอนก่อนถูกผนึก
พอใช้ทักษะญาณทิพย์ระดับ 5 ตรวจดู เย่ว์หยางสามารถเห็นเจ้าผู้นี้ก่อนที่จะถูกผนึกพลังไว้ มนุษย์วิหคชุดขาวนี้มิได้อ่อนแอกว่าว่านฉีซิ่วหลิงเลย อาจเป็นไปได้ว่าเขามีพลังของนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับ 5 แล้ว อย่างไรก็ตาม มนุษย์วิหคชุดขาวมีพลังสู้ไม่ถึง 1 ในพัน อย่าว่าแต่สู้กับการประสานงานระหว่างเสี่ยวเหวินหลี, อาหงและอาหมันเลย แม้ว่าเขาจะสู้กับแมมม็อธสายฟ้าของเจ้าอ้วนไห่, แรดนอเงินและฮิปโปน้อย เขาก็ไม่สามารถเอาชนะพวกมันได้
แม้ว่าเขาจะไม่ตาย แต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บหนักแล้ว
ถ้าเขาไม่ได้รับการช่วยเหลือทันที เขาคงถูกโจมตีจนตายในท้องฟ้าแน่ พอเห็นว่าผู้นำของพวกเขาบาดเจ็บจากการโจมตีและร่วงลงไปที่พื้น มนุษย์วิหคชุดขาวที่มีพลังเท่าอสูรทองระดับ 5 ตกตะลึงโดยสิ้นเชิง อย่างไรก็ตาม พวกเขารีบพุ่งลงตามผู้นำลงไปเพื่อเตรียมช่วยเขา
“กรรรร!” หัวหน้าปีศาจยังคงงงอยู่ เขาคาดไม่ถึงว่าเย่ว์หยางจะเคลื่อนไหวจัดการกับศัตรูคู่อาฆาตของเขา
หลังจากเรียกสติกลับคืนมา เขาคำรามลั่นทันที
ในกลางบ่อเลือด มังกรบึงปีศาจชูหัวขึ้น แต่ละหัวเริ่มพ่นพิษของมันขึ้นไปบนท้องฟ้า
มังกรบินหนังย่นทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าและขับไล่มนุษย์วิหคที่พุ่งลงมา ปีศาจอีกห้าตน ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้โดยพุ่งหอกปีศาจสีดำของพวกเขา ซึ่งดูเหมือนสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อจัดการกับมนุษย์วิหคชุดขาว ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างจริงจัง แต่เย่ว์หยางไม่สนใจพวกเขาแม้แต่น้อย มนุษย์วิหคชุดขาวที่บินเข้ามาใกล้ถูกนางพญากระหายเลือดขัดขวาง นางใช้มีดแทงหัวใจของเขาสังหารเขากลางอากาศ มนุษย์วิหคร่วงลงพื้นทีละคนๆ
มนุษย์วิหคไม่ว่าคนใดปะทะเสี่ยวเหวินหลียิ่งน่าอนาถกว่า เสี่ยวเหวินหลีมีมือที่ใช้งานได้เหมือนมีด ยามเมื่อเธอฟันลงก็มีศีรษะปลิวในอากาศ
พอปราศจากผู้นำ มนุษย์วิหคก็พ่ายแพ้สิ้นเชิง
แม้ว่าผู้นำมนุษย์วิหคดิ้นต่อสู้สุดกำลัง แต่เขาก็ยังไม่สามารถเอาชนะพลังที่ไม่มีที่สุดของอาหมันได้
ตอนแรกอาหมันเตะใส่พิณทอง จากนั้นใช้มือจับหัวหน้ามนุษย์วิหคเหวี่ยงเขาไปอยู่ต่อหน้าเย่ว์หยาง เพียงแค่เขาตกลงไปในพื้นที่ๆ “โลก” ของเย่ว์หยางส่งผล หัวหน้าของมนุษย์วิหคร้องโหยหวนทรมานจากความเจ็บปวด ในพื้นที่ๆ มีผลเป็นพิเศษภายในอสูร “โลก” นี้ พลังงานของเขาจะถูกสูบอย่างต่อเนื่อง เขาไม่มีความสามารถจะดิ้นรนได้เลย ในท้องฟ้า มนุษย์วิหคควงดาบบินตรงมาช่วยเขา อย่างไรก็ตามหลังจากเห็นสถานการณ์แล้ว เขาบินสูงขึ้นและไปซ่อนตัวอยู่ห่างๆ ทันที
มีมนุษย์วิหคขมังธนูตนหนึ่งเล็งธนูมาที่เย่ว์หยาง
ไม่จำเป็นต้องให้เย่ว์หยางเข้ามาสู้ด้วยเลย นางพญากระหายเลือดหงเอาแส้เพลิงออกมาหวดใส่หลังของมนุษย์วิหคขมังธนูด้วยความโกรธ เมื่อเขาร่วงลงบนพื้น โคเงาอาหมันก็ระเบิดพลังใส่เขาทันที
ทันทีนั้นเอง นัยน์ตาของอาหมันก็เปล่งสีแดง พอเนตรประหารทำงานก็ฆ่ามนุษย์วิหคได้ทันที
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง การต่อสู้ก็จบลง
มนุษย์วิหคที่ตกลงมาตายเกือบทั้งหมดเป็นฝีมือของนางพญากระหายเลือด, เสี่ยวเหวินหลีและโคเงา ขณะที่หัวหน้าปีศาจและบริวารทั้งห้าของเขามาเป็นลำดับที่สอง มังกรหนังย่นฆ่าได้ไม่กี่คน
สำหรับมังกรบึงปีศาจ พวกมันสามารถใช้พิษกับมนุษย์วิหคที่บาดเจ็บสองตนจนตาย
ฝ่ายปีศาจเหลือมังกรบึงปีศาจ 8-9 ตัว และมังกรบินหนังย่นเหลือเพียง 12-13 ตัว
หลังจากมนุษย์วิหคตายเกือบหมด ปีศาจทั้งห้าเหล่านั้น รวมทั้งหัวหน้าปีศาจก็ลบล้างผนึกของพวกเขาและฟื้นคืนความแข็งแกร่งได้ดังเดิม
กลับกลายเป็นว่าปีศาจทั้ง 5 นั้นเดิมทีมีระดับพลังน้อยกว่านักสู้ปราณก่อกำเนิดเพียงเล็กน้อย สำหรับหัวหน้าปีศาจที่พูดได้ เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับ 5 เขาจ้องมองเย่ว์หยางอย่างเย็นชาชั่วขณะหนึ่งด้วยความคิดที่ว่าตนเองสูงส่ง ในที่สุด เขาก็เปิดปากพูด “เพราะขีดจำจัดของรหัสโบราณ, มนุษย์ ข้ายินดีจะให้เกียรติรักษาสัญญาครั้งนี้ไว้ ข้าจะให้มุกดูดเลือดกับเจ้า อย่างไรก็ตาม เจ้าต้องทิ้งศพทั้งหมดไว้ที่นี่ทันที มนุษย์น้อย เจ้าต้องไม่ปรารถนาของที่ไม่ใช่ของเจ้า ข้ายอมรับว่าเจ้าเป็นผู้ทำสัญญาผู้ครอบครองอสูรที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งของเราไม่ใช่สิ่งที่เจ้าสามารถเผชิญได้ในตอนนี้ หลังจากรับมุกโลหิตและเสร็จสิ้นการผ่านด่านเทวสถานฟ้าแล้ว จงไปจากที่นี่ทันที ที่นี่ไม่ใช่ที่แข่งขันของมนุษย์อย่างเจ้าอีกต่อไป!”
“กรรร, กรรร!” 5 ปีศาจที่เหลือฟื้นคืนพลังระดับเตรียมนักสู้ปราณก่อกำเนิดเรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดคำรามใส่เย่ว์หยางเพื่อให้เย่ว์หยางหนีไป
ซากศพของมนุษย์วิหคมากกว่าสามสิบถูกซ้อนขึ้น ต่อหน้าเย่ว์หยาง
จากตรงนั้นเย่ว์หยางล้วงเอามุกขาวออกมาจากหัวผู้นำมนุษย์วิหคและเก็บไว้ในแหวนลิช เขายังคงเก็บพิณทองไว้ข้างในด้วย
เท่าที่พวกปีศาจกังวล การกระทำของเย่ว์หยางเท่ากับริบสมบัติสงคราม การกระทำแบบนี้ยกโทษให้ไม่ได้
ถ้าเป็นเมื่อครู่ก่อนนี้ พวกปีศาจยังเป็นปีศาจชั้นทองระดับ 5 และไม่มีทางเลือกอื่น แต่ตอนนี้พวกมันฟื้นคืนพลังกลับเป็นระดับเตรียมนักสู้ปราณก่อกำเนิดแล้ว ปีศาจที่เป็นหัวหน้าของพวกเขาก็ฟื้นคืนพลังเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับ 5 บุรุษมนุษย์นี้ แม้ว่าจะแข็งแกร่ง แต่เขาก็มีพลังยังไม่พอ เนื่องจากรหัสโบราณ พวกเขาจึงไม่สามารถต่อต้านรหัสและฆ่าเขาได้ อย่างไรก็ตาม ย่อมไม่มีปัญหาถ้าจะขับไล่เขาออกไปจากที่นี่
เรื่องที่หัวหน้าปีศาจเตือนเขาและห้าปีศาจตั้งใจจะขับไล่เขา เย่ว์หยางยิ้มอีกครั้ง
มันคล้ายกับยิ้มที่เขาแสดงต่อหัวหน้ามนุษย์วิหคเมื่อครู่ แฝงด้วยความตั้งใจฆ่า
เย็นเยียบดุจน้ำแข็ง
“อย่างนี้ค่อยมีความหมายขึ้น ใช่ไหม? ข้าไม่ค่อยสนใจมุกดูดเลือด แต่ข้าสนใจหัวใจปีศาจของเจ้ามาก” เย่ว์หยางลอบใช้นิ้วมือเรียกนางพญาดอกหนามมงกุฎทองที่ยังหลับอยู่ นางพญาตัวน้อยยังอยู่ในอาการสลึมสลือ
“เอ๊ะ? นางพญาดอกหนามมงกุฎทองหรือ?” พอเห็นเช่นนี้ หัวหน้าปีศาจตาเหลือกทันที เห็นได้ชัดว่า เขารู้จักดาวข่มของตัวเขาดี
************