ตอนที่ 384 สาวงามผมม่วงในชุดดำ
วันที่สองเป็นวันประมูลซึ่งจัดอยู่ในที่เมืองเถื่อนด้านบนป้อมสายฟ้า
อย่างไรก็ตาม การประมูลในระหว่างกลางวันส่วนใหญ่มีขึ้นก็เพื่อเปิดโอกาสพ่อค้าที่เป็นตัวแทนนักสู้ระดับต่างๆ ได้ติดต่อกันและกัน มันถูกใช้เป็นข้ออ้างในการแลกเปลี่ยนข้อมูล นอกจากนั้นยังมีผู้ที่กลายเป็นพันธมิตรร่วมชั่วคราว คอยเป็นตัวแปรตัดสินผู้ที่จะได้รับสินค้าประมูลโดยหลอกล่อวางแผนอยู่หลังฉากเพื่อให้ส่งผลตามต้องการ ตัวอย่างเช่น เมื่อนักสู้คนหนึ่งสนใจสมบัติบางอย่าง จากนั้นบริวารของพวกเขาจะไปคอยเตือนคนอื่นไม่ให้เสนอราคาแข่ง มิฉะนั้น จะต้องกลายเป็นศัตรูกัน
แน่นอน พฤติกรรมเหล่านี้จะส่งผลต่อคนอ่อนแอ
เวลาประมูลอย่างเป็นทางการเริ่มขึ้นเวลา เก้านาฬิกา ตอนกลางคืน ขณะที่การประมูลจัดสามวันติดต่อกัน สมบัติที่ดีที่สุดและทาสสตรีจะถูกนำมาประมูลขายในวันสุดท้าย
เย่ว์หยางให้จั๊ดด์และพ่อบ้านเหยียนเจิ้งเป็นตัวแทนในช่วงกลางวัน ในที่สุดเมื่อเขาตื่นขึ้น เขาสั่งให้สาวใช้จัดการเรื่องหนึ่งด้วยอาการเกียจคร้าน นั่นก็คือ ให้หาช่างตัดเย็บตัดเสื้อผ้าให้สาวลูกครึ่งเอลฟ์จำนวนหนึ่ง พวกเขาจะต้องตัดชุดหญิงสาวในตำนาน เช่น ชุดทหารเรือ, ชุดเจ้าหญิงและอื่นๆ อีก
อุปกรณ์เล็กน้อยอย่างสายริบบิ้น, กระดิ่ง, หูแมวและลายลูกไม้จะขาดไม่ได้
เย่ว์หยางยังคงไตร่ตรองว่าเขาน่าจะทำเครื่องแบบตำรวจหญิงหรือพนักงานต้อนรับของสายการบินให้แม่เสือสาว เซี่ยอี เครื่องแต่งกายสาวห้าวซาดิสต์ก็คงเหมาะกับนางเช่นกัน นางจะดูสะดุดตาแน่นอน ถ้านางสวมรองเท้าส้นตึก, ถุงน่องตาข่ายพร้อมกับประโปรงหนังสีดำสั้นเต่อบนเรือนร่างที่มีเอวอ้อนแอ้นบั้นท้ายกระชับของนาง และคงน่าประทับใจแน่นอนถ้านางสวมปลอกคอและเข็มขัดหนาม พร้อมกับมีคนคอยร้องขอว่า “เฆี่ยนข้าเถอะ นายหญิง!”
เป็นเรื่องช่วยไม่ได้เลย นี่ก็ยังเป็นความสุขแบบโรคจิตของบุรุษที่ข้ามมิติ
แต่สาวใช้อื่นที่ถูกเหมานำมาพร้อมกับสาวลูกครึ่งเอลฟ์ มองว่าคำสั่งของเจ้านายคือประกาศิตสูงสุด
“ท่านจะตัดชุดให้ข้าหรือ, นายท่าน? ข้ามีความสุขมากจริงๆ!” เด็กสาวลูกครึ่งเอลฟ์หน้าเด็กอกโตอุทาน ขณะที่นางสวมชุดคับติ้วเน้นให้เห็นอกมหึมาของนาง เย่ว์หยางแทบเลือดกำเดาพุ่งด้วยความตื่นเต้นเกือบจะควบคุมตัวเองไม่ได้
“เจ้าจะทำอะไร?” เย่ว์หยางถามด้วยความสงสัย ขณะที่เขาสาวลูกครึ่งเอลฟ์กำลังวาดภาพ บนขาตั้งภาพ มีรูปวาดเหมือนของเขารูปหนึ่งซึ่งดูเหมือนเขามากขับเน้นเสน่ห์และลักษณะของเขาเต็มที่ เย่ว์หยางโกรธทันทีพลางจ้องหน้านางและสั่งให้นางหยุด “ใครอนุญาตให้เจ้าวาดอย่างนี้ ลบเดี๋ยวนี้เลย!” นี่ทำให้สาวลูกครึ่งเอลฟ์ตกใจ นางแลบลิ้นและยกมือยอมจำนน “ต่อไปข้าไม่กล้าทำอีกแล้ว ถ้านายท่านออกไปข้างนอก รูปวาดนี้จะทำให้ข้ารู้สึกว่าท่านยังอยู่ข้างๆ ข้า นี่เป็นแรงกระตุ้นข้า เมื่อข้าทำงาน!”
นางวิ่งออกไปทันที และกลับมาพร้อมกับชามของหวานร้อนๆ ในพริบตา
เย่ว์หยางแปลกใจเล็กน้อย เด็กสาวนี่รู้วิธีปรุงอาหารจริงๆ หรือนี่?
หลังจากนั้นไม่นาน เย่ว์หยางเก็บขนมหวานไว้ในแหวนลิชของเขา เย่ว์ซวงคงจะชอบขนมหวานอย่างนี้แน่นอน และยิ่งกว่านั้น ขนมนี้สาวลูกครึ่งเอลฟ์ตั้งใจทำให้สุดฝีมือ
“ลบรูปหน้าข้าที่เจ้าวาดไว้ซะ” เย่ว์หยางรู้สึกอยากจะคว้าอกอวบอึ๋มของนาง แต่เขาตัดสินใจลูบศีรษะนางเบาๆ และเดินออกมาจากบ้าน
“ขอบคุณท่านยาย! ข้าได้พบเจ้านายที่ใจดีแล้ว” สาวลูกครึ่งเอลฟ์หมุนตัวอย่างมีความสุข ตาโตของนางเป็นประกายวิบวับ “นายท่านหล่อมาก แต่เขาก็ยังพิถีพิถันพอตัดเสื้อผ้าให้ข้าด้วย ฮ้า” นางกระโดดวนไปรอบๆ เหมือนกวางน้อยและเกล้าผมของนางไว้ ปากก็คาบผ้าไว้และมือถืออ่างน้ำล้างหน้า ดูเหมือนนางต้องการจะทำความสะอาดบ้านให้ทั่ว นางชูแขนและกำหมัดน้อยๆ แน่น “นี่เป็นวันแรกที่เราพบกับเจ้านาย ข้าจะทำงานอย่างหนักเพื่อให้นายท่านชอบข้า”
สาวใช้อีก 2-3 คนที่โตมาด้วยกันคุ้นเคยกับการกระทำของนางแล้ว ขณะที่พวกนางช่วยทำความสะอาดด้านนอกห้องโถงอย่างขยันขันแข็ง
พวกนางล้วนคล่องแคล่วกระฉับกระเฉง และทำงานเข้ากันได้เป็นอย่างดี งานของพวกนางจึงเกิดประสิทธิภาพสูง
ในทางตรงกันข้ามกับสาวลูกครึ่งเอลฟ์ที่เชื่องเชื่อ สาวใช้นางอื่นรุ่นเดียวกับนางก็น่ารักคล้ายกัน แต่มีบุคลิกแตกต่างกันสิ้นเชิง
ลืมเรื่องงานบ้านไว้ก่อน ความจริงนางสามารถเดินไปมาโดยมิต้องชนต้นไม้หรือหลงทางได้ มิใช่ใครอื่น นอกจากเอลฟ์ทองเป่าเอ๋อ
พอเห็นเย่ว์หยางก้าวเท้าออกมาจากวงเวทเทเลพอร์ต นางโยนใบปลิวที่นางถือทิ้งและวิ่งเข้ามาหาเขา คว้าแขนเขาไว้ “เจ้าจะหนีไปไหน, ข้าจับเจ้าได้แล้วหลังจากรอเจ้าตั้งนาน ทุกคน, มานี่ได้แล้ว ข้าจับคนโกงเมื่อวานนี้ได้แล้ว”
“เจ้าน่ะหรือ?” เย่ว์หยางตีมึนทำไม่รู้เรื่อง
“ดูสิ, มีเครื่องบินลำหนึ่งอยู่บนท้องฟ้า” เป่าเอ๋อพยายามทำท่าและเลียนแบบเสียงที่เย่ว์หยางทำเมื่อวานนี้ แต่ในที่สุดนางก็หัวเราะออกมาจนได้ นางกลั้นหัวเราะไม่อยู่ แต่กลับกล่าวโทษเย่ว์หยางแทน นางใช้หมัดน้อยๆ ทุบเย่ว์หยางเบาๆ “อย่าพยายามหลอกข้าเลย ข้าฉลาดมากนะ เจ้ามิอาจใช้ลูกไม้เดิมกับข้าได้สองหนแน่ ถ้าเจ้าไม่เชื่อข้า ก็ลองพูดว่ามีเครื่องบินบนท้องฟ้าอีกสิ”
“…..” เย่ว์หยางทำแขนตัวเองสั่น “แม่หนูน้อย ข้าเกรงว่าเจ้าคงจำผิดคนแล้ว ข้าไม่รู้จักเจ้าเลยแม้แต่น้อย”
“เลิกพูดกับเขาเลย แค่ลากเขาไปเลยก็พอ” ทอเรนฟ่านหลุนเถี่ยโบกมือมหึมาของนาง “เรายังขาดเขี้ยวแมงมุมร้อยตัว ถ้าเรายังช้าอยู่ ก็คงไม่อาจสำเร็จภารกิจได้ ไปกันเถอะ!”
“เฮ้, ข้าขอประท้วง” เย่ว์หยางใช้ลูกไม้การทูตแบบจีน
“การประท้วงถูกปฏิเสธ” เป่าเอ๋อตอบด้วยใบหน้าที่บูดบึ้งแต่ดูน่ารัก “เพราะเจ้าได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้รับใช้เราแล้ว”
พอมองดูเจ้าอ้วนไห่กำลังส่ายก้นและเย่คงกำลังแอบหัวเราะ เย่ว์หยางรู้ว่าเขาโดนหักหลังแล้ว เขาถีบก้นเจ้าอ้วนไห่ทีหนึ่ง ทำให้เขาร้องเสียงหลงเหมือนหมูถูกเชือด ขณะที่ลีนกับแอนนาทำแกล้งไขสือ บรรดาคนทั้งหมด มีเพียงเป่าเอ๋อที่งมงายไม่รู้อะไร แม้แต่ทอเรนฟ่านหลุนเถี่ยก็พอจะเดาได้เล็กน้อย แต่นางมิได้ติดใจจะเปิดโปงสถานะของเย่ว์หยาง
หุบเขาแมงมุม
เป็นพื้นที่อันตราย มีภูมิประเทศที่กันดารยากลำบาก
พายุทรายพัดรุนแรงอยู่ทั้งสองด้าน มีหลายจุดที่มีสัตว์อสูรระดับสูงอาศัยอยู่ นอกจากนี้ยังมีกับดักทรายดูดที่มีอสูรที่ชอนไชพื้นฝังตัวดักรอเหยื่อของพวกมัน
มีหุบเขาแคบๆ อยู่ตรงกลางกว้างไม่เกิน 300 เมตร
ส่วนที่ตื้นที่สุดของหุบเขาลึกเพียง 50 เมตร
แต่ส่วนที่ลึกที่สุดอาจมีระยะ 2-3 พันเมตร ยามเมื่อลมพัดในหุบเขาจะปรากฏเสียงหวีดหวิวฟังแล้วเย็นถึงกระดูกสันหลัง แน่นอนว่าเสียงเหล่านี้เป็นเพียงปรากฏการณ์ธรรมชาติธรรมดา สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในหุบเขาก็คือแมงมุมเขี้ยวเกที่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มสามารถกินคนได้ทั้งตัวไม่เหลือแม้แต่กระดูก พวกมันเป็นสัตว์ประหลาดชั้นทองระดับ 7 แม้ว่าระดับของมันยังไม่นับว่าสูง แต่พวกมันมีพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่ง และจำนวนของพวกมันในหุบเขาแมงมุมมีประมาณ 2-3 แสนตัวครอบคลุมพื้นที่หุบเขาทั้งหมด
จำนวนสามารถกำหนดได้ทุกอย่าง
ในหุบเขา ส่วนใหญ่จะมีแมงมุมหน้าคนอสูรเงินระดับ 7 และจ้าวแมงมุมตาปีศาจอสูรชั้นทองแฝงตัวอยู่ในเงามืด
เมื่อเหยื่อของพวกมันเดินผ่านเข้ามาใกล้ พวกมันจะนำพวกออกมาจากรังและเข้าโจมตี
แน่นอนว่า มีนางพญาแมงมุมที่แข็งแกร่งสามารถยกระดับจนเป็นอสูรชั้นแพลตตินัมระดับ 7
มีผลเพียงสองประการเมื่อนักผจญภัยเผชิญกับนางพญาแมงมุม ประการแรก เขาจะถูกต้อนให้หนีไปในทางแคบ ประการที่สองเขาจะตกเป็นอาหารของนางพญาแมงมุม
ไม่มีผลประการที่สาม ขณะที่ไม่มีใครสามารถฆ่านางพญาแมงมุมได้ มีข่าวลือว่านักสู้ปราณก่อกำเนิดคนหนึ่งต้องการฆ่านางพญาแมงมุมเพื่อต้องการชิงเอามุกแมงมุมในท้องของนาง อย่างไรก็ตาม เขาพลาดท่าบาดเจ็บหนัก และมีพิษตกค้างในร่างกายไม่สามารถขจัดได้นานกว่าสามเดือน จนเขาเกือบจะเสียชีวิต ตั้งแต่นั้นไม่มีผู้ใดกล้าโจมตีทำร้ายนางพญาแมงมุมอีกต่อไป
โชคดีที่นางพญาแมงมุมไม่ค่อยปรากฏตัว ดังนั้นหุบเขาแมงมุมจัดว่าเป็นพื้นที่สีเหลือง ยังไม่ถึงกับเป็นพื้นที่มรณะสีแดง
“ตามข้ามาใกล้ๆ นะ อย่าทำตัวช่างสงสัย มิฉะนั้นถ้าเจ้าถูกแมงมุมกินเข้าไป จะโทษข้าไม่ได้นะ” แม้ว่าเป่าเอ๋อจะซุกซน นางก็ยังมีจิตใจอ่อนโยน ในฐานะผู้มาก่อน นางยังคงใส่ใจดูแลเย่ว์หยางที่เป็นเด็กใหม่ อย่างน้อยที่สุด นางยินดีจะปกป้องเย่ว์หยาง
“ไม่เป็นไร, ข้ามีฮุยไท่หลางแล้ว” เย่ว์หยางบ่งบอกว่าเขาไม่ต้องการให้ใครปกป้อง แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธความคิดที่จะชมวิวดีๆ ขณะเดินตามหลังเป่าเอ๋อ
“หมาป่าปีศาจหลังเหล็กระดับสาม เจ้ามั่นใจนะว่ามันจะไม่ตัวสั่นด้วยความกลัว ตอนที่เจอแมงมุมเขี้ยวเก?” เป่าเอ๋อจ้องเย่ว์หยาง นางไม่เคยเห็นอสูรอ่อนแอขนาดนั้นในหอทงเทียนชั้นที่หก
“โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง!” ฮุยไท่หลางประท้วงลั่น แต่เป่าเอ๋อยังคงทำเมินมัน
ขณะไปตามเส้นทางในภูเขาที่พวกนักผจญภัยใช้มาปีแล้วปีเล่า พวกเขาเดินอย่างช้าๆ หลังจากผ่านไปชั่วโมงหนึ่ง ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงพื้นหุบแมงมุม
ถ้าไม่ใช่เพราะไฟฉายฟอสฟอรัสแดง พวกเขาคงมาไม่ถึงหุบเขาแมงมุม แม้ว่าเจ้าอ้วนไห่และคนที่เหลือจะแข็งแกร่งถึงสิบเท่าก็ตาม แมงมุมเขี้ยวเกและแมงมุมหน้าคนเกลียดไฟฟอสฟอรัสแดง ดังนั้นนักผจญภัยสามารถป้องกันตัวอย่างง่ายๆ ด้วยการโบกคบเพลิงของพวกเขา ถ้าพวกเขาต้องสู้กับพวกมันโดยไม่มีคบเพลิง กองทัพแมงมุมมีมากกว่าแสน พวกมนุษย์อาจถูกแมงมุมเขี้ยวเกจับกินได้ นกกินแมงมุม ต่อปรสิตเป็นศัตรูนักล่าของแมงมุมเขี้ยวเก แต่ความสัมพันธ์จะเป็นไปสองทาง นกกินแมงมุมกลุ่มใหญ่จะโฉบลงมาจากอากาศก็สามารถล่าแมงมุมเขี้ยวเกตัวเล็กได้ ในทำนองเดียวกัน พวกมันจะกลายเป็นเหยื่อของแมงมุมเขี้ยวเกได้ หากว่ามันติดใยแมงมุม
สำหรับต่อปรสิต แมงมุมเขี้ยวเกจะต้องตายแน่นอน หากว่าต่อปรสิตวางไข่ไว้ในตัวแมงมุม เพื่อให้ไข่ได้เติบโตอยู่ในร่างแมงมุม
เย่ว์หยางอาจไม่ใส่ใจกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ
ทั้งหมดที่เขาต้องการก็คือ เก็บสมบัติที่นี่
เขาไม่สนใจแมงมุมเขี้ยวเกและแมงมุมหน้าคน สิ่งเดียวที่เขาสนใจก็คือแมงมุมตาปีศาจ อสูรทองระดับ 7
ไม่เพียงแต่แมงมุมตาปีศาจสามารถใช้เป็นส่วนผสมยาและใช้ยกระดับอาวุธได้เท่านั้น แต่มุกพิษที่ล้ำค่าในถุงพิษของมันคือสมบัติที่ล้ำค่ายิ่งกว่า สำหรับนางพญาแมงมุม เย่ว์หยางรู้สึกว่าเขาอาจจะหามันไม่เจอ ยิ่งกว่านั้นอสูรที่แข็งแกร่งขนาดนั้นที่สามารถเอาชนะนักสู้ปราณก่อกำเนิดได้ อาจกลายเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ไปแล้วทำให้ฆ่ามันได้ยาก นางคงไม่รอให้ใครมาฆ่าง่ายๆ เหมือนกับหัวหน้าปีศาจในเกมแน่ ยิ่งได้เห็นวิธีที่ผู้เฒ่าเต่ามังกรไปทวีปมังกรทะยานเพื่อฟื้นอาการบาดเจ็บก็แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่มีปัญญาฉลาดพอๆ กับมนุษย์ เขาสามารถแยกร่างตนเองทำให้จำแนกได้ยากระหว่างตัวจริงกับตัวปลอม
“มีกลุ่มนักผจญภัยกำลังต่อสู้อยู่ข้างหน้า ดูเหมือนพวกเขาต่อสู้เพื่อชิงสมบัติ” เย่คงไปสำรวจเส้นทางและกลับมาพร้อมกับข่าวร้าย
“เราจะใช้เส้นทางอ้อม” ทอเรนเลโอตัดสินใจตรงนั้นทันที
“….” แอนนามองดูเย่ว์หยาง พอเห็นว่าเขาไม่คัดค้าน นางพยักหน้าเห็นด้วย
ถ้าแมงมุมเขี้ยวเกไม่ได้คลั่งเพราะกลิ่นเลือดมนุษย์ ปกติพวกมันจะกลัวไฟฟอสฟอรัสแดงและจะไม่ก่อกวนพวกนักผจญภัยที่มาที่นี่เพื่อเก็บเขี้ยวแมงมุม ทว่าทันทีที่พวกมันได้กลิ่นเลือด พวกมันจะกระสับกระส่ายแน่นอนและรุมล้อมทำร้ายนักผจญภัย
แค่เพียงสามนาทีหลังจากที่พวกเขาอ้อมไปทางด้านตรงข้าม พวกแมงมุมบนหน้าผาดูเหมือนจะถูกบางอย่างปลุก ขณะที่พวกมันวิ่งตรงไปจนเต็มสนามต่อสู้
แมงมุมนับหมื่นที่เกาะอยู่บนแง่งหินที่หน้าผากระโดดและวิ่งออกมา ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นงดงาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องเพราะที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของหุบเขาแมงมุม จำนวนแมงมุมดูเหมือนมีมากครอบคลุมถึงท้องฟ้า
กลุ่มนักผจญภัยสามกลุ่มรวมตัวกันขณะที่ทุกคนถืออาวุธของตนต่างลนลานชูไฟฟอสฟอรัสแดง
โชคดีที่ไม่มีแมงมุมโจมตีใส่เย่ว์หยางและกลุ่มของเขา
แต่ยังคงมีความไม่แน่นอน ขณะที่เป็นไปได้ว่าแมงมุมอาจหน้ามืดกระหายเลือดตั้งใจจะฆ่าพวกเขาโดยไม่สนใจภัยคุกคามจากไฟฟอสฟอรัสแดงและฉีกเนื้อทุกคนกิน ไฟฟอสฟอรัสแดงแค่คุกคามต่อแมงมุมเขี้ยวเก ขณะที่พวกมันกลัวไฟ แม้ว่าขนของพวกมันจับความรู้สึกเคลื่อนไหวของศัตรูจากอากาศ ดังนั้นถ้ามันถูกไฟเผา พวกมันจะเริ่มตื่นตระหนก แต่ไฟฟอสฟอรัสแดงในมือของนักผจญภัยสามคนไม่มีความสำคัญอะไรต่อแมงมุมเขี้ยวเกนับหมื่น ทันทีที่แมงมุมเขี้ยวเกคลั่ง พวกมันสามารถฆ่านักผจญภัยได้เป็นพันครั้ง
“ทุกคน, ตั้งขบวนเป็นวงกลมหันหลังชนหินก้อนใหญ่ไว้ สงบจิตใจไว้ จะไม่มีใครถูกโจมตี” ผู้นำกลุ่มคนหนึ่งตะโกน
“ช่วยข้าด้วย ข้าใช้คบเพลิงข้าแล้ว ถ้าท่านช่วยข้า ข้ายินดีจ่ายให้ท่านพันเหรียญทอง” หญิงสาวชุดดำสามคนวิ่งลนลานมาแต่ไกล
สองคนดูเหมือนจะเป็นผู้คุ้มกัน ขณะที่พวกนางอยู่ในชุดเกราะดำกระชับ
พวกนางถือมีดแหลมคมอยู่ในมือ แม้จะอยู่ในสถานการณ์อันตราย พวกนางก็ยังทอดระยะขณะที่พวกนางยังเงียบอยู่
คนที่ขอความช่วยเหลือเป็นหัวหน้าของพวกนาง นางสวมชุดเกราะมังกรดำราคาแพง คนที่มองดูนางจะรู้ว่านางไม่ใช่นักผจญภัยธรรมดา บางทีนางอาจเป็นนักสู้หรือราชธิดาก็ได้ ผมสีม่วงละเอียดของนางปัดไปมาในอากาศ และลักษณะของนางเหมือนภาพวาดที่งดงาม นัยน์ตานางเหมือนตากวางเป็นประกายสีเขียวมีเสน่ห์ รูปร่างนางยั่วยวนใจหากมองผ่านเกราะมังกรดำของนางได้ นางมีขาเรียวยาว, อกใหญ่เอวบางสะโพกกระชับได้สัดส่วน มือเท้าละเอียดอ่อน ทำให้นางดูเหมือนตุ๊กตาที่เซ็กซี่
พวกนักผจญภัยมองนางอย่างเคลิบเคลิ้ม
บางคนน้ำลานหกเป็นน้ำตก
เย่ว์หยางสั่นขณะมองดูสาวงามผมม่วง สายตาเขาเยียบเย็นเหมือนน้ำแข็ง
*************