ตอนที่ 353 อาญาสวรรค์
เย่ว์หยางอยู่ข้างหน้าขณะที่นางเซียนหงส์ฟ้าอยู่ด้านหลัง
ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ยังไม่ทันได้โต้ตอบอะไรก่อนที่เขาจะทันเห็นหมัดที่มีเพลิงอมฤตลุกไหม้พุ่งเข้าหาตัวเขาอย่างรวดเร็ว
เขาไม่สามารถทำอะไรได้ขณะที่เย่ว์หยางต่อยใส่หน้าอกเขาอย่างรุนแรง
ยิ่งกว่านั้นในขณะเดียวกัน นางเซียนหงส์ฟ้าโจมตีรุกกระหนาบจากด้านหลังของเขาสุดกำลัง
“มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่สร้างสิ่งมหัศจรรย์ได้แน่นอน” ร่างของผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์สั่นเล็กน้อย และทันใดนั้นเองเขากระแทกทั้งเย่ว์หยางและนางเซียนหงส์ฟ้ากระเด็นออกไปราวกับลูกกระสุน เลือดพุ่งออกจากปากของเขา แต่สายตาของเขาแปรเปลี่ยนไปอย่างรุนแรงรวดเร็วในเพราะเหตุนี้ เขาพยักหน้ากล่าวว่า “น่าสนใจดีนี่”
แม้ว่าเขาจะมีพลังป้องกันสูงส่ง แต่หลังจากรับการโจมตีของเย่ว์หยางและนางเซียนหงส์ฟ้าที่เพิ่มพลังโดยแปลงร่างที่สองในสภาวะคลุ้มคลั่งและเพลิงชีวิตสามสิบเท่าตามลำดับ แต่ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ผู้ถือตรีศูลก็ยังได้รับบาดเจ็บ ไม่ใช่แค่เลือดออกจากมุมปากอย่างที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บจริงๆ อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงที่ว่าเย่ว์หยางและนางเซียนหงส์ฟ้าร่วมมือโจมตีเขา สามารถทำร้ายเขาได้จริงๆ แต่เขาก็เหวี่ยงเย่ว์หยางและนางเซียนหงส์ฟ้ากระเด็นออกไปเป็นการโต้ตอบได้ทันที
เขาผลักตรีศูลของเขาซึ่งเปล่งแสงต่อเนื่องยื่นออกมาด้านหน้า พลังเริ่มทะลักออกจากตัวของเขากระจายออกไปด้านนอกอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่พลังทำลายแม้แต่น้อย มันแค่สร้างสนามพลังขนาดใหญ่อยู่รอบตัวเขา
“แรงโน้มถ่วงห้าสิบเท่า” ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์โยนตรีศูลของเขาลงบนพื้น อักษรรูนสวรรค์นับไม่ถ้วนมารวมตัวอยู่ที่แทบเท้าเขาก่อตัวเป็นวงเวทอักษรรูนขนาดยักษ์
“บึ้ม!” เย่ว์หยางที่กำลังลอยกระเด็นอยู่ร่วงกระแทกใส่พื้นราวกับดาวตกทันที
“เอ๊ะ?” นางเซียนหงส์ฟ้า ที่เสียสละใช้พลังเพลิงชีวิตสามสิบเท่า รู้สึกว่าร่างของนางค่อยๆ ร่วงลงมา เมื่อนางถึงพื้น แผ่นหินบนพื้นได้แตกจากน้ำหนักของนางเป็นรอยเหมือนใยแมงมุม อีกด้านหนึ่ง ขาของเย่ว์หยางจมลึกลงไปในแผ่นหิน อย่างไรก็ตามเขายังอยู่ในสภาวะร่างแปลงคลุ้มคลั่งร่างที่สอง เย่ว์หยางจึงไม่สนใจต่อกลอุบายที่คู่ต่อสู้ของเขาใช้ ตราบใดที่ร่างของเขายังคงเคลื่อนไหวได้ เขาก็ยังคงโจมตีต่อไป เย่ว์หยางเคลื่อนไหวร่างกายได้ช้า ก้าวไปบนแผ่นหินทีละก้าวมุ่งหน้าเข้าหาผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์
“กลายเป็นว่าเจ้าแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเจ้าสูญเสียความรู้สึก…” เมื่อผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์เห็นความเคลื่อนไหวของเย่ว์หยาง ก็เข้าใจได้ทันทีถึงเหตุผลที่นางเซียนหงส์ฟ้าไม่ห้ามเขาเมื่อเขาใช้การสะกดจิตก่อนหน้านั้น นางไม่ได้ลบล้างผลกระทบจากการสะกดจิต กลับกลายเป็นว่าเด็กหนุ่มนี่แข็งแกร่งมากขึ้นเมื่อเขาสูญเสียสัมปชัญญะ
สถานการณ์แบบนี้ได้รับการพิสูจน์ได้ในระดับหนึ่ง
และนั่นก็คือเด็กมนุษย์คนนี้ครอบครองศักยภาพมหาศาลจริงๆ ยังเหนือกว่าพลังของเขาในตอนนี้ เป็นแต่เพียงว่าเขายังไม่เติบโตกล้าแกร่งเต็มที่
ด้วยสัมปชัญญะที่ครบถ้วนของเขา เขายังไม่สามารถตระหนักถึงพลังเต็มที่ของเขาได้ เพราะเขายังไม่มั่นใจในศักยภาพที่แท้จริงของเขา แต่เมื่อเขาสูญเสียสัมปชัญญะและเข้าสู่สภาวะคลั่ง พลังของเด็กหนุ่มคนนี้จะระเบิดออกมาโดยที่เขาไม่รู้ตัว
ที่สำคัญที่สุด สภาวะคลั่งที่ทำให้เขาสูญเสียสัมปชัญญะนี้จะไม่ทำอันตรายร่างกายเขาเลยแม้แต่น้อย เพราะเด็กคนนี้ครอบครองพลังดับแล้วเกิดจากเพลิงอมฤตของเขานั่นเอง
จากจุดนี้ อาจเห็นได้ว่า ศักยภาพที่แท้จริงในตัวของเด็กคนนี้สูงมากกว่าที่แสดงออกตอนนี้มากมายนัก
เห็นได้ชัดว่าผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ที่มีตรีศูลคงไม่ปล่อยให้สถานการณ์เช่นนี้ดำเนินต่อไป
เขาควงตรีศูลแล้วชี้มาที่เย่ว์หยาง “ปัดเป่า”
แสงประหลาดพุ่งกระจายออกมาจากตรีศูลตรงเข้าที่หน้าผากของเย่ว์หยาง
ในทันใดนั้นพลังสะกดจิตที่กล้าแข็งถูกขจัดกระจายหายไป และเย่ว์หยางกลับคืนสู่สภาะปกติของตน
“ข้าปวดหัว!” สภาวะจิตของเย่ว์หยางกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว เหมือนกับว่าเขาเพิ่งจะตื่นจากฝันร้าย เขาปวดหัวราวกับว่าถูกเข็มแทง สิ่งที่ทำให้เย่ว์หยางทรมานที่สุดเป็นเพราะสัมปชัญญะของเขากลับคืนมาและผลสะท้อนจากแปลงร่างคลุ้มคลั่งร่างที่สองหายไปอย่างรวดเร็ว พลังของเขาที่เพิ่มอย่างรวดเร็วก็ลดลงฮวบฮาบ เย่ว์หยางแทบหายใจไม่ออกกับการต้องทนแบกรับแรงโน้มถ่วงห้าสิบเท่า
ภายในสนามพลังของผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ สิ่งมีชีวิตใดๆ ก็ตามล้วนได้รับผลกระทบจากแรงโน้มถ่วงห้าสิบเท่า
อย่างไรก็ตาม นางเซียนหงส์ฟ้าสังเกตเห็นรายละเอียดได้เล็กๆ น้อยๆ
หินทั้งหมด อาคารและสิ่งของที่นี่ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ของเหล่านั้นยังมีสภาพน้ำหนักโน้มถ่วงเป็นปกติ
พอเรียกคัมภีร์อัญเชิญและกางโล่ป้องกันก็ไม่ได้ลดผลกระทบจากแรงกดดันแต่อย่างใดเลย เป็นที่ชัดเจนว่าสนามพลังของคู่ต่อสู้เป็นทักษะที่ส่งผลทะลุโล่ปกป้องได้ คู่ต่อสู้ของพวกเขาคือผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ ไม่ใช่นักสู้ธรรมดา โล่ปกป้องของคัมภีร์ใช้กับเขาไม่ได้ นางเซียนหงส์ฟ้ารีบโต้ตอบโดยเพิ่มพลังเพลิงชีวิตเป็นห้าสิบเท่าทันที ขณะที่นางร่ายบทอัญเชิญ เย่ว์หยางใช้พลังแปลงคลุ้มคลั่งร่างสองซึ่งยังไม่หายไปสิ้นเชิงกระโจนสูงขึ้น ขี่บนหงส์เพลิงของเขา พุ่งเข้าหาผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์
ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ที่ถือตรีศูลนัยน์ตาเป็นประกาย
เขาไม่ยอมรับการโจมตีโดยตรงของเย่ว์หยาง แต่กลับชูตรีศูลขึ้น
แสงประหลาดพุ่งกระจายจากปลายตรีศูลสู่ท้องฟ้า วงเวทอักษรรูนสวรรค์นับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น ส่องแสงแพรวพราวเหมือนกับแม่น้ำแห่งดวงดาว ผสานเข้าด้วยกันเป็นรูปแบบอักษรรูนที่ลึกลับซับซ้อน
“สุญญากาศ”
ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ใช้ตรีศูลชี้ทันที พื้นที่ทั้งหมดเปลี่ยนสภาพเป็นไร้แรงโน้มถ่วงทันที เป็นมิติว่างเปล่า
เย่ว์หยางผู้ใช้พลังทั้งหมดเพื่อต่อต้านพลังแรงโน้มถ่วงห้าสิบเท่าไม่สามารถใช้พลังของเขาได้เต็มที่ ภายในวินาทีเดียว เย่ว์หยางก็พุ่งขึ้นฟ้าเหมือนดาวตกและกระแทกใส่โดมหลังคาวิหารเทพจักรพรรดิอวี้ แรงปะทะกระแทกทำให้โถงวิหารที่สามสั่นไหวรุนแรงเป็นเวลานาน
นางเซียนหงส์ฟ้าสังเกตเห็นว่าเศษอิฐเศษหินและดินร่วงลงพื้นช้าๆ
นอกจากสิ่งมีชีวิต สิ่งไม่มีชีวิตไม่ได้รับผลกระทบจากสนามพลังแต่อย่างใด
นางจดจำเงื่อนไขเช่นนี้ไว้ในใจ นางรู้สึกว่านี่อาจเป็นจุดอ่อนของผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ที่ถือตรีศูลก็ได้… แน่นอน ตรีศูลอาจมีมาตรการที่เขาคิดขึ้นเพื่อป้องกันจุดอ่อนของเขาก็ได้ หากปราศจากมัน พลังของผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์จะต้องลดลงแน่นอน
“พลังแรงโน้มถ่วงห้าสิบเท่า” ทันทีที่ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์เปลี่ยนแรงโน้มถ่วง ร่างของเย่ว์หยางก็กระแทกเข้ากับพื้นอีกครั้ง
“สุญญากาศ” ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ชูตรีศูลในท้องฟ้า เย่ว์หยางที่พยายามต้านทานแรงโน้มถ่วงด้วยพลังทั้งหมดก็พุ่งออกไปเหมือนดาวตกใส่โดมของวิหารที่สามอีกครา
“อย่าลืมสิ ข้ายังอยู่ที่นี่ รังแกแต่เด็กยังจะมีความหมายอะไร?” นางเซียนหงส์ฟ้าปรากฏตัวที่ด้านหลังผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ นางใช้มือคว้าไหล่ขวาของเขาไว้
“ควับ”
ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์หายตัวทันที หลบพลังโจมตีของนางได้
เขายิ้มให้นางเซียนหงส์ฟ้าแล้วพูดว่า “เจ้ากำลังหลอกล่อให้ข้าสู้กับเจ้า แต่ไม่, ข้าจะไม่สู้กับเจ้า เจ้าต้องการแลกชีวิตของเจ้ากับข้า ข้ารู้ว่าเจ้ามีความสามารถที่ทำเช่นนี้ได้ แต่ข้าไม่โง่ขนาดนั้น พัวพันข้าไปก็ไร้ประโยชน์! เจ้าจะทนสภาพเพลิงชีวิตห้าสิบเท่าได้นานแค่ไหน?”
หัวใจนางเซียนหงส์ฟ้าสั่นสะท้านเล็กน้อยเมื่อนางได้ยินเช่นนั้น คู่ต่อสู้ของนางไม่หลงกลนาง ตอนนี้นางจะทำอะไรได้?
นางจะคงอยู่ภายใต้เพลิงชีวิตห้าสิบเท่าได้นานแค่ไหน?
เป็นไปได้ไหมที่นางต้องใช้เพลิงชีวิตร้อยเท่า?
อย่างไรก็ตาม ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ผู้ถือตรีศูลตัดสินใจได้เร็วกว่านางเซียนหงส์ฟ้า เขาตะโกนขึ้น “สนามพลังเต็มกำลัง พลังแรงโน้มถ่วงร้อยเท่า!”
เย่ว์หยางยันร่างไว้ขณะที่มือและขาของเขาจมลงในแผ่นหิน
ภายใต้แรงกดดันของพลังโน้มถ่วงร้อยเท่า อย่าว่าแต่เขาเลย แม้แต่นางเซียนหงส์ฟ้าก็ยากจะต้านทาน
ขาของนางบดพื้นข้างล่างขณะที่ตัวของนางซึ่งทนต่อแรงโน้มถ่วงร้อยเท่าก้มลงเล็กน้อย หากมือของนางไม่พยุงร่างของนางโดยเกาะคัมภีร์อัญเชิญไว้ นางอาจไม่สามารถทนต่อพลังและล้มลงบนพื้นก็ได้
แรงโน้มถ่วงร้อยเท่าไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์ธรรมดาสามารถต้านรับได้แน่นอน
สิ่งที่ยากลำบากที่สุดก็คือผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์นั้นสามารถเปลี่ยนพลังโน้มถ่วงได้ฉับพลันทำให้สนามพลังของเขากลายเป็นสุญญากาศ นางเซียนหงส์ฟ้ายังคงปลอดภัย นางต้านทานความเปลี่ยนแปลงได้อย่างยากลำบาก เย่ว์หยางกลับตรงกันข้ามเขากำลังลำบาก ร่างของเขาไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาเจ็บปวดมากเหมือนกับว่ากำลังถูกช้างแมมมอธย่ำใส่
เขายื้อคัมภีร์อัญเชิญซึ่งลอยอยู่ในอากาศด้วยมือที่เปื้อนเลือดป้องกันไม่ให้ตัวเองร่วงใส่โดมของวิหารเทพ
ตราบใดที่คู่ต่อสู้ของเขายังคงสลับใช้พลังแรงโน้มถ่วงร้อยเท่าและพลังสุญญากาศ เย่ว์หยางคิดว่าสิ่งเดียวที่เขาทำได้ก็คือหลบหนี
นั่นไม่มีทางเอาชนะได้เลย
“ข้าบอกมาก่อนแล้ว อย่าลืมสิว่าคู่ต่อสู้ของเจ้าคือข้า!” นางเซียนหงส์ฟ้าพึมพำ
เมื่อผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์หันกลับมามองนาง ทันใดนั้นเขาเห็นมือของนางยื่นออกมาเร็วกว่าสายฟ้า หนึ่งในพันส่วนเสี้ยววินาที มือของนางอยู่ข้างหน้าและขยายใหญ่เมื่อเวลาผ่านไป
แรงต้านทานระเบิดออกมาราวกับคลื่นสึนามิ ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ที่ถือตรีศูลชะงักค้างทันที เขาไม่มีเวลาจะเหวี่ยงตรีศูลของเขาและโจมตีคู่ต่อสู้ของเขาก่อนที่เขาจะถูกโจมตี ในสายตาของเย่ว์หยาง มีความประหลาดใจ เขาเห็นนางเซียนหงส์ฟ้าตรึงผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ไว้กับพื้นสุดกำลัง กรงเล็บแหลมคมของนางคว้าศีรษะของผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ไว้ และเมื่อคู่ต่อสู้ของนางพยายามหันกลับมามอง นางกระแทกหัวผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ลงกับพื้น
บึ้ม!
โถงวิหารที่สามทั้งหลังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงจากพลังโจมตีครั้งนี้
เสียงระเบิดสะท้อนก้องตลอดวิหารเทพจักรพรรดิอวี้อยู่นาน
ไม่เพียงแต่เทวทูตสายลมและผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ผู้เป็นเหมือนหลุมดำเท่านั้น แม้แต่เย่ว์หยางก็ยังไม่อยากเชื่อ
นี่ เป็นไปได้อย่างไร?
ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์แข็งแกร่งจนไม่มีผู้ใดเปรียบได้ถูกนางเซียนหงส์ฟ้าจับกระแทกใส่พื้น? ขณะที่ทุกคนตกตะลึงพูดไม่ออก ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ที่ถือตรีศูลก็ใช้มือยันและยกศีรษะขึ้นจากพื้น เขาใช้ตรีศูลแทงกลับหลังใส่ร่างของนางหงส์ฟ้าอย่างดุเดือด อย่างไรก็ตาม การโจมตีของผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ใช้กับนางเซียนหงส์ฟ้าไม่ได้
“ไม่มีประโยชน์!” นางเซียนหงส์ฟ้าตะโกนลั่น
นางตวัดกรงเล็บใส่ส่งผลให้ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ปลิวกระเด็น
เขาพุ่งเข้าหาเสายักษ์เหมือนกับกระสุนปืนใหญ่ ทันใดนั้นวิหารเทพทั้งหลังสั่นสะเทือนไปหมด เขากระแทกเข้าใส่ผนังยุบลงไปจนเป็นหลุมรูปมนุษย์
ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์นั้นโต้ตอบทันที
ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ออกมาจากหลุมนั้นด้วยความเร็วกว่าแสง ตรีศูลในมือของเขาเปลี่ยนเป็นสายฟ้าทรงพลังพุ่งเข้าหานางเซียนหงส์ฟ้า
ปีกปีศาจบนหลังของนางเซียนหงส์ฟ้ากระพือรวดเร็ว เพียงกระพือครั้งเดียว นางก็มาถึงด้านหลังผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์แล้ว
กรงเล็บแหลมคมคว้าขาผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์
นางยกตัวเขาแล้วฟาดลงกับพื้นอย่างไม่ปราณี ไม่เปิดโอกาสให้ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ได้ตั้งตัว นางย่ำใส่หน้าของเขาซ้ำอีก ขณะเดียวกัน นางชูมือขึ้นสูง พลังงานไร้ขีดจำกัดรวมอยู่ในมือนาง เหมือนกับเห็นภาพที่น่าประทับใจลอยอยู่ในท้องฟ้า พลังทั้งหมดที่อยู่ในอากาศปั่นป่วนทันที เหมือนกับว่าเป็นกฎเกณฑ์เฉพาะที่ มันลงมารวมกันอยู่ในมือของนางเซียนหงส์ฟ้าอย่างรวดเร็ว พลังงานที่น่ากลัวเริ่มไหลลงมาจากฟ้า สายฟ้าสีม่วงพาดผ่านท้องฟ้าเหมือนงูร้ายฟาดลงทันที
“กฎ…ฟ้า!”
นางเซียนหงส์ฟ้าไม่เคยบอกเย่ว์หยางว่าสนามพลังของนางคืออะไร
นางไม่เคยแสดงต่อหน้าเขามาก่อน แต่ตอนนี้เย่ว์หยางเข้าใจทุกอย่างได้ทันที กลับกลายเป็นว่าสนามพลังของนางเซียนหงส์ฟ้าก็คือ กฎฟ้า หรืออาญาสวรรค์นั่นเอง
ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์แสดงสีหน้าหวาดกลัว ถ้าผู้เฒ่าเต่ามังกรมาเห็นเขาตอนนี้ เขาจะพบว่าผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ที่มีสีหน้าอย่างเดียวกับเมื่อตอนถูกผนึกอยู่ภายใต้คทาเทพจักรพรรดิอวี้มานานหกพันปี
นางเซียนหงส์ฟ้าที่พลังของนางขยายขึ้นด้วยพลังเพลิงชีวิตห้าสิบเท่ากำลังสู้กับผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ที่ยังอ่อนเพลียหลังจากฟื้นคืนพลังมาได้
ท่าที่นางใช้ เป็นท่าสังหารฉับพลัน
ตอนนี้ นางก็ใช้ทักษะสูงสุดของนางจนได้ สนามพลังอาญาสวรรค์ ด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่นางครอบครองมาทั้งชีวิต นางเตรียมใช้สังหารผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ผู้นี้ แม้ว่านางจะต้องสละชีวิตของนาง นางก็ไม่เสียใจ
นางจะทำสำเร็จหรือไม่?
ผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ที่ถือตรีศูลนั้น ถือว่าเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่เผยสีหน้าหวาดหวั่นต่อหน้าสตรีชาวมนุษย์!
************