===============
โคเถื่อนเงากล้าเกินตัวจริงๆ และเริ่มจู่โจมหัวราชสีห์เพลิง นางใช้ไหล่ ศีรษะ แขนทุบหัวราชสีห์เพลิง
เย่ว์หยางแบ่งจิตสำนึกไปควบคุมนาง เพิ่มสัญชาตญาณจู่โจมของนาง ทำให้นางเคลื่อนไหวได้เป็นธรรมชาติขึ้น การระดมโจมตีหัวราชสีห์เพลิงต่อเนื่องเป็นพายุสลาตัน จนกระทั่งมันแทบทนไม่ได้ น่าเสียดายที่นางไม่สามารถเชื่อมโยงความคิดของเย่ว์หยางที่จะใช้ชั้นเชิงในการสู้ได้ พอถึงจุดนี้ นางไม่มีพลังสนับสนุน 100 เท่าจากเงาปีศาจยักษ์ จนทำให้พลังสังหารของนางมีขีดจำกัด
ไม่แต่เพียงแค่นั้น พลังแท้จริงของนางจะมากกว่าสัตว์อสูรระดับ 3 ชั้นทองแดงอยู่มาก แต่เมื่อเทียบกับจ้าวสัตว์อสูร ระดับ 6 ชั้นทอง ก็ยังคงมีความแตกต่างกันอย่างใหญ่หลวง
ขณะที่หัวราชสีห์เพลิงกัดตอบโต้ ร่างของนางจึงได้รับบาดเจ็บหนัก
สิ่งที่ทำให้เย่ว์หยางปวดหัวที่สุดก็คือโคเถื่อนเงาไม่รู้สึกเจ็บปวดและไม่รู้จักหลบเลี่ยง นางจะสู้จนกว่าแรงจะหมด ในไม่ช้านางก็ถูกกัดอย่างหนัก แผลขนาดใหญ่เห็นได้ชัดบนตัวนาง
ไม่มีเลือดไหลออกมาแม้แต่หยดเดียว
ตอนนั้น นางยังคงเป็นสัตว์มีชีวิตครึ่งหนึ่ง และเป็นสัตว์อสูรอัญเชิญที่แตกต่างจากอสูรธรรมดา
ตราบใดที่พลังโคเงายังไม่หมด แม้ว่าร่างที่สร้างมาจากกระทิงเถื่อนจะถูกทำลายสิ้นเชิง นางก็ยังสามารถต่อสู้ได้ไม่มีหยุด เย่ว์หยางรู้ว่านางขาดการเสริมพลังจากเงาปีศาจยักษ์ มีพลังไม่พอที่จะรับมือหัวราชสีห์เพลิงได้ แต่ยังคงมีโอกาสที่นางจะเรียก “เนตรประหาร” ออกมาใช้สู้ ซึ่งจะสามารถเปลี่ยนสถานการณ์โดยรอบได้
เนตรประหารอาจจะสามารถฆ่าหัวราชสีห์เพลิงนี้ได้ทันที
“ฮุยไท่หลาง เจ้าขี้ขลาด ถ้าคืนนี้แกไม่อยากเป็นอาหารมือค่ำ เมนูสะโพกหมาป่าย่างของข้า จงออกไปไล่งับก้นไคเมราเดี๋ยวนี้ ใช้กรงเล็บของแกตะกุยก้นมันให้ขาดเลย” พอเย่ว์หยางเห็นฮุยไท่หลางไม่ยอมขยับเลย ทำให้เขาโกรธมาก มันกำลังชมอยู่ด้านข้างจริงๆ หรือ?
“อะฮู้ววว” ทันทีที่ฮุยไท่หลางเห็นเย่ว์หยางโกรธ มันตะลีตะลานวิ่งออกไป ใช้พลังทั้งหมดกัดเล็บเท้าหน้าของไคเมรา ซึ่งเป็นส่วนที่หนากว่าช้างเสียอีก
มันไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง แต่ก็พยายามมองเหมือนว่ามันชิงเป็นฝ่ายรุก
แม้ว่าเย่ว์หยางจะโกรธ แต่เขาก็ไม่คิดจะทุบตีมันตอนนี้ ใจของเขาตอนนี้เพ่งอยู่กับการควบคุมโคเงาให้เชื่อมจิตกับเขาได้โดยตรง โดยพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อหลบการจู่โจมที่หนักหน่วงของหัวราชสีห์เพลิง ถ้าโคเงาสู้โดยตรงไม่มีการควบคุมไว้ เป็นที่คาดกันว่านางคงถูกศัตรูกัดจนเหลือเนื้อไม่กี่ชิ้นภายใน 3 นาที
หลังจากเสี่ยวเหวินหลีแช่แข็งหัวมังกรได้แล้ว เธอก็ไม่ขยับไปช่วยต่อสู้ แต่กลับหลับตารวบรวมพลังภายในอยู่เงียบๆ เย่ว์หยางคาดว่านางกำลังเตรียมคัมภีร์อัญเชิญของนางหรือไม่ก็เคลื่อนไหวครั้งสุดท้าย
เขาไม่ต้องการให้มีผลกระทบต่อเธอ จึงพยายามอย่างดีที่สุดปล่อยให้เธอรวบรวมสมาธิอย่างเงียบงันโดยอิสระ
ปีศาจอสรพิษเสี่ยวเหวินหลียังสร้างความประหลาดใจให้เขาได้ต่อไป
ใครจะรู้ว่าต่อไปเธอจะเคลื่อนไหวน่าตื่นตาตื่นใจแค่ไหน?
ตอนนี้ เย่ว์หยางชื่นชมยินดีอยู่ภายในใจ และไม่คิดเลยว่าวิกฤติจะมาถึงเร็วกว่าหมาป่า เจ้าเล่ห์กว่าสุนัขจิ้งจอก เงาสีดำพุ่งเข้ามาใกล้อย่างเงียบงัน เมื่อเย่ว์หยางสังเกตได้ในที่สุด เงาสีดำยาวนี้ ก็เริ่มพุ่งเข้าหาเสี่ยวเหวินหลีอย่างอย่างบ้าคลั่ง
“ซวยแล้ว?”
เย่ว์หยางตื่นตระหนกอยู่ในใจ เขาน่าจะยกแขนได้แล้วสร้างกำแพงปราณก่อกำเนิดกระบี่ไร้ลักษณ์ป้องกันไว้
แต่ เขาลืมไปว่า เขาไม่สามารถโจมตีและป้องกันเธอได้ทันเวลาแล้วยังสูญเสียโอกาสโต้ตอบที่ดีที่สุดไปด้วย
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่อันตรายนี้ ฮุยไท่หลางก็ปรากฏตัวขึ้น มันออกมาจากตำแหน่งที่ไม่ทราบชัดแล้วเข้าไปขวางหน้าเสี่ยวเหวินหลีป้องกันเงานั้นไว้ เจ้าหมาป่านั้นปกติจะดื้อและขี้ขลาดกลับเสียสละกระโจนเข้ามาขวางเงาดำลึกลับขนาดยักษ์นั้นไว้ ก่อนที่มันจะสามารถกัดศัตรูได้ทันที เงาดำนั้นก็อ้าปากและกลืนฮุยไท่หลางลงท้องของมันทันที
“คุณพระช่วย, ฮุยไท่หลางเสร็จมันแล้ว..”
เย่ว์หยางเห็นมันได้ชัดแล้ว ที่แท้ก็คืองูขนาดยักษ์นั่นเอง
ความจริง ไคเมรา 3 หัวไม่ได้มีเพียง 3 หัว แต่ยังคงมีหางเป็นงูขนาดยักษ์ใหญ่กว่างูที่ใหญ่ที่สุดในโลกปกติหลายเท่า มนุษย์ที่โตเต็มที่บางทียังโอบรอบมันไม่ได้เลย แม้แต่ฮุยไท่หลางก็ใหญ่ไม่พอติดซอกฟันของมันด้วยซ้ำ
เย่ว์หยางไม่สามารถทำอะไรได้ และคงทำได้เพียงสั่งโคเงาที่เต็มไปด้วยบาดแผลให้รีบเร่งและหวังว่าความแข็งแกร่งของนางจะช่วยหยุดเจ้างูยักษ์ปีศาจได้
ถ้าเสี่ยวเหวินหลีขัดจังหวะมันได้ อาจเป็นไปได้ที่จะช่วยฮุยไท่หลางที่เพิ่งจะถูกกลืนลงไป
โคเงาตวาดออกไป แต่ปฏิกิริยาตอบสนองของงูยักษ์ไวกว่า ตัวของงูเคลื่อนไหวได้เร็วและรัดนางเอาไว้แน่น จนเกิดเสียงลั่นบนตัวนาง
ถ้าเป็นสัตว์อสูรธรรมดาโดนรัดแบบนี้ บางทีการรัดแบบนี้สามารถฆ่าเหยื่อได้
โชคดีที่โคเงามีแค่เพียงครึ่งชีวิต แม้ว่าร่างกายจะถูกรัดจนดูผิดรูป กระดูกกำลังแตก นางก็ยังตอบโต้ได้โดยไม่กังวล เย่ว์หยางเห็นได้ว่าจมูกและปากของโคเงา เหมือนกับการจู่โจมครั้งก่อนของกระทิงเถื่อนทองแดงตัวเก่า แสงดุจเปลวเพลิงเริ่มปรากฏ ในดวงตามีแสงสีแดงเรืองออกมา ขณะที่เย่ว์หยางคาดการณ์ ในที่สุดพลังที่เหมาะสมก็ถูกปลดปล่อยไปถึงศัตรู
เนตรประหารก็ถูกเรียกมาใช้จนได้
งูยักษ์ที่รัดร่างของโคเงาแน่นร้องออกมาอย่างเจ็บปวดแล้วหล่นลงบนพื้น ไม่มีพลังเหลือ ตัวของมันกระตุกไม่หยุด
เย่ว์หยางเบิ่งตาค้างอย่างตกใจ เกิดอะไรขึ้น?
งูนี่ตายสนิทหรือยัง?
ดูเหมือนว่ามันแค่ทุกข์ทรมานเกือบตาย แต่ก็ยังไม่ตายทันที
เป็นไปได้ว่าสัตว์อสูรที่ทรงอำนาจ มีระดับพลังที่เหนือกว่า 2 – 3 ชั้น จะต้านทานเนตรประหารได้หรือเปล่า? หรือเป็นทักษะตามธรรมชาติที่จ้าวสัตว์อสูรทองจะต้านทานเนตรประหารได้? เย่ว์หยางตกใจมากที่หลังจากหางงูขนาดยักษ์ตกไปบนพื้นมีอาการบาดเจ็บรุนแรง นอกจากนี้ยังมีหัวมังกรที่ถูกแช่แข็งอยู่ อีก 2 หัวไม่มีปฏิริยาเจ็บปวดใดๆ ให้เห็น เหมือนกับว่าพวกมันไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย หัวแกะสีขาวยังคงจ้องมองเย่ว์หยางด้วยสายตาที่เรียบเฉย มันทำให้เย่ว์หยางไม่สบายใจอยู่ภายใน มีบางอย่างผิดปกติ หัวแกะขาวนี้มันเงียบเกินไป
ในอีกด้านหนึ่ง หัวราชสีห์เพลิงคำรามและแยกเขี้ยวใส่โคเงา
แม้เมื่องูยักษ์ของไคเมรา 3 หัวจะถูกปราบไปแล้ว มันก็ไม่มีผลต่อหัวอื่นๆ เลย วิญญาณของมันต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ละหัวมีหนึ่งวิญญาณงั้นหรือ?
เย่ว์หยางไม่เข้าใจเรื่องนี้ดี
ในเวลานั้น คัมภีร์อัญเชิญชั้นเพชรของเสี่ยวเหวินหลีถูกเรียกออกมา มันเปล่งประกายสีทอง
พร้อมกับพลังแสงสีทอง ปีศาจที่น่ากลัวมีหัวเต็มไปด้วยงู ลำตัวเป็นมนุษย์ หางเป็นงูถูกเรียกออกมา มันถือคันธนูเงินและลูกศรสีทอง พอมันปรากฏออกมาก็ยิงลูกศรดอกหนึ่งไปที่ตาซ้ายของหัวราชสีห์เพลิงทันที หัวราชสีห์เพลิงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด แล้วหันมาโจมตีมันทันที
งูที่อยู่บนหัวปีศาจที่น่ากลัวเริ่มขยับและแสดงให้เห็นใบหน้าที่ซ่อนอยู่หลังงูพวกนั้น…
หัวราชสีห์เพลิงเปลี่ยนเป็นหินทันทีจนถึงคอ มันกลายเป็นรูปปั้นหินขาวซีด แม้แต่ธนูทองที่ปักคาอยู่ในตามันก็กลายเป็นธนูหินไปด้วย
“เมดูซาศิลา โอ้โฮ..แข็งแกร่งมาก” เย่ว์หยางตื่นเต้นสุดขีด เสี่ยวเหวินหลีครอบครองอสูรผู้พิทักษ์ถึง 4 ตน และหนึ่งในนั้นก็คือ เมดูซาศิลานี้ เสี่ยวเหวินหลีไม่เคยเรียกมันออกมาก่อน เขาไม่คิดว่าเธอจะมีพลังภายในพอที่จะเรียก 1 ในพวกมันออกมาได้ แค่เมดูซาศิลาก็พอทำให้สนามต่อสู้สะท้านสะเทือนไปหมดแล้ว หัวราชสีห์เพลิงที่ทนต่อพายุหมัดของโคเงาได้อย่างไม่มีปัญหากับกลายเป็นหินทันทีเมื่อเมดูซาศิลาออกมา
จากนั้นเมดูซาศิลาพาดลูกศรและเล็งไปที่หัวแกะขาว เตรียมยิงธนูดอกที่ 2
แต่เสี่ยวเหวินหลีครางเบาๆ ไม่สามารถทรงตัวอยู่ได้
เมื่อเย่ว์หยางรีบเข้ามาประคองเธอ เมดูซาศิลานั้นไม่สามารถยิงธนูลูกที่สองได้ทันเวลา ร่างจึงเปลี่ยนเป็นควันและแสงเข้าไปในคัมภีร์เพชร เสี่ยวเหวินหลียังอยู่ในสถานะทารก การอัญเชิญอสูรที่แข็งแกร่งอย่างเมดูซาศิลาต้องฝืนใช้กำลังมากเกินไป
พอเห็นหน้าเย่ว์หยางเต็มไปด้วยความกังวล เสี่ยวเหวินหลีลืมตาโตของเธอคล้ายกับจะพูด แม้จะไม่มีคำพูดออกมา แต่รอยยิ้มอ่อนหวานปรากฏบนใบหน้าน้อยๆ ของเธอ
เธอเลื่อนลงจากอ้อมแขนของเขาและตรงไปที่งูยักษ์ที่นอนอยู่บนพื้น จากนั้นตวัดดาบยะเยือกตัดร่างของงู
โคเงาใช้เวลาอยู่นานในที่สุดก็พบร่างที่ตายของฮุยไท่หลาง ที่เต็มไปด้วยกรด
“เฮ้อ.. แกยังไม่ถูกฆ่านะ ข้ารู้ว่าหมาป่าพันธุ์แมลงสาบอย่างแกไม่ตายง่ายๆ หรอก” พอเห็นฮุยไท่หลางปลอดภัย ภายนอกเย่ว์หยางทำเป็นเหมือนไม่ใส่ใจมัน แต่ความจริงในใจเขาดีใจอย่างที่สุด แม้ว่าฮุยไท่หลางจะเป็นเจ้าขยะที่ชอบรังแกสัตว์อ่อนแอ กลัวสัตว์แข็งแรงกว่า แล้วยังกลัวตาย แต่มันก็ยังเชื่องและทำตามคำสั่งของเขา มันเป็นสัตว์อารมณ์ดี ไม่ว่ามันจะโดนไล่เตะมากแค่ไหน มันก็ยังรักษาภาพพจน์บริวารผู้ซื่อสัตย์ได้เป็นอย่างดี ในฐานะสัตว์ที่ไม่ได้ทำสัญญาสามารถทำอะไรได้ขนาดนี้นับว่าไม่เลว ถ้ามันเป็นสัตว์อสูรชนิดอื่น ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ได้ทำสัญญา บางทีพวกมันอาจหลบหนีหายเมื่อเห็นจ้าวสัตว์อสูรทองอย่างไคเมรา 3 หัวนี้ อย่างไรก็ตาม ฮุยไท่หลางมันยังลุยสู้และเสี่ยงตายช่วยเสี่ยวเหวินหลี เพราะเหตุนี้เย่ว์หยางจึงต้องมองมันใหม่
“แบร่… แบร่..แบร่..” อยู่ๆ หัวแกะก็ร้องออกมาทันที
“…” บางอย่างไม่ค่อยถูกต้อง เย่ว์หยางมีลางสังหรณ์ถึงอันตรายเกี่ยวกับหัวแกะขาวนี้ พอเห็นมันเริ่มเคลื่อนไหว เขารีบคว้าตัวเสี่ยวเหวินหลี
โคเงาที่บาดเจ็บหนักวางร่างเหมือนตายของฮุยไท่หลางบนหลังนางแล้วตามมาอยู่ใกล้ๆ ข้างหลังเย่ว์หยาง
ลำแสงสีขาวนวลถูกยิงออกมาจากปากของหัวแกะขาว ฉายไปที่หางงูที่ขาดสองท่อน ขณะที่เย่ว์หยางจ้องมองอย่างตะลึง หางงูที่ถูกตัดก็มีหัวงอกขึ้นใหม่อย่างรวดเร็วและมันกลายเป็น 2 ตัว ขณะที่แสงฉายไปรอบๆ นั้น หัวราชสีห์เพลิงที่กลายเป็นหินและหัวมังกรที่ถูกแช่แข็งก็เริ่มคลายตัวออก บาดแผลที่เกิดเพราะเสี่ยวเหวินหลีและโคเงาสมานตัวอย่างรวดเร็ว
เย่ว์หยางมองอย่างหมดเรี่ยวแรง
หลังจากลำบากต่อสู้มาตลอดจนไคเมราปางตาย พอฉายแสงทีเดียวมันก็ฟื้นคืนสภาพทันที สัตว์ประหลาดผิดปกติอย่างนี้ ใครจะเอาชนะมันได้เล่า?
ขณะที่เย่ว์หยางสาปแช่งคนสร้างหอทงเทียน ฟ้าผู้สร้างสรรเกม บิดเบือนและไม่ยุติธรรม เตรียมประท้วงอย่างรุนแรงที่สุด ไคเมรา 3 หัวก็สยายปีกยักษ์จนดูเหมือนจะคลุมทั้งท้องฟ้า ด้วยการกระพือปีกครั้งเดียวก็ทำให้เกิดพายุรุนแรง ชั่วพริบตาเดียวก็ทะยานบินหายไปในอากาศโดยไม่ทิ้งร่องรอย
ในห้องโถง มีเพียงหัวงูและของที่เป็นทองทิ้งอยู่ วัตถุทองนั้นก็คือกระดิ่งทองที่เดิมทีแขวนอยู่ที่คอของแกะขาว
อะไร, หมายความว่ายังไง?
เป็นไปได้ว่านี่คือเครื่องมือที่ทิ้งไว้หลังจากเอาชนะปีศาจได้หรือ? แต่จ้าวสัตว์อสูรไม่ได้ถูกฆ่านี่ ยังมีรางวัลให้ทั้งที่ตัวหัวหน้าไม่ถูกฆ่าด้วยหรือ? กระดิ่งทองคือสมบัติแบบไหนกันแน่?
******************************