===============
เมื่อเย่ว์หยางสังหารตัวประหลาดสตรีที่มีเขาด้วง หูกระต่ายและท่อนล่างเป็นงูด้วยกระบวนท่าเดียว ศัตรูที่อยู่อีกด้านหนึ่งถึงกับตะลึงทันที
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวประหลาดบุรุษผู้คิดว่าผู้เฒ่าเต่ามังกรคือศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุด พวกเขาตกใจจนพูดอะไรไม่ออก พวกเขารู้ความสามารถของสหายของพวกเขาดี พวกเขาไม่มีทางคิดว่านางจะถูกบุรุษหนุ่มชาวมนุษย์สังหารได้ในทันที
เด็กคนนี้ครอบครองอาวุธเทพอย่างนั้นหรือ?
ตัวประหลาดบุรุษทั้งสามไม่มีเวลาลงมาช่วย เมื่อเย่ว์หยางพุ่งตรงเข้าหาตัวประหลาดสตรีที่เหลืออีกสองทันที
ตัวประหลาดสตรีที่มีตัวเป็นม้า เขาแกะและหางสิงห์หลบหนีทันที ตรงกันข้ามกับตัวประหลาดสตรีที่ตัวเป็นเกล็ดปลามีปีกนกและมีกรงเล็บแมวผู้อยู่ใกล้เย่ว์หยางกว่ารู้สึกทันทีว่าร่างตนเองถูกศัตรูของนางตรึงไว้ไม่สามารถขยับได้แม้แต่น้อย นางตระหนักได้ว่าไม่สามารถหลบหนีได้ทันเวลา นางกลับตะกุยเล็บตอบโต้อย่างดุร้าย นางตะกุยกรงเล็บที่ส่งกลิ่นคาวปลาเหม็นจนแทบอาเจียนใส่ศีรษะเย่ว์หยาง ดูเหมือนว่ากรงเล็บแมวของนางซึ่งมีสีดำอมเขียวจะอาบยาพิษที่เป็นสาเหตุให้เกิดกลิ่นเหม็นคาวปลา
นางตะกุยเล็บใส่ศีรษะของเย่ว์หยาง
ทว่าเย่ว์หยางหายวับทันทีทำให้กรงเล็บของตัวประหลาดสตรีตะกุยใส่อากาศว่างเปล่า หินที่อยู่ตรงจุดที่เย่ว์หยางเคยยืนอยู่ถูกตะกุยใส่เต็มแรงทิ้งร่องรอยกรีดลึกอยู่บนหินเหล่านั้น
“ข้าจะส่งเจ้ากลับสู่นรก!” เย่ว์หยางปรากฏตัวที่ด้านหลังตัวประหลาดสตรี ดาบจันทร์เสี้ยวเล่มใหม่ของเขาฟันใส่ศีรษะนางเหมือนกับฟันใส่เต้าหู้ ด้วยการโจมตีต่อเนื่องจากที่ตัวประหลาดสตรีตะกุยกรงเล็บใส่เขาพลาด
“อา…” พอเห็นสหายของนางถูกฆ่าทีละคนๆ ตัวประหลาดสตรีหางสิงโตกรีดร้องขวัญผวา เหมือนกับว่าวิญญาณของนางหลุดลอยจากร่าง
นางรีบเหาะไปหาตัวประหลาดบุรุษที่เป็นสหายของนาง หวังว่านางจะได้รับการปกป้อง
สหายทั้งสามของนางยังคงโฉบลงมาช่วยโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม ลำแสงดาบขนาดใหญ่ปรากฏต่อหน้าต่อตาพวกเขา เหมือนกับคลื่นขนาดยักษ์ พวกเขาเกือบจะถึงตัวสหายของพวกเขาแล้ว เกือบจะช่วยนางได้สำเร็จ แต่ในทันใดนั้นลำแสงดาบก็ฝ่าอากาศและกลืนร่างของนางทั้งหมด
เมื่อลำแสงคลื่นดาบเหล่านั้นหายไป ตัวประหลาดบุรุษทั้งสามเห็นว่าสหายของพวกเขาถูกตัดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
“กรรร, ฆ่า, ข้าจะฆ่าเจ้าซะ!” หนึ่งในตัวประหลาดบุรุษผู้มีแขนเหมือนหมีตาแดงก่ำ ขณะที่เขาพุ่งเข้าโจมตีเย่ว์หยางเหมือนคนบ้า เขาต้องการฉีกเย่ว์หยางให้เป็นชิ้นๆ ตัวประหลาดอีกคนที่ดูคล้ายแวมไพร์กอดเขาไว้แน่น ตอนนี้เขาเห็นชัดเจนแล้ว เด็กชาวมนุษย์มีรังสีฆ่าฟันมหาศาลไม่ใช่คนที่พวกเขาจะจัดการได้ง่ายๆ แม้ว่าพวกเขาต้องการจะโจมตีใส่เขา พวกเขาก็ต้องมั่นใจในสถานการณ์ก่อน ขืนบุ่มบ่ามเข้าไปมีแต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายเท่านั้น
ตัวประหลาดที่เป็นหัวหน้ามีผมทองเหมือนสิงโตปีกเหมือนนกและมีดาบวิเศษห้อยอยู่ที่เอวมองเย่ว์หยางราวกับจะจ้องให้ตาย
เขาจงใจจ้องตอบ
เขาค่อยๆ สังเกตดูมือที่เพิ่งฆ่าคนมาของเย่ว์หยาง ขณะเดียวกัน เขาสังเกตดูดาบวิเศษฮุยจินและดาบจันทร์เสี้ยวในมือของเขา
เรื่องที่เย่ว์หยางฆ่าตัวประหลาดสตรีทั้งสามได้ฉับพลัน ไม่เพียงแต่ศัตรูเท่านั้น แม้แต่ผู้เฒ่าเต่ามังกรก็ยังประหลาดใจ ความสามารถในการคุมสติและความสามารถในการฆ่าได้ฉับพลันเป็นสองเรื่องต่างหากจากกัน
ภายใต้สภาวะที่เขายังไม่ได้ปลดผนึกพลังปราณก่อกำเนิด เจ้าเด็กนี่ก็ยังสามารถฆ่าศัตรูของเขาได้ง่ายดาย ยิ่งกว่านั้นเขายังฆ่าศัตรูรวดเดียวสามคน
นี่ไม่ใช่ปัญหาเกี่ยวกับพลังของเขาล้วนๆ เท่านั้น
เขายังมีรังสีฆ่าฟันอยู่เต็มเปี่ยม
ผู้เฒ่าเต่ามังกรไม่รู้ว่าศัตรูแข็งแกร่งมากแค่ไหน เย่ว์หยางถึงกับฆ่าได้อย่างเชื่อมั่นและเยือกเย็น
ทันใดนั้น ผู้เฒ่าเต่มังกรต้องให้ความสนใจเย่ว์หยางมากขึ้น ในใจของเขา แม้ว่าจักรพรรดิอวี้จะไม่แข็งแกร่งขนาดเจ้าเด็กนี่เมื่อเขาอายุยี่สิบ จักรพรรดิอวี้ไม่ใช่นักรบที่มีพรสวรรค์มาแต่เดิม ตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ก็มักเป็นอันดับหนึ่งเสมอ เขาเป็นอัจฉริยะไร้เทียมทานในหัวใจผู้เฒ่าเต่ามังกรมานานหกพันปี ใครกันเล่าจะสามารถต่อสู้กับสามผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์และผนึกพวกเขาสองคนไว้นอกจากเขา? ดังนั้น ในหัวใจของผู้เฒ่าเต่ามังกร ไม่มีคนอื่นนอกจากจักรพรรดิอวี้
เกี่ยวกับความห้าวหาญและฝีมือฆ่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เฒ่าเต่ามังกรชื่นชมเขาอยู่ในใจ ถ้าเด็กคนนี้ไม่ตายวันนี้ ดูเหมือนเขาอาจไล่ตามรอยเท้าของจักรพรรดิอวี้ และในอนาคตจะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ได้
ทั้งนี้เพราะเขาเหมือนกับจักรพรรดิอวี้ เขามีหัวใจนักรบที่แท้จริง
นักรบที่แท้จริงจะมุ่งพัฒนาตนเองอย่างไม่ลดละ เขาฆ่าศัตรูของเขาได้ทุกคนโดยไม่มีความเมตตาและครอบงำได้ทุกคน
“อย่านึกว่าเจ้าจะหยิ่งผยองได้เพียงเพราะเจ้าฆ่าสัตว์ประหลาดไปบางตัวได้เท่านั้นนะ! เด็กน้อย ยังไงๆ เจ้าก็ยังเป็นเด็กอยู่ดี!” ตัวประหลาดบุรุษผมทองจ้องมองเย่ว์หยางขณะหัวเราะอย่างเยือกเย็น
“ความจริงนี่มันเกิดอะไรขึ้นนี่? ที่นี่ไม่ใช่สุสานหรือ?” เย่ว์หยางถามนางเซียนหงส์ฟ้าอย่างสับสน เขาไม่อาจเข้าใจว่าทำไมมนุษย์ที่คล้ายกับสัตว์ประหลาดถึงอยู่ที่นี่กัน
“นักรบแดนสวรรค์จริงๆ ตายหมดแล้ว เหลืออยู่แต่เพียงวิญญาณของพวกเขาเท่านั้น มิฉะนั้น คงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะถูกผนึกไว้ในวังเทพจักรพรรดิอวี้ในตอนนั้น จักรพรรดิอวี้แลกชีวิตของพระองค์และใช้และใช้พลังจิตสูงสุดทำลายทุกชีวิตในวังเทพของจักรพรรดิอวี้ โดยมิได้คำนึงถึงศัตรูของพระองค์และตัวพระองค์เอง ตราบใดที่พวกเขายังอยู่ภายในวังเทพจักรพรรดิอวี้ พวกเขาจะต้องตายแน่นอน” ผู้เฒ่าเต่ามังกรไอเล็กน้อยแล้วพูดต่อไป “ตัวประหลาดที่อยู่ต่อหน้าเราพวกนี้มีเลือดและเนื้อ ดูเหมือนพวกเขาจะเป็นสัตว์ประหลาดที่พวกเขาใช้วิชาลับสร้างขึ้นมา จากนั้นพวกเขาก็ใช้วิชาสิงสถิตหรือย้ายวิญญาณเข้ามาอาศัยในร่างเหล่านี้ ดังนั้น เจ้าจึงสู้กับสัตว์ประหลาดที่ยังมีชีวิต ไม่ใช่วิญญาณของพวกเขา!”
“อย่างนั้นเจ้าพวกนี้ก็เป็นเพียงการผสมสายพันธุ์สินะ” เมื่อเย่ว์หยางพูดเช่นนี้ ตัวประหลาดบุรุษทั้งสามถึงหน้าแดงด้วยความโกรธ
“พวกเขาไม่ใช่นักสู้แดนสวรรค์ที่แท้จริง ดูเหมือนพวกเขาเป็นทายาทของนักรบแดนสวรรค์กับสัตว์อสูรหลังจากครอบครองร่างของอสูรอื่นๆ มิฉะนั้น ความสามารถของพวกเขาจะต้องเป็นระดับปราณก่อกำเนิดหรือสูงกว่า ข้ายังจำพวกเขาได้” ผู้เฒ่าเต่ามังกรไอขณะที่เขาพูด
“….” เย่ว์หยางรู้สึกว่าท่านผู้เฒ่าอ่อนแอเกินไป นักรบแดนสวรรค์จะไม่ถูกเขาฆ่าตายง่ายๆ ทันทีหรือ?
“ทักษะกาฝาก วิชาสิงร่าง, หรือคืนชีพในศพเป็นทักษะที่น่ารังเกียจที่ไม่เพียงแต่ลดพลังของผู้ใช้เดิมลงมากเท่านั้น พวกเขายังสาปแช่งผู้ใช้อีกด้วย มีบางคนในนิกายพันปีศาจและวังมารที่ลองทดสอบทักษะเหล่านี้ แต่พวกเขาพบว่าระดับความล้มเหลว และอัตราเสี่ยงตายสูงมาก มีโอกาสสูงที่พวกเขาจะสูญเสียความทรงจำและถูกล้างสมองจนกลายเป็นสัตว์อสูร แม้ว่าเดิมทีพวกเขาเป็นนักรบแดนสวรรค์ แต่บางทีพวกเขาคงลืมอดีตและกลายเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งสัตว์อสูรไปแล้ว พวกเขาดูเหมือนใช้ชีวิตได้ดี ตามความเห็นของข้า ฮะฮะ.. พวกเขาดูเหมือนหนอนอ้วนที่พลิกตัวไปมาอย่างมีความสุขในอุจจาระสัตว์มากกว่า!” นางเซียนหงส์ฟ้าเกลียดอสูรเหล่านี้จริงๆ
ในความเป็นจริง การกระทำโดยการสิงหรือทักษะชิงร่างกายถือเป็นทักษะที่น่ารังเกียจมาก
เป็นข้อห้ามมาแต่โบราณกาลแล้ว
ทันทีที่เจ้านายพยายามสิงร่างของสัตว์อสูร พวกมันจะต้องคำสาปทันที
นอกจากตายจากความล้มเหลว, สูญเสียความทรงจำ ต้องกลายเป็นสัตว์อสูร พลังลดลงมากมายและต้องถูกสาปแช่ง ยังคงมีคำสาปจากสัญญา ไม่ว่าจะเป็นอสูรที่ถูกสิงหรือถูกฝากวิญญาณ ก็จะไม่มีทางกลายเป็นอสูรทำสัญญาในอนาคตได้เลย แม้แต่อสูรพิทักษ์ของคัมภีร์อัญเชิญก็ไม่ยกเว้น
จู่ๆ ในท้องฟ้า ปรากฏแรงกดดันที่แข็งแกร่ง
แรงกดดันที่หนักหน่วงดุจภูเขา
แม้แต่เย่ว์หยางยังรู้สึกอึดอัด
การปรากฏตัวครั้งนี้สามารถสร้างแรงกดดันได้แม้จากระยะไกล เป็นไปได้ไหมการปรากฏตัวครั้งนี้จะเป็นหนึ่งในสองผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์? เย่ว์หยางใจสั่นเล็กน้อย คิดว่าสองผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์จัดการไม่ได้ง่ายๆ เลย
รังสีแสงที่ดูเหมือนแนวดาวตกแตกตัวฉายผ่านท้องฟ้าที่มืดมิด เลื่อนลงมาจากท้องฟ้า
ก่อนที่ผู้มาจะปรากฏตัว ปราณของเขาก็พุ่งลงมาเหมือนกับพายุ
พายุปราณพุ่งตรงใส่ตัวประหลาดบุรุษทั้งสามที่เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดจนกระเด็นไปถึงสิบเมตร ทำให้พวกเขาดูเหมือนได้รับทุกข์ทรมานมาก นอกจากเย่ว์หยางและนางเซียนหงส์ฟ้าที่ไม่ได้ขยับเลยแม้แต่นิด แม้เต่ามังกรชราอ่อนแอไม่สามารถทนรับโดยตรงได้ เขายืนขาสั่นดูเหมือนจะล้มได้ทุกเมื่อ แนวดาวตกพุ่งเข้ามาในพริบตาและลงอยู่ต่อหน้าผู้เฒ่าเต่ามังกร เขาหยุดในทันทีทำให้พลังคลื่นกระแทกกระจายออกโดยรอบ พื้นสั่นสะเทือนเหมือนกับเกิดแผ่นดินไหว อย่างไรก็ตามความเคลื่อนไหวของคนที่มานี้นุ่มนวลเป็นธรรมชาติ ขณะที่เขาลอยอยู่เหนือพื้นสองเมตรข้างหน้าผู้เฒ่าเต่ามังกร จากตำแหน่งที่สูง เขามองลงมาที่ผู้เฒ่าเต่ามังกร
เขาเป็นบุรุษที่ดูงดงาม และลักษณะของเขาดูคล้ายกับมนุษย์วิหคที่เย่ว์หยางฆ่าในเทวสถานฟ้า ในทำนองเดียวกัน เขาสวมหมวดเขียวที่ทำจากใบอบเชย
ที่แตกต่างประการเดียวก็คือปีกของมนุษย์วิหคผู้งดงามนี้เป็นสีทอง
สีทองซึ่งมีรัศมีสว่าง
มีแรงกดดันที่มองไม่เห็นทำให้คนอี่นรู้สึกได้เลือนราง มันทำให้พลังแข็งกร้าวของพวกเขาลดลง เรงกดดันที่ทำให้คนอื่นต้องยอมรับนับถือพลังเช่นนั้น
แน่นอนว่าพลังกดดันปราณนี้ไม่มีผลต่อเย่ว์หยางมากนัก นอกจากรู้สึกว่าเจ้าผู้นี้อวดเก่ง เย่ว์หยางไม่ได้รู้สึกว่าด้อยกว่าเขาแม้แต่น้อย เป็นไปได้อย่างไรที่คนจากโลกอื่นจะไม่อาจเทียบได้กับมนุษย์วิหค? ตลกชัดๆ
“หยวนหลง สหายรัก ไม่เจอกันนานเลยนะ โปรดยกโทษให้เด็กคนนี้ด้วยที่ทำตัวไม่เหมาะสม เรื่องนี้ไม่มีอะไรที่เราทำได้ เพราะเราไม่เคยมีอาคันตุกะมาเป็นเวลานานแล้ว นั่นคือสาเหตุให้เด็กๆ ของข้าล่วงเกิน ความจริงข้าควรจะแนะนำตัวพวกเจ้าก่อน นี่คือแองเจิ้ล ก่อนนั้นเขาคือสหายเก่าของข้า แต่ความทรงจำของเขามีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ” มนุษย์วิหคผู้งดงามคำนับทักทายผู้เฒ่าเต่ามังกรและชี้ไปที่หัวหน้าตัวประหลาดอธิบายว่าพวกเขาทุกคนเป็นเพื่อนเก่า ในที่สุด เขาก็ยิ้มให้เย่ว์หยางและนางเซียนหงส์ฟ้า เขามองหน้านางเซียนหงส์ฟ้านานเป็นพิเศษ ความโลภความปรารถนาปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา อย่างไรก็ตาม เขารีบซ่อนเก็บไว้ภายใต้รอยยิ้มของเขา
“เจ้ายังมีชีวิตจริงๆ หรือ?” พอเห็นผู้มาเยือน ผู้เฒ่าเต่ามังกรตกใจทันที
“เจ้าผู้นี้ไม่ใช่ลูกผสมระหว่างมนุษย์กับสัตว์อสูร แล้วเขายังมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร?” เย่ว์หยางแปลกใจเล็กน้อย
“สหายน้อย ถ้าเจ้ารู้ว่ามีสิ่งที่เรียกว่าหินผลึกคืนชีพมีอยู่ในดินแดนสวรรค์ เจ้าคงจะไม่แปลกใจ ข้ายอมรับว่าการทำลายล้างของจักรพรรดิอวี้ในตอนนั้นน่ากลัวมาก แต่ข้าไม่ได้ตายทันที ข้าหลบเข้าไปในช่องว่างคัมภีร์ด้วยร่างที่ถูกทำร้าย หลังจากฟื้นฟูเป็นเวลานานด้วยความช่วยเหลือจากพลังผลึกคืนชีพ แผลของข้าก็สมานตัวได้ในที่สุด ยิ่งว่านั้นข้ายังคงมีความก้าวหน้า แต่น่าเสียดายที่การจำกัดของอาวุธเทพจักรพรรดิอวี้ยังส่งผลอยู่ พลังทำลายและจิตตานุภาพของเขายังทำร้ายร่างกายข้าอยู่ ข้าเสียใจจริงหยวนหลง แม้ข้าจะทักทายสหายเก่าของข้า แต่ข้าไม่สามารถอยู่ในวังเทพจักรพรรดิอวี้ได้นาน ยิ่งกว่านั้น ข้าไม่ชอบไอ้ที่บ้าๆ แห่งนี้ เพื่อเป็นการทักทายของข้า ข้าจะให้ของขวัญแก่เจ้า” มนุษย์วิหคผู้งดงามเปล่งแสงสว่างเจิดจ้าพอๆ กับดวงอาทิตย์ ขณะที่คัมภีร์ของเขาเปล่งแสงและเรียกภาพลวงตาที่เหมือนเขานับไม่ถ้วน
ภาพลวงตาเคลื่อนไหวขณะที่พวกมันโจมตีใส่เย่ว์หยาง นางเซียนหงส์ฟ้าและผู้เฒ่าเต่ามังกรพร้อมกัน
**************