ตอนที่ 456 โง่จัง, เจ้าตายไปแล้ว
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ฮ่าฮ่าฮ่า….”
สัตว์ประหลาดมากกว่า 30 ตัวหัวเราะขำคำพูดของเย่ว์หยาง พวกมันคิดว่าเป็นเรื่องตลกมากกว่าเป็นคำขู่
ศัตรูอยู่ต่อหน้าเป็นสิบ ยังมีอารมณ์พูดอย่างนั้นอีกหรือนี่?
ฆ่าไม่ปราณี?
นี่ไม่ใช่การละเล่นของเด็ก แม้ว่ามนุษย์ฉลามนีโออาจไม่ใช่มนุษย์กลายพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของกลุ่ม แต่จะฆ่าเขาให้ได้ในน้ำนั้นพูดยังง่ายกว่าทำ มนุษย์กลายพันธุ์ที่เป็นใหญ่ในน้ำ เพราะพวกมันได้เปรียบตรงที่พวกมันสามารถรอดอยู่ได้เมื่อพื้นที่เฉพาะพังทลายลงไป
จะเป็นไปได้อย่างไรที่มนุษย์หนุ่มน้อยจะสามารถฆ่ามนุษย์มัจฉาแปลงหรือแม้แต่มนุษย์ฉลามผู้มีความสามารถทางน้ำที่สูงส่งกว่า
มนุษย์ฉลามนีโอหัวเราะจนน้ำตาเล็ด
เขาใช้หางตีน้ำจนกระจาย
เขาหัวเราะและเยาะเย้ยเย่ว์หยาง “ฮ่าฮ่า, เจ้าเด็กน้อย, เจ้านึกว่าที่นี่เป็นสวนวิ่งเล่นหลังบ้านเจ้าหรือ? เจ้าคงนึกอยู่สินะว่าครอบครัวของเจ้ายังคอยหนุนหลังปกป้อง ประมาทมากเชียวนะ ปีนี้เจ้าอายุเท่าใดแล้ว? ข้าพนันได้เลยว่าปีนี้เจ้ายังฉี่รดที่นอนอยู่ใช่ไหม? เดี๋ยวนี้เจ้าแค่ต้องการอวดต่อหน้าผู้หญิง เจ้ามีฝีมือหรือ? เข้าใจหรือเปล่าว่าน้ำคืออะไร? ก็ได้ งั้นเข้ามา กวนโมโหนักใช่ไหม? มาฆ่าข้าเลย ระดับอย่างเจ้าน่ะหรือ ต้องการจะฆ่าข้า ก็คงได้หรอกถ้าจะทำให้ข้าหัวเราะจนขาดใจตาย! นี่มันมุขตลกที่สุดที่ข้าเคยได้ยินมาในรอบ 4,000 ปี ฮ่าฮ่าฮ่า ขำโว้ย!”
หัวหน้ามนุษย์ปลาหมึกผู้นั้นขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนั้น
เขาคิดว่าเย่ว์หยางไม่ใช่คนง่ายๆ อย่างที่เห็น ถ้าเขาเป็นแค่หนุ่มเจ้าสำราญธรรมดา คงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกล้าพูดอุกอาจต่อหน้าศัตรูมากมาย
สิ่งที่ทำให้รู้สึกแย่ที่สุดก็คือการที่มนุษย์หนุ่มผู้นี้ดูเหมือนไม่มีอันตราย แต่เบื้องหลังความไม่อันตรายนี้กลับเป็นรังสีฆ่าฟันเลือนลาง
เขาประเมินว่ามนุษย์หนุ่มน้อยผู้ซ่อนเร้นพลังนี้จะต้องแข็งแกร่งกว่าที่เขาสามารถนึกภาพออก
แม้ว่าการต่อสู้ยังมิทันเริ่ม แต่มนุษย์ปลาหมึกที่เป็นหัวหน้า ก็ตระหนักได้แล้วว่ามีบางอย่างผิดปกติ
แต่ เขาตัดสินใจปล่อยให้สถานการณ์เป็นไป
ถ้าเขาสามารถใช้โอกาสนี้ทำความเข้าใจคู่ต่อสู้ของเขาโดยที่ตัวเองไม่ต้องบาดเจ็บ ทำไมจะไม่ได้เล่า?
“ปลาวาฬจาง ทำไมเจ้าถึงไม่หัวเราะ?” ในกลุ่มมนุษย์กลายพันธุ์ มนุษย์มัจฉาที่น่ากลัวผู้ดูเหมือนปลาตีนหันมาถามสหายตัวใหญ่ที่สุดข้างตัวเขา
“นี่ไม่ใช่เรื่องตลกแม้แต่น้อย!” เงาดำยักษ์ที่เหมือนกับปลาวาฬนั้นตอบกลับเสียงอู้อี้
“ดี, ข้าลืมไปว่าเจ้าไม่มีอารมณ์ขัน! ใช่แล้ว จี๋ฟง! เจ้าทำหน้าอย่างนั้นหมายความว่ายังไง? เจ้าคิดจริงๆ หรือว่ามนุษย์ฉลามนีโอจะเอาชนะเจ้าเด็กนั่นได้?” มนุษย์ปลาตีนถามมนุษย์ปลากระโทงดาบที่อยู่อีกด้านหนึ่ง
“มาพนันกัน พนันด้วยอัญมณีทะเลร้อยก้อน” มนุษย์ปลากระโทงดาบมีแนวโน้มว่าอาจเป็นนักฆ่ามาก่อน
แม้ว่าเขาจะนิ่งเงียบมาตลอด แต่คำพูดครั้งแรกของเขานั้นพูดได้ตรงจุด
คำพูดของเขาง่ายและชัดเจนมาก
มนุษย์ปลาตีนตะลึงอยู่ในตอนแรก “เจ้าคิดว่าเด็กหนุ่มจะแพ้หรือชนะ? ถ้าเจ้าพนันว่าเขาแพ้ ข้าจะไม่พนันกับเจ้า เจ้าต้องเลือกพนันว่าเขาจะชนะ”
มนุษย์ปลากระโทงดาบแค่นเสียง “มีแต่คนโง่ที่พนันว่าเขาจะแพ้!”
มนุษย์ปลาตีนถึงกับเดือดดาล หน้าของเขาแดงก่ำ และจุดดำบนหน้าเขาเปลี่ยนเป็นสีม่วง เขาตวาด “ก็ได้! ถ้าข้าชนะ ขวดทรายแดงที่เป็นสมบัติเจ้าจะต้องยกให้ข้า!”
มนุษย์ปลากระโทงดาบพยักหน้ายืนยันข้อตกลง
เขาแค่นเสียง หน้าของเขาสงบลงเหมือนกับว่าเรื่องจบลงด้วยความพอใจของเขา มนุษย์ปลาตีนโกรธมาก
ขณะที่พวกเขาสนทนากัน เย่ว์หยางกระซิบบอกและแนะนำถึงสิ่งที่เจี้ยงอิงต้องทำ เจี้ยงผงกศีรษะเห็นด้วย โดยมิทันได้รู้ตัว เจี้ยงที่เคยมาดมั่นเริ่มยอมรับฟังความคิดเห็นของเย่ว์หยาง นางเริ่มพึ่งพาเขา เจี้ยงอิงเร่งพลังของนาง พอเห็นพลังของนางเพิ่มขึ้นจากชั้นเตรียมปราณก่อกำเนิดเพิ่มจนถึงปราณก่อกำเนิดระดับห้า เหล่ามนุษย์กลายพันธุ์ถึงกับสั่นด้วยความกลัวอย่างช่วยไม่ได้
ตอนแรกพวกเขาคิดว่าเจี้ยงอิงและเย่ว์หยางจะร่วมมือกันเอาชนะมนุษย์ฉลามนีโอ
พวกเขาไม่เคยคาดเลยว่าเจี้ยงอิงยังไม่ทันได้ยกนิ้วด้วยซ้ำ
นางกลับลอยตัวขึ้นไปบนท้องฟ้า และดึงตัวออกไปจากสนามต่อสู้
นี่คือคำแนะนำของเย่ว์หยาง บนผิวทะเลและใต้น้ำ มนุษย์ปลากลายพันธุ์ย่อมได้เปรียบ อย่างไรก็ตาม ในอากาศพวกเขากลับเสียเปรียบอย่างมาก
ถ้าเพียงแต่เจี้ยงอิงปลอดภัย เย่ว์หยางก็สามารถสู้ได้อย่างวางใจ
ไม่เพียงแต่เย่ว์หยางต้องการสู้ เขาต้องการผลักดันมนุษย์ปลากลายพันธุ์เหล่านี้ออกไป เนื่องจากพวกเขารู้เรื่องอุทกแม่พระธรณีหมื่นปีดี จึงเป็นเรื่องง่ายมาก ที่พวกเขาจะคุยกันด้วยกำลัง ผู้แข็งแกร่งที่สุดจึงจะมีสิทธิ์พูด สำหรับมนุษย์ฉลามนีโอผู้ลำพองตน เขาเป็นแค่เครื่องมือเสียสละที่เย่ว์หยางต้องการใช้เป็นอุทหรณ์แก่ผู้ที่บังอาจท้าทายเขา
มนุษย์ฉลามนีโอระดับหก ยังเทียบไม่ได้กับมารมังกรฟ้าที่เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหก
แม้ว่าจะได้เปรียบเรื่องทะเล แต่สำหรับเย่ว์หยาง การต่อสู้ทางน้ำไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่สุด เสี่ยวเหวินหลี เมดูซ่าศิลาและเงือกวายุ, รวมทั้งนาคาสายฟ้าและปีศาจอสรพิษน้ำแข็งล้วนแต่เป็นนักฆ่าใต้น้ำทั้งนั้น
สิ่งที่สำคัญก็คือหลังจากต่อสู้ที่วังเทพจักรพรรดิอวี้แล้ว เย่ว์หยางรู้จุดอ่อนของพวกนักสู้กลายพันธุ์
มนุษย์ฉลามนีโอจะต้องตายอย่างสยดสยองแน่นอน
อย่าว่าแต่เขาทำท่าลวนลามเจี้ยงอิงเลย ต่อให้ไม่ทำ เย่ว์หยางก็เตรียมกำจัดเขาอยู่ดี
“มาเลย, มาฆ่าข้าซะ ข้ารอตายไม่ไหวแล้ว เอาสิ เจ้าจะใช้อะไรมาฆ่าข้า? จะใช้มีดแทงคอหรือร่องครีบของข้าดี? ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้าเจ้าคิดว่าข้าเป็นแค่เพียงฉลามตัวหนึ่ง เจ้าก็ผิดแล้ว” มนุษย์ฉลามนีโอล้อเลียนเย่ว์หยางแล้วจากนั้นก็เรียกคัมภีร์อัญเชิญดำขลับแปลกๆ บนคัมภีร์เต็มไปด้วยภาพสลักที่น่ากลัว ดูน่าสงสัยยิ่งกว่าคัมภีร์อัญเชิญที่ได้รับมาจากราชาลิช หรือนักสู้ปราณก่อกำเนิดที่เสียสละและขโมยพลังพวกเขามา คัมภีร์อัญเชิญที่กรีดร้องถึงอันตรายและความสับสน
ในทันที เย่ว์หยางใช้จักษุญาณทิพย์สังเกตดูคัมภีร์อัญเชิญ กลับกลายเป็นว่าคัมภีร์อัญเชิญของมนุษย์ฉลามไม่ถือว่าเป็นคัมภีร์อัญเชิญอีกต่อไปแล้ว
มันคือคัมภีร์อัญเชิญที่วิบัติแล้ว
ในนั้น ไม่มีอสูรพิทักษ์และทักษะแฝงเร้น มีแต่เพียงภาพมนุษย์ฉลามและอสูรที่ทำสัญญาไม่กี่ตัว ยิ่งกว่านั้น อสูรเหล่านั้นที่สามารถเรียกออกมาก็เป็นอสูรพิการที่ไม่มีปัญญา มีแต่ความสามารถต่อสู้เท่านั้น
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ทักษะของคนผู้นี้ตกต่ำลงมากจากนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับ 8 มาเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหก น่าสงสาร
กฎโบราณได้ทอดทิ้งมนุษย์ฉลามนีโอเสียแล้ว คัมภีร์อัญเชิญของเขาไม่เพียงแต่ไม่หายไปเท่านั้น แต่มันไม่อาจนับว่าเป็นคัมภีร์อัญเชิญได้อีกต่อไป ม่านพลังป้องกัน, ทักษะนักสู้ปราณก่อกำเนิดและอสูรพิทักษ์หายไปหมดแล้ว เหลือแต่คัมภีร์อัญเชิญพิบัติที่ดูเหมือนคัมภีร์อัญเชิญเล่มหนึ่ง แม้แต่คัมภีร์อัญเชิญก็ทอดทิ้งเจ้าของ… เรื่องนี้พิสูจน์ได้ถึงความชั่วร้ายของวิธีลับที่ถูกใช้เพื่อฆ่าอสูรพิทักษ์และอสูรธรรมดาเพื่อช่วงชิงร่างของพวกมันเพียงเพื่อรักษาชีวิตตัวเองให้รอด
ในวังเทพจักรพรรดิอวี้ นักรบแดนสวรรค์หลายคนก็ใช้วิธีเดียวกันนี้ แต่พวกเขาไม่ได้ทำจนถึงขอบเขตขนาดนั้น
แม้ว่าลักษณะของพวกเขาจะเปลี่ยนไป แต่พวกเขาก็ยังมีคัมภีร์อัญเชิญของพวกเขา
มนุษย์ฉลามนีโอได้ฆ่าสัตว์อสูรมากเกินไปเกือบหมด ขณะมิติพังถล่มเพื่อรักษาชีวิตตนเอง ดังนั้นหลายๆ คนไม่สามารถรักษาคัมภีร์อัญเชิญไว้ได้ เขาทำตัวตกต่ำจนเดี๋ยวนี้กลายเป็นนักรบวิบัติผู้น่าสงสาร
“สวะอย่างเจ้าสมควรตาย!” เย่ว์หยางไม่ใช้คัมภีร์อัญเชิญของเขา แต่ชักดาบฮุยจินและดาบจันทร์เสี้ยวออกมาแทน
อากาศระเบิด
ทั่วทั้งท้องฟ้าดูประหนึ่งถูกตัดขาดครึ่ง
ข้างหนึ่งเป็นนรกที่ลุกไหม้รุนแรง และข้างหนึ่งเป็นนรกน้ำแข็งเย็น
เย่ว์หยางปลดปล่อยพลังของเขาอยู่ในขั้นปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่ง พลังที่แสดงออกเหมือนเพิ่มเป็นร้อยเท่า ประหนึ่งว่าจ้าวปีศาจมาปรากฏตัว ทะเลทั้งหมดถูกปกคลุมด้วยพลังกดดัน บนท้องฟ้า เย่ว์หยางปล่อยอนุภาคน้ำค้างแข็งและเกล็ดหิมะจากมือซ้ายให้ร่วงลงมา เรือที่พังแล้วเหล่านั้นที่ลอยอยู่บนผิวน้ำเริ่มจับแข็ง แม้แต่ทะเลเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทาและแทบจะแข็งตัว
นั่นไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด ที่มือขวาของเย่ว์หยาง ดอกบัวเพลิงลุกโชนพลิ้วไหวในอากาศช้าๆ ราวกับมีชีวิต
เมื่อดอกบัวเพลิงเหล่านี้ปรากฏขึ้น ไม่เพียงแต่ท้องทะเลที่ลุกไหม้เหมือนนรกที่น่าหวาดกลัวเท่านั้น
มนุษย์ปลาตีนเป็นนักสู้ที่อ่อนแอที่สุด และไม่สามารถต้านพลังเช่นนั้นได้ เขาจำต้องดำลงไปใต้น้ำ และไม่ว่าจะดิ้นรนอย่างหนักขนาดไหน เขาไม่ไม่สามารถกลับขึ้นมาได้
เผ่าพันธุ์มนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ทุกตนหน้าขาวซีด ในพวกเขาไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าคู่ต่อสู้ของพวกเขาหลังจากปลดปล่อยพลังปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่ง ก็สามารถควบคุมได้ดั่งใจแล้ว
แรงกดดันที่น่าอึดอัดนี้มาจากเด็กหนุ่มที่เป็นแค่นักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่งได้ยังไง?
นี่เหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
“ยอมแพ้ซะ เจ้าเอาชนะเขาไม่ได้” ปลาวาฬจางมนุษย์กลายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มพึมพำบอกมนุษย์ฉลามนีโอทันที “ไม่ได้ ตอนนี้สายเกินกว่าจะหยุดแล้ว, นีโอ! เขาไม่ใช่ศัตรูที่เจ้าจะไปต่อกรด้วย”
“ไม่, ไม่มีทาง!” ความจริง มนุษย์ฉลามนีโอนึกเสียใจแล้ว แต่เขาห่วงศักดิ์ศรีตัวเองมากเกินไป เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีตนเอง เขาจะไม่ยอมพ่ายแพ้เย่ว์หยาง
เขา คือนักสู้คนหนึ่งที่มีชีวิตมาหลายพันปีแล้ว เขาคือหนึ่งในบรรดาผู้รอดชีวิตจากพื้นที่มิติพังทลาย
เป็นไปได้ยังไงที่จะให้เขายอมแพ้ต่อเด็กมนุษย์อย่างนั้น?
ไม่ว่านักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่งจะแข็งแกร่งขนาดไหนก็ตาม แต่เป็นไปไม่ได้ที่จะฆ่านักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหกอย่างเขา
มนุษย์ฉลามนีโอปฏิเสธจะยอมแพ้ เขาตัดสินสู้จนถึงที่สุด แม้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้อาจจะน่าเศร้าก็ตาม แต่เขาไม่คิดว่าเขาจะแพ้ แม้ว่าต่อให้เขาแพ้ก็ตาม ก็ต้องมีเกียรติในการต่อสู้ นักสู้ปราณก่อกำเนิดคนไหนยอมแพ้ทั้งที่ไม่ได้สู้? แม้ว่าเขาจะไม่ใช่นักสู้ปราณก่อกำเนิดต่อไป และขาก็เคยเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้ามาแล้ว เขาจะสามารถเชิดหน้าต่อเหล่าสหายได้ยังไง? ถ้าวันนี้ เขายอมแพ้เด็กที่เพิ่งเลิกนุ่งผ้าอ้อมได้ไม่นาน?
“ฆ่า! มาเลย เรามาสู้กัน” มนุษย์ฉลามนีโอเสริมพลังด้วยอสูรของเขาทั้งหมด รูปร่างที่ผิดเพี้ยนของเขา ไม่ใช่ร่างฉลามอีกต่อไป แต่เป็นร่างยักษ์ที่ประกอบขึ้นจากงูและปลา ร่างกายท่อนบนดูเหมือนปลาและมนุษย์ แต่ร่างท่อนล่างยังคงเป็นฉลาม เขามีแขนเหมือนงูงอกออกมาหลายข้างและก้ามปูอีกสองข้าง หลังของเขาเต็มไปด้วยหนามพิษคล้ายกับเสือศิลา
นี่คือร่างที่แข็งแกร่งที่สุดของมนุษย์ฉลามนีโอซึ่งเขาไม่ได้ใช้มาหลายร้อยปีแล้ว
แต่ถึงกระนั้น
มนุษย์ปลาหมึกผู้เป็นหัวหน้ายังคงขมวดคิ้ว
มนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ที่อยู่ใกล้มนุษย์ฉลามนีโอที่สุดก้าวมาข้างหน้า เตรียมพร้อมช่วยเหลือได้ทุกเมื่อ
เย่ว์หยางหายไปทันที ในทันใดนั้นหัวหน้ามนุษย์ปลาหมึกและมนุษย์ปลากระโทงดาบก็ต้องตกใจ เย่ว์หยางแว่บผ่านร่างของนีโอ แค่เพียงเย่ว์หยางปรากฏตัว มนุษย์มัจฉาจึงค่อยรู้ตัวว่าเย่ว์หยางโจมตีแล้ว
“เจ้าทำไปทำไม?” มนุษย์ฉลามนีโอมองดูเย่ว์หยางยืนอยู่ข้างหน้าเขาด้วยความงงงวย เขาโจมตีเสร็จแล้วหรือ? ทำไมเย่ว์หยางไม่โจมตีร่างเขา?
“โง่จัง, เจ้าตายไปแล้ว” เย่ว์หยางพูดไม่ออก
เขาหมุนตัวเดินออกมาโดยไม่มองนีโอ
ภายใต้สายตาจับจ้องของมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ทุกคน และช่วงที่มนุษย์ฉลามนีโอตกใจนั้น เส้นสีแดงสองสายปรากฏบนร่างของนีโอเหมือนกากบาท.ทันที ขณะที่นีโอร้องโหยหวนอย่างหวาดหวั่น แขนของเขาก็หลุดร่วง ร่างของเขาเริ่มเอียง และในสภาพที่เอียง เส้นสีแดงก็เปิดออก ร่างของเขามีเลือดฉีดพุ่งและขาดตกลงไปในทะเล
หัวหน้ามนุษย์ปลาหมึกไม่ได้มองดูเย่ว์หยาง แต่กลับจ้องมองมนุษย์ปลากระโทงดาบด้วยความหวาดหวั่นแทน
หน้าผากของอสูรปลากระโทงดาบหลั่งเหงื่อเยียบเย็น ปากก็พึมพำด้วยความหวาดหวั่น “วงจักรล้างโลก, วงจักรล้างโลก, วงจักร…..”
*****************