===============
เมื่อเขามาพบนางเซียนหงส์ฟ้าอีกครั้ง เย่ว์หยางรู้สึกว่านางผอมลงเล็กน้อย บางทีคงเป็นเพราะนางเพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บ แต่ความงามของนางดูมีเสน่ห์มากกว่าเมื่อครั้งก่อน
แน่นอนว่าเย่ว์หยางตรงดิ่งเข้าหาเนินอกขาวราวหิมะ เตรียบซบหน้าตนเองลงทันที
“เจ้าเด็กวายร้าย! มาคุยจริงจังกันก่อน อย่าทำเป็นเล่น” หน้าผากของเย่ว์หยางชะงักค้างถูกหยุดไว้โดยนิ้วเพียงนิ้วเดียวของนางเซียนหงส์ฟ้า ใบหน้างดงามของนางเผยให้เห็นรอยยิ้มที่อาจทำให้ดวงอาทิตย์ต้องอับแสงลงได้
“เรื่องจริงจัง แต่ก็เป็นเรื่องง่ายมาก เราจะบุกวิหารเทพของจักรพรรดิอวี้ในอีกสองสัปดาห์ แค่นั้นเอง โธ่.คนสวย, ทำไมเราไม่ปล่อยวางเรื่องสำคัญไว้ก่อนและให้ความสำคัญกับเรื่องส่วนตัวของพวกเราให้มากยิ่งขึ้นเล่า?” เมื่อเย่ว์หยางก้าวเข้ามากอดนาง นางเซียนหงส์ฟ้ารีบหลบเขา ลอบมาอยู่ด้านหลังเขาและกอดเขาจากด้านหลัง ริมฝีปากนางขยับมาใกล้หูของเย่ว์หยางแล้วจูบเบาๆ “เสียใจด้วยนะ, ข้าคิดว่าคงไม่อาจช่วยเจ้าได้ ทุกผู้คนที่มีสิทธิ์เข้าแดนสวรรค์มีข้อตกลงสัญญาสันติภาพอยู่ ดังนั้นเราไม่สามารถฆ่าใครๆ ได้ เนื่องจากความแค้นความพยาบาทส่วนตัว ทุกอย่างถูกตัดสินอย่างถูกต้อง ถ้าเจ้าต้องการฆ่าขุนพลของเทพจักรพรรดิอวี้ ข้าเกรงว่าคงจะไม่ง่าย แม้ว่าเขาจะหลับมานานห้าพันปีแล้วก็ตาม แต่ความแข็งแกร่งของเขาก็เกือบฟื้นคืนเป็นปกติแล้ว ถ้าเขาสู้กับจื่อจุนบางทียังพอเสมอกันด้วยซ้ำ ข้าคิดว่าการฆ่าเขาไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งกว่านั้น เขามีผู้ช่วยหลายคน เราเพียงสองคนไม่อาจเอาชนะเขาได้”
“แล้วจะเป็นยังไงถ้าเรามีผู้เฒ่าเต่าด้วย?” ความรู้สึกที่ถูกอกมหึมากดใส่หลังให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมกับเย่ว์หยางจนสุดจะพรรณนาได้ ทันใดนั้นเขารู้สึกตื่นตัวตามธรรมชาติของบุรุษ
“ผู้เฒ่าเต่านั้นแค่มีพลังป้องกันระดับสูง แต่พลังรุกยังใช้ไม่ได้” นางเซียนหงส์ฟ้าดูเหมือนจะเข้าใจว่าความรู้สึกของเย่ว์หยางเริ่มรุกเร้า มือของนางที่อยู่แปะอยู่บนหน้าอกเขาค่อยๆ เลื่อนลงมาลูบที่หน้าท้องของเขา จากนั้นนางยังเลื่อนต่ำลงมาอีก ทำให้เย่ว์หยางสะดุ้งเกือบหาที่แถวๆ หน้าประตูใหญ่ตระกูลเย่ว์กระชับความสัมพันธ์กับนางเสียแล้ว
“พลังโจมตีของข้าดีขึ้นแล้วนะ!” เย่ว์หยางอวดตัวเองแบบไม่ถ่อมตน
“เจ้าพูดถึงพลังโจมตีแบบไหนกัน? หืม?” ริมฝีปากแดงดุจเชอรี่ของนางกระซิบใกล้หูเขาขณะที่นางทำเสียงหอบ มือของนางเซียนหงส์ฟ้ากดลงไปตรงอวัยวะที่ตื่นตัวของเขาโดยมิได้ตั้งใจ หัวใจเย่ว์หยางเต้นรัวเป็นร้อยๆ ครั้ง เย่ว์หยางกลืนน้ำลายเอื๊อกแล้วทำตัวเป็นสุภาพชนตอบว่า “พลังโจมตีของพวกเราทุกคนดีขึ้นมาก ท่านจะลองไปทดสอบพวกนางดูไหม?”
“เราจะไปทดสอบกันที่ไหน?” นางเซียนหงส์ฟ้าจูบหูเย่ว์หยางเบาๆ ลมหายใจของนางหนักหน่วง
“บ้านของท่านเป็นยังไง?” เย่ว์หยางตัดสินใจใช้ตัวเลือกที่ด้อยกว่า พวกเขาสามารถไปโรงแรมได้ นอกจากต้องจ่ายค่าห้องแล้ว แต่พวกเขาจำเป็นต้องได้รับการแจ้งเตือนในกรณีที่ตำรวจบุกเข้าโรงแรมด้วย
“ทำไมไม่ไปบ้านเจ้าแทนเล่า? ข้าต้องการทดสอบบนเตียงเจ้า วิธีนั้นจะตื่นเต้นยิ่งกว่า…” นางเซียนหงส์ฟ้ายกต้นขาของนางเล็กน้อยแล้วค่อยๆ ถูต้นขาของเย่ว์หยาง ขณะที่มือของนางล้วงลงไปในกางเกงเขา เหมือนกับว่าพยายามควานหาของที่น่าสนใจ
“ขอโทษด้วยนะ เตียงของเขามีคนจองแล้ว”
เสียงของเสวี่ยอู๋เสียดังลอยมาจากด้านหลัง นางเดินผ่านทั้งสองคนไปพร้อมกับหนังสือในมือ
ทำเหมือนกับว่าเย่ว์หยางและนางเซียนหงส์ฟ้าไม่อยู่ตรงนั้น นางพูดต่อ “เชิญต่อได้ ข้าแค่บังเอิญผ่านมา”
เย่ว์หยางปาดเหงื่อ
แน่นอนว่า นางผู้นี้กังวลห่วงใยเขา
นางเซียนหงส์ฟ้าหัวเราะคิกคัก ขณะนางบีบแก้มเย่ว์หยางหลังจากปล่อยมือจากด้านหน้าของเขา “เจ้าเด็กวายร้าย! ถ้าเจ้าต้องการมีสัมพันธ์ด้วย จำไว้ว่าให้หาสถานที่รกร้าง อย่าให้ภรรยาจับได้คาหนังคาเขา ไม่อย่างนั้นจะน่าเสียดายจริงๆ เจ้าจะต้องคุกเข่าหมอบคลานเพื่อไปขออภัยที่บ้านไหมนี่? อย่าบอกนะว่าเจ้าเป็นคนกลัวภรรยา!”
เย่ว์หยางมีใจดื้อรั้นมากอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงบีบแก้มนางเซียนหงส์ฟ้าเบาๆ “ที่รัก! ข้าคิดว่าข้าถูกจับได้คาหนังคาเขาก็เพราะท่านล่อลวงให้ข้าเป็นแบบนี้ จริงไหม?”
นางเซียนหงส์ฟ้ายักไหล่อย่างน่ารักเมื่อนางได้ยินเขาพูด อกของนางกระเพื่อมตามเพราะการกระทำเช่นนี้
“เราจะไปบ้านข้าไหมล่ะ?” นางเซียนหงส์ฟ้าเป่าหูเย่ว์หยาง
“ได้เลย” เย่ว์หยางคิดว่าถ้าใครปฏิเสธข้อเสนอของนาง คนนั้นต้องเป็นตงฟางปุ๊กป่าย (ตัวละครไม่หญิงไม่ชายจากเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักร)
“เตียงบ้านข้าใหญ่ นุ่ม สะดวกสบายนะ..” นางเซียนหงส์ฟ้ายิ้มที่สามารถล่มเมืองได้ทั้งหมด เย่ว์หยางคิดถึงวลีที่ว่า หญิงเจ้าเสน่ห์ไม่มีทางขาดทุน สามารถอธิบายสตรีนางนี้ได้ดีที่สุด มิน่าเล่ากษัตริย์แคว้นโจวถึงได้ถูกปีศาจจิ้งจอกล่อลวงทำให้สับสนได้ กลับกลายเป็นว่าสาวเจ้าเสน่ห์สามารถยั่วยวนเกลี้ยกล่อมทั้งร่างกายและจิตวิญญาณได้อย่างแท้จริง พวกนางเป็นเหมือนแม่มดที่สามารถค่อยๆ กลืนกินบุรุษเหล่านี้ด้วยความนุ่มนวล
“จริงหรือ?” ตาของเย่ว์หยางเป็นประกายเมื่อได้ยินนาง ชีวิตรักที่สุขสมกำลังกวักมือเรียกเขาให้เข้าไปหา
“ทำไมกันนี่, นี่เย่ว์หยางน้อยของพวกเรามิใช่หรือ?” เสวี่ยอู๋เสียที่เพิ่งหายไป ปรากฏตัวข้างหน้าเย่ว์หยางและนางเซียนหงส์ฟ้าอีกครั้ง นางยังถือหนังสือโบราณอยู่ในมือและถามเย่ว์หยางด้วยความสงสัย “ดูเหมือนว่าข้าจะได้ยินเรื่องที่พวกเจ้าตั้งใจจะไปในที่บางแห่งนะ?”
“ข้าจะไปบ้านนาง!” นัยน์ตากระจ่างใสของนางกำลังจ้องมาทางเขาทำให้เย่ว์หยางถึงกับลนลานเล็กน้อย
“เจ้าจะไปทำอะไรที่บ้านนาง?” ยิ้มของเสวี่ยอู๋เสียสดใสเหมือนดวงอาทิตย์ไม่มีเมฆหมอก, ลูกเห็บ, สายฟ้า, ฝนหรือพายุเลย
“ข้ากำลังจะไปทดสอบว่าเตียงบ้านนางใหญ่ นุ่มและสะดวกสบายจริงหรือไม่เท่านั้นเอง” เย่ว์หยางตอบ พร้อมระบุถึงแรงจูงใจและเหตุผลความคิดของเขา
“เจ้าจำเป็นต้องใช้เครื่องในการวัดเตียงของนาง เจ้าเอาเครื่องมือไปด้วยหรือยัง?” เสวี่ยอู๋เสียยังคงยิ้มต่อไป สีหน้าของนางเต็มไปด้วยความอ่อนโยนขณะที่นางยื่นมือออกมาและยึดเสื้อเย่ว์หยาง นางควักผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดหน้าเย่ว์หยาง เหมือนกับว่านางเป็นภรรยาที่ดีกำลังส่งสามีไปทำงาน
“ข้ามีเครื่องไม้เครื่องมืออยู่บนตัวแล้ว” เย่ว์หยางเหงื่อตกอีก เขาคงไม่ปล่อยเครื่องมือของเขาไว้ที่บ้านแน่ มิฉะนั้นคงได้กลายเป็นตงฟางปุ๊กป่าย
“อย่างนั้นก็ดีแล้ว พยายามเข้านะ ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่บ้าน” ยิ้มของเสวี่ยอู๋เสียเหมือนพระอาทิตย์ยามสาง ในที่สุดนางก็จุ๊บปากเขา เหมือนวิธีที่ภรรยาคนหนึ่งทำเมื่อนางส่งสามีไปทำงาน นางเซียนหงส์ฟ้าหึงมากเมื่อเห็นเช่นนี้ ดวงตานางเป็นประกายวูบวาบเล็กน้อยเมื่อนางตระหนักได้ทันทีว่านางพบคู่ต่อกรที่แข็งแกร่งเสียแล้ว
ไม่ใช่แข็งแกร่งในแง่ของพลัง แต่เป็นคู่ต่อสู้ความรักผู้แข็งแกร่ง
เดิมที นางเพียงสนใจเย่ว์หยางเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
นางไม่เคยคิดรักเขาจนตายหรือเป็นส่วนหนึ่งของกัน หรือถึงขนาดว่านางจะยอมแต่งงานกับเขาและมีเขาเพียงคนเดียว นางเพียงหงุดหงิดเล็กน้อยที่พี่สาวนางสนับสนุนและปกป้องเขา นางต้องการพรากตัวเขาไปจากพี่สาวนาง
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นมานางผ่านสถานการณ์ร่วมเป็นร่วมตายมาพร้อมกับเย่ว์หยาง นางเริ่มรู้สึกว่าเด็กคนนี้กำลังชอบนางจริงๆ
แม้ว่านางยังไม่ตัดสินใจจะอยู่กับเขาตลอดไป แต่นางไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่หยอกล้อเขา นางรู้สึกมีความสุขจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาน้ำลายหกเพราะเสน่ห์ของนาง นางรู้สึกพอใจในความทระนงของนางในฐานะที่เป็นหญิง นางรู้ว่านางดูยั่วยวนเร่าร้อน แต่สายตาลามกของบุรุษอื่นๆ ทำให้นางรู้สึกเบื่อหน่าย พวกเขามองนางเหมือนกับว่าต้องการจะครอบครอง ละเมิดและดูหมิ่นร่างกายนาง… อย่างไรก็ตาม สายตาของเจ้าเด็กนี่แตกต่างสิ้นเชิง เขาเป็นคนที่มองเห็นคุณค่าของความงามของนางและจ้องมองนางด้วยความชื่นชม แม้ว่าเขาจะดูเหมือนปีศาจราคะ แต่ก็ไม่ใช่ความรู้สึกหลักที่มีต่อนาง เขาชอบเสน่ห์ของนางมากกว่าร่างของนาง มากกว่าเนินอกมหึมาของนาง
สายตาของเย่ว์หยางทำให้นางรู้สึกยินดี
นางยินดีกับอารมณ์ตอบรับของเขา ความชื่นชมและความรู้สึกของเขา การยั่วยวนเขาทำให้นางรู้สึกภูมิใจกับความสำเร็จ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่านางเซียนหงส์ฟ้าคิดว่าเสน่ห์ของนางไม่มีผู้ใดเทียบได้ แต่นางก็ตระหนักดีว่าแม้ด้วยการยั่วยวนของนาง นางก็ยังไม่สามารถครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในหัวใจเขาได้ แม้ว่าความต้องการของเขาจะเหือดหายไป แต่สายตาของเขาไม่เคยหาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสตรีนางนี้ผู้ถือหนังสือโบราณปรากฏตัว เขามีการเปลี่ยนแปลงตัวเองทันทีจากเด็กลามกกลายเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย
บางทีเขาอาจแกล้งทำตัวเป็นเด็กว่าง่าย อย่างไรก็ตาม อย่างน้อยเขาก็ให้ความยำเกรงแม่สาวถือหนังสือนางนี้ นั่นคือเหตุผลที่เขาทำเช่นนั้น
เขาแกล้งทำตัวสุภาพกับเสวี่ยอู๋เสีย แต่กับทำแต๊ะอั๋งกับตัวนาง
นี่คือความแตกต่าง
นี่คือความแตกต่างในการปฏิบัติตอบ เพราะตำแหน่งของนางในใจเขายังเป็นรองเด็กสาวนางนี้ ถ้าเขายกย่องนางว่าเป็นหนึ่งในหัวใจเขา เขาก็คงปฏิบัติกับนางอย่างเดียวกัน
นางเซียนหงส์ฟ้ามองดูเสวี่ยอู๋เสียและตระหนักได้ว่าหญิงสาวผู้มักพกหนังสือติดตัวเสมอผู้นี้ให้ความรู้สึกที่อันตรายแก่นางมาก
ความรู้สึกอันตรายแบบนี้เป็นเรื่องยากที่จะอธิบายจริงๆ
นางเซียนหงส์ฟ้ารู้สึกถึงได้แน่นอน แต่นางไม่เข้าใจเหตุผล
ไม่มีใครเคยสร้างความรู้สึกที่อันตรายเช่นนั้นมาก่อน ไม่มีเลย นี่ไม่ใช่ความแตกต่างระหว่างความแข็งแกร่งของพวกนาง แต่เป็นเสน่ห์ของพวกนาง…
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสามจอมมารฟ้าแห่งวังมาร จอมมารกฎฟ้า นางเซียนหงส์ฟ้าไม่เคยคิดว่าหญิงสาวอายุยี่สิบสามารถเอาชนะนางได้จริงๆ เสวี่ยอู๋เสียสามารถเอาชนะนางได้แน่ การได้ครอบครองเสน่ห์และอัจฉริยภาพทั้งสองอย่าง จึงเป็นครั้งแรกที่นางรู้สึกพ่ายแพ้ในเรื่องเสน่ห์ดึงดูดใจต่อหญิงสาวอื่น นี่เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในรอบพันปี นอกจากพี่สาวนาง ยังมีหญิงสาวอื่นทำได้ดีกว่านางด้วยหรือ?
นางเซียนหงส์ฟ้าเริ่มสังเกตเสวี่ยอู๋เสียอย่างระมัดระวัง เสวี่ยอู๋เสียกำลังยิ้มสดใสเหมือนดวงอาทิตย์ที่ละลายหิมะที่เยือกเย็น นางตระหนักได้ว่าเสวี่ยอู๋เสียเป็นคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งแน่นอน!
“ข้าถามหน่อยได้ไหม ท่านนี้เป็นใคร?” เสวี่ยอู๋เสียแกล้งทำเป็นไม่ทันสังเกตนางเซียนหงส์ฟ้า
“นาง นางคือลูกค้าที่เป็นเจ้าของเตียงที่จะให้ข้าไปตรวจดู” เย่ว์หยางแนะนำนางเช่นกัน
“เจ้าอยากจะพานางไปบ้านเพื่อทดสอบเตียงที่บ้านไหม? นั่นใหญ่กว่า นุ่มกว่า สะดวกสบายกว่า.. มีสาวๆ อยู่ที่นั่นมากมายเช่นกัน และมีพื้นที่ว่างให้นางได้นอนบนเตียงแน่นอน ทำไมเจ้าต้องไปบ้านนางให้ยุ่งยากด้วยเล่า? แค่พานางไปบ้าน แม้ว่าอกนางจะใหญ่ไปบ้าง แต่ก็คงไม่กินเนื้อที่มากนัก” คำพูดของเสวี่ยอู๋เสียทำให้นางเซียนหงส์ฟ้ารู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง
“เจ้ามั่นใจจริงๆ หรือ เจ้าไม่กลัวว่าจะเป็นการเชิญหมาป่าเข้าบ้าน?” นางเซียนหงส์ฟ้าจ้องมองเสวี่ยอู๋เสีย
“ในสายตาของข้า นางหมาป่าความจริงก็เหมือนกับนางแพะ เพราะทั้งสองล้วนเป็นสตรีเพศ” เสวี่ยอู๋เสียจ้องมองนางเซียนหงส์ฟ้าอย่างใจเย็น “ข้ามั่นใจว่าลูกค้าหญิงจะชอบเตียงของเย่ว์หยางของเราแน่ ถ้านางไม่ชอบ อย่างนั้นข้ามั่นใจว่าจะขยายได้ ถ้านางชอบ อย่างนั้นความมั่นใจของข้าก็เหมือนอกของข้า ที่ไม่สามารถขยายใหญ่ได้แม้ว่าข้าอยากจะทำก็ตามที”
“สาวน้อยผู้น่าสนใจ เนื่องจากด้วยวิธีแบบนั้น ความจริงข้าน่าจะทดสอบเตียงที่บ้านเจ้าและดูว่าข้าชอบหรือไม่” ความจริงนางเซียนหงส์ฟ้าไม่ต้องการยุ่งเรื่องขุนพลเทพจักรพรรดิอวี้ในตอนแรก เพราะนางรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากมากสำหรับเย่ว์หยางที่จะฆ่าขุนพลเทพจักรพรรดิวอวี้
ขุนพลเทพจักรพรรดิอวี้มีชีวิตอยู่มานานหกพันปี แม้ว่าพลังของเขาจะลดลงอย่างมากมายจากครั้งล่าสุด หลังจากหลับมาไม่กี่พันปี แต่เขาพื้นคืนพลังได้เกือบหมดแล้ว
เขาไม่ใช่อยู่ในระดับของประมุขนิกายพันปีศาจ ไม่ใช่ระดับเดียวกับซุ่นเทียน
เย่ว์หยางต้องการฆ่าขุนพลเทพจักรพรรดิอวี้ มิใช่เป็นไปไม่ได้ แต่อย่างน้อย ยังเป็นไปไม่ได้ตอนนี้ เพราะไม่ว่าเขาจะมีอัจฉริยภาพฝึกฝนก้าวหน้าได้รวดเร็วผิดธรรมดาเพียงใด แต่เขาก็ไม่สามารถเข้าถึงพลังอมตะผู้มีชีวิตมานานหลายพันปี เปรียบเทียบกับคนอื่นเช่น ซุ่นเทียนจักรพรรดิแห่งจื่อเว่ยมีอายุเพียง 900 ปี เทียบกับขุนพลเทพจักรพรรดิอวี้ที่อยู่มานานกว่าหกพันปี เขาอยู่ในส่วนขอบเขตของแดนสวรรค์แล้ว
โชคดีที่ขุนพลเทพจักรพรรดิอวี้หลับมาหลายพันปีเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ มิฉะนั้น ไม่มีใครในรุ่นหลังที่จะรับมือเขาได้
ตอนนี้ หลังจากได้รับเชิญจากเสวี่ยอู๋เสีย นางมีความคิดจะตามดูจนถึงที่สุด
แม้ความจริงนางจะแค่ติดตามไปดูว่าเย่ว์หยางจะเอาชนะขุนพลเทพจักรพรรดิอวี้ได้อย่างไร แต่ที่สำคัญกว่า นางต้องการจะยั่วยวนเจ้าเด็กนี่ให้สยบอยู่ใต้ชายกระโปรงนางและทำให้เขาเป็นยอดรักของนาง จากนั้นนางตั้งใจจะเอาชนะหญิงสาววัยยี่สิบนี้ซึ่งคุกคามต่อนางจริงๆ
หญิงสาวนางนี้ ถ้านางเติบใหญ่ในอนาคต นางจะเป็นคนอย่างพี่สาวนางแน่นอน
นางเซียนหงส์ฟ้าตระหนักว่านางถูกดูแคลน พอเห็นระดับความก้าวหน้าของนาง นอกจากเย่ว์หยางแล้วไม่มีคนอื่นที่กล้าเข้าใกล้นาง นางก้าวหน้าเร็วกว่านางเมื่อสมัยนางเยาว์วัยเสียอีก
“ดีมาก, ถ้าเป็นอย่างนั้น ข้าจะขอเป็นตัวแทนเตียงของเย่ว์หยางต้อนรับท่าน” เสวี่ยอู๋เสียยิ้มน้อยๆ นางคล้องแขนเย่ว์หยางเหมือนเป็นคู่สามีภรรยาที่เพิ่งแต่งงานคล้องแขนกัน นางล้วงม้วนเทเลพอร์ตทองออกมาเปิดประตูเทเลพอร์ต เมื่อเย่ว์หยางหันไปมองนางเซียนหงส์ฟ้า เสวี่ยอู๋เสียก็สำเร็จโทษเย่ว์หยางเหมือนภรรยาลงโทษสามี นางหยิกก้นเขาแรงๆ หนึ่งครั้ง “เจ้ายังกล้ามองอีกเหรอ? ลูกตาเจ้าจะร่วงลงพื้นอยู่แล้ว!”
“…..” นางเซียนหงส์ฟ้ารู้ว่านางกลั่นแกล้ง แต่ในที่สุดนางตัดสินใจเดินตามเข้าไป
นางไม่ต้องการบุรุษแม้แต่น้อย แต่เนื่องจากมีคนให้นางทะเลาะด้วย นางก็จะลองเล่นกับพวกนางดู
กล่าวกันว่า “แผ่นดินไม่สงบก็ต้องสู้กันต่อ” ก็ยังอธิบายความจริงนี้ได้ ไม่ว่าอย่างไรนางต้องเอาชนะแม่นางผู้นี้ที่ทำให้นางรู้สึกหึงให้ได้ นางจะไม่ยอมปล่อยให้หญิงสาวผู้นี้เป็นเหมือนพี่สาวคนที่สองของนาง ต้องชนะนาง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความแข็งแกร่งหรือความงาม นางจะไม่ยอมรามือแน่นอน
ยิ่งกว่านั้น เย่ว์หยางยังเป็นเด็กที่น่าสนใจมาก
เขาไม่เหมือนบุรุษอื่นที่น่ารำคาญ
สำหรับการรับมือเจ้าลามกน้อยนี้ ดูเหมือนนางต้องป้องกันตัวจนถึงที่สุด นางจะไม่ปล่อยให้เขาเอาเปรียบและกินไข่แดงนางได้ง่ายๆ แน่
นางเซียนหงส์ฟ้ามองตามหลังเสวี่ยอู๋เสียและเย่ว์หยาง ขณะที่หายเข้าไปในประตูเทเลพอร์ต จากนั้นจึงมองท้องฟ้าและส่งความคิดในใจทันทีว่า “ท่านพี่, ข้าต้องได้บุรุษคนนั้น ข้าจะชิงตัวเขาให้ได้ ท่านคงไม่ว่ากระไรหรอกนะ?
โอว จื่อจุนผู้ยิ่งใหญ่ ท่านจะว่ากระไรเมื่อท่านเห็นน้องสาวชิงเด็กหนุ่มที่เป็นสมบัติของท่าน?
สีหน้าการแสดงออกของท่านจะน่าสนใจมากยิ่งขึ้นหรือเปล่านะ?
**************