ตอนที่ 469 คู่แค้นชำระแค้น
เมื่อเข้าไปในสุสานทะเล แม้จะเข้าไปในหุบเหวแก้วผลึก จักรพรรดิสมุทรก็ยังไม่เผชิญอะไรที่แปลกประหลาด
ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น
สถานการณ์ดังกล่าว ทำให้เขารู้สึกแปลกประหลาดคลุมเครือ
ความจริง เขาเตรียมพร้อมจะต่อสู้ เขาเป็นเหมือนนักมวยที่ได้สาบานว่าจะต้องสังหารคู่ต่อสู้ในเวทีต่อสู้ และได้ฝึกฝนสภาพร่างกายให้พร้อมสุดยอด เลือดของเขากำลังเดือด กำลังใจของเขาก็ดีและพละกำลังที่สะสมไว้ก็เป็นเหมือนภูเขาไฟรอเวลาระเบิด สถานการณ์เช่นนี้เป็นเหมือนก่อนการแข่งขัน ฝ่ายตรงข้ามยอมรับความพ่ายแพ้ทันทีโดยไม่ยอมสู้และปล่อยให้อยู่บนสนามมวยตามลำพังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีทางระบายออก
นั่นคือความรู้สึกที่แน่นอนของจักรพรรดิสมุทร ความรู้สึกของการไม่มีที่ให้แสดงความสามารถในเมื่อเขามีพลังเต็มเปี่ยม
“ออกมา, อันซี ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ที่นี่” แม้ว่าจักรพรรดิสมุทรจะมองไม่เห็นอันซี แต่เขารู้ว่าคู่แค้นเก่าคนนี้ ในรอบหลายร้อยปีมานี้ เขาจะไม่ยอมพลาดโอกาสเช่นนี้แน่
นอกจากนี้เขาเชื่อว่าอันซีจะไม่ปรากฏตัวได้ง่ายดายนัก
เวลาโจมตีที่ดีที่สุดก็คือทันทีที่เมื่ออุทกแม่พระธรณีถือกำเนิด เมื่อเขาดูดซับอุทกแม่พระธรณีแล้ว อันซีจะโจมตีอย่างสุดกำลัง
แม้ว่าจักรพรรดิสมุทรจะรู้ผลเช่นนี้แล้ว เขาก็ต้องเสี่ยง ถ้าเขาไม่สามารถเอาชนะอันซีได้ เขาก็ควรลืมเรื่องเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสูงๆ ขึ้นไป วันนี้ ไม่ว่ายังไง เขาต้องได้อุทกแม่พระธรณีหมื่นปี นี่คือโอกาสสุดท้ายที่ดีที่สุดของเขา ศักยภาพที่จะยกระดับได้ของเขาได้ถูกนำไปใช้หมดแล้ว ถ้าเขาต้องการจะบรรลุขอบเขตใหม่ เขาต้องใช้ตัวช่วยภายนอก ในโลกนี้มีสมบัติอยู่มากมาย แต่มีสมบัติอยู่สามอย่างที่สามารถทำให้คนยกระดับเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดชั้นสูงได้
อันดับแรก คือเลือดเทพในตำนาน
อันดับสองคือวิญญาณนักรบในตำนาน
อันดับสาม อุทกแม่พระธรณีหมื่นปีที่กำลังจะเกิดอยู่เบื้องหน้าของเขา
สำหรับเลือดเทพเจ้าและวิญญาณนักรบนั้น ไม่สามารถหาได้พบในหอทงเทียน ของเหล่านั้นสามารถหาได้พบในจักรวาลนี้และนั่นอยู่ในแดนล่มสลายแห่งทวยเทพที่ทวีปมังกรทะยาน
อย่างไรก็ตาม การเข้าแดนล่มสลายแห่งทวยเทพ อาจกล่าวได้ว่าเป็นไปไม่ได้อย่างมาก ตั้งแต่สมัยโบราณมาแล้ว ภายในดินแดนล่มสลายแห่งทวยเทพเป็นแดนลึกลับในบรรดาที่ลึกลับทั้งหลาย แม้ทุกคนจะรู้ว่ามีสมบัติอยู่ข้างใน แต่ไม่มีผู้ใดสามารถเข้าไปได้ และไม่มีผู้ใดสามารถหยิบฉวยสมบัติเหล่านั้นมาได้
เมื่อเปรียบเทียบแล้ว อุทกแม่พระธรณีหมื่นปีเป็นสมบัติในโลกที่หมื่นปีเกิดครั้งเดียว ดูแล้วน่าจะรับได้ง่ายที่สุด
จักรพรรดิสมุทรรู้สึกว่าโชคดีมาก เพราะการรอคอยการกำเนิดของอุทกแม่พระธรณีอย่างยาวนานจะถึงจุดสิ้นสุดเสียที
เป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว การอดทนรออย่างขมขื่นของเขาจะได้รับการตอบแทนในที่สุด
ปัญหาเพียงประการเดียวก็คือ เขายังต้องจัดการรับมือกับสหายเก่า
สหายสนิทของเขาในตอนนั้น อันซี
ชรายชราชุดปอค่อยๆ ปรากฏตัวออกมาจากเสาแก้วผลึก เมื่อชายชราชุดปอปรากฏตัว องค์ชายองค์หญิงที่ติดตามจักรพรรดิตกใจจนหน้าซีดด้วยความกลัว กลับกลายเป็นว่าสุดยอดนักฆ่าอันซี ผู้ที่ตามตำนานกล่าวว่าฆ่าคนไปล้านคน กลับอยู่ใกล้พวกเขานัก แม้ว่าเขาจะอยู่ห่างน้อยกว่ายี่สิบเมตรก็ตาม พวกเขาไม่อาจตรวพบเขาได้เลย ถ้าอันซีโจมตีใส่เดี๋ยวนี้ พวกเขาจะทำอะไรได้.. เมื่อพวกเขาคิดเช่นนี้ เหงื่อกาฬก็ไหลออกมาขณะที่พวกเขาพากันตัวสั่น แม้ว่าองค์ชายไห่หลงและองค์หญิงไห่กุ้ยจะเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับเจ็ด แต่พวกเขาก็อาจถูกฆ่าได้ในพริบตาเมื่อเผชิญหน้ากับสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับสิบ อันซี
“จักรพรรดิสมุทร เจ้ามาถึงที่นี่เร็วดีนี่ ยังมีเวลาอีกสี่สิบห้านาทีกว่าอุทกแม่พระธรณีจะถือกำเนิด” น้ำเสียงของชายชราชุดปอเบามาก แต่พลังในร่างของเขาเหมือนกับมังกรเร้น ลักษณะภายนอกของเขาเหมือนกับชายชราอ่อนแอที่แหย่เท้าข้างหนึ่งลงไปในหลุมฝังศพแล้ว อย่างไรก็ตาม จักรพรรดิสมุทรไม่กล้าประมาทเขา
“ข้าจะไม่รีบได้ยังไง ในเมื่อจะได้พบกับสหายเก่า?” จักรพรรดิสมุทรหัวเราะลั่น “หลังจากเฒ่ามังกรไร้เขาจากไป เจ้าก็เป็นสหายเก่าคนสุดท้ายแล้ว”
“ถ้าเพียงแต่เจ้าจำได้ว่าเราเคยเป็นสหายเก่ากัน ในเวลานั้นทำไมเจ้าถึงเลือกที่จะหักหลังพวกเรา” ชายชราชุดปอถอนหายใจเบาๆ
“ก็มันไม่มีทางเลือกอื่น, ถ้าข้าไม่หักหลังพวกเจ้า ข้าก็คงถูกฆ่า.. เจ้าเองก็รู้ว่าข้ามีพรสวรรค์มากเพียงไหน ข้าไม่ยินดีจะตายตั้งแต่อายุยังน้อยนัก แม้ว่าตอนนั้นข้ายังคงเป็นแค่นักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับหนึ่งก็ตาม ข้าไม่มีทางเลือก นอกจากยอมพวกเขา ถ้าเป็นเจ้า เจ้าก็ต้องยอมอย่างแน่นอนในสถานการณ์ที่กดดันอย่างนั้น พวกเขาจับข้าและทรมานข้าไม่หยุด พวกมันใช้ทุกวิธีที่คิดได้ทรมานข้า ถ้าพวกมันฆ่าข้าทันทีและไม่ให้โอกาสข้ายอมจำนนและหักหลัง ข้าคงไม่มีทางหักหลังอย่างนั้นแน่ สิ่งที่ข้าไม่สามารถทนได้จริงๆ ก็คือการทรมานไม่หยุดหย่อน ในที่สุดข้าก็รอดชีวิต และได้ลอบฝึกฝนตนเองอย่างหนักจนสามารถยกระดับได้และฆ่าพวกมันได้ทั้งหมด ล้างแค้นให้ทุกคน อันซี ไม่สิ น้องข้า นั่นไม่ควรคิดว่าเป็นการทรยศหักหลัง นั่นเป็นความทุกข์ทนอย่างเงียบๆ แม้แต่หัวหน้ากองกำลังในตอนนั้นก็ยังไม่ตำหนิข้าเลย เมื่อข้ากอดเขาในอ้อมแขนและกล่าวคำสำนึกผิด เมื่อเขาใกล้จะตายเต็มที ได้ใช้มือที่เต็มไปด้วยเลือดลูบศีรษะข้า เจ้าไม่รู้ แต่เขาได้ให้อภัยข้าแล้ว” จักรพรรดิสมุทรค่อยๆ คิดถึงเหตุการณ์ของปีนั้น เสียงของเขาสงบไม่ปั่นป่วน
“หัวหน้ากองกำลังจิตใจอ่อนโยนมาตั้งแต่เกิด เขายอมตำหนิตนเองว่าไม่ดีพอ แต่ไม่ยอมตำหนิสหายของเขา บางทีหัวหน้ากลุ่มได้ยกโทษให้เจ้า แต่ว่าจักรพรรดิสมุทรก้วนหลาน แค่รู้ว่าข้าไม่ยกโทษให้เจ้า ไม่ว่าจะเป็นภาษาไพเราะที่เจ้าพูดเพื่อปกป้องอดีตของเจ้ายังไงก็ตาม ก็ไม่อาจบรรเทาความเกลียดในหัวใจข้าได้เลย ปีนั้น พี่น้องหญิงสิบสองคนตายอยู่ต่อหน้าข้า ถูกศัตรูฆ่าอย่างหยามหยันอัปยศ ก่อนที่พวกนางตาย พวกนางร้องด้วยความเจ็บปวด และฉากนองเลือดที่ข้าได้เห็น พวกเขาต้องเห็นประจักษ์ว่าลูกๆ ของพวกเขาถูกศัตรูเลือกกินทั้งเป็น ความสิ้นหวังมีอยู่เต็มดวงตาของพวกเขา” ชายชราชุดปอนั่งอยู่บนแก้วผลึก ประกายความโกรธแค้นวาบผ่านนัยน์สีเทาของเขา แต่ก็วูบหายไปอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม แม้จะน้อยกว่าเสี้ยววินาทีที่เขาปล่อยรังสีฆ่าฟันออกมา แต่ก็เพียงพอทำให้องค์ชายไห่หลงและองค์หญิงไห่กุ้ยต้องถอยหลังด้วยความตกใจถึงสามก้าว
แม้แต่ราชาฉลามผู้ภักดีก็ยังหนาวสะท้านไปทั้งร่าง
อันซี
รังสีมรณะของสุดยอดนักฆ่าช่างน่ากลัวจริงๆ
ถ้าเป็นนักรบธรรมดา มีทางเป็นไปได้ว่าเขาอาจกลัวตายเพราะถูกรังสีสังหารระเบิดร่างไปอย่างอำมหิตก็ได้ แม้แต่ราชาฉลามที่เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับแปดก็ยังถูกความสะดุ้งกลัวครอบงำ
“ยิ่งใหญ่ขนาดนี้เชียวหรือ? สหายเก่า หนึ่งปีผ่านไป การฝึกฝนของเจ้าก้าวหน้าขึ้นอีกแล้ว” จักรพรรดิสมุทรที่อยู่ในชุดคลุมไม่ได้รับผลกระทบ และยังหัวเราะได้อยู่
“เจ้าก็เหมือนกัน เจ้าก็เช่นกัน” ชายชราชุดปอค่อยๆ ยืนขึ้นและเตรียมตัวโจมตี
“พวกเจ้าสี่คนควรออกไปซะ, องค์ชาย! ที่ทะเลด้านนอก พวกเจ้าทุกคนต้องฟังราชาฉลาม ถ้าใครก็ตามเข้ามาในสุสานทะเล ให้ฆ่าพวกมัน ถ้าพวกมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ก่อความยุ่งยาก พวกเจ้าทุกคนต้องต้านทานไว้ให้เต็มที่สี่สิบห้านาที” จักรพรรดิสมุทรโบกมือ เขาตัดสินใจเผชิญหน้ากับอันซี ชายชราชุดปอ เมื่อเขายกมือ ราชาฉลาม, องค์ชายไห่หลงและองค์หญิงไห่กุ้ยล้วนถอยออกไปด้วยความเคารพ
“จักรพรรดิสมุทร ถ้าข้าฆ่าเจ้าได้ ข้าจะปล่อยให้โอรสและธิดาของเจ้ามีชีวิตต่อไป บอกตามตรงเลย ไม่ว่าจะเป็นโอรสหรือธิดาเจ้าก็ตาม ไม่ได้เรื่องสักคน” ชายชราชุดปอประเมินองค์ชายไห่หลงและองค์หญิงไห่กุ้ย โอรสและธิดาของจักรพรรดิสมุทรด้วยความรังเกียจ
“ยังคงมีพวกที่ไม่เลวอยู่เหมือนกัน แต่พวกเขาตายเสียตั้งแต่ยังเล็ก นั่นเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่สุดของคนเป็นจักรพรรดิจริงๆ” จักรพรรดิสมุทรยิ้มขมขื่น ดูเหมือนว่าเขาก็รู้อะไรหลายอย่าง
“เรามาเริ่มกันเถอะ คืนนี้ไม่เจ้าก็ข้าที่จะได้ออกไป เราควรจบเรื่องทั้งหลายกันที่นี่” รัศมีของชายชราชุดปอระเบิดออกมาทันทีเหมือนกับภูเขาไฟระเบิด ผู้พิทักษ์โบราณที่เดิมรายล้อมอยู่ด้านนอกถอยออกมาทันที แม้ว่าพวกมันจะไม่มีปัญญา แต่พวกมันมีสัญชาตญาณที่ยอดเยี่ยม และรู้สึกถึงอันตรายได้ไวมาก
อีกด้านหนึ่ง ชายชราชุดปอ อันซีเรียกจ้าวมังกรดำนรก อสูรเพชรระดับสิบออกมา
อีกฝ่ายหนึ่ง จักรพรรดิสมุทรก้วนหลานก็เรียกมังกรทองสามหัว อสูรเพชรระดับสิบออกมา
สงครามชี้ขาดเริ่มขึ้นแล้ว
ที่สุสานทะเล สี่ราชันย์นำโดยราชาฉลามและโดยการช่วยเหลือของแปดแม่ทัพใหญ่ยืนเฝ้าอยู่ด้านนอกน้ำวนใหญ่ทั้งห้า
ขณะเดียวกันมีองค์ชายและองค์หญิงนับสิบ ที่นำโดยองค์ชายไห่หลงและองค์หญิงไห่กุ้ยตั้งค่ายใหญ่สองค่าย ที่ด้านนอกมีขุนพลทะเลร้อยแปดและกองทัพของจักรพรรดิสมุทรมากกว่าสามพันคอยคุ้มกันพวกเขา
ขุนพลทะเลและกองทหารของจักรพรรดิสมุทรเกือบทั้งหมดมาจากหอทงเทียนชั้นที่เก้า แต่ละคนเป็นนักสู้ชั้นเตรียมปราณก่อกำเนิดเป็นอย่างน้อย และขุนพลทะเลบางตนก็เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดไปแล้ว เพียงแต่พวกเขาไม่มีคัมภีร์อัญเชิญเท่านั้น ที่หอทงเทียนระดับที่สูงกว่า มีเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งอยู่มากมาย พวกเขาเกิดมาก็ได้เปรียบคนอื่นอย่างมากมาย เพียงแต่พวกเขามีข้อบกพร่องตามธรรมชาติอย่างหนึ่ง คือเกือบทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะเข้าถึงการทำสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญ
ประการแรกคือพวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลังตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตามเมื่อเผ่าพันธุ์เหล่านั้นเช่น มนุษย์, เอลฟ์ฝึกฝนในระดับสูงกันหมด พวกเขาจะล้าหลัง
นี่คือความจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้มีชีวิตในหอทงเทียนระดับสูง
“ข้าพลาดอะไรไปหรือเปล่า” เมื่อเย่ว์หยางปรากฏตัว สี่ราชาถึงกับหน้าถอดสี ไม่เว้นแม้แต่ราชาฉลาม คนผู้นี้ก็ด้วยหรือนี่
“ไตตันน้อย..ถ้าท่านยินดีจะร่วมมือ จักรพรรดิสมุทรจะจ่ายเป็นของระดับศักดิ์สิทธิ์สองชิ้น” แม้ว่าราชาฉลามจะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้ เขาก็ต้องลองดู ถ้าเขาสามารถใช้สมบัติระดับศักดิ์สิทธิ์สองชิ้นเพื่อให้ฝ่ายตรงข้ามยกเลิกความตั้งใจ นั่นนับเป็นเรื่องที่ดี
“ราชาฉลาม, โปรดช่วยข้าส่งสาส์นให้จักรพรรดิสมุทรด้วย ข้าต้องการเข้าไปในหุบเขาแก้วผลึกเพื่อขอบคุณความปรารถนาดีของเขาเป็นการส่วนตัว ข้าหวังว่าเขายินดีจะพบข้า ยิ่งกว่านั้น เขาตั้งใจยกองค์หญิงคนหนึ่งให้แต่งงานกับข้าเชื่อมสัมพันธ์ไม่ใช่หรือ? ในฐานะว่าที่เขยขวัญ ข้าจะไม่มาขอบคุณว่าที่พ่อตาได้ยังไง? ถ้าข่าวเช่นนั้นแพร่สะพัดไป คนอื่นเขาจะว่าร้ายข้าเอาได้ หาว่าทางบ้านข้าอบรมสั่งสอนมาไม่ดี” นัยน์ตาเย่ว์หยางกำลังเยาะเย้ย เขาเพียงแต่มองดูสี่ราชันย์ โดยไม่สนใจแม่ทัพทะเลทั้งแปดและองค์ชายองค์หญิงอีกนับสิบ
“….” ราชาฉลามรู้สึกขมขื่นใจ วันนี้ไม่ใช่วันที่ดีเลย
“คุณชายสามตระกูลเย่ว์ แม้ว่าเจ้าจะสร้างชื่อมาด้วยตนเอง แต่เจ้าคิดจะมาวางท่าต่อหน้าข้าหรือ? งั้นเจ้าก็คิดผิดแล้ว” องค์ชายไห่หลงไม่อาจทนได้ที่เย่ว์หยางเมินเขา เขาก้าวออกมาและโต้ตอบอย่างเย็นชา “ถ้านัยน์ตาเจ้ายังใช้ได้อยู่ เจ้าสามารถนับจำนวนผู้แข็งแกร่งในเผ่าพันธุ์ทะเลเราดูได้ ใครก็สามารถจัดระเบียบในหอทงเทียนได้ ยิ่งกว่านั้น คุณชายสามตระกูลเย่ว์ ตอนนี้ราชาเฮยอวี้กำลังบุกบ้านเกิดเจ้า ทำไมเจ้าไม่คิดกลับไปป้องกันที่นั่น จะอยู่ที่นี่จะก่อความยุ่งยากกับเผ่าพันธุ์ทะเลของเราหรือ? ยิ่งเจ้าหยิ่งมากเท่าไหร่ ก็ประมาทมากขึ้นเท่านั้น จริงไหม?”
“นี่ใครกำลังพูดอยู่นี่? อย่างเจ้านี่ ยิ่งโตก็ยิ่งผิดรูปน่ารังเกียจ ทำให้คนเห็นแล้วสะอิดสะเอียนพาลจะอ้วก?” เย่ว์หยางโต้ตอบไม่ลดราวาศอก
“เจ้า….” องค์ชาย์ไห่หลงถึงกับมีสีหน้าบิดเบี้ยว
“ต่อให้เจ้าแต่งชุดยาวมังกร แต่ดูยังไงก็ไม่เหมือนรัชทายาทสักนิด ถ้าข้าเป็นเจ้า คงขายขี้หน้าจนเอาหัวโขกกำแพงตายไปแล้ว” ปากของเย่ว์หยางคมกว่ามีดและกรรไกรเสียอีก
“ชื่อของคุณชายสามตระกูลเย่ว์นั้น ข้าเคยได้ยินมาก่อน แต่ข้าไม่เคยคาดคิดเลยว่า เขาจะเป็นคนที่เลินเล่อมากกว่าที่ร่ำรือเป็นร้อยเท่า บางทีเจ้าคงไม่เคยได้ยินคำพูดเช่นนี้มาก่อน คนประมาทที่ไม่มีฝีมือ ก็คือคนที่ทั้งหยิ่งและโง่” องค์หญิงไห่กุ้ยหัวเราะเยาะ
“ยอดเยี่ยม คำพูดที่ยอดเยี่ยมนี้สมแล้วที่มีเจ้าเป็นตัวอย่าง” เย่ว์หยางปรบมือด้วยความภูมิใจ
*****************