ตอนที่ 478 พยายามต่อไป, สาวใช้ผู้น่ารัก
ป้อมสายฟ้า หอทงเทียน
เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้วที่เย่ว์หยางออกจากเกาะอัคคี แรกทีเดียวเขาต้องการกลับไปยังทวีปมังกรทะยานทันที แต่คาดไม่ถึงเลยว่ามนุษย์มัจฉากลายพันธุ์จะติดตามเขามาอย่างใกล้ชิด
ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเนื่องจากพวกเขาไม่ได้ออกมาหลายพันปีแล้ว แม้แต่ผู้อาวุโสอย่างมนุษย์ปลาหมึกและมนุษย์ปลาตีนก็ยังต้องปรับตัว พวกเขาทำได้แต่ติดตามเย่ว์หยาง เนื่องจากพวกเขาไม่มีที่ให้ไป จุนอู๋โหย่ว, ผู้เฒ่าเย่ว์ไห่และอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าคงจะรู้สึกว่าเศร้ากดดันหรือไม่ที่เขาพามนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ผู้อ่อนแอที่สุดเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับห้า แข็งแกร่งสุดเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับแปดไปด้วย? ยิ่งกว่านั้น ถ้าราชาเฮยอวี้และอาณาจักรสือจินรู้ว่าเย่ว์หยางพาผู้ช่วยที่แข็งแกร่งเช่นนั้นมาช่วยหลายคน พวกเขาคงชะงักความคิดไปบ้าง ด้วยเหตุนี้ เย่ว์หยางจึงล้มแผนที่จะพาพวกเขาไปด้วย
ดังนั้นเย่ว์หยางจึงทำได้เพียงพาพวกเขาไปป้อมสายฟ้า
เป็นไปไม่ได้แน่นอนที่จะพามนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ไปด้วยอย่างเปิดเผย ดังนั้นเย่ว์หยางจึงลักลอบพามนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ไม่กี่คนนี้เข้าไปยังป้อมสายฟ้า
“มีทะเลสาบและที่อยู่อาศัยอยู่รอบๆ นี้ ถ้าพวกท่านต้องการว่ายน้ำหรืออาบแดดก็เชิญตามสะดวก พวกท่านสามารถสั่งพวกคนใช้ที่นี่ให้ปรุงอาหารให้พวกท่านก็ได้ ไม่ต้องเกรงใจ” เย่ว์หยางรู้สึกว่ามีผู้อาวุโสเหล่านี้แล้วทำหน้าที่เป็นผู้คุ้มครองให้ฟรีก็ไม่ถึงกับแย่
“นี่น่ะเหรอทะเลสาบ มันอ่างอาบน้ำชัดๆ” มนุษย์ปลาตีนบ่นพึมพำขณะที่เขาคิดว่ามนุษย์สร้างทะเลสาบได้เล็กมาก
“ผู้อาวุโส, ก็สุสานทะเลมันขนาดมหึมา…” เย่ว์หยางเตือนเขาว่าพวกเขาต้องปรับตัวเข้ากับสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยให้ได้ นับว่าเลิศหรูแล้วที่มีน้ำให้กับพวกเขา
พอรู้สึกว่าน้ำเสียงของเย่ว์หยางผิดปกติ มนุษย์ปลาตีนรีบยิ้มทันที “ไม่เป็นไร, ข้าแค่พูดว่าอ่างน้ำนี้มันสวยงามน่ารัก ดูแล้วน่าสนุกดีออก ข้าตัดสินใจอยู่ที่นี่แหละ โอว ใช่แล้ว เมื่อไหร่เจ้าจะช่วยปลดผนึกในร่างของเรา มันสร้างความลำบากให้เราในตอนนี้ ที่ไม่ใช่ทั้งคน ไม่ใช่ทั้งปลา ถ้าข้าสามารถกลับเป็นร่างมนุษย์ได้ ข้าก็สามารถได้คัมภีร์อัญเชิญของข้ากลับคืนมาเช่นกัน และพลังของข้าก็จะกลับคืนมาด้วย รีบๆ คิดด้วยเถอะ ทุกวันนี้อยู่อย่างลำบากเหลือเกิน”
เย่ว์หยางเมินเขา มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปลดผนึกในร่างของพวกเขา
ยิ่งกว่านั้น เป็นเวลาสำคัญที่เขาต้องฝึกฝนเพื่อที่ว่าเขาจะได้สู้กับราชาเฮยอวี้ได้ ตอนนี้เขาจะมีเวลามาใส่ใจธุระของพวกมนุษย์มัจฉากลายพันธุ์ได้ยังไง?
หัวหน้ามนุษย์ปลาหมึกและมนุษย์ปลาดาบจี๋ฟงไม่ได้กังวลเลย ด้วยพลังปราณก่อกำเนิดระดับแปด พวกเขายังสามารถป้องกันตนเองได้
ปลาวาฬจางและมนุษย์ปูยักษ์อ้าวไม่สนใจมากนัก ก่อนอื่นเขาสั่งอาหารหลายร้อยอย่าง
เว้นแต่อาหารประเภทปลาแล้ว เขาสั่งอาหารทุกอย่าง
เพราะในช่วงเวลาหลายพันปีที่ผ่านมา พวกเขาไม่ได้กินอะไรนอกจากปลา พวกเขาพลาดอาหารต่างๆ ไปมาก… พอเห็นขนาดร่างพอๆ กับภูเขาของปลาวาฬจาง เหยียนเจิ้งและเจ้ากบอ้วนสั่งบ่าวไพร่ให้เตรียมอูฐย่าง ไก่งวงย่างและแพะย่าง หลังจากเตรียมการครึ่งชั่วโมง อาหารจานแล้วจานเล่าก็ถูกส่งเข้ามา
เพียงเท่านี้ มนุษย์ปลาตีนและสหายก็หยุดบ่นเรื่องขนาดที่มนุษย์สร้างทะเลสาบ พวกเขาพุ่งหาอาหารและกินเป็นพายุบุแคม
วิธีที่พวกเขากินมูมมามยิ่งกว่าฮุยไท่หลางเสียอีก
เจ้ากบอ้วนถามอย่างระมัดระวัง “นายท่าน สัตว์ประหลาดพวกนี้หิวโหยมาจากไหน?”
เย่ว์หยางอธิบายอย่างตั้งใจ ขณะเขากินปีกมังกรย่าง “พวกเขาเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดที่เพิ่งถูกปลดปล่อยออกมา ตอนนี้ให้พักอยู่ที่นี่ชั่วคราว มนุษย์ปลาหมึกมีอาวุโสสูงสุด ขณะที่มนุษย์ปลาตีนจะอาวุโสน้อยที่สุด ถ้ามีผู้ใดแส่เข้ามาหาความลำบาก ก็ปล่อยให้พวกเขาไล่ตะเพิดพวกก่อกวนก็ได้”
พ่อบ้านเหยียนเจิ้งมักจะมีความพิถีพิถันเสมอ เขาตรวจสอบต่อไป “พวกเขาเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับไหน?”
“คนที่อ่อนที่สุดคือมนุษย์ปลาตีนเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับห้า” เมื่อได้ยินเท่านั้น เจ้ากบอ้วนจั๊ดด์ทรุดตัวลงกับพื้นดังตุ้บ ขณะที่เฉินเซียนเซิงกำลังดื่มเบียร์ถึงกับสำลัก แม้แต่เหยียนเจิ้งมาดนิ่งก็ยังตกใจ
“คารวะท่านผู้อาวุโส” เฉินเซียนเซิงลุกขึ้นแสดงความเคารพ เขาไม่ได้รู้สึกจริงๆ เลยว่าคนที่ดูประหลาดพวกนี้ทั้งหมดจะเป็นผู้อาวุโสที่ทรงพลัง
“ในที่สุดข้าก็ได้ยินคนเรียกข้าว่าผู้อาวุโสหลังจากผ่านมาหลายพันปี.. ตอนนั้นที่คุณชายสามเรียกข้าว่าผู้อาวุโสไม่นับนะ เขาเรียกแบบข่มขู่ คุกคามและเยาะเย้ย” มนุษย์ปลาตีนพูดเหมือนกับจะร้องไห้ เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจ้ากบอ้วนจั๊ดด์ล้มลงไปอีกที ถัดมาไม่กี่เรื่องนับเป็นว่าง่าย ปล่อยเรื่องให้กับเฉินเซียนเซิงแสดงความเคารพผู้อาวุโสและเจ้ากบอ้วนจั๊ดด์รู้วิธีประจบอยู่แล้ว
เมื่อเย่ว์หยางกลับมาที่ห้องพักของเขา เขาเห็นเซี่ยอีในชุดตำรวจหญิง เขากระแอมเบาๆ เพื่อให้รู้ว่าเขาปรากฏตัว
แม้ว่าเซี่ยอีจะไม่ต้องการให้เย่ว์หยางเมินนาง แต่นางก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรกับเขา
ทันใดนั้นเย่ว์หยางยื่นมือออกมา ขณะที่เซี่ยอียังคงตกใจ เขาบีบหน้านางเบาๆ “ตัวของเจ้ายังเจ็บอยู่อีกหรือเปล่า?”
เซี่ยอีถึงได้รู้ว่าเย่ว์หยางหยอกนางเล่นอีกแล้ว นางโมโห แต่ขณะที่นางกำลังจะชูกำปั้น นางคิดว่าเขาอาจจะเป็นห่วงนางจริงๆ นางค่อยๆ ลดหมัดลงและตอบอย่างเกลียดชังว่า “เป็นความผิดของเจ้าคนเดียว” นางพูดพลางหลั่งน้ำตา นางรู้สึกว่าความห่วงใยของเย่ว์หยางมาช้าเกินไป ถ้าเขาพูดอย่างนี้เร็วกว่านั้น นางอาจจะยกโทษให้เขา แต่ตอนนี้ มันสายไปแล้ว
ความจริง นางตระหนักว่าไม่รู้สึกอึดอัดอีกต่อไป
นางเคยใช้พลังแปลกๆ เช่นกัน
ตอนนี้ นางแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนถึงสิบเท่า
เซี่ยอีรู้ว่านี่เป็นเรื่องที่ดี แต่นางไม่อาจยกโทษให้เย่ว์หยาง เนื่องจากเขาปล่อยให้นางทุกข์ทรมานโดยไม่บอกอะไรกับนาง นางจะไม่ยกโทษให้เขาแม้ว่าเขาจะทำด้วยความตั้งใจดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชุดนี้ เขาต้องทำบางอย่างที่ทำให้นางอึดอัด เมื่อใดก็ตามที่นางไม่ได้สวมมัน ผู้ชายที่หลงตัวเองอย่างเขาไม่สมควรได้รับการอภัยจากนาง
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เซี่ยอีต้องการจะกัดเย่ว์หยางให้หนำใจนัก แม้ว่านางจะไม่สามารถเอาชนะเขาได้ นางจะพยายามกัดเขาให้ได้
นางจะต่อต้านเขาไม่มีที่สิ้นสุด
แม้ว่าเย่ว์หยางจะสวมหน้ากากเจมินี่และสีหน้าของเขาไม่สามารถเห็นได้ แต่ก็ชัดเจนว่าเขากำลังยิ้มแค่เมื่อมองลงไปในดวงตาเขา เขากำลังยิ้มสดใส “ถ้าเจ้าไม่ต้องการจะรู้สึกอึดอัดอีกต่อไป อย่างนั้นมาหาข้าคืนนี้”
เซี่ยอีหน้าแดงเล็กน้อยหลังจากมองดูเขา
นางตระหนักว่านัยน์ตาเขาปรากฏเหมือนมีประกาย ราวกับว่ายิ้มของเขาเข้าไปในหัวใจนาง
นางอยู่ในอาการงงงวยชั่วขณะก่อนที่เย่ว์หยางจะยื่นมือออกมาจับแก้มนาง นางสงบอารมณ์ได้จึงรีบปัดมือของเขาออกไป “ต่อให้เป็นในฝันเจ้า ข้าจะไม่ไปหาเจ้าตอนกลางคืน ข้ายอมตายดีกว่าทำเช่นนั้น และอย่ามาแตะต้องข้า”
นางรีบหมุนตัววิ่งไปที่ห้องนาง หลังจากนางปิดประตูห้องแล้ว นางถอนหายใจโล่งอกและพบว่าหัวใจนางเต้นรัว เฮ้อ.. นางเกือบจะยกโทษให้เขาแล้ว.. สายตาของเขาแปลกไปหน่อย ครั้งต่อไปนางต้องไม่มองตาของเขา ถ้าไม่อย่างนั้นอาจจะติดกับของเขาแน่นอน เซี่ยอีตระหนักว่าหัวใจของนางเต้นแรง และแก้มของนางแดงซ่าน
พอสัมผัสแก้มที่เย่ว์หยางได้สัมผัสไปก่อนนั้น แก้มของเซี่ยอีก็ยิ่งแดงขึ้นกว่าเดิม
หลังจากนั้นชั่วขณะนางก็ตบแก้มตรงที่เย่ว์หยางลูบทันที นางตำหนิตัวเอง “เจ้าโง่ไปแล้วหรือ ทำไมเจ้าถึงไม่ตีเขา เจ้ายังคงคุยกับเขา, เซี่ยอี! เจ้าโง่ไปแล้ว”
ตอนแรกเย่ว์หยางต้องการกลับเข้าไปในโลกคัมภีร์เพื่อตรวจดูทรัพย์สินของเขา
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขากลับมาห้องของเขา เขาตระหนักว่าสาวลูกครึ่งเอลฟ์ในชุดเครื่องแบบของนางกุลีกุจอจัดเตียงให้เขาอย่างดีโดยไม่ละเลยรายละเอียด มันเกือบสมบูรณ์แล้ว จากการเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วของนาง เย่ว์หยางรู้ว่านี่ไม่ใช่วันแรกที่นางทำเช่นนี้ การกระทำของนางเพียบพร้อมจนกลายเป็นนิสัย แม้ว่าเย่ว์หยางจะไม่ได้พักที่นี่ แต่นางก็ยังไม่มีข้อเรียกร้องใดๆ
“นายท่านกลับมาแล้ว” สาวลูกครึ่งเอลฟ์ร่าเริงเมื่อเห็นเย่ว์หยางกลับมา นางคิดว่าเขาจะกลับไปที่โลกคัมภีร์โดยตรง นางคาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะแวะเข้ามา นางรีบคำนับอย่างมีความสุข “ให้ข้านวดขาท่านก่อนจะกลับไปพักได้ไหม?”
“….” เย่ว์หยางถอดหน้ากากเจมินี่
ไม่มีประโยชน์ที่จะสวมมันไว้ เนื่องจากสาวลูกครึ่งเอลฟ์รู้แล้วว่าเขามีลักษณะยังไง
พอเห็นว่านางจัดเตรียมเตียงไว้ให้ เย่ว์หยางตัดสินใจพักค้างที่นี่
แม้ว่านางจะเป็นแค่บ่าวคนหนึ่ง แต่นางก็น่ารักมากจริงๆ
สาวลูกครึ่งเอลฟ์ตกใจในตอนแรก แต่ในไม่ช้านางก็ตระหนักว่าแก้มของนางเริ่มแดงเหมือนผลแอปเปิลสองลูก นางโถมตัวเข้าอ้อมอกเย่ว์หยางและกอดเขาแน่น นางถามด้วยความรู้สึกเหลือเชื่อ “นายท่าน, คืนนี้ท่านจะพักค้างที่นี่หรือ? ข้ามีความสุขมากจริงๆ นี่เป็นเรื่องจริงใช่ไหม, จริงใช่หรือเปล่า?”
เย่ว์หยางสนองตอบโดยแตะจมูกนางอย่างนุ่มนวล
น้ำตาคลออยู่ที่เบ้าตาของสาวลูกครึ่งเอลฟ์ นางยื่นปากมาใกล้ๆ นางปลาบปลื้มจนเกือบจะร้องไห้ แต่ก็ต้องทำกิริยามารยาทให้น่ารัก
“ข้าจะไปเอาน้ำมาก่อน..” ทันใดนั้นสาวเอลฟ์ระลึกได้ทันทีว่านางต้องช่วยล้างหน้าล้างเท้าให้เจ้านายของนาง จากนั้นนางรีบออกไปโดยเร็ว
อารามตื่นเต้นนางเกือบจะสะดุดบันไดหน้าประตู
เย่ว์หยางสงสารสาวลูกครึ่งเอลฟ์ ขณะที่เขาเห็นนางวิ่งออกไปทั้งที่น้ำตาปลาบปลื้มไหลหยดลงพื้นไปตลอดทาง นางค่อนข้างน่าสงสารจริงๆ เพราะนางมักจะอยู่ที่นี่ตามลำพังเสมอ เย่ว์หยางตัดสินใจพานางกลับไปบ้านด้วย เนื่องจากนางชอบรับใช้คน สาวๆ ในบ้านของเขาจำเป็นต้องได้คนอย่างนางด้วยเช่นกัน ด้วยวิธีแบบนี้สาวลูกครึ่งเอลฟ์จะได้ไม่เหงา
เมื่อนางกลับเข้ามาพร้อมกับน้ำ สาวลูกครึ่งเอลฟ์ถึงกับหน้าแดง นางไม่กล้ามองเย่ว์หยาง เนื่องจากเกรงว่าเขาจะล้อนาง
เย่ว์หยางรับผ้าขนหนู หลังจากชุบน้ำแล้ว เขาช่วยเช็ดหน้าของสาวลูกครึ่งเอลฟ์
พอทำเช่นนี้น้ำตายิ่งไหลนองหน้าสาวลูกครึ่งเอลฟ์ราวกับน้ำตก นางจับแขนของเย่ว์หยางและพูดทั้งน้ำตาว่า “แม่เฒ่าไม่ได้โกหกข้า, นายท่านดีที่สุดแน่นอน…”
เย่ว์หยางพยายามอย่างดีที่สุดทำให้นางยิ้มได้อีกครั้ง
สาวลูกครึ่งเอลฟ์ที่ตอนนี้น้ำตาหยุดไหลแล้ว ดวงตานางตอนนี้เหมือนลูกแมวน้อยคอยคลอเคลียรับใช้เย่ว์หยาง
นางช่วยนวดไหล่และขาของเขา
เมื่อเย่ว์หยางเอนตัวนอน นางพยายามข่มความอายขณะที่นางม้วนม่านลง พอเห็นว่าเย่ว์หยางไม่ได้ทักท้วง นางลอดเข้าไปในผ้าห่มอย่างรวดเร็วเหมือนแมว ตอนแรกนางขดตัวเนื่องจากความกังวลใจ หลังจากรวบรวมความกล้าพอ นางค่อยเหยียดมือออกควานหาจนเจอมือใหญ่ของเย่ว์หยางในที่สุด จากนั้นนางก็กอดไว้ ขาของนางเหยียดออก นางลอบมองเย่ว์หยาง เมื่อเห็นว่าเขายังไม่ทักท้วง นางก่ายขาของเย่ว์หยางด้วยขานางทำให้เขาใกล้ชิดนาง
“หลับเสียเถอะนะ” ตอนแรกเย่ว์หยางต้องการเข้าดินแดนฝันเพื่อถามเทพธิดากระบี่ฟ้าถึงวิธีดูดซับอุทกแม่พระธรณีโดยไม่ยกระดับเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้า แต่พอได้ยินเสียงหัวใจเต้นถี่ของสาวลูกครึ่งเอลฟ์เอื้อมมือมาลูบผมนุ่มสลวยของนาง
“ก็ได้..แต่เรายังไม่ทำอะไรกัน ท่านคงรู้สึกอึดอัดใจ..” สาวลูกครึ่งเอลฟ์ต่อสู้อย่างหนักเพื่อข่มความอาย ขณะที่นางจับมือเย่ว์หยางมาวางไว้ที่บั้นท้ายนาง แสดงให้เห็นว่านางพร้อมจะรับใช้เขาทุกเวลา นางรู้สึกว่าถ้านางไม่สามารถทำให้เจ้านายมีความสุขได้ อย่างนั้นนั่นคงเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ของนาง นางจะไม่ใส่ใจคิด แม้ว่านางจะเจ็บปวดก็ตาม
“อย่าปล่อยให้ความคิดของเจ้าเตลิด นอนเสียเถอะ!” เย่ว์หยางตบบั้นท้ายนางเบาๆ และจูบหน้าผากนาง
“ได้เจ้าค่ะ” สาวลูกครึ่งเอลฟ์รู้สึกว่านางมีความสุขที่สุดในโลกแล้ว แม้ว่าเจ้านายจะไม่ขอ แต่เขาก็ไม่ได้ปฏิเสธนาง สามารถนอนด้วยกันกับเจ้านาย สามารถนอนกอดเจ้านายได้ก็ทำให้นางมีความสุขมากแล้ว
นางมีความสุขและความพึงพอใจนอนอยู่ในอ้อมกอดเย่ว์หยางเหมือนลูกแมวน้อย
ก่อนที่นางจะหลับ นางตัดสินใจทำงานหนักเป็นพิเศษเพื่อให้เจ้านายนางมีความสุขที่สุดในโลก
สองชั่วโมงต่อมานางถีบผ้าห่มที่ทำให้นางอุ่นเกินไปออก ขณะที่นางพาดขาข้างหนึ่งอยู่บนหน้าอกเย่ว์หยางและหมุนตัวเอง เดิมทีนางยังกอดแขนเขาอยู่ แต่ตอนนี้นางกอดขาเขาเสียแล้ว ห้านาทีต่อมาขณะที่นางละเมอพึมพำว่านางต้องการทำให้เย่ว์หยางมีความสุขนางก็ร่วงจากเตียงตอนพลิกตัว จากนั้นนางจึงตื่นขึ้นเพราะความเจ็บจากการตกเตียง
นางเห็นผ้าห่มที่ถูกเตะออกไปและเจ้านายนอนอยู่โดยไม่มีผ้าห่มปิด
นางแลบลิ้นออกมาอย่างน่ารัก ขณะที่นางห่มผ้าให้เย่ว์หยางและนางกลับเข้าไปซุกตัวในผ้าห่มอยู่ในนั้นเป็นเวลานาน
จนกระทั่งนางตระหนักได้ว่าเย่ว์หยางไม่ได้ตื่นมาดูสภาพน่าอายของนาง ทำให้สาวลูกครึ่งเอลฟ์ถอนหายใจโล่งอก
ไม่ง่ายเลยที่จะรับใช้เจ้านาย… สาวลูกครึ่งเอลฟ์รู้สึกว่านางจะต้องก้าวหน้าขึ้นให้ได้ แต่อย่างน้อย ตอนนี้ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี
**************