เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ – ตอนที่ 436 – ความเชื่อมั่น

ตอนที่ 436 ความเชื่อมั่น

“เจ้าเองหรือ, หวี่เอ๋อ? เจ้าบัดซบเฟิงจิน! เจ้าจับลูกสาวข้ามาได้ยังไง!” เย่ว์ซานมองดูเย่ว์หวี่ ตอนแรกเขาแค่ตะลึง แต่ต่อมาเขาจึงระเบิดอารมณ์โกรธราวกับภูเขาไฟระเบิด

เย่ว์ซานยื่นแขนได้ไม่ถนัด เขาพยายามจะบีบคอเฟิงเซียนเซิง

อย่างไรก็ตามโซ่ตรวนรั้งตัวเขาไว้ไม่ให้ไปถึงเฟิงเซียนเซิง เขาอยู่ห่างเพียงไม่กี่เซนติเมตร แต่มิอาจก้าวไปไกลกว่านั้นได้

ไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างไร ก็ไร้ประโยชน์

เย่ว์ซานร้องอย่างไม่พอใจและเศร้าโศก “.อ๊า…..”

เขาเหมือนสัตว์ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บ ไม่มีพลังเต็มที่ ทำได้แต่เพียงมองดูศัตรูหวังจะฉีกทึ้งเขาให้เป็นชิ้นๆ เย่ว์ซานร้องไห้ใจสลายแทบจะก้องไปถึงโลกหล้าและสวรรค์ ใครก็ตามที่ได้ยินจะรู้สึกเต็มไปด้วยความเสียใจ หลิ่วเย่ก็ยังอดร้องไห้ตามไม่ได้ นางกอดเย่ว์หวี่ที่ร้องไห้จนเกือบหมดสติ

แต่เฟิงเซียนเซิงไม่แยแส เขาไม่สนใจทุกสิ่ง ดูเหมือนกับว่าหัวใจของเขาจะทำด้วยเหล็ก

ตราบเท่าที่ฆาตกรเลือดเย็นผู้นี้ยังมีข้อกังวล เย่ว์ซานกระแทกร่างตนเองเข้ากับผนังซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาใช้หมดทุบใส่ผนังโดยใช้พลังเท่าที่เหลือทั้งหมด เขาใช้ศีรษะกระแทกกับห่วงโลหะบนผนังแก้วผลึก ห่วงขนาดยักษ์เปรอะเปื้อนเลือดทันที หลังจากนั้นสักครู่เย่ว์ซานจึงค่อยสงบใจลงได้เนื่องจากความเจ็บปวด เขาหันหน้ามาทางเฟิงเซียนเซิงและก้มหน้ากล่าวว่า “เฟิงจิน เจ้าชนะ, เจ้าชนะแล้ว, ปล่อยลูกสาวข้าไปเถอะ ข้ายอมทดลองแล้ว ข้าจะมอบร่างกายข้าให้เจ้า ไม่ว่าเจ้าจะให้ข้าทำอะไร ข้าจะยอมทำตาม ขอให้ปล่อยลูกสาวข้าให้เป็นอิสระ” เสียงของเขาเหมือนแก่ลงอีกสิบปีเต็มไปด้วยความขมขื่นและโศกเศร้า

เฟิงเซียนเซิงหัวเราะลั่น “ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าพูดอะไรไว้? เย่ว์ซาน ข้าบอกเจ้าแล้วว่าข้าจะชนะ ข้าบอกเจ้าแล้ว เจ้าจะต้องยอมแพ้ ข้าพูดถูกไหม? คนที่อ้างตัวว่ามีปณิธานกล้าแข็งที่สุดจะต้องยอมแพ้สักวัน, ฮ่าฮ่าฮ่า ในโลกนี้ ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้?”

“ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นข้าจะกระแทกศีรษะกับผนังตายเดี๋ยวนี้ ความลับที่เจ้าต้องการรู้จะไม่มีทางถูกเปิดเผยตลอดไป”

น่าเศร้าที่ห่วงโซ่จำกัดความเคลื่อนไหวของเขาอย่างไร้ความปราณี

แม้ว่าเย่ว์ซานจะใช้เรี่ยวแรงทั้งหมด ปลายนิ้วของเขาก็ยังคงอยู่ห่างจากเฟิงเซียนเซิงหนึ่งเซนติเมตร

หนึ่งเซนติเมตรนี้ทำให้ความหวังสูญสลาย….พอเห็นอยู่ว่าเย่ว์ซานผู้จงเกลียดจงชังเขาไม่สามารถแตะต้องและกินเขาทั้งเป็น เฟิงเซียนเซิงถึงกับหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

เขาผ่อนคลายไหล่ “เย่ว์ซาน, ข้าคิดว่ามีบางอย่างที่เจ้าเข้าใจผิดไปนะ บุตรคนโตของตระกูลเย่ว์ผู้ฉลาด ถ้าเจ้าเป็นข้า, เจ้าจะทำอะไร? ลบหลู่ศัตรู, ข้าว่าเจ้าคงใช้ทุกวิธีการเพื่อดูถูกเย้ยหยันศัตรูของเจ้า ทำไมข้าถึงไม่ใช้กลยุทธของเจ้าเล่า? มาเลย, บุตรคนโตของตระกูลเย่ว์ผู้หยิ่งยโส คุกเข่าลงและคำนับข้า คนของตระกูลเย่ว์ไม่เคยค้อมหัวให้ศัตรูใช่ไหม? เอาเลย มีคนแรกที่จะทำทุกอย่าง คุกเข่า, คุกเข่าเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่อย่างนั้นข้าจะให้คนของข้ารุมข่มขืนลูกสาวเจ้า ลูกสาวที่ดีอย่างนั้น นางงดงามเหมือนดอกไม้, นางมีความภูมิใจในความสาว ถึงเวลาแล้วที่ชีวิตสดใสของนางจะเบ่งบาน ถ้าสิ่งเหล่านั้นถูกทำลาย จะน่าเสียใจขนาดไหน เย่ว์ซาน, เจ้าคือฝ่ายตรงข้ามที่ข้าไม่สามารถทำลายได้ มานี่ หมอบกราบข้าซะ!”

“ไม่นะ, ท่านพ่อ ลูกหลานตระกูลเย่ว์ยอมตาย เราไม่มีทางคุกเข่าให้กับศัตรู” เย่ว์หวี่ร้องไห้ “ไม่มีใครใช้ข้าทำร้ายท่านได้, ท่านพ่อ, ข้ายอมตายพร้อมกับศักดิ์ศรี สิ่งที่พวกเขาจะได้ไปมีแต่ศพของข้าเท่านั้น”

ไม่รู้ว่านางชักมีดออกมาจ่อคอตนเองตั้งแต่เมื่อใด

บางทีเพราะนางตื่นเต้นเกินไป คมมีดจึงบาดที่คอละเอียดอ่อนของนาง เลือดหยดไหลไปตามมีดช้าๆ

เย่ว์หยางเกรงว่าพี่สาวรองจะทำเรื่องโง่เขลาจริงๆ จึงลอบใช้พลังดรรชนีทำลายมีดจนแตกหัก

เฟิงเซียนเซิงเห็นมีดร่วงกับพื้น เขารีบเตะออกไปห่างๆ

ทหารชุดเกราะสองคนยึดมีดไปอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ทหารชุดเกราะทั้งหมดได้ระมัดระวังอาวุธที่เอวตนเองเป็นพิเศษ พวกเขาจะไม่ให้โอกาสเย่ว์หวี่สัมผัสอาวุธที่มีคม

“ไม่เลว สำหรับวิธีที่นำมีดเข้ามาได้ ข้าจะปล่อยไปก่อน เมื่อออกไปแล้วข้าจะให้สาวงามเป็นรางวัลกับเจ้า จับตามองคุณหนูรองตระกูลเย่ว์ไว้ นางคือธิดาสุดที่รักของเย่ว์ซาน ถ้าเราต้องการให้คนที่มีจิตใจแน่วแน่นี้ยอมแพ้ เราต้องใช้นาง” เฟิงเซียนเซิงจ้องดูเย่ว์หยาง แต่ก็เบนความสนใจออกมาหลังจากนั้น ในใจเขาเหมียวซือที่เย่ว์หยางปลอมตัวมานั้นเป็นเพียงเครื่องมือชิ้นหนึ่ง ไม่มีประโยชน์ที่จะให้ความสนใจเขามากไป

“คุณหนูรองตระกูลเย่ว์ ข้าหวังว่าเจ้าจะมีพฤติกรรมที่ฉลาด การฆ่าตัวตายมิได้แก้ปัญหา ทันทีที่เจ้าตาย ข้าจะลักพาตัวน้องชายและน้องสาวของเจ้ามาอีก เจ้าคิดหรือว่าความตายของเจ้าจะได้ผล? ทำตัวให้ฉลาด กระตุ้นเตือนให้บิดาเจ้ายอมแพ้และร่วมมือกับเรา นั่นคือวิธีที่แท้จริงและถูกต้อง” หนิงไห่พยายามจะชักจูงเย่ว์หวี่

ความจริง เขาเตือนเย่ว์หวี่เป็นนัยๆ

คุณชายสามตระกูลเย่ว์ยังอยู่ข้างนาง นางไม่จำเป็นต้องตื่นเต้นเกินไป

หลังจากได้รับการเตือนแล้ว ทั้งเย่ว์หวี่และหลิ่วเย่จึงระงับอารมณ์ได้กลับสู่ความเป็นจริง สถานการณ์มิได้เลวร้ายเกินไป พวกนางชำเลืองมองเย่ว์หยางทั้งที่น้ำตายังนองหน้า อารมณ์ของพวกนางคงที่หลังจากนั้น อย่างไรก็ตาม เกรงว่าเฟิงเซียนเซิงจะมองเย่ว์หยางออก หญิงสาวทั้งสองจึงกอดกันแน่นเพื่อไม่ให้เฟิงเซียนเซิงรู้ถึงความผิดปกติ

เย่ว์ซานสั่นไปทั้งตัว หลั่งน้ำตาเป็นสายเลือด

น้ำตาอุ่นๆ ไหลนองแก้มเขา

“ฮึ, เจ้า, บิดาข้าสอนเราพี่น้องตั้งแต่ยังเล็ก คนของตระกูลเย่ว์ยอมตายต่อหน้าศัตรู เจ้าคนชั่วเฟิงจิน เจ้าฆ่าข้าได้ แต่อย่าหวังว่าจะทำร้ายตระกูลเย่ว์ได้เลย แม้ว่าข้าเย่ว์ซานจะไร้กำลัง ก็ไม่ได้หมายความตระกูลเย่ว์เราไม่มีลูกผู้ชาย เจ้าฆ่าข้าได้ เจ้าสามารฆ่าลูกสาวข้า แต่เจ้าจะไม่มีทางทำลายความเชื่อมั่นของตระกูลเย่ว์ได้ ต้องการให้เรายอมแพ้ นั่นเป็นไปไม่ได้ ไม่มีทาง!” เย่ว์ซานคำรามลั่น เสียงดังของเขาทำให้คุกใต้ดินทั้งหมดสั่นสะเทือน

“ข้ารู้, เจ้า, ตระกูลเย่ว์ของเจ้ามีปณิธานแข็งแกร่ง ข้าไม่ได้บอกว่าเจ้าไม่มีสักหน่อย” เฟิงเซียนเซิงหัวเราะลั่น “ความจริง ข้ายกย่องตระกูลเย่ว์ของเจ้า แม้ว่าพวกเจ้าจะโง่เง่าทุกคน พวกเจ้าทุกคนแกร่งกร้าว ข้าเห็นคนขี้ขลาดตาขาวมามากแล้ว ได้พบมาก็มาก คนที่คุกเข่าต่อหน้าข้าและกระดิกหางใส่เหมือนสุนัข พอเห็นเจ้าพวกสวะประพฤติตัวเช่นนั้น ข้ารู้สึกเบื่อหน่าย ความจริง ข้ายอมรับศัตรูอย่างเจ้า ไม่ว่าข้าจะทุบตีเจ้ายังไง ทรมานเจ้าถึงเพียงไหน เจ้าก็ยังรักษาความภาคภูมิใจในฐานะของคนตระกูลเย่ว์ ตอนนี้ เมื่อลูกสาวเจ้าปรากฏตัว ปณิธานของเจ้าถึงกับแกว่ง อย่างไรก็ตาม คำพูดของนางทำให้เจ้าเข้มแข็งอีกครั้ง ช่างเป็นสายเลือดที่ดีจริงๆ แต่เย่ว์ซาน เจ้าคิดหรือว่าในโลกนี้พวกเจ้าทุกคนจำเป็นต้องมีปณิธานกร้าวแกร่ง? เจ้าผิดแล้ว ข้าขอบอกเจ้าเลยว่าเข้าใจผิดอย่างแรง!”

“เจ้าต้องการรู้วิธีที่ข้าจัดการกับลูกสาวของเจ้าไหม? ข้าจะใช้วิธีที่โหดร้ายทุกอย่างในโลกทรมานนาง หลายร้อยวิธี เจ้าจะต้องดูด้วยความขมขื่นใจที่สุด เจ้าจะต้องคุกเข่าลงต่อหน้าข้าแล้วขอให้ข้าฆ่านางซะ เจ้าต้องการให้ข้าแล่เนื้อนางไหม? ผิวงดงามอย่างนี้ รูปร่างที่ดีอย่างนี้ เจ้าคิดบ้างไหม หลังจากทรมานไปหลายร้อยวิธีแล้ว นางยังจะเป็นแบบนี้ไหม? ข้าสัญญากับเจ้าได้เลย ถ้าเจ้าดูนางอีกครั้ง เจ้าจะต้องอาเจียนแน่ มีพวกหยาบช้าลามกอยู่ที่นี่มากมาย ไม่ ไม่ต้องไปพูดถึงพวกนั้น เอาแค่เหมียวซือที่ชอบข่มขืนแล้วฆ่าผู้หญิงตามอารมณ์ ทันทีที่ข้าสั่ง เขาจะทำให้ลูกสาวเจ้าไม่อยากจะเกิดมาในโลกนี้อีก”

“หลังจากทรมานนางต่อหน้าเจ้าแล้ว ข้าสามารถรักษานางแล้วจากนั้นเปลี่ยนลักษณะนางเป็นคนอื่น จากนั้น ข้าจะหักแขนหักขาของนาง ตัดลิ้นนางทำให้นางเป็นทาสที่โง่เขลา แล้วข้าจะขายนางให้ซ่องในเมืองฉางจิง ลูกค้าที่ซุ่มซ่ามน่าเกลียดและแก่ที่สุดคงต้องการใช้จ่ายเล็กน้อยเพื่อสนุกกับร่างกายของนาง”

“ทั้งหมดนี้สามารถหลีกเลี่ยงได้นะเย่ว์ซาน ตอนนี้ ข้าจะไม่ขอให้เจ้าคุกเข่าอีกต่อไป เจ้าไม่จำเป็นต้องคุกเข่า เจ้าเป็นคนที่น่ายกย่องจริงๆ ข้าไม่ต้องการสร้างความเสื่อมเสียให้เจ้า ข้าแค่หวังว่าเจ้าจะเข้าใจและยอมร่วมมือกับเรา นั่นคือหนทางเดียวของเจ้า เย่ว์ซาน ข้าคิดว่าคนฉลาดอย่างเจ้าคงจะเข้าใจเรื่องที่ข้าพูด ทำไมเจ้าจึงต้องยึดมั่นเชื่อถือจุนอู๋โหย่วและต้าเซี่ยเล่า? ภาพลักษณ์ของเจ้าต่อหน้าสาธารณชนเป็นอย่างไรบ้าง? เจ้าเป็นแค่คนทรยศคนหนึ่ง คนทรยศต่อมนุษยชาติ คนทรยศผู้เข้าไปในแดนปีศาจ คนที่ต้องสงสัยว่าฆ่าน้องชายตนเอง เป็นบุคคลหมายเลขหนึ่งที่ข่มเหงน้องสะใภ้และหลานชายตนเอง นี่คือสภาพที่เจ้าเป็น ดังนั้นเจ้ายังจะยืนกรานอะไรอยู่อีก? บอกมา เจ้าจะตัดสินใจยังไง ข้าจะได้ปล่อยลูกสาวเจ้าไป ข้าชอบผู้เยาว์ที่โดดเด่นอย่างนาง ข้าไม่ต้องการให้นางพบจุดจบอย่างยากลำบาก ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวเจ้า ตราบใดที่เจ้ายินดีจะร่วมมือกับเรา อย่างนั้นเจ้าและลูกสาวจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด รวมทั้งได้รับการปกป้องที่ปลอดภัยที่สุด”

“ในฐานะที่เป็นศัตรูมีอำนาจมากที่สุด ข้าขอแนะนำเจ้า ยืนกรานไปก็ไร้ประโยชน์ อย่างน้อยข้าก็ไม่ใช่คนที่เสียน้ำตาและปณิธานอยู่แล้ว อย่าบังคับให้ข้าลงมือนะ เย่ว์ซาน ตอบข้ามาเดี๋ยวนี้”

“ตุ้บ”

เย่ว์ซานคุกเข่าลงช้าๆ

เสียงดังตุ้บ เข่าของเขากระแทกพื้นโดยจงใจ

นัยน์ตาของเฟิงเซียนเซิงเป็นประกายตื่นเต้น เขาอยากกระโดดโลดเต้นนัก แต่ต้องข่มใจไม่ให้แสดงออก

เขากำหมัดแน่น บุรุษที่ปฏิเสธจะยอมแพ้ในอดีตเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ ในที่สุดก็คุกเข่าต่อหน้าเขาจนได้ ความรู้สึกประสบความสำเร็จนี้ยากบรรยายเป็นคำพูดได้ เฟิงเซียนเซิงรู้สึกตื่นเต้น ความตื่นเต้นจากผลสำเร็จนี้ ทำให้เขารู้สึกถึงผลสำเร็จยิ่งใหญ่กว่าสิ่งที่เขาได้รู้สึกเมื่อเขาพบวิธีการใหม่ๆ จากการค้นคว้าของเขา

ราชาเฮยอวี้ได้เคยพูดมาก่อนว่า เพื่อจะพิชิตหอทงเทียน จะต้องพิชิตทวีปมังกรทะยานให้ได้เสียก่อน จะพิชิตทวีปมังกรทะยาน ก็ต้องพิชิตต้าเซี่ยให้ได้ จะพิชิตอาณาจักรต้าเซี่ย ก็ต้องพิชิตตระกูลเย่ว์เสียก่อน

ตอนนี้ มีความคืบหน้าในที่สุด ก้าวแรกที่จะพิชิตตระกูลเย่ว์

เย่ว์ซานยอมแพ้แล้ว

คนของตระกูลเย่ว์ยอมตายดีกว่ายอมคุกเข่าให้ศัตรู วันนี้ ต่อหน้าต่อตาเขา คนของตระกูลเย่ว์คนหนึ่งได้คุกเข่าแล้ว นี่หมายความว่าอาณาจักรต้าเซี่ยทั้งหมดและทวีปมังกรทะยานทั้งสิ้นจะเริ่มล่มสลายแล้วไม่ใช่หรือ?

หัวของเย่ว์ซานกระแทกใส่พื้น หน้าผากของเขากระแทกพื้นแรงมากจนเลือดกระเซ็น

เสียงของเขาเปล่งออกมาจากความเจ็บปวดและอัปยศแสนสาหัส “ข้าขอร้อง, เฟิงจิน, ปล่อยลูกสาวข้าไป! นางไม่ได้ทำอะไรผิด นางไม่มีความคิดจะเป็นศัตรูกับราชาเฮยอวี้ นางเป็นสตรีที่อ่อนแอเปราะบาง เจ้าจับลูกชายข้า, เจ้าสามารถฆ่าบุรุษทุกคนในตระกูลเย่ว์ได้ แต่ได้โปรด ปล่อยนางไปเถอะ นี่เป็นคำขอร้องของพ่อคนหนึ่ง เฟิงจิน เจ้าเองก็เคยเป็นพ่อเหมือนกัน เจ้าควรจะเข้าใจความรู้สึกนี้… ข้ารู้ว่าคำขอร้องนี้ดูไม่สมเหตุสมผล, ดูเหมือนไม่จริงใจ เป็นเหมือนหมอกควัน เป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะเห็นด้วย เจ้าเองก็เป็นคนใจเย็น แต่สำหรับลูกสาวที่ข้ารักที่สุด ข้าเย่ว์ซานยอมคุกเข่าต่อหน้าเจ้าในวันนี้ แม้ว่าโอกาสจะมีน้อยนิดเพียงหนึ่งในล้าน ข้าก็จะไม่ยอมแพ้…. เฟิงจิน เจ้าต้องปล่อยนางไป เจ้าฆ่าข้าได้หรือจะแล่เนื้อเถือหนังข้าก็ได้, ข้าไม่สนใจ ข้าสามารถคุกเข่าได้ ร่างกายข้าจะเอาไปทดลองใดๆ ก็ได้ ข้ายอมหมอบคำนับให้กับคนอย่างเจ้า ตราบใดที่เจ้ายอมปล่อยลูกสาวข้า ข้ายินดีจะทำอะไรก็ได้”

เย่ว์ซานเงยหน้า จากดวงตาที่เต็มไปด้วยความเสียใจ น้ำตาปนโลหิตไหลลงมานองแก้ม

การคุกเข่าต่อหน้าศัตรูเป็นเรื่องเจ็บปวดอัปยศอดสูยิ่งกว่าตาย เป็นการกระทำที่คนในตระกูลเย่ว์ไม่เคยคิดจะทำ เขาเกลียดตนเองและปรารถนาจะตายทันที

แต่เขาไม่สามารถทำได้

เขาเป็นพ่อ เขาไม่อาจตายในลักษณะนี้ได้

เขาต้องอดทนต่อความเจ็บปวดอัปยศอดสูอย่างนั้นซึ่งแย่ยิ่งกว่าตาย การคุกเข่าให้ศัตรู แม้รู้ว่าความสำเร็จแทบเป็นไปไม่ได้ แต่เขาต้องลอง เพราะอาจจะช่วยชีวิตของลูกสาวเขาได้

“เจ้า!….” หน้าของเฟิงเซียนเซิงบิดเบี้ยว เหมือนกับว่ามีคนตบหน้าเขาหลายครั้ง เขาปล่อยเสียงแหลมสูงเหมือนสัตว์ที่ได้รับบาดเจ็บ ความรู้สึกเหมือนพ่ายแพ้ครั้งใหญ่นี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนจะเป็นบ้า ภายใต้สถานการณ์เช่นนั้น เย่ว์ซานยอมคุกเข่า, เขายอมอ้อนวอน ให้ศัตรูผู้ชนะปล่อยลูกสาวตนเองมากกว่าจะยอมพ่ายแพ้

สิ่งที่น่าผิดหวังที่สุดก็คือ เย่ว์ซานไม่ได้รู้สึกว่าจำเป็นต้องหลอกเขา เขาไม่ได้แกล้งยอมจำนน

เป็นไปได้หรือว่าในพจนานุกรมของตระกูลเย่ว์ ไม่เคยมีคำว่ายอมแพ้? เป็นไปได้ไหมว่าสมองของคนเหล่านี้มีโครงสร้างต่างจากชาวโลกที่เหลือ

เย่ว์หยางแอบถอนหายใจ

ไม่เลว, เย่ว์ซานยังคงเป็นลูกผู้ชายตัวจริง เขายังคู่ควรกับการเป็นพ่อคน

หนิงไห่ตกตะลึง เขาไม่เคยเห็นบุรุษอย่างนี้มาก่อน ในขณะนี้เขาตระหนักได้ว่า เทียบกับเย่ว์ซานแล้วเขาช่างเล็กน้อยมาก เย่ว์ซานไม่มีพลังมากเท่าเขา แต่กลิ่นอายที่เขาปล่อยออกมาให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสนามพลังที่นักสู้ปราณก่อกำเนิดผู้ทรงพลังสร้างขึ้นมา หนิงไห่สั่นด้วยความกลัวอยู่ในใจ

นี่ช่างน่ากลัวมาก….

บุรุษผู้ไม่กลัวตายกลับยอมคุกเข่า ความยึดมั่นและความเกลียดชังอย่างนั้น, พลังอย่างนั้นเป็นสิ่งที่จะเอาชนะได้จริงๆ หรือ

เฟิงเซียนเซิงกำลังเต้นเร่าๆ ด้วยความโกรธ เขาคำรามบ้าคลั่ง “โอกาสสุดท้ายแล้ว เจ้าไม่มีทางเลือก นอกจากยอมแพ้และร่วมมือกับเรา ลูกสาวเจ้าจึงจะปลอดภัย ถ้าไม่อย่างนั้น ข้าสาบานเลยว่าข้าจะใช้ทุกวีธีการมาทรมานนาง จนกว่าเจ้าจะเสียใจ คำเดียวเท่านั้น ยอมแพ้!”

“ไม่, ไม่มีทาง!” เย่ว์ซานบ้วนเลือดในปากซึ่งเต็มไปด้วยฟันหัก “ข้าขอร้องเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย, ปล่อยลูกสาวข้า”

“เป็นไปไม่ได้! ไม่มีทาง!” เฟิงจินยืนยันเหมือนเดิม

“หวี่เอ๋อ, ข้าทำให้เจ้าตกต่ำ! ข้าเป็นพ่อที่เลว, ที่ไม่สามารถช่วยเจ้าได้…” ทันใดนั้นเย่ว์ซานหันไปคุยกับเย่ว์หวี่ที่น้ำตานองหน้า เขาเรียกนางด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

ในชีวิตของเขา เขาไม่เคยอ่อนโยน

ในสายตาของเขา ตลอดชีวิตของเขาไม่เคยมีสักครั้งที่เปี่ยมไปด้วยความรักบุตรเช่นนี้ จนกระทั่งตอนนี้ เขาเริ่มประพฤติตัวเหมือนบิดาที่ดี

เย่ว์ซานเม้มปากกัดฟันจนทำให้เลือดไหลออกมา เขาพยายามอย่างดีที่สุดเค้นรอยยิ้มให้เย่ว์หวี่ “หวี่เอ๋อ! ตั้งแต่เจ้ายังเล็ก ข้าให้ความสำคัญลูกชายมากกว่าลูกสาว ข้าไม่เคยยิ้มให้เจ้า ยิ้มนี้สำหรับเจ้า เจ้าเป็นเด็กดีที่ว่านอนสอนง่ายที่สุดและเป็นลูกสาวที่ข้าภูมิใจที่สุด ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ถูกศัตรูย่ำยีให้ได้รับความอับอาย ถ้าพวกมันทรมานเจ้า อย่างนั้นเจ้าควรจะฆ่าตัวตายทันที อย่าให้พวกมันได้มีโอกาส แต่ก่อนจะถึงขั้นนั้น เจ้าต้องอดทน หวี่เอ๋อ! หลังจากเจ้าหายไป ตระกูลเย่ว์จะต้องรู้ตัวแน่นอน น้องสามของเจ้ามีความสามารถ เขาจะต้องมาช่วยเหลือเจ้า เจ้าจงอดทนจนถึงวินาทีสุดท้าย ถ้าข้าอยู่ที่นี่ เจ้าคนชั่วเฟิงจินก็ยังจะใช้เจ้า ถ้าข้าตาย เจ้าอาจจะปลอดภัย ดังนั้นข้าจะจากไปก่อน… ถ้าเจ้ากลับไปได้และมีโอกาสพบปู่ของเจ้า บอกท่านด้วย ข้า เย่ว์ซานไม่ใช่คนขี้ขลาด ไม่ใช่คนทรยศหักหลัง น้องสามน้องสี่ไม่ได้ถูกข้าฆ่า ข้า เย่ว์ซานยังเป็นคนของตระกูลเย่ว์เสมอ!”

“ถ้าเจ้าฆ่าตัวตาย, ข้ารับรองได้เลยว่าลูกสาวของเจ้าจะต้องทุกข์ทรมานจากทัณฑ์ทรมานที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต”

“เฟิงจิน! คิดหรือว่าคนเลวอย่างเจ้าจะขู่เข็ญข้าได้? คนตระกูลเย่ว์เราตายได้ แต่ไม่ยอมแพ้!”

เย่ว์ซานลุกขึ้นยืน มีเลือดเปรอะไปทั้งใบหน้า

เขายกมือขวากำหมัดแน่น มีเสียงดังทึบตามมา เขาฟาดหมัดใส่หน้าผากตนเองเต็มแรง

 

****************

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

LLS, Triệu Hoán Vạn Tuế, Zhaohuan Wansui, 召唤万岁
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2010 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ทวีปมังกรทะยานคือโลกแห่งการอัญเชิญ คุณจะกลายเป็นคนแข็งแกร่งได้ ถ้าเพียงแต่คุณเป็นผู้อัญเชิญ! ยิ่วหยางเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาถูกส่งเข้ามาในโลกนี้อย่างฉับพลันทัน ด่วน เมื่อเขาฟื้นขึ้นกลับได้พบใบหน้าของหลายคนที่เต็มไปด้วยความห่วงใย และพบว่าเขาเป็นตัวตนของอีกคนหนึ่ง กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นบุตรที่ไม่เอาไหนของตระกูลยิ่ว จนถึงกับโดดน้ำตายเพราะถูกปฏิเสธการหมั้น อีกทั้งไม่สามารถจะทำพันธสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ แต่ยิ่วหยางกลับประสบความสำเร็จทำสัญญากับคัมภีร์ ส่วนเรื่องราวจะเป็นเช่นไรต่อไป ขอเชิญติดตามดูครับ ความจริงในการแปลครั้งนี้มาจากแรงบันดาลใจที่ไม่ได้จะเป็นนักเขียนนักแปล หรอกครับ เกิดจากการอ่านมันฮัวการ์ตูนของจีนแล้วชอบ พยายามหาดูที่แปลเป็นอังกฤษ ก็แปลกันไปได้น้อยนิด แต่พอดูฉบับนิยายรู้สึกว่าเขาแปลไปได้เยอะ จึงลองเข้าอ่าน แต่เพราะความที่ภาษาไม่แข็งแรง จึงต้องดูไป เปิดดิคฯ ไปใช้โปรแกรมแปลช่วยบ้าง มีความรู้สึกว่าอ่านไม่ต่อเนื่อง จึงคิดว่าน่าจะแปลข้อมูลเก็บไว้ในเว็บๆ หนึ่งแล้วค่อยอ่านเป็นตอนๆ ให้ต่อเนื่องไปเลยดีกว่า แล้วก็นึกถึงที่นี่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset