===============
ปีศาจที่น่ากลัวไม่สามารถออกมาจากประตูมิติได้อย่างราบรื่น มันเริ่มหายไปทันทีหลังจากถูกเย่ว์หยางใช้พลังดาบสุดยอดโจมตี
ผลออกมาอย่างนี้สร้างความประหลาดใจให้เย่ว์หยาง
เป็นไปได้หรือที่เขาจะเอาชนะปีศาจที่ทรงพลังด้วยการโจมตีแค่ครั้งเดียว? จริงเหรอ? เสียหั่วใช้ชีวิตและเลือดเนื้อของนักรบเป็นร้อยมาบูชายัญอัญเชิญจอมปีศาจ มันจะพ่ายแพ้ได้ง่ายๆ หรือ? ด้วยการจบเรื่องแบบนี้ เย่ว์หยางไม่เคยคิดเลย เป็นไปได้ว่าการโจมตีบวกกับความแข็งแกร่งของโซ่ล่องหนและเงายักษ์ พร้อมกับสุดยอดพลังกระบี่จากปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ขั้นก่อกำเนิด จะกวาดล้างได้ทุกอย่างเหรอ?
ทันใดนั้น สังหรณ์ใจถึงอันตราย ผุดขึ้นมาในใจของเขา
เย่ว์หยางมีปฏิกิริยาทันที เขาขยับขาทั้ง 2 ด้วยท่าร่างกระบี่พิสุทธิ์ 1 ใน 3 วิชาลับ ) ถอยออกมาถึง 10 เมตรในทันที
คลื่นคมเคียวที่สามารถผ่าท้องฟ้าและพื้นปฐพีได้ตัดผ่าออกมาจากประตูมิติ
การผ่าท้องฟ้านั้นเร็วกว่าสายฟ้าแลบเสียอีก มันเกือบฟันถูกปลายจมูกเย่ว์หยางขณะที่เขาหลบจากการถูกโจมตี และมันยังผ่าพื้นดินไปในระยะไกลจนเกิดรอยแยกลึก ง่ายพอๆ กับใช้มีดร้อนหั่นเนย ก่อนที่มันหายไปกับระยะที่ไกลขึ้น
อาคารป่าบันเทิงที่ยังตกอยู่ในทะเลเพลิงถูกคลื่นพลังที่แหลมคมตัดออกเป็นสองส่วนอย่างเงียบ ในทันทีนั้นมีเสียงระเบิดดังตามออกมา อาคารขนาดใหญ่ค่อยๆ พังทลายลง เสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหวจากคลื่นพลังโจมตีทำให้เย่ว์หยางถึงกับขนหัวลุก มันเป็นคลื่นคมเคียวที่น่ากลัวจริงๆ เขาเกือบถูกมันผ่าเป็น 2 ส่วนเสียแล้ว หากเขาหลบไม่ทัน แม้ว่าจะมีการป้องกันตัวก็ตาม เขาคงไม่รอดจากการโจมตีที่ผ่าได้กระทั่งท้องฟ้า หากเขาไม่ใช้ 1 ในวิชาลับทั้ง 3 เขาคงตายอย่างอนาถ จากการโจมตีแบบไม่รู้ตัวอย่างนี้
“ในรอบ 600 ปีที่ผ่านมา เจ้าเป็นมนุษย์คนแรกที่ทำให้ข้าบาดเจ็บได้”
ตามมาด้วยเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวจากภายในประตูมิติ มือจอมปีศาจเปื้อนเลือดสีดำมีเปลวไฟสีม่วงคลุมอยู่ยื่นออกมาจากภายในประตูมิติ
กลุ่มเปลวไฟเขียวเข้มข้นมีอยู่ในมือนั้น พลังที่กล้าแข็งรุนแรงจนทำลายได้ทั้งสวรรค์และโลกมนุษย์ ไฟนรกที่เสียหั่วเรียกออกมาตอนแรกไม่มีความสำคัญเลยหากเอาไปเทียบกับเปลวไฟสีเขียวเข้มเหล่านี้ พอเห็นดังนี้แล้ว เย่ว์หยางไม่คิดว่าตอนนี้ จะสามารถต้านรับการโจมตีครั้งต่อไปได้ หากเขาปล่อยให้เปลวไฟเขียวเข้มเหล่านี้ถูกต้องเขา ผลที่ตามมาอาจเลวร้าย แต่ตอนนี้เขาจะทำอะไรอย่างอื่นได้เล่า?
หนีไปงั้นหรือ?
หรือว่าสู้จนถึงที่สุด?
บางทีการทำลายประตูมิติป้องกันไม่ให้จอมมารร้ายออกมาอาละวาด น่าจะเป็นความคิดที่ดี
แต่ปัญหาก็คือ เขาจะต้องหลบการโจมตีของเปลวเพลิงเขียวเข้มและเข้าไปทำลายประตูมิติที่อยู่เบื้องหลังมัน เม็ดเหงื่อผุดขึ้นจากหน้าผากของเย่ว์หยาง พอดูเปลวเพลิงเขียวเข้มตรงหน้าที่มันเคยขยายตัวมาก่อน จากนั้นดูที่เบื้องหลังเขา ก็คือตำแหน่งที่บ้านของหญิงงามตั้งอยู่ แม้ว่าบ้านจะตั้งอยู่ค่อนข้างไกล แต่ถ้าเปลวเพลิงเขียวเข้มถูกปล่อยออกมาในรูปคลื่นพลังกระแทก บางที….
บางที, แม่สี่กับเด็กหญิงยังคงหลับฝันอยู่กระมัง?
เย่ว์หยางกัดฟันขณะที่เขาเริ่มวนแขนของเขามาใกล้กัน ด้วยการหมุน เขารวบรวมพลังปราณที่เหลือในร่างกายเขาเข้าไปตามเส้นปราณสายหยินและหยางก่อเกิดเป็นพายุหมุนวนสายหนึ่ง
แม้คิดว่าพลังของจอมมารจะมีพลังทำลายมากและยากจะต้านทานได้ เย่ว์หยางก็ยังคงมุ่งไปข้างหน้า เขาแทบไม่สนใจว่าคนในแผ่นดินมังกรทะยานจะอยู่หรือตาย แต่เขาคงไม่ยอมดูเฉยๆ โดยไม่ทำอะไรแน่ เมื่อมีอันตรายคุกคามความปลอดภัยของแม่สี่และน้องสาวตัวน้อย
แม่สี่ผู้รักและเมตตาเขากับน้องสาวผู้ซุกซน พวกนางคือครอบครัวของเขา
“มนุษย์ผู้โง่เขลา” หลังจากยื่นมือออกมาจากภายในประตูมิติแล้ว จอมปีศาจก็เริ่มหัวเราะอย่างกระหายเลือด
“บึ้ม!”
เหมือนกับมันรู้ว่าเย่ว์หยางคงจะพยายามลุยเข้ามา เหมือนพยายามฆ่าตัวตายอย่างสิ้นหวัง ทันใดนั้นกลุ่มเปลวไปสีเขียวเข้มก็ระเบิดขึ้น ลำแสงสีเขียวถูกยิงออกมาจากฝ่ามือของจอมมารตรงเข้าหาร่างของเย่ว์หยาง
ทันใดนั้น โล่ห์แสงสีเขียวปรากฏต่อหน้าเย่ว์หยาง เป็นวงสีรุ้งสวยงาม ลึกลับเปล่งแสงเหมือนประกายบนเพชรปรากฏอยู่บนผิวโล่ห์ปกป้องร่างของเขาไว้ คัมภีร์อัญเชิญชั้นเพชรปรากฏขึ้นในเวลาเดียวกับที่เเสี่ยวเหวินหลีที่กำลังใช้มือน้อยๆ ควงมีดอยู่หลังจากที่ออกมาจากตัวเย่ว์หยางด้วยตัวเอง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความกังวลใจ ลำแสงสีเขียวยิงเข้ามาที่โล่ห์ของเธอ โล่ห์สั่นสะท้านอย่างรุนแรง พร้อมกับเสียงระเบิดสนั่นหวั่นไหว จนโล่ห์แทบจะถูกทำลาย เย่ว์หยางตกใจ โชคดีที่โล่ห์แสงปกป้องและสลายพลังแสงสีเขียวได้สำเร็จ พลังที่แฝงมากับลำแสงสีเขียวยังกระจายไปอีกไกล ในที่สุดก็กระจายหายไปในอากาศ
พอเห็นโล่ห์แสงยังคงเหมือนเดิมหลังจากปะทะกับลำแสงสีเขียวแล้ว เย่ว์หยางถอนหายใจโล่งอก
เขาวางเดิมพันได้ถูก
โล่ห์ถูกเรียกออกมาโดยคัมภีร์เพชรของเสี่ยวเหวินหลีสามารถต้านทานแรงทำลายล้างได้
“ฮ่าาห์” เสี่ยวเหวินหลีกู่ร้องเสียงแหลมสูงออกไป เย่ว์หยางคิดว่าเธอไม่รู้จักเขา มือจอมมารยื่นตรงมาที่โล่ห์แสงแล้ว แม้ว่าจะเป็นแค่นิ้วเดียว แต่เย่ว์หยางก็ตกใจสุดขีด
เฉพาะตอนนี้เขาตระหนักว่าโล่ห์แสงยังป้องกันได้ไม่สมบูรณ์ มันมีขีดจำกัดของมันเอง นิ้วจอมมารแทงผ่านแนวป้องกันของโล่ห์แสงมาได้ เย่ว์หยางกอดเสี่ยวเหวินหลีไว้กับอ้อมอกทันที มันเป็นปฏิกิริยาจากนิสัยของเขา คือปกป้องเธอไว้แม้จะต้องตายก็ตาม เขาทำไปเพื่อ…. สำหรับเวลานี้เขาเอาจริง
อย่างไรก็ตาม เสี่ยวเหวินหลีดิ้นออกมาจากอ้อมกอดเขา เธอเงื้อมีดน้ำแข็งเล่มน้อย แล้วฟันไปที่นิ้วของจอมมารอย่างดุร้าย
ในทันใดนั้น มือของจอมมารกลายเป็นน้ำแข็งทันที
แม้แต่ไฟนรกที่ลุกไม้อยู่ใกล้ๆ ก็ถูกแช่แข็งจนดับไปโดยปริยาย
“ยังพอมีหวัง!” ปฏิกิริยาตอบโต้ของเย่ว์หยางเกินขีดจำกัดไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว เขาฝืนตัวเองเพ่งถึงปราณของเขาอีกครั้ง เตรียมใช้พลังโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดจากวิชาลับ 3 แบบ “กระบี่ปณิธานสูงสุด” สุดยอดพลังกระบี่จะถูกปล่อยอีกครั้ง พลังโจมตีกล้าแข็งกว่าครั้งก่อน มันจะทะลวงเข้าไปในมือของจอมมารที่กำลังละลายอย่างไม่ปราณี
ความคมกล้าของปราณกระบี่ ไม่มีอะไรเทียบเท่า ทำให้เย่ว์หยางยังไม่พ่ายแพ้
จอมมารต้องการจะดึงมือตนกลับ แต่ภายใต้กับดักน้ำแข็งที่มั่นคง ความเร็วในการดึงมือกลับของมันช้าพอๆ กับหอยทากคืบคลาน
ปราณกระบี่ไล่ตามมันมาทัน และด้วยเสียง “ฉึก” มันทะลวงเข้าใจกลางฝ่ามือของจอมมาร มีรูปราฏอยู่ที่สะเก็ดหลังมือจอมปีศาจนี้
ในตอนนี้เอง ประตูมิติก็หดเล็กลง เล็กลงในทันที
มือจอมปีศาจที่ยื่นออกมาจากประตูมิติไม่ได้โจมตีเย่ว์หยางอีก ขณะที่มันดึงมือกลับอย่างเร็วจนหายลับไปในประตูมิติ
หางงูของเสี่ยวเหวินหลีโบกไปมาดูงดงามมากขณะที่เธอเลี้อยไปบนพื้น เธอยังคงไล่ตามมือจอมปีศาจ พลางส่งเสียงขู่ฟ่อออกมา เย่ว์หยางรู้สึกว่า เธอปล่อยโซ่ล่องหนด้วยพลังทั้งหมดของเธอ
ถ้ามันถูกใช้แต่แรก ผลก็คงมีผลไม่มาก
ที่สำคัญคือ โซ่ล่องหนใช้ตรึงได้เพียง 1 วินาที แต่ตอนนี้ มันมีผลอย่างมาก
มือจอมปีศาจถูกเสี่ยวเหวินหลีใช้พลังโซ่ตรึงไว้ในตำแหน่งที่แน่นอนจึงไม่อาจเคลื่อนที่ได้แม้แต่นิ้วเดียว เมื่อประตูมิติหายไป พื้นที่ซึ่งต่างกันจึงเป็นเสมือนมีดคมกล้า ตัดแขนจอมปีศาจได้ในทันที เย่ว์หยางถูกสัญชาตญาณการรบของเสี่ยวเหวินหลีสะกดจนตะลึง เธอไม่ได้ใช้โซ่ล่องหนตลอดจนถึงตอนนี้ แต่กลับรอใช้จนเมื่อประตูมิติปิดลงเธอก็สร้างความเสียหายร้ายแรงให้จอมมารเสียแล้ว สำหรับแมลงน้อยอย่างเย่ว์หยางความเคลื่อนไหวดังกล่าวคาดไม่ถึงเลยจริงๆ
“บัดซบ, เจ้าพวกมนุษย์นักสู้ที่น่ารำคาญ ข้าจะจำพวกเจ้าเอาไว้ เราจะได้พบกันอีกแน่นอน คอยดูต่อไป..”
ประตูมิติหายไปพร้อมกับเสียงโหยหวนของจอมปีศาจดังก้องอยู่ในความมืด
ถ้าพวกเขาต้องสู้ต่อหน้ากันจริงๆ เย่ว์หยางไม่มีทางเอาชนะด้วยพลังของเขาในตอนนี้แน่
อย่างไรก็ตาม โลกแบ่งออกเป็น 2 โลกต่างกัน จอมปีศาจคงไม่ออกมาจากประตูมิติได้อย่างราบรื่น มันทำได้เพียงโจมตีมาจากรอยแยกมิติ ยิ่งไปกว่านั้น มันประมาทเย่ว์หยาง ในที่สุดภายใต้พลังกระบี่ไร้ลักษณ์ขั้นปราณก่อกำเนิดและโซ่ล่องหนของเสี่ยวเหวินหลีและสัญชาตญาณต่อสู้ที่น่าอัศจรรย์ของเธอ จอมปีศาจจึงพ่ายแพ้ไปอย่างหมดท่า มันเสียแขนไปข้างหนึ่ง ไม่น่าแปลกใจที่มันโกรธมากขนาดนั้น
ปราณในตัวเย่ว์หยางถูกใช้ไปเกลี้ยง ขณะที่เขาทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างอ่อนเพลีย
เขาเปิดศึกรอบด้านและชนะได้แม้จะมีอันตราย
คัมภีร์อัญเชิญสีทองแดงลอยมาที่ข้างตัวเขาเงียบๆ และส่องแสงสว่างในท่ามกลางราตรี ลำแสงสีขาวส่องออกมาทันที มันส่องไปบนท้องฟ้าสูงอย่างน้อย 10 เมตร
เป็นเพราะเย่ว์หยางได้ชัยชนะในการต่อสู้ครั้งนี้ จึงได้มีการปรับชั้นเลื่อนระดับ… ภายในใจของเย่ว์หยาง คลื่นข้อมูลจำนวนมหาศาลปรากฏเข้ามาจนทำให้เขาประหลาดใจ “ท่านเอาชนะศัตรูในการต่อสู้ที่เป็นไปไม่ได้ที่จะเอาชนะ จึงถือว่าเป็นชัยชนะที่มหัศจรรย์ ดังนั้น ค่าประสบการณ์ของท่านจึงเต็มขีดจำกัดในระดับขั้นปัจจุบัน และคัมภีร์ทองแดงของท่านได้รับการยกระดับจากระดับ 1 ขั้นผู้ฝึกหัด เป็นระดับ 1 ขั้นกลาง ท่านจะได้รับหน้าว่างเพิ่มขึ้น อีกอย่าง ตามกฎรหัสโบราณ เทพเจ้าจะมอบของขวัญแก่ท่าน คือ เงาปีศาจอสูรผู้พิทักษ์ของท่านจะได้รับทักษะชนิดใหม่…”
******************