ตอนที่ 467 ต่างฝ่ายต่างก็มีแผน
การปรากฏตัวของราชาฉลามสร้างความยินดีให้กับขุนพลปลาทูน่าและขุนพลปลาหัวโต
แม้แต่ไห่อิงอู่ก็ลอบโล่งใจที่ราชาฉลามมาได้ทันเวลา ถ้าบุรุษหน้ากากฆ่าขุนพลปลิง หลายๆ อย่างจะแก้ไขกลับกลายไม่ได้ บุรุษหน้ากากยังคงแสดงความลำพองไม่หยุดทั้งที่ว่าที่นี่คือเกาะอัคคี แม้ว่าเขาจะรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่านี่คืออาณาเขตของจักรพรรดิสมุทร แต่ยังกล้าฆ่า กล้าจู่โจมทำร้ายสามขุนพลทะเล การกระทำของเขาเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่าเขามีพลังแข็งแกร่งจริงๆ และไม่ได้อยู่ใต้อาณัติของจักรพรรดิสมุทร
การขัดแย้งกับเขานับว่าเป็นเรื่องที่เขลามาก
มีเวลาอีกเพียงไม่กี่ชั่วโมงแผนการใหญ่ของจักรพรรดิสมุทรก็จะเริ่ม ไม่มีเวลาสำหรับแก้ปัญหาอื่นที่เกิดขึ้นอีกต่อไป
“ท่านราชาฉลาม คนผู้นี้ดูหมิ่นศักดิ์ศรีฝ่าบาทของเรา เขายังจู่โจมทำร้ายเรา นิสัยของเขาหยิ่งจองหองและดูแคลนคนอื่น บริวารไร้ความสามารถ ปล่อยให้ศักดิ์ศรีของฝ่าบาทถูกดูแคลน โปรดลงโทษข้าด้วย ท่านราชาฉลาม” ขุนพลทูน่าและขุนพลปลาหัวโตวิ่งเข้ามาคุกเข่าข้างหนึ่งต่อหน้าราชาฉลามสารภาพความผิดของเขา ขณะที่ไห่อิงอู่ ก็วิ่งเข้ามาคุกเข่าแสดงความเคารพเช่นกัน
“ทุกคนลุกขึ้น” ราชาฉลามไม่ได้มองขุนพลทูนาและขุนพลปลาหัวโต แม้กระทั่งขุนพลปลิงทีถูกเผาไหม้อย่างเจ็บปวดอยู่บนปลายทวน
เขามองดูเย่ว์หยาง
ตามความคิดเห็นของขุนพลทูน่าและขุนพลปลาหัวโต ไม่เพียงแต่ราชาฉลามเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับแปดเท่านั้น แม่ทัพใหญ่แปดทะเลก็ยังมีพลังเหนือกว่าบุรุษหน้ากากนี้ นั่นเป็นเพราะแม่ทัพทะเลเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับห้า หรืออาจจะระดับหก การจะเอาชนะบุรุษหน้ากากผู้นี้คนเดียว ก็มีพลังพอเหลือเฟือ
ไม่มีผู้ใดทราบว่าแม้แต่ราชาฉลามก็ไม่โกรธ
เขากลับถ่อมเนื้อถ่อมตัวแทน
ราชาฉลามประสานมือคารวะเย่ว์หยางกล่าวทักทายเขาด้วยไมตรี “ยินดีต้อนรับสู่เกาะอัคคี แม้ว่าข้าจะไม่ทราบชัดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ข้าเชื่อว่าทุกอย่างเป็นความเข้าใจผิดแน่ พวกเขาคงเข้าใจผิดแน่นอน”
คำพูดเหล่านี้เกือบทำให้ขุนพลทูน่าและขุนพลปลาหัวโตแทบสำลักน้ำลายตาย
พวกเขาคิดว่าราชาฉลามคงใช้นิ้วบดขยี้เจ้าบุรุษหน้ากากจนตาย เหมือนกับบี้มดตัวหนึ่ง ไม่มีใครคาดว่าว่าเขาจะมีท่าทีเช่นนั้น
การใช้คำพูดเหล่านั้น จะทำให้ราชาฉลามผู้มีอารมณ์ร้ายเสื่อมเสียชื่อเสียงไปทั้งหอทงเทียนหรือไม่? นี่เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริงๆ …. นี่เขาเป็นจ้าวฉลามตัวปลอมหรือเปล่า
ตรงกันข้ามกับไห่อิงอู่ที่กำลังหลั่งเหงื่อโทรมเพราะคำพูดเหล่านี้
คนที่แม้แต่ราชาฉลามยังต้องแสดงมารยาทเป็นอย่างดีด้วย บุรุษหน้ากากผู้นี้จะรับมือง่ายๆ ได้อย่างไร?
เมื่อทบทวนคำพูดและการกระทำของเขาอีกครั้ง ไห่อิงอู่คงได้แต่เรียกตัวเองว่าคนโง่เท่านั้น ถ้าบุรุษหน้ากากผู้นี้ไม่ใช่นักสู้ปราณก่อกำเนิดชั้นสูง เขาจะมีนิสัยหยิ่งลำพองขนาดนั้นได้ยังไง? ถ้าเขาหยิ่งลำพองโดยไม่มีฝีมือ เขาจะเอาตัวรอดมาถึงบัดนี้ได้ยังไง? เขาน่าจะถูกสังหารตายไปนานแล้ว
“ท่านรู้จักข้าด้วยหรือ?” เย่ว์หยางรู้แน่นอนว่าราชาฉลามจำเขาได้ ขณะที่นักสู้ธรรมดาไม่สามารถมองผ่านการชุดของไตตัน แต่ข่าวคราวของเขาแพร่กระจายไปในหมู่นักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสูง ในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบดินแดนทะเลในหอทงเทียนชั้นที่เจ็ดของหอทงเทียน ถ้าเขาไม่ได้ยินข่าวคราวของพี่น้องไตตัน อย่างนั้นเขาไม่ควรถูกเรียกว่าราชาฉลาม แต่ควรถูกเรียกกว่า เจ้าหูหนวกมากกว่า ยิ่งกว่านั้น ราชาฉลามและฉงนี่แห่งป้อมสายฟ้าก็เป็นสหายที่ดีต่อกัน เขาจะไม่เคยได้ยินเรื่องที่เย่ว์หยางในนามของไตตันน้อยก่อขึ้นเอาไว้ได้ยังไง
เขาฆ่าเมิ่งเอ้อ, เนียนหู่, เยาถงและมารมังกรฟ้า
ไตตันน้อยฆ่านักสู้ปราณก่อกำเนิดมามากแล้ว ถ้าราชาฉลามไม่รู้เรื่องของเขา แล้วเขากำลังทำอะไรอยู่?
แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยแน่ใจ แต่เมื่องเขาเห็นความสงบความเฉื่อยชาไม่อนาทรของเย่ว์หยาง ทั้งที่ศัตรูฝีมือดีมาถึง ราชาฉลามก็รู้ว่าคนแบบไหนที่มาถึงแล้ว
อาจกล่าวได้ว่าทั่วทั้งหอทงเทียน ไม่มีนักสู้ปราณก่อกำเนิดคนใดที่สร้างความหนักใจได้มากไปกว่านักสู้คนที่อยู่ข้างหน้านี้
แม้ว่าเขายังอายุเยาว์ แต่ความสามารถของเขานั้นเลิศล้ำสุดยอด
แม้แต่ซุ่นเทียน, องค์ชายเงาดำที่มีระดับนักสู้สูงกว่าเขาก็ยังต้องผิดหวัง ราชันย์จ้าวปีศาจบารุธก็ยังยอมให้เขาเข้ามาในวังปีศาจและทำอะไรเขาไม่ได้แม้ว่าเขาจะเสียหน้าก็ตาม ขณะที่ผลจากการปรากฏตัวของเขา ราชาเฮยอวี้ได้แต่ฝืนผลักดันแผนพิชิตทวีปมังกรทะยาน ราชาฉลามรู้เรื่องทั้งหมดเหล่านี้ เขารู้ว่าในหมู่เผ่าปีศาจตะวันออก ชื่อของเจ้าเด็กผู้นี้แพร่กระจายไปในวงกว้าง ทั้งราชาภูตแดนใต้ผู้ก่อกบฏและจักรพรรดิมังกรก็ต่อสู้เพื่อให้บุรุษผู้นี้พอใจ แม้ว่าคนผู้นี้จะสังหารแม่ทัพมังกรปีศาจเก้าหัวบริวารของเขาก็ตาม
เจ้าผู้เยาว์ที่เป็นเจ้าของเพลิงอมฤตและวงจักรล้างโลก อัจฉริยะที่ไม่ธรรมดา และกลายเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดเองเมื่ออายุเพียงยี่สิบปี
คนผู้นี้ ไร้เทียมทานมาตั้งแต่เกิดแล้ว
คนที่ดูถูกเขา ไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ตาม ล้วนล้มลงแทบเท้าของเขา และกลายเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้ว…
“ไตตันน้อยมีชื่อเสียงโด่งดัง ฉลามเฒ่าจะไม่รู้จักว่าท่านเป็นใครได้ยังไง ท่านเดินทางมาถึงเกาะอัคคีครั้งนี้ ข้าฉลามเฒ่าเสียใจที่ไม่ได้ไปต้อนรับท่านในทันที เพราะข้ากำลังวุ่นอยู่กับการต้อนรับจักรพรรดิของเรา ถ้าไม่อย่างนั้น ข้าคงไม่กล้าทำเมินเฉยเช่นนี้ ท่านไตตันน้อย ขอเชิญมายังตำหนักจักรพรรดิห้าดาวเพื่อพักผ่อนและดื่มเครื่องดื่มสักหน่อยเถิด เมื่อองค์จักรพรรดิมาถึง ฉลามเฒ่าผู้นี้จะพาท่านไปพบเขา ข้าเชื่อว่าองค์จักรพรรดิคงยินดีที่ได้ทราบข่าวว่าท่านเดินทางมาถึง เขามีพรสวรรค์เรื่องสมบัติ ฮ่าฮ่า มาเถอะบ่าวทาส มานำท่านไตตันน้อยไปยังตำหนักจักรพรรดิห้าดาวและต้อนรับเขาด้วยมารยาทอย่างดีที่สุดเถอะ” คำพูดของราชาฉลามทำให้ทุกคนต้องปวดหัว
ความจริงพวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อของไตตันน้อยมาก่อน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นท่าทางของราชาฉลาม ไตตันน้อยผู้นี้นับเป็นอาคันตุกะระดับสูงที่ไม่เคยพบมาก่อน แม้แต่ราชาฉงนี่, ราชาภูตใต้, ราชาภูตเหนือมาเอง พวกเขาก็ยังไม่ได้รับการปรนนิบัติด้วยมารยาทสูงสุดอย่างนี้
“ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ ข้าเกรงว่าจะลำบากเสียเปล่าๆ ข้าแค่ต้องการที่นั่งพักก็พอแล้ว” เย่ว์หยางแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องข่าวอุทกแม่พระธรณีหมื่นปี และถามอย่างเปิดเผยว่า “ผู้อาวุโสราชาฉลาม ข้าไม่เคยเสแสร้งว่ามีแรงจูงใจอย่างอื่น ตอนนี้ข้าได้ยินข่าวมาว่ามีสมบัติประหลาดบนเกาะอัคคี เรื่องนี้จริงหรือไม่? ท่านจะบอกว่าไม่มีใช่ไหม, ข้าได้รับข้อมูลลับสุดยอดมาว่า สมบัตินั้นอย่างต่ำมีระดับสูงกว่าสมบัติศักดิ์สิทธิ์ชั้นแปด อย่าพยายามใช้สมบัติทองบางอย่างมาตบตาข้าดีกว่า มีแต่เด็กเท่านั้นที่เชื่อเรื่องตลกเหล่านี้”
“ฮ่าฮ่า น้องไตตันน้อยเป็นคนตรงไปตรงมาจริงๆ อย่างที่เล่าลือ มีสมบัติอยู่จริงๆ แต่…” ราชาฉลามลำบากใจอย่างยิ่ง เขามั่นใจเต็มร้อยว่าตาแก่อันซีคงปล่อยกระจายข้อมูลลับสุดยอดเป็นแน่ ด้วยชื่อเสียงของเขาและการล่อลวงด้วยสมบัติศักดิ์สิทธิ์ชั้นแปด ไตตันน้อยจะไม่ถูกล่อลวงได้อย่างไร? ปัญหาก็คือพวกเขาไม่อาจปล่อยให้เขาได้อุทกแม่พระธรณีหมื่นปี จักรพรรดิของเขาต้องการบรรลุขอบเขตใหม่กลายเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสูง ความจริงเมื่อราชาฉลามได้เห็นบุรุษหนุ่มในตอนแรก เขาก็รู้แล้วว่า เขามาเพื่ออุทกแม่พระธรณี สิ่งที่ราชาฉลามพยายามกระทำก็คือคิดแผนการใช้ประโยชน์จากเขา
ถ้าพวกเขาใช้งานเขาได้ดี คงเป็นเรื่องยอดเยี่ยมถ้าเขาสามารถช่วยจักรพรรดิสมุทรฆ่าอันซี
อย่างไรก็ตาม ในทางตรงกันข้าม ถ้าพวกเขาไม่ใช้เขาให้ดี พวกเขาจะนำพาความยุ่งยากมาให้ตัวเอง
ราชาฉลามรู้สึกลำบากใจอยู่ชั่วครู่ แล้วยิ้มขมขื่นพูดว่า “ท่านไตตันน้อย, ข้ามั่นใจว่าท่านรู้สึกว่าฉลามเฒ่าผู้นี้ไม่มีน้ำหนักเพียงพอ ท่านควรจะบอกเรื่องทั้งหลายเหล่านี้กับจักรพรรดิของเรา ข้าเชื่อว่า แม้ว่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับสมบัติอยู่บ้าง จักรพรรดิเราก็คงเห็นแก่ท่าน มาเถอะ มา มาดื่มอะไรๆ ที่ตำหนักจักรพรรดิก่อน ข้า ฉลามเฒ่าจะขอตัวไปต้อนรับจักรพรรดิก่อน หลังจากนั้นเราค่อยปรึกษากันต่อ ความจริงเราทั้งหมดนี้สามารถร่วมมือกันได้ตั้งแต่แรกแล้ว ยังกังวลด้วยหรือ ว่าสมบัติจะตกเป็นของใคร”
ในฐานะที่มีส่วนในการบริหารจัดการในระดับสูงมานาน วิธีจัดการคนของราชาฉลามนับว่ามีฝีมือแท้จริง
เขาสามารถโกหกใครก็ได้ แต่ไม่สามารถโกหกเย่ว์หยางเรื่องความมีอยู่ของสมบัติได้
และเขาจะพูดว่าพวกเขาไม่ให้สมบัติเขาได้หรือ แม้ว่าคนผู้นี้จะทำท่าทางเหมือนกับว่าจะยินยอม แต่ก็อาจใช้กำลังชิงเอาก็ได้ คนผู้นี้มีพื้นฐานดื้อเหมือนวัวถึก เขาไม่กลัวการคุกคามขู่เข็ญแม้แต่น้อย กล่าวได้ว่าไม่ว่าจะฐานะสูงส่งหรือมีฝีมือดียังไงก็เปล่าประโยชน์ เขาไม่เคยเหลียวมองเรื่องอย่างนี้เลย
สิ่งที่ดีที่สุดที่ควรทำในตอนนี้ก็คือถ่วงเวลาเอาไว้
อย่างไรก็ตาม คนผู้นี้ไม่รู้เวลาเกิดที่แน่นอนของอุทกแม่พระธรณีหมื่นปี เขาอาจถูกทิ้งไว้ที่นี่ ที่ตำหนักจักรพรรดิรอคอยพร้อมกับสตรีบางส่วนฆ่าเวลาไปพลางๆ ก็ได้ ทันทีที่จักรพรรดิสมุทรได้รับอุทกแม่พระธรณีแล้วและกลายเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งขึ้น ต่อให้คนผู้นี้ต้องการโกรธ แต่เขาก็ไม่สามารถทำอะไรได้ บางทีพวกเขาอาจร่วมเป็นพันธมิตรกับราชาเฮยอวี้เอาชนะคนผู้นี้พร้อมกันก็ได้… แน่นอนว่า ถ้าพวกเขาสามารถหลีกเลี่ยงการยั่วโทสะคนผู้นี้ได้ อย่าให้เรื่องนี้เกิดขึ้นยังจะดีกว่า นั่นเป็นเพราะถ้าการโจมตีทำร้ายของพวกเขาล้มเหลว และเจ้าผู้นี้หลบหนีไปได้ มีแนวโน้มว่าจื้อจุนอาจจะมาเองก็ได้ เรื่องจื้อจุน ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นกันได้
“มาเถอะ ปรนนิบัติท่านไตตันน้อยและบริการอย่างสุดความสามารถของเจ้า” ราชาฉลามจำอะไรบางอย่างได้ทันทีและส่งคำเตือนให้ไห่อิงอู่ “ถ้าเข้าจำได้ไม่ผิด เจ้ามีเลือดของเชื้อพระวงศ์อยู่ด้วยใช่ไหม? ข้าจำไม่ได้ว่าเจ้าเป็นลูกสาวของทาสหมายเลข 168 หรือ 188… อย่างไรก็ตาม ถ้าเจ้าปรนนิบัติท่านไตตันน้อยให้ดี ข้าจะขอให้จักรพรรดิยกสถานะของเจ้าเป็นเจ้าหญิงและให้เจ้าแต่งงานกับไตตันผูกสัมพันธ์ผ่านการแต่งงาน จงทำให้ดีที่สุด”
“เจ้าค่ะ” หัวใจไห่อิงอู่เต้นแรง สถานะเจ้าหญิงน่ะหรือ? นั่นคือสิ่งที่นางมักฝันถึงมิใช่หรือ? และให้แต่งงานกับเขา?
เขาเรียกว่าไตตันน้อย… แม้ว่าเขาจะมีชื่อเสียงไม่มากนัก แต่ท่าทีเฉื่อยชาที่เขามีต่อราชาฉลามทำให้น่าสงสัยว่า เขาไม่ได้มีนิสัยเรียบง่ายอย่างที่เห็น เป็นไปได้ไหมว่าเขาคือสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิด?
ในอนาคต นางสามารถแต่งงานกับสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดได้ด้วยหรือ?
ขณะที่คิดเช่นนั้น หน้าของไห่อิงอู่แดงด้วยความอาย และนางไม่สามารถเงยหน้าได้อยู่เป็นเวลานาน
ราชาฉลามแค่คุยกับเย่ว์หยางตามมารยาทมากกว่าและใช้ข้ออ้างที่จะต้องไปต้อนรับจักรพรรดิสมุทรเดินจากมาและเข้าไปในวงเวทเทเลพอร์ต ไห่อิงอู่ถูกทิ้งไว้และให้ใช้ความงามรับมือเย่ว์หยาง แผนการของเขาก็คือถ่วงเวลาให้ยาวนานออกไปสัก 2-3 ชั่วโมง เขาก็จะประสบผลสำเร็จ และเป็นเรื่องจำเป็นต้องไปรายงานจักรพรรดิสมุทรทันที เนื่องจากจักรพรรดิสมุทรอาจมีแผนการดีๆ ก็ได้
เย่ว์หยางคล้อยตามไปกับแผนการอย่างเป็นธรรมชาติ ร่วมประสานกับผู้เฒ่าอันซี
อันซีเข้าไปในหุบเขาผลึกนานแล้ว
สำหรับเย่ว์หยางแล้ว ถ้าจักรพรรดิสมุทรไม่พาเขาไปที่หุบเขาแก้วผลึก เขาจะฆ่าคนที่ขัดขวางเขาเสีย แต่ถ้าจักรพรรดิสมุทร พาเขาไปที่นั่น อย่างนั้นเขาก็จะร่วมมือกับอันซีเอาชนะจักรพรรดิสมุทร
ราชาฉลามวางแผนหลอกล่อเขาได้ ทำไมเขาจะวางแผนหลอกล่อราชาฉลามบ้างไม่ได้เล่า?
นี่ก็แค่ร่วมกันหลอกลวง ต่างฝ่ายต่างก็มีแผน
มาดูกันซิว่าใครจะเป็นคนหัวเราะคนสุดท้าย
“ทะ..ท่านไตตันน้อย ชะ..เชิญทางนี้” ไห่อิงอู่ประหม่ามากจนนางเองพูดอย่างยากลำบาก ขณะที่ขุนพลทูน่าและขุนพลปลาหัวโต พวกเขาแทบเป็นลมด้วยความกลัวและนั่งคุกเข่าไม่กล้าขยับเลยแม้แต่น้อย ขุนพลปลิงผู้กล้ำกลืนความเจ็บปวดและแกล้งสลบโงหัวขึ้นเล็กน้อย รอให้เย่ว์หยางไปไกล จากนั้นจึงมองเขาด้วยแววตาชั่วร้าย
ตำหนักจักรพรรดิห้าดาว เย่ว์หยางประเมินทุกอย่าง เขาจุ๊ปากถอนหายใจ เป็นเรื่องยากที่จะบอกว่า เขาเหยียดหยามสถานที่ๆ ฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยเกินไป หรือว่าเขาเพลิดเพลินกับการปรนนิบัติราวกับพระราชาอย่างนั้น
ภารกิจของไห่อิงอู่ก็คือปรนนิบัติว่าที่สามีของนางผู้นี้
นางกำลังจะใช้ทุกวิธีการที่มีอยู่ในโลก
ราชาฉลามได้ลอบสั่งไว้ว่าไม่ว่ายังไงก็ตาม พวกนางจะต้องทำให้ไตตันยินดี จะดีที่สุดถ้าเขาสามารถหาความสุขตามใจตนเองจนลืมเรื่องอื่น
ตอนแรก ไห่อิงอู่ยังคงคิดว่านี่คือโอกาส
สิ่งที่ทำให้นางรู้สึกผิดหวังก็คือ ไตตันน้อยไม่สนใจจะเล่นอะไรเลย เขาตรวจดูรอบๆ ถึงครึ่งชั่วโมง และได้เห็นสาวงามมากมายนับไม่ถ้วน ปัญหาก็คือเขาปฏิบัติต่อหญิงงามเหล่านี้เหมือนกับว่าพวกนางเป็นปลาซาร์ดีนในทะเลและไม่ได้สนใจพวกนางเลย เมื่อพวกนางพบห้องๆ หนึ่ง ไห่อิงอู่ตั้งใจจะเข้าไปปรนนิบัติเขาอย่างดีที่สุด นางสามารถยั่วยวนเขาด้วยความงามของสตรีงามได้ แต่นางคาดไม่ถึงเลยว่าเขาเชิญนางออกไปอย่างสุภาพและเย็นชา และปิดประตูฝึกฝีมือตามลำพัง
สามชั่วโมงต่อมา
ในอีกหนึ่งชั่วโมง อุทกแม่พระธรณีหมื่นปีจะถือกำเนิด
เย่ว์หยางผู้เก็บตัวอยู่ในห้องไม่ส่งเสียงอะไร ไม่มีสัญญาณใดว่าเขาเสร็จการฝึกฝน
“เขายังคงฝึกอยู่จริงๆ หรือ?” ราชาฉลามกังวลเล็กน้อย จริงๆ แล้วเป็นเรื่องลำบากที่ไตตันน้อยไม่สนใจสาวงาม โชคดีที่ ดูเหมือนว่าไตตันน้อยไม่รู้เวลาเกิดขึ้นของอุทกแม่พระธรณีที่แน่นอน ซึ่งเป็นเหตุให้เขาฝึกฝีมืออย่างใจเย็น
*****************