ตอนที่ 377 สมบัติพิเศษ?
หลังจากจั๊ดด์ทุบตีฝูเล่าเสร็จแล้ว เย่ว์หยางก็เข้าไปสำรวจสมบัติในคฤหาสน์ของแอนตันเสร็จเรียบร้อย
เพื่อให้ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น ต้องให้หนูเบญจธาตุค้นสมบัติรับหน้าที่นี้ แอนตันเป็นพ่อค้าที่ชาญฉลาดมาก ดังนั้นเขาจึงครอบครองสมบัติไว้มากกว่าใครๆ เย่ว์หยางไม่เชื่อว่าแอนตันจะปล่อยให้นางบำเรอของเขารู้ตำแหน่งที่ตั้งสมบัติของเขา ถ้ามันเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เขามีอยู่ แล้วแอนตันจะทำยังไง? ด้วยความสงสัย เย่ว์หยางจึงผลักไสจั๊ดด์ให้อยู่ห่างออกไป แล้วเรียกหนูเบญจธาตุค้นสมบัติออกมา
“พบประตูลับและทองจำนวนมหาศาล, พบสมบัติพิเศษ, เป็นสมบัติและแร่ที่มีค่า…”
หนูเบญจธาตุวิ่งไปรอบๆ อย่างรวดเร็วและมันก็พบประตูลับสองแห่งอย่างรวดเร็ว
นอกจากสมบัติมหาศาลแล้ว ยังมีประตูลับอยู่ด้านหลังอีกสองบาน
ตามที่ปรากฏบนคัมภีร์อัญเชิญ เป้าหมายใหม่ปรากฏต่อเนื่องขณะที่หนูค้นสมบัติพบสิ่งของมีค่าเพิ่มมากขึ้น ตำแหน่งของประตูลับขนาดเล็กถูกพบอยู่ในห้องโถงที่เงียบสงัดมาก มันถูกซ่อนอยู่หลังภาพสีน้ำมัน พื้นผิวผนังด้านหลังภาพดูเรียบลื่น และกลไกทำงานก็คือปุ่มตะปูสำหรับแขวนภาพสีน้ำมัน เมื่อเย่ว์หยางกดตะปูนั้นลงไป มีการสั่นสะเทือนเล็กน้อย ขณะที่ผนังยุบตัวอย่างเงียบกริบจนมองเห็นพื้นที่พอดีกับกล่องขนาดเล็กเผยให้เห็นสมบัติที่เก็บไว้ภายใน พื้นที่ไม่กว้างนัก ไม่พอดีกับขนาดคนๆ หนึ่งด้วยซ้ำ แต่ภายในบรรจุแร่ที่เปล่งแสงสีฟ้าเรืองรอง ไม่จำเป็นต้องบอกเลย ของเหล่านั้นก็คือแร่สายฟ้าที่ไม่ซ้ำกับแร่ในป้อมสายฟ้า ทั้งหมดเป็นแร่มีคุณภาพสูง
แม้ว่าเย่ว์หยางจะไม่เคยเห็นแร่เหล่านี้มาก่อน แต่เขาก็รู้มาจากสารานุกรมหุ่นกลว่า คุณภาพของแร่สายฟ้าไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดของมัน แต่ขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์เข้มข้น ยิ่งมีสีฟ้าเข้มขึ้น ก็ยิ่งบริสุทธิ์ แร่สายฟ้าเหล่านั้นเป็นของคุณภาพสูง
เขาใช้ทักษะจักษุญาณทิพย์ไปพร้อมๆ กับหนูเบญจธาตุค้นสมบัติ เย่ว์หยางก็สามารถระบุคุณภาพของมันได้อย่างรวดเร็ว แม้ว่านี่อาจจะเป็นครั้งแรกที่เขาได้พบเห็นแร่เหล่านี้
ในบรรดาแร่ทั้งหมด มีเพียงสองก้อนที่สีน้ำเงินเข้มจัดปรากฏดูโปร่งแสง สองก้อนนี้จัดเป็นของชั้นยอดในของชั้นยอด
ก้อนหนึ่งมีรูปทรงคล้ายกับมุกและมีขนาดเท่าหัวแม่มือมีความบริสุทธิ์สูงที่สุด
ส่วนอีกก้อนหนึ่งดูไม่เป็นรูปเป็นทรง แต่ถ้ามีคนเจียระไนแบบอัญมณีเครื่องประดับและฝังลงในอาวุธ ก็จะเพิ่มพลังสายฟ้าให้กับอาวุธของพวกเขาได้ แร่ชนิดนี้อาจทำให้พวกนักสู้สายธาตุประเภทใช้ไฟฟ้าคลั่งไคล้ก็ได้
นอกจากแร่สายฟ้าสองก้อนนี้แล้ว ไม่มีแร่อย่างอื่นอีก คงมีแต่อัญมณีคุณภาพสูงที่ดูแล้วเป็นของล้ำค่า
ยังคงมีแร่ขนาดกำปั้นบางส่วนเรืองแสงสีฟ้าเข้ม
แม้ว่าจะไม่ถึงกับโปร่งแสง แต่ก็ถือได้ว่ามีคุณภาพสูง แร่เหล่านั้นจะเป็นหนึ่งในวัตถุดิบคุณภาพดีที่สุดใช้สร้างอาวุธเสริมพลังหรือสร้างหุ่นกลประเภทใช้สายฟ้าได้
ส่วนแร่สายฟ้าที่เหลือมีสีน้ำเงินเรืองแสงจะมีคุณภาพหย่อนกว่าเล็กน้อย แต่แน่นอนว่า แร่สีน้ำเงินเข้มเหล่านี้เมื่อเทียบกับแร่สายฟ้าเรืองแสงน้ำเงินชนิดทั่วไป แร่สีน้ำเงินเหล่านี้จะมีคุณภาพที่ดีกว่ากันมากมายนัก อย่าว่าแต่แค่แร่สายฟ้าสีน้ำเงินโดยทั่วไปก็ทำให้ผู้คนกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจแล้ว หากว่าได้พบแร่เหล่านี้ ถ้าแร่สายฟ้าเหล่านี้ไม่ใช่ของคุณภาพสุดยอด อย่างนั้นแอนตันที่ร่ำรวยอยู่แล้วคงไม่เก็บไว้อย่างระมัดระวังเป็นแน่
เย่ว์หยางเก็บแร่สายฟ้าที่แอนตันเก็บรวบรวมอย่างระมัดระวัง โดยไม่ต้องคิดอะไรเลย
ถ้าไม่ใช่เพราะเดิมพันด้วยคัมภีร์แพลตตินัมห้าสิบเล่ม แอนตันก็คงไม่สูญเสียทุกอย่างเป็นแน่
ความมั่งคั่งของเขาไม่มีความหมายอะไรต่อคัมภีร์แพลตตินัมเลย
ยิ่งกว่านั้น สิ่งที่แย่ที่สุดคือเขาทำให้บริวารของเยาถง (เนตรปีศาจ) เอ้อเมิ่งกับเหนียนหู่ต้องมาตายไป หลังจากสูญเสียบริวารที่เป็นเหมือนมือขวา อำนาจของเยาถงลดลงมากมาย และถ้าเขาสูญเสียสถานะในป้อมสายฟ้า เขาคงไม่ยอมปล่อยแอนตันแน่นอน การเผชิญหน้ากับความโกรธเกรี้ยวของนักสู้ ต่อให้แอนตันร่ำรวยมากก็ตาม เขาก็ไม่สามารถคลี่คลายปัญหานี้ได้ เพราะไม่ใช่เรื่องเงิน เยาถงเป็นหนึ่งในสามผู้นำป้อมสายฟ้า และขณะที่ฉงนี่ตั้งใจจะขึ้นสู่หอทงเทียนชั้นที่เจ็ด เจ้าเมืองคนต่อไปอาจเป็นเยาถงก็ได้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งของเขาอย่างเอ้อเมิ่งและเหนียนหู่ถูกสังหาร พร้อมๆ กับถูกโจมตีจากซานเซียวและเซวี่ยเหอ ในตอนนี้โอกาสของเขาดูเหมือนจะมืดมัวเสียแล้ว
ดูเหมือนเยาถงกำลังจะระบายความโกรธใส่เย่ว์หยาง เจ้าไตตันเด็กใหม่ การกระทำโดยวิธีชิงเงินมาจากแอนตันเป็นเหมือนการโยนหินถามทาง
ถ้าเย่ว์หยางหมดความอดทน เยาถงอาจจะถือว่านั่นเป็นสัญญาณดำเนินการต่อไป
ความวุ่นวายในเหมือง อาจจะมีสาเหตุมาจากเยาถง
แต่เย่ว์หยางตัดสินใจปล่อยวางเรื่องของเยาถงและคนอื่นๆ ไว้ชั่วคราว
พวกมันทั้งหมดถือเป็นพวกชั้นหัวกะทิ แต่เป็นเจ้านายระดับต่ำ คล้ายกับบลัด เรเวน, คอร์ปไฟร์และเคาท์เตส (ปีศาจจากเกมไดโบล 2) ที่มีวัตถุประสงค์ให้ผู้เล่นเกมได้รับอุปกรณ์พิเศษในยามที่เอาชนะพวกนี้ได้แล้ว
“เอ๊ะ?”
เย่ว์หยางพบว่ามีสมบัติพิเศษชิ้นหนึ่งถูกพบอยู่ที่ใต้ก้อนอิฐในห้องครัว
นี่คือการหยิบฉวยที่สำคัญที่สุดในวันนี้ ขณะที่เขาไม่สามารถใช้จักษุญาณทิพย์ระบุว่ามันคืออะไร
เป็นวัตถุสีดำ และพิเศษ
พื้นผิวของมันมีรูปแบบที่ดูคล้ายอักษรรูนสวรรค์ แต่ไม่ว่าเย่ว์หยางพยายามนึกทบทวนจากธนาคารความจำของตนเองมากเพียงไหน เขาไม่สามารถนึกออกได้ว่ามันเรียกว่าอะไร แต่ด้วยความรู้ตกทอดจากมารดาของสหายผู้น่าสงสาร เย่ว์หยางรู้สึกได้ถึงสำนึกบางอย่างที่คุ้นเคย มันคืออะไรกันแน่? เป็นโลกที่ผนึกวิญญาณนักสู้ไว้หรือเปล่า? เหมือนกับที่ได้ผนึกอสุรกายดำเอาไว้?
เย่ว์หยางเอาเครื่องประดับรูปจันทร์เงินที่ได้รับมาจากสองสาวมังกรเงินพี่น้องที่เป็นองครักษ์เทพสงคราม (สองสาวที่อยู่กับผู้เฒ่าหนานกงตอนที่มารับรองสถานะนักสู้ปราณก่อกำเนิดของเย่ว์หยางที่ปราสาทตระกูลเย่ว์) เย่ว์หยางรู้สึกว่าของทั้งสองนั้นคล้ายกัน แต่แตกต่างกันในความรู้สึกบางประการ
พักเรื่องนี้เอาไว้ก่อน เก็บเจ้าสิ่งไว้และค่อยๆ ศึกษาค้นคว้าในภายหลัง
ก่อนที่จั๊ดด์จะเข้ามา เย่ว์หยางเก็บทอง, อัญมณีและสมบัติวิเศษทั้งหมดไว้ในแหวนลิช สิ่งที่ทำให้เขาผิดหวังเล็กน้อยก็คือในบรรดาสมบัติวิเศษทั้งหมด มีอยู่เพียงชิ้นเดียวที่เป็นสมบัติระดับทอง, ที่เหลือก็เป็นระดับเงินและระดับทองแดง สำหรับอัญมณีคงมีแต่สตรีเท่านั้นที่ชอบ เย่ว์หยางไม่ค่อยตั้งใจเก็บรวบรวมเท่าใดนัก เว้นแต่เป็นอัญมณีอย่างเพียงมุกมังกรขาว, มุกมังกรเขียว, มุกหงส์เพลิง, มุกพยัคฆ์ขาวและมุกเต่าดำ
เย่ว์หยางไม่ได้นับจำนวนเหรียญทอง เขาเพียงแต่รู้ว่ามันบรรจุได้เต็มสองหีบ
เหรียญทองจะแตกต่างจากเหรียญทองปกติ ทั้งหมดสลักอักษรรูนแคระไว้ที่พื้นผิว ดังนั้นดูเหมือนว่าจะมีราคามากกว่าเหรียญทองทั่วไป
ของที่เหลือเป็นส่วนผสมสมุนไพรมีงาช้าง, นอแรดและเขากวางสมุนไพรระดับทอง และสมุนไพรกับยาที่มูลค่าไม่มาก นอกจากนี้ยังมีของสะสมแปลกๆ ที่ทำให้เย่ว์หยางพูดไม่ออก เช่น ตาแมงมุม, หางแมงป่อง, เล็บปีศาจ, เถ้ากระดูก, น้ำลายภูตและเลือดแม่มด
“ดูเหมือนแอนตันคงป่วยด้วยโรคไตวาย, ถึงได้มีสมุนไพรบำรุงไตมากอย่างนั้น นอกจากนี้ยังมีเหล้า” เย่ว์หยางพูดขณะที่ดึงเหล้าเหยือกยักษ์ออกมา
เมื่อจั๊ดด์เข้ามา เย่ว์หยางก็ยกเค้ากวาดสมบัติเรียบร้อยแล้ว
ไม่มีใครรู้อะไร
เย่ว์หยางพึงพอใจกับการยกเค้าสมบัติครั้งนี้ ที่สำคัญก็คือการได้มาซึ่งแร่สายฟ้าชั้นยอดสองก้อนและวัตถุทรงกลมพิเศษลูกนั้นที่สร้างความประหลาดใจให้เขา
ที่น่าเสียดายอยู่อย่างเดียวก็คือ เขาไม่พบส่วนผสมสมุนไพรหรืออัญมณีที่มีค่ามากแต่อย่างใด เพราะเป็นของที่เย่ว์หยางต้องการเก็บรวบรวมไว้ ให้อยู่ในชุดเดียวกัน
หลังจากทำภารกิจในวังเทพจักรพรรดิอวี้ให้ผู้เฒ่าเต่ามังกรแล้วและมอบคทาเทพจักรพรรดิอวี้ให้เขาแล้ว เย่ว์หยางได้รับแต่เพียงมุกเต่าดำเป็นการตอบแทน แม้ว่าจุนอู๋โหย่วฮ่องเต้จะให้มุกมังกรขาวเขาเป็นการตอบแทน แต่ก็ยังไม่อาจใช้แทนมุกมังกรเขียวได้, เย่ว์หยางยังต้องรวบรวมมุกมังกรเขียว, มุกพยัคฆ์ขาวและมุกหงส์เพลิงให้ได้
“ท่านจะทำยังไงกับเหมืองแร่และเวทีต่อสู้?” จั๊ดด์ปรับเปลี่ยนความคิดในฐานะได้รับเป็นผู้ประกอบการค้าให้เย่ว์หยาง
“สำหรับในเวทีต่อสู้, ให้อาหารกับสัตว์อสูรที่ยังขาดอาหาร สำหรับพวกนักสู้ผู้ที่ต้องการจะจากไป..ก็มอบทองให้สิบเหรียญทอง ถ้าผู้ใดรู้สึกว่าน้อยเกินไป บอกเขามาพบข้า ถ้าเขาต้องการอยู่ต่อก็ไม่เป็นไร แต่เขาจะต้องสอบให้ผ่านการประเมินของข้า ข้าไม่ต้องการเสียเงินจ้างคนที่ไร้ประโยชน์ ใครๆ อย่าหวังว่าจะเลาะเนื้อหนังของข้าได้ ขณะเดียวกันสำหรับคนรับใช้ของแอนตัน ถ้าพวกเขาต้องการจะจากไป ก็มอบเงินให้พวกเขา และถ้าพวกเขาต้องการจะอยู่ต่อ พวกเขาต้องผ่านการทดสอบเรื่องความซื่อสัตย์และฝีมือเสียก่อน” เย่ว์หยางพูดเป็นนัยๆ เตือนจั๊ดด์มิให้หยิ่งเกินไป
“ได้ขอรับ, ความภักดีเป็นสิ่งที่สำคัญ” จั๊ดด์ไม่ได้กังวล เพราะเขามอบให้ไปหมดแล้ว ดังนั้นความภักดีของเขาจะไม่เป็นปัญหาแน่ สำหรับความสามารถของเขา แม้ว่าเขาไม่อาจต่อสู้ได้ แต่เขามีฝีมือในเรื่องการทำธุรกิจแน่นอน
“ข้าจะไปเยี่ยมชมเหมืองด้วยตนเอง” ป้อมสายฟ้าเป็นเพียงก้าวแรกของเย่ว์หยางที่จะครอบครองหอทงเทียนชั้นที่หก ยังมีผู้ก่อการประท้วงที่ต้องการเล่นกับเขาอีกด้วยหรือ? เขาต้องมั่นใจว่าเหล่าอสูรที่นี่ควรจะสำนึกว่าใครเล่นงานได้ เย่ว์หยางคงจะไม่อยู่ที่นี่เพื่อเป็นเจ้าของเหมืองหรือทาส แต่เขาต้องก้าวไปทีละก้าวเพื่อเอาชนะปีศาจผู้เป็นใหญ่ในถิ่นนี้ก็คือฉงนี่ เขาไม่อาจเข้าต่อสู้กับฉงนี่ได้ทันที ดังนั้นเขาจึงต้องสู้กับเหล่าปีศาจเล็กปีศาจน้อยก่อน แล้วค่อยเอาชนะบอสตัวสุดท้ายในภายหลัง วิธีนี้ค่อยน่าสนใจมากกว่า
ถ้าเย่ว์หยางเอาชนะเหล่าปีศาจน้อยใหญ่ในป้อมสายฟ้าได้ทั้งหมด ไม่เพียงแต่ได้รับรางวัลจากสมาคมเท่านั้น เย่ว์หยางยังอาจโชคดีจากการยึดป้อมสายฟ้าอีกก็ได้
แอนตัน?
เขาเป็นเพียงจุดเริ่มต้นในภารกิจเอาชนะเหล่าปีศาจของเย่ว์หยางและริบสมบัติของพวกมัน
ยังมีเหมืองใต้ดินอยู่ห้าแห่งและเหมืองหลักที่เป็นของฉงนี่เจ้าของป้อมสายฟ้า เป็นเหมืองที่ใหญ่ที่สุดและยังคงให้ผลผลิตเป็นแร่สายฟ้าจำนวนมากที่สุดและคุณภาพดีที่สุด
อีกสี่เหมืองขุดที่เหลือ เหมืองใหญ่ทางทิศตะวันออก, เหมืองสายลมทางทิศตะวันตก, เหมืองหินทรายทางทิศใต้และเหมืองทะเลทรายทางทิศเหนือ เหมืองใหญ่ทางทิศตะวันออกเป็นของเยาถง, เหมืองสายลมทางทิศตะวันตกเป็นของแอนตัน เหมืองหินทรายทางทิศใต้เป็นของซานเซียวและเซวี่ยเหอ และเหมืองทะเลทรายทางตอนเหนือเป็นของเจ้าเมืองใต้พิภพอสูรดึกดำบรรพ์หม่าหลง เหมืองหินทรายทางทิศใต้เป็นเหมืองใหญ่ที่สุดรองจากเหมืองกลาง ถูกครอบครองโดยเซี่ยเหอและซานเซียว เทียบกับเหมืองสายลมทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นเหมืองเล็กที่สุด และผลผลิตจากการทำเหมืองนี้ได้แค่หนึ่งในสามเมื่อเทียบกับเหมืองอื่น ตอนแรกประมูลได้มาโดยแอนตันและนักสู้ที่ชื่อฉีลี่ แต่หุ้นทั้งหมดตกเป็นของแอนตันหลังจากฉีลี่ตายกระทันหัน
“ทุกคนสงสัยว่าแอนตันคงเป็นตัวการทำให้ฉีลี่ตาย บางทีเขาได้รับการสนับสนุนจากเยาถงโดยใช้เอ้อเมิ่งฆ่าเขาก็ได้ แต่ไม่มีหลักฐานที่ชัดเจน ทั้งนี้เพราะทายาทของฉีลี่ไม่มีโอกาสจะต่อสู้เรียกร้องได้ ดังนั้นแอนตันจึงฮุบเหมืองนี้ไว้อย่างง่ายดาย ท่านไตตัน ท่านคิดว่าใครบางคนจะคอยสนับสนุนการลุกฮือครั้งนี้อยู่ในมุมมืดจริงๆ?” จั๊ดด์พูดขณะที่แนะนำเรื่องเหมืองกับเย่ว์หยาง เขาไม่ได้พูดฟันธงอะไรให้ชัดเจน เพราะเกรงว่าคำพูดของเขาจะทำให้ระคายหู
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต, ไม่มีค่าพอให้ข้าหัวเราะด้วยซ้ำไป” เย่ว์หยางทำเหมือนกับว่าเขาเป็นผู้มีอำนาจมากที่สุดในโลก
“ขอรับ” สิ่งที่จั๊ดด์ชื่นชมเย่ว์หยางมากที่สุดก็คือทัศนคติของเขา ในฐานะนักสู้คนหนึ่ง เขาอาจเป็นคนหยิ่งและก้าวร้าวเท่าที่เขาต้องการ นี่ทำให้เขาประทับใจ
ในเหมืองใต้ดินมีการขุดขยายไปหลายกิโลเมตร ทางเข้าและอุโมงค์ดูแน่นขนัด และซับซ้อนเหมือนใยแมงมุม
เป็นพื้นที่แห้งมาก ขณะที่มีน้ำอยู่เพียงเล็กน้อย
มีแร่อยู่เป็นจำนวนมาก มันเรืองแสง สามารถเห็นได้ในความมืด
หลังจากเลี้ยวเข้าที่มุม พวกเขามองเห็นได้ด้วยคบเพลิงเพิเศษที่ใช้น้ำมันสนเป็นเชื้อเพลิง
พวกที่ลุกฮือเกือบทั้งหมดเป็นทาส จำนวนรวมไม่กี่พัน ขณะที่มีคนกลุ่มน้อยเป็นผู้สั่งการ มีผู้นำเป็นมนุษย์อสูรพี่น้องฝาแฝดสองคนที่มีพลังคล้ายๆ กับนักรบระดับ 7 ในมือแต่ละคนมีดาบยักษ์อาวุธชั้นเงิน ผู้นำเป็นคนเผ่าทอเรนที่มีอาวุธสมบัติไม่ถึงกับดีนักเป็นขวานชั้นทองแดง
ยามที่เป็นอสูรเกินกว่าร้อยก็เปลี่ยนจากผู้ควบคุมมาเป็นกองกำลังต่อต้าน
นอกจากนี้ ยังมีทาสมากกว่าร้อย ติดอาวุธคู่มือและเครื่องป้องกันคอยตามหลังผู้นำลุกฮือทั้งสามอย่างกระชั้นชิด
ยังมีทาสอีกจำนวนมากที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืด ขณะที่พวกเขามองดูคนพวกนี้อย่างมึนชา เมื่อพวกเขาเห็นเย่ว์หยางเจ้านายคนใหม่ของพวกเขากำลังเดินมา พวกเขาตกใจกลัวจนตัวสั่น
“ในกลุ่มพวกเจ้าทุกคน คนไหนคือเซี่ยผู่และเซี่ยเอ่อสองพี่น้อง?” เย่ว์หยางรู้แล้วว่าพวกเขาเป็นใคร เขาแค่ทดสอบพวกเขาเพื่อดูปฏิกิริยา
“แล้วเจ้าล่ะ?” เซี่ยผู่ผู้มีแผลหน้าบากยืดตัว
พวกที่ลุกฮือทั้งหมด รวมทั้งเขากำลังสับสนว่าทำไมเจ้านายคนใหม่ถึงได้ส่งมนุษย์ผู้อ่อนแอมาเจรจาต่อรองกับพวกเขา
เขาเป็นนักสู้ระดับ 6 เป็นอย่างมาก และอสูรของเขาก็แสนกระจอก แค่หมาป่าปีศาจหลังเหล็ก อสูรทองแดงระดับ 3 พลังของอสูรนี้ไม่สามารถอยู่รอดได้ในหอทงเทียนชั้นที่หก เขาเอามันมาด้วยทำไม? ดูแล้วมันก็ไม่เหมือนสัตว์เลี้ยงเช่นกัน ที่ประหลาดที่สุดคือ มนุษย์ที่ทำหน้าที่เจรจาผู้นี้สวมหน้ากากระดับทองไว้ เสียของจริงๆ อาจมีคนฉกชิงไปจากเขาทันทีที่ก้าวออกจากบ้านก็ได้..
คนผู้นี้เป็นใครกันแน่?
ชื่อเจ้านายคนใหม่ดูเหมือนจะชื่อไตตัน กล่าวกันว่าเขาสามารถสังหารเอ้อเมิ่งและเหนียนหู่ที่เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดได้ เป็นไปได้ไหมว่าคนผู้นี้จะเป็นพี่น้องหรือลูกชายของไตตันผู้นั้น?
************