===============
“ซาฟี่, เจ้ามีร่างกายหยาบ ก็สู้ศึกนี้ไปสิ! ข้าเกลียดที่จะต้องสู้กับศัตรูที่มีทักษะทำลายวิญญาณ แม้ว่าโอกาสแพ้จะมีเพียงหนึ่งในหมื่น ข้าก็จะไม่สู้กับเขา ทุกคน ข้าจะกลับไปนอน อยากทำอะไรก็ทำไป แต่ไม่ต้องมากวนใจข้า!” เงาดำน่าเกลียดค่อยๆ เลือนหายไป เสียงที่น่ากลัวของเขาสะท้อนก้องไปทั้งวิหารเทพจักรพรรดิอวี้เป็นเวลานาน
“……” เงาที่เหลือดูเหมือนจะลังเล แต่พวกเขาไม่ได้หายไปและกลับไปนอน
“หึหึ, ขี้ขลาด เจ้าจะล้มเหลวในช่วงชีวิตที่เหลือ!” มนุษย์วิหครูปงามซาฟี่ยิ้มเยาะสหาย แต่ไม่ได้ห้ามไม่ให้เขาหลบหนี
“การต่อสู้ครั้งนี้เป็นเจ้าเริ่มเองนะซาฟี่ ยิ่งกว่านั้น เจ้าเป็นผู้คุ้มกันวิหารแรกมาหลายร้อยปีแล้ว ในฐานะผู้คุ้มกันวิหาร เจ้ามีหน้าที่ต้องจับศัตรูของพวกเรา ยิ่งกว่านั้น เจ้ามีร่างกายสมบูรณ์ ต่างจากพวกเรา เราปรากฏตัวได้ห้านาทีเป็นอย่างมาก เราไม่สามารถออกจากวิหารแรกได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเวลาและอิสระในการเคลื่อนไหวเจ้าทำได้ดีกว่าเรา ดังนั้นซาฟี่ เจ้าน่าจะออกไปสู้ เราจะช่วยเจ้าจากด้านข้าง มนุษย์หนุ่มผู้นี้ไม่ใช่ศัตรูที่จัดการง่ายๆ เจ้าไม่ควรดูถูกเขา แม้ว่าเราไม่รู้ว่าเขาฆ่ากู่หยาได้อย่างไร แต่ความจริงที่ว่าเขาสามารถฆ่าได้เป็นความจริงที่เถียงไม่ได้” เงาที่สูงกว่าทั้งหมดปรากฏออกมาพูด
“ข้าเข้าใจแล้ว ข้ามีคำพูดเพียงประโยคเดียว พวกเจ้าขี้ขลาดกันทั้งหมด เมื่อก่อนนั้นลูเธอร์ เจ้าเป็นนักรบที่กล้าหาญในแดนสวรรค์ ใครจะคิดกันว่าหลังจากเจ้าสูญเสียร่างหยาบ เจ้าจะกลายเป็นนักรบที่ขี้ขลาดและกลัวตาย น่าตกใจจริงๆ!” ซาฟี่หัวเราะเบาๆ
“สองเรื่องนั้นมันต่างกัน ถ้าข้าเป็นผู้คุ้มกันวิหาร ข้าก็จะสู้กับศัตรูโดยไม่ตัดพ้อ” เงาสูงใหญ่แค่นเสียงเย็นชา แต่ก็ไม่ได้คัดค้านมากเกินไป
“มนุษย์คนนี้ซ่อนความสามารถได้เก่ง… แต่แม้ว่าเขาจะซ่อนความสามารถได้ ก็คงเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับ 3 เป็นอย่างมาก บางทีกู่หยาตายเพราะประมาทศัตรู และศัตรูของเขาอาจใช้เทพศัตรา หรือไม่สมบัติวิเศษบางอย่าง เจ้านึกหรือว่าเขายังสามารถใช้เทพศัตราหรืออาวุธวิเศษที่สามารถฆ่านักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับ 5 ได้ติดต่อกัน? ด้วยระดับที่แท้จริงของเขา เทพศัตราต้องสะท้อนกลับแน่นอน เทพศัสตรายิ่งแข็งแกร่งก็ยิ่งสะท้อนกลับรุนแรง จักรพรรดิอวี้คือตัวอย่างที่ดีในเรื่องนั้น” ซาฟี่กวาดสายตามาทางเย่ว์หยางขณะกางปีกทองที่ด้านหลัง เปล่งแสงสว่างเจิดจ้าเหมือนดวงอาทิตย์
วิหารที่หนึ่งสว่างราวกับเป็นเวลากลางวัน
แสงสว่างเจิดจ้า จนแม้พวกเขาจะเอามือบังเอาไว้ ก็ยังไม่สามารถลืมตาได้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมองเห็นสิ่งใดได้
ความร้อนรุนแรงแผ่ขยายไปทั้งวิหารที่หนึ่งอย่างรวดเร็ว ในที่สุดทั่วทั้งสถานที่นี้เหมือนเต็มไปด้วยรังสีแสงอาทิตย์
ซาฟี่อยู่ใจกลางรังสีแสงอาทิตย์พูดด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่งว่า “ถ้าเจ้าคิดว่าข้าจะกลัวเจ้าเพราะเจ้าฆ่ากู่หยาได้ เจ้าก็เข้าใจผิดถนัดเสียแล้ว”
เย่ว์หยางหัวเราะและเรียกคัมภีร์ทองของเขาออกมา
เขากางโล่พลังปกป้อง
เขาเริ่มเกร็งพลังของเขาไว้ พลังหยินและหยางที่อยู่ในภายในร่างของเขา เหมือนกับน้ำที่เต็มปริ่มรอเวลาที่จะเทพรวดออกมา
“ช่วย, ช่วยข้าด้วย….”
เสียงร้องโหยหวลน่ากลัวดังมาจากด้านนอกวิหาร
เริ่มจากแองเจิ้ลตัวประหลาดผมทองที่เป็นหัวหน้า มนุษย์ผสมอสูรมีตัวโชกเลือดวิ่งเข้ามาในวิหารใหญ่เหมือนกับว่าถูกคนตามล่า ใบหน้าแต่ละคนตื่นกลัวอย่างเห็นได้ชัด ยกเว้นแองเจิ้ล ตัวประหลาดผมทองที่เป็นหัวหน้า ร่างของเขาไม่ค่อยเสียหายมากนัก ส่วนมนุษย์อสูรที่เหลือร่างกายโชกเลือดกันหมด มีสองคนที่ใกล้จะตายเต็มทีร้องขอความช่วยเหลือจากสหายของพวกเขาที่หลบหนีไป
พอเห็นเช่นนี้ สายตาของซาฟี่เป็นประกาย
เขายื่นมือซ้ายออกมาในอากาศว่างเปล่าและปล่อยลูกศรแสงนับไม่ถ้วนออกมา
เพียงชั่วขณะ มนุษย์อสูรก็ถูกฆ่าตายทันที รังสีที่ร้อนแรงดุจดวงอาทิตย์เผาผลาญศพของพวกเขาจนเป็นเถ้าถ่าน ในที่สุดก็ไม่เหลืออะไรเลย
นอกจากแองเจิ้ลตัวประหลาดผมทองผู้หลบไปซ่อนอยู่หลังเสายักษ์ได้อย่างว่องไวแล้ว มนุษย์อสูรที่กำลังถอยทั้งหมดถูกเผาผลาญร่างสลายก่อนจะได้ทันกรีดร้อง
แองเจิ้ลตัวประหลาดผมทองกลัวจนหน้าถอดสีและสั่นไปทั้งตัว
“แองเจิ้ล! อย่าห่วงไปเลย แม้ว่าเจ้าจะกลายเป็นมนุษย์ผสมอสูรจากการอาศัยร่างสัตว์อสูรไปแล้ว เป็นสวะที่ไม่มีอะไรดีสักอย่าง แต่ข้าก็ไว้ชีวิตเจ้าเพราะเห็นแก่ความเป็นสหายเมื่อหลายปีก่อนนั้น” น้ำเสียงหยิ่งยโสของซาฟี่ก้องสะท้อนไปทั้งวิหารที่หนึ่ง พอได้ยินเช่นนี้แองเจิ้ลสั่นไปทั้งตัว ปากของเขาเหมือนกับอยากจะพูดบางอย่าง แต่ก็ไม่มีเสียงลอดออกมา
“แค่ก แค่ก…”
ภายในหอใหญ่ เต่ามังกรชราใช้ไม้เท้ายักแย่ยักยันและร่างของเขางอเหมือนชายชราที่แก่หง่อมเต็มที เขาก้าวเดินด้วยฝีเท้าที่ซวนเซไม่มั่นคง
เขาเดินช้ามากราวกับว่าจะหยุดหายใจและล้มลงขาดใจตายได้ทุกเมื่อ
ไม่มีผู้ใดรวมทั้งเย่ว์หยางที่คิดว่าสหายเฒ่านี้จะจบการต่อสู้ได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ เขายังไล่ล่าตามมนุษย์อสูรตลอดทางจนถึงที่นี่ ขู่ขวัญพวกเขาจนปัสสาวะราดรดกางเกงได้
แต่เย่ว์หยางรู้สึกว่าผู้เฒ่าท่านนี้ไม่น่าจะหยิ่งยโสเพียงเพราะสิ่งนี้
เขาคงจะก่อเรื่องผิดพลาดแน่นอนทันทีที่กลายเป็นคนหยิ่งยโส
ประกายรังสีฆ่าฟันฉายแว่บอยู่ในดวงตาของซาฟี่ แต่เขายังมีรอยยิ้มที่นุ่มนวล “ลูเธอร์, ดูดี้และโบเว่น ดูซิว่าใครมา ดูเขาสิ เป็นหยวนหลงสหายเก่าของเรา ผ่านมานานหกพันปีแล้ว ขุนพลเฒ่าของจักรพรรดิอวี้ยังมีชีวิตอยู่ เขายังทรงพลังเหมือนอย่างเคย เราควรปรบมือให้เขามิใช่หรือ? โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อสหายเก่าพยายามจะมาล้างแค้น แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บหนักก็ตาม เราควรจะให้เขาสมปรารถนาปล่อยให้เขาตายที่นี่ไม่ใช่หรือ เพื่อที่ว่าเขาอาจจะได้อยู่รับใช้จักรพรรดิอวี้ที่เขาเคารพไปตลอดกาล? เราขอต้อนรับท่านสหายรัก แล้วเจ้าอยากตายอย่างไร? ข้ารับรองได้เลยว่าจะทำความปรารถนาของเจ้าให้เป็นจริง!”
ผู้เฒ่าเต่ามังกรไอและเหลือบมองเย่ว์หยาง พลางบ่นพึมพำเหมือนกับว่าเขาเป็นโรคความจำเสื่อม “ข้าแก่แล้วและใช้การไม่ได้ ถ้าข้าตายที่นี่ ก็ถือว่าเสียสละอย่างคุ้มค่า ตาแก่ผู้นี้ชรามากแล้ว ดังนั้นตายแล้วจะเป็นเป็นไรไป? ข้าไม่ได้สูญเสียอะไรนี่!”
เย่ว์หยางรีบโบกมือห้าม “ผู้เฒ่าเต่า! ยังไม่ใช่เวลาที่ท่านจะตายอย่างวีรบุรุษ ท่านหลบไปข้างๆ ก่อน ตอนนี้ให้คนหนุ่มแสดงฝีมือก่อน ท่านไม่ควรสุ่มสี่สุ่มห้าเข้ามาสู้”
“แม้ว่าข้าจะแก่และใช้การไม่ได้ แต่ข้าก็ยังสามารถฆ่าได้คนหรือสองคนหากข้าสู้เดิมพันด้วยชีวิต” ผู้เฒ่าเต่ามังกรไม่ฟังคำแนะนำของเย่ว์หยาง เขาใช้ไม้เท้าพยุงตัวเดินงกๆ เงิ่นๆ เข้าหาซาฟี่
เรื่องตาแก่ที่ดื้อดึงนี้ เย่ว์หยางไม่สามารถทำอะไรได้
เขาคิดจะใช้อิฐ 2-3 ก้อนทุบหัวผู้เฒ่านี้ เพื่อที่ว่าเขาจะได้สลบลงไป และเย่ว์หยางจะได้ลากเขาออกไปข้างนอกได้
ผู้เฒ่าเต่ามังกรไม่เพียงแต่แก่มากแล้ว แต่เขายังบาดเจ็บหนักอีกด้วย ใครจะยอมให้เขาแสดงฝีมือ? เขาไม่ยอมพึ่งพาเขาที่เป็นคนหนุ่มเมื่อมีเรื่องเกิดขึ้น เป็นไปได้ว่าท่านผู้เฒ่าต้องการให้เขาพึ่งพาเขา ผู้เฒ่าเต่าหรือ?
ในที่สุด พอเห็นท่าทีมุ่งมั่นของเขา เย่ว์หยางไม่อาจหักใจห้ามเขา เขามองดูผู้เฒ่าสู้กับซาฟี่อย่างสงบ
ในกรณีที่ไม่มีปัญหา ถ้าเขาไม่สามารถเอาชนะซาฟี่ได้ กระดองเต่าของท่านผู้เฒ่านี้ก็ยังแข็งมาก ไม่มีปัญหาที่เขาจะเอาตัวรอดได้
พอเห็นว่าผู้เฒ่าเต่ามังกรกล้าท้าทายเขา ซาฟี่หัวเราะเยือกเย็น เขายื่นมือขวาออกมาเหมือนครั้งก่อน และปล่อยลูกศรแสงนับไม่ถ้วน รังสีแสงอาทิตย์ของเขารุนแรงกว่าเดิมถึงสิบเท่า
คลื่นลูกศรแสงพุ่งตรงมาที่ผู้เฒ่าเต่ามังกร
โถงใหญ่ในวิหารสว่างเจิดจ้าพอๆ กับตอนกลางวันอีกครั้ง
มันค่อยๆ เลือนหายไปหลังจากผ่านไปนาน
เมื่อวิหารที่หนึ่งกลับคืนสู่ความปกติ สายตาของซาฟี่กลับเยือกเย็นลง นั่นเพราะเขาพบว่าวิชาสูงสุดของเขา ธนูสุริยันต์ไม่อาจทำร้ายผู้เฒ่าเต่าได้เลยแม้แต่น้อย ขณะนั้นบนร่างของผู้เฒ่าเต่ามังกร ปรากฏว่าโล่ป้องกันมีขนาดเล็กมาก ใหญ่แค่เพียงพอคลุมร่างสั้นและอ่อนแอของเขา พื้นที่นอกโล่ปกป้องถูกบดกระแทกแตกเป็นเสี่ยงๆ หลังจากรับพลังโจมตีและมันกำลังจะพัง
อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่โล่ปกป้องยังคงอยู่ ผู้เฒ่าเต่ามังกรจะยังปลอดภัย
“หยวนหลง! อย่านึกว่าข้าจะทำอะไรเจ้าไม่ได้นะ!” พอเห็นว่าโล่รูปกระดองเต่ากำลังจะแตก ซาฟี่ค่อยบรรเทาความโกรธในใจลงได้และเกร็งพลังขนาดมหาศาลไว้ในมือ เขาซัดลูกบอลพลังงานซึ่งร้อนดุจดวงอาทิตย์ไปที่ผู้เฒ่าเต่ามังกรเตรียมสังหารเขาในกระบวนท่าเดียว
“บึ้ม…”
เสียงระเบิดสั่นสะท้านฟ้าและดินทำให้ทั้งวิหารสั่นสะเทือนไปหมด
แม้ว่าเย่ว์หยางจะเรียกคัมภีร์ทองของเขาออกมากางโล่ปกป้อง เขาก็ยังรู้สึกถึงพลังระเบิดรุนแรงจากแรงอัดกระแทกที่ปะทะกับโล่ของเขา
เขารู้สึกอึดอัด แม้ว่าเขาได้รับแรงกระแทกเพียงเล็กน้อยหลังจากพลังโจมตี
เมื่อคลื่นอัดกระแทกของพลังระเบิดใหญ่ลดลง รังสีแสงก็กระจายออกไป
ผู้เฒ่าเต่ามังกรที่ร่างกายเหี่ยวเหมือนต้นไม้แห้งกำลังสั่นอยู่ แต่ก็ยังคงยืนอยู่ในจุดเดิม พลังป้องกันของท่านผู้เฒ่าทรงพลังมากจริงๆ แม้ว่าเขายังทนทุกข์ทรมานจากอาการบาดเจ็บสาหัส แต่เขาก็สามารถทนรับพลังโจมตีที่น่ากลัวได้ เขาคือผู้เฒ่าเต่าผู้มีพลังป้องกันสุดยอดคู่ควรกับการเป็นตำนาน
เย่ว์หยางไม่สามารถเทียบพลังป้องกันของเขาแม้กับพลังของผู้เฒ่าเต่ามังกรได้
“รับมืออีกครั้ง!” เมื่อซาฟี่เห็นเช่นนี้ ดวงตาของเขากระตุกเล็กน้อย ขณะที่เขาแค่นเสียงเย็นชา
เขาพบว่าโล่รูปกระดองเต่าของผู้เฒ่าเต่ามังกรแตกเสียหายแล้ว
เหลือแต่เพียงสังขารแก่ๆ ที่อ่อนแอและบาดเจ็บหนักเหลืออยู่ เขายังจะสามารถรับการโจมตีครั้งที่สามของเขาได้ไหม? แน่นอนว่าเขาสามารถฆ่าเต่าชรานี้ด้วยกระบวนท่าโจมตีอีกคราเดียว ต้องได้แน่นอน
เงาร่างสูงใหญ่ชื่อลูเธอร์จู่ๆ ก็ยืนขึ้นและห้ามการต่อสู้ “พอได้แล้ว”
เมื่อซาฟี่ได้ยินเช่นนั้น เขาเถียงกลับทันควัน “ลูเธอร์สหายรัก, ลูเธอร์ผู้กล้าหาญ นี่อะไรกันอีก? ความเมตตาของเจ้าจะทำให้อาการเจ้าดีขึ้นอีกครั้งไหม? เจ้าต้องการปกป้องศัตรูของเจ้า เพราะเจ้ากระทำการโดยยืนกราน, ความภักดีและความมุ่งมั่นใช่ไหม? สหายรัก! ปล่อยข้าเถอะ ก่อนที่ข้าจะระเบิดตายเพราะความโกรธ ขอเตือนเจ้าอีกครั้ง นี่คือศัตรูของเรา ศัตรูร่วมของเขา หกพันปีที่แล้ว เขาสังหารทหารของเราและฆ่าสหายของเรา ญาติผู้น้องของเจ้าก็ตายด้วยน้ำมือของเขา เจ้าลืมก็เพราะว่าผ่านมานานเกินไปหรือ? เจ้าต้องการให้บันทึกรายชื่อเพิ่มเพื่อกระตุ้นความทรงจำของเจ้าไหม?”
ลูเธอร์โบกมือ “อย่าให้ความโกรธครอบงำสมองของเจ้าสิ ซาฟี่ ข้าห้ามเจ้าไม่ใช่เพราะต้องการช่วยศัตรูของเรา ข้าต้องการช่วยเจ้า! เจ้าไม่ได้ตระหนักหรือไงว่าเป้าหมายสูงสุดของหยวนหลงคืออะไร? เขาต้องการใช้พลังของเจ้าทั้งหมด ในวิหารเทพจักรพรรดิอวี้ ยากจะหาพลังงานได้ ทันทีที่เจ้าใช้พลังทั้งหมด เจ้าจะไม่สามารถฟื้นคืนพลังในช่วงเวลาสั้นๆ ได้ แม้ว่าเจ้าจะไม่ฆ่าหยวนหลงในตอนนี้ก็ตาม เขาก็ยังจะอยู่ได้อีกไม่นาน อย่างไรก็ตาม เจ้าสิ้นเปลืองพลังงานไปกับเขามากมายแล้ว”
“อะไรนะ!” แน่นอนว่าซาฟี่ไม่ใช่คนโง่ เขามีปฏิกิริยาตอบสนองทันทีเมื่อได้ยินคำอธิบายของสหาย เต่าชราพยายามจะใช้อุบายกับเขาหรือนี่?
“ข้า ทำมาได้มากเพียงเท่านี้แหละ ที่เหลือข้าขอปล่อยให้เจ้าจัดการนะ เด็กน้อย!” ผู้เฒ่าเต่ามังกรกระอักเลือดออกมา ล้มลงกับพื้นอย่างอ่อนล้า เหลือแต่เพียงลมหายใจรวยริน คล้ายกับว่าเขาหยุดหายใจไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เขายังคงมีชีวิต
“โธ่เอ๊ย, แม้ว่าท่านไม่ได้ต้านรับพลังโจมตีเล็กน้อยแทนข้า แต่ข้าก็สามารถเอาชนะเขาได้” เย่ว์หยางโยนด้วงหยกขาวใส่มือของเขาและดุเขา “ถ้าท่านเจ็บหนัก ท่านก็ควรอยู่พักฟื้นอยู่ที่บ้านสิ แก่ปูนนี้แล้วยังทำฟิตวิ่งพล่านตามคนอื่นไปทั่วอย่างไม่ระมัดระวังอีก ท่านยังคิดว่าตัวเองแข็งแรงเหมือนลูกพี่ใหญ่อีกหรือ? มีวิธีตั้งเยอะแยะใช้ฆ่าศัตรูของท่าน วิธีของท่านโง่เง่าที่สุด ท่านรู้เรื่องนั้นไหม? แต่เอาเถอะ เนื่องจากท่านต้องการอยู่แสดงความสัตย์ซื่อถึงที่สุด ข้าจะแบ่งความดีความชอบให้ก็ได้หากว่าข้าชนะศึกนี้ได้.. ตอนนี้ข้าแค่ให้ยืมด้วงหยกขาวก่อนนะ รักษาเสร็จแล้วอย่าลืมคืนข้าล่ะ ห้ามทำหายเชียว!”
“เลิกพล่ามไร้สาระ รีบโจมตีเขาซะ ตอนนี้คือเวลาที่พลังของเขาอ่อนแอที่สุด.. เจ้าเฉื่อยชาอย่างนั้น ต้องการช่วยให้ข้ารอดตายหรือ?” พอเห็นเย่ว์หยางทำตัวไม่อนาทร ผู้เฒ่าเต่ามังกรอยากจะหยิบไม้เท้าเข้าหวดเขานัก
“ระวังนะ, ซาฟี่ มนุษย์น้อยผู้นี้แปลกอยู่บ้างจริงๆ” พอเห็นเย่ว์หยางกำลังยิ้มและยังไม่เลิกยิ้ม ลูเธอร์รีบเตือนสหายของเขา
“ฮืม..” แน่นอนว่า ซาฟี่ก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดีบางอย่าง แต่เขาไม่เชื่อว่ามนุษย์ผู้เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับ 3 จะเอาชนะเขาได้
“พลังที่แท้จริงของเจ้าราวๆ นักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับ 6 ใช่ไหม? จะฆ่าเจ้าให้ได้ทันทีไม่ง่ายเลย!” เย่ว์หยางถอนหายใจช้าๆ
ทันใดนั้นเขาหายตัว เทเลพอร์ตไปอยู่ด้านหลังซาฟี่ ที่มีร่างปกคลุมด้วยรังสีดวงอาทิตย์
เขาเอื้อมมือข้างหนึ่งจับมือเขาไว้
วงจักรล้างโลกปรากฏอยู่ในมือของเขา
ซาฟี่พอหันมาเตรียมตัวปล่อยคลื่นระเบิดรังสีที่ใหญ่ที่สุดของเขาเพื่อฆ่าศัตรูฉับพลัน แต่เมื่อเขาเห็นวงจักรล้างโลกที่น่ากลัวอยู่ห่างเขาเพียงหนึ่งนิ้ว หน้าของเขาถึงกับถอดสีด้วยความกลัวทันที เขาต้องการหลบ แต่ปีศาจอสรพิษน้อยปรากฏตัวทันที นัยน์ตาของเธอดูเหมือนพูดได้กำลังจ้องมาทางเขาอย่างเปี่ยมไปด้วยพลัง
พันธนาการหรือ?
เขาโดนเล่นงานแล้ว
ซาฟี่พบว่าร่างของเขาไม่สามารถขยับได้แม้แต่น้อย เงาแห่งความตายแขวนอยู่เหนือศีรษะของเขา
ทันใดนั้นความคิดหนึ่งแว่บขึ้นในหัวของเขา ในที่สุดเขาก็พบว่ากู่เหยาถูกฆ่าตายอย่างไร เขาถูกวงจักรล้างโลกและการพันธนาการนี้เล่นงานพร้อมกัน อย่างไรก็ตาม โศกนาฏกรรมเมื่อสิบนาทีที่ผ่านมากำลังย้อนกลับมาซ้ำรอยกับเขาอีกครั้งกระนั้นหรือ?
**************