ตอนที่ 525 กฎฟ้า พลังแห่งการพิพากษาฟ้า
ขณะเมื่อเย่ว์หยางเตรียมตัวจะกลับเข้าไปในโลกคัมภีร์ ข้อความลึกลับก็ปรากฏอยู่ในใจเขาอีกครั้ง ‘สมาชิกใหม่มาเสริมในกลุ่ม…’
เย่ว์หยางตกใจ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ลำแสงสีทองยิงลงมาจากกลางลานแก้ว เหมือนกับว่าตระหนักอะไรได้บางอย่าง ราชาเฮยอวี้เงื้อกระบี่ทมิฬศักดิ์สิทธิ์และค้อนสายฟ้าถล่มสวรรค์ เขาพุ่งเข้าหาร่างเพรียวบางที่ปรากฏจากลำแสงด้วยพลังปานถล่มแผ่นดิน แน่นอน เย่ว์หยางไม่ยอมให้ราชาเฮยอวี้ทำได้สำเร็จขณะที่เขาควบหงส์เพลิงอย่างรวดเร็วและตัดหน้าปราณกระบี่ของราชาเฮยอวี้ก่อนจะโอบกอดร่างเพรียวบางนั้นไว้โดยตรงและพานางออกมาจากพื้นที่โจมตี
“เป็นท่านเองหรือ? มารกฎฟ้า! ท่านมาทำอะไรที่นี่? ที่นี่มันอันตราย!” เย่ว์หยางรู้ว่าเป็นใครทันทีเมื่อเขากอดร่างนั้น เขาทั้งมีความสุขระคนวิตก
เขามีความสุข เนื่องจากเขาไม่ต้องสู้อย่างโดดเดี่ยวอีกต่อไป ในเมื่อตอนนี้มีมารกฎฟ้าอยู่ที่นี่ด้วย
แต่เขาเป็นห่วงสถานการณ์ที่สิ้นหวังอยู่ในตอนนี้ และพวกเขาอาจจะไม่สามารถพลิกสถานการณ์ได้แม้ว่าจะมีนางอยู่ด้วย
แต่ไม่ว่ายังไง ก็นับว่าเป็นเรื่องดีที่นางเซียนหงส์ฟ้ามาถึงแล้ว
การที่นางมาถึงได้ก็หมายความว่าจื้อจุนอาจจะมาด้วยเช่นกัน ถ้าจักรพรรดินีราตรีและจื้อจุนมาถึงที่นี่ด้วย และสตรีผู้ทรงพลังทั้งสามร่วมมือกัน อย่าว่าแต่ราชาเฮยอวี้เลย พวกนางยังสามารถกำจัดจ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณก็ยังได้
ปัญหาเดียวก็คือเสวี่ยอู๋เสียและองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอาจจะมาด้วยเช่นกัน และถ้าพวกนางเก็บคะแนนไม่ได้… เย่ว์หยางสั่นกลัว เขาต้องการส่งข้อความไปให้ไห่อิงอู่ผ่านแผนที่สามสี แต่เขาใช้สิทธิ์วันนี้ไปหมดแล้ว ดังนั้นเขาจึงได้รออย่างใจจดจ่อ เมื่อเห็นว่าไม่มีลำแสงปรากฏเพิ่ม เย่ว์หยางค่อยวางใจ เพราะเขารู้ว่ามีแต่เพียงนางเซียนหงส์ฟ้าเท่านั้นที่เข้ามา
“ข้าได้ยินว่าเจ้าถูกราชาเฮยอวี้ลักพาตัว ก็เลยรีบตามมา ข้ายังไม่อยากกลายเป็นม่ายหรอกนะ” นางเซียนหงส์ฟ้าพูดพลางยิ้ม ขณะนั้นนางกอดเย่ว์หยางและจูบแก้มเขาด้วยริมฝีปากนุ่มของนาง แสดงให้เห็นว่านางคิดถึงเขาจริงๆ จากนั้นนางมองไปรอบๆ ด้วยความสงสัย “นี่ที่ไหนกัน?”
“สังเวียนมรณะ!” เย่ว์หยางไม่มีเวลาสนิทสนมกับนาง ขณะที่เขาควบคุมหงส์เพลิงให้บินสูงขึ้น
“ฟังดูน่ากลัว…” นางเซียนหงส์ฟ้าท่าทีไม่แยแส
“ท่านเห็นสัตว์ประหลาดยักษ์เหล่านั้นไหม? ข้าจะต้องฆ่าให้ได้อย่างน้อยสิบห้าตัว เพื่อไม่ให้ตัวเองต้องพลาดเก็บคะแนนตามเป้าหมาย มิฉะนั้นข้าจะถูกกฎรหัสโบราณสังหาร” เย่ว์หยางพยายามอธิบายอย่างเรียบง่าย จากนั้นนางเซียนหงส์ฟ้าจึงได้รู้การปรากฏตัวของเพชรฆาตโบราณ นางตะโกนด้วยความตกใจ “พวกมันเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าระดับหนึ่งเหรอ? ไม่นี่, ดูเหมือนว่าพวกมันไม่ค่อยมีปัญญา ฉะนั้นพวกมันไม่ใช่อสูรศักดิ์สิทธิ์ นี่นับว่าแปลกมาก อสูรพวกนี้มาจากไหนกัน?”
“พวกมันถูกปล่อยมาจากแดนสวรรค์ ต้องบอกว่าเป็นนักสู้แดนสวรรค์ระดับหนึ่ง อสูรเหล่านี้มีพลังแข็งแกร่งมาก แต่พวกมันไม่ฉลาดและไม่มีเหตุผล ดังนั้นพวกมันจึงไม่ใช่อสูรศักดิ์สิทธิ์และพวกมันบินไม่ได้ แต่เนื่องจากผิวของพวกมันหนา จึงสังหารพวกมันได้ยาก” เย่ว์หยางยังแอบโล่งใจที่พวกเพชรฆาตโบราณบินไม่ได้ มิฉะนั้นโอกาสที่พวกเขาจะเอาชนะได้จะยิ่งน้อยลงไปอีก
สิ่งที่ทำให้เย่ว์หยางงงที่สุดก็คือเพชรฆาตโบราณเหล่านี้ความจริงบินไม่ได้
สำหรับสิ่งมีชีวิตมนุษย์ แค่เป็นนักสู้ระดับหก ก็สามารถบินได้ในระยะสั้นๆ แล้ว
สำหรับเตรียมนักสู้ปราณก่อกำเนิด พวกเขาสามารถทำได้ง่ายกว่าและบินได้ระยะที่ไกลกว่า
นักสู้ปราณก่อกำเนิดที่สูงกว่าระดับสามขึ้นไป สามารถบินอยู่ในอากาศเหมือนกับว่าพวกเขากำลังหายใจ
นักสู้ปราณก่อกำเนิดที่สูงกว่าระดับแปดสามารถบินอยู่ในอากาศได้นานและลอยตัวหรือพักอยู่ในอากาศก็ยังได้ พวกเขาปรับสภาพตัวเองให้อยู่ในอากาศได้ดีกว่านก สามารถอาศัยอยู่ในอากาศได้โดยไม่ต้องทำอะไรเลยและทำทุกอย่างที่พวกเขาต้องการโดยไม่ติดขัดอะไร ดังนั้นสถานะของเพชรฆาตโบราณจึงทำให้เย่ว์หยางงง พวกมันเป็นสิ่งมีชีวิตระดับนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้า แต่ไม่สามารถบินได้
แต่โชคดีที่สถานการณ์เป็นเช่นนี้ ถ้าไม่อย่างนั้นหวงฉวน เฝินเทียน หวิ่นซิงและเวิ่งจินคงลำบากหนักเป็นแน่
เมื่อเห็นจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณเท่านั้น นางเซียนหงส์ฟ้าขมวดคิ้วทันที “มีกระทั่งอสูรผู้นำที่อยู่ในชั้นนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าระดับสองด้วยหรือนี่?”
“แม่สาวน้อย, แค่นี้ถือว่าอ่อนแล้ว, มันเป็นแค่เพียงจ่าฝูง ยังมีสี่แม่ทัพนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าระดับสาม และจ้าวอสูรนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าระดับห้าอยู่ข้างหน้าเราอีกด้วย” เย่ว์หยางขี่หงส์เพลิงและบินขึ้นไปยังจุดที่สูงที่สุด เขาตัดสินใจหยุดหยอกล้อกับราชาเฮยอวี้และกลับเข้าไปในโลกคัมภีร์เพื่อปรึกษาปัญหากับมารกฎฟ้า
“นี่ชักจะลำบากเหมือนกันนะ” สีหน้าของนางเซียนหงส์ฟ้าบ่งบอกว่าหนักใจ เมื่อนางได้ยินเช่นนั้น สู้กับอสูรนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้า เกินขีดจำกัดของนางไปมาก
“อ้อ.. เป็นมารกฎฟ้าสินะ…” ราชาเฮยอวี้จำนางเซียนหงส์ฟ้าได้
เขามีท่าทางดูไม่ดีเช่นกัน
ถ้านางคือนางเซียนหงส์ฟ้าในอดีต ราชาเฮยอวี้คงไม่รู้สึกกังวล
มารกฎฟ้าเป็นเพียงนักสู้ปราณก่อกำเนิดระดับเก้าในอดีต แม้ว่านางจะอยู่ในระดับสุดยอดของปราณก่อกำเนิดระดับเก้าก็ตาม เขาก็คงกำจัดนางได้ง่ายๆ แต่ตอนนี้ พลังของมารกฎฟ้าเกินกว่าที่ราชาเฮยอวี้คาดไปมาก แม้ว่านางจะยังปกปิดพลังของนางไว้มากเกินครึ่ง แต่พลังเต็มเปี่ยมที่นางปล่อยออก ขณะที่นางพยายามอดกลั้นความโกรธของนางนั้น ราชาเฮยอวี้ที่เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าสามารถรู้สึกได้
ใช่แล้ว นางก็เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าคนหนึ่งเหมือนกัน
แม้ว่านางจะมีพลังน้อยกว่าราชาเฮยอวี้อยู่บ้าง แต่เขาไม่อาจชะล่าใจได้
เทียบกับมารกฎฟ้าแล้ว ราชาเฮยอวี้ยินดีสู้กับเวิ่งจินและมนุษย์สมิงสามตาผู้เป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้ามากกว่า ราชาเฮยอวี้ไม่ต้องการกลายเป็นศัตรูกับมารกฎฟ้า
แม้ว่าราชาเฮยอวี้จะไม่เคยสู้กับมารสัมฤทธิ์ฟ้า มารแค้นฟ้าและมารกฎฟ้า แต่เขายังกังวลความคงอยู่ของวังมาร เขาสงสัยว่าพวกเขาคงได้รับคัมภีร์หรือสมบัติโบราณมาจากแดนล่มสลายแห่งทวยเทพแน่ๆ ไม่อย่างนั้นมารสัมฤทธิ์ฟ้าคงไม่ทรงพลังมากอย่างนั้นเป็นแน่
จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ มารสัมฤทธิ์ฟ้าดูหมิ่นจักรพรรดิฟ้าในการขัดแย้งระหว่างล่าสมบัติและซัดจักรพรรดิฟ้าผู้เย่อหยิ่งได้ในกระบวนท่าเดียว มารสัมฤทธิ์ฟ้ายังซ่อนพลังและสถานะของเขาไว้ ดังนั้นเขาจึงไม่ลงมือเป็นครั้งที่สอง หลังจากทราบข้อมูลนี้แล้ว ราชาเฮยอวี้สงสัยว่ามารสัมฤทธิ์ฟ้ามีฝีมือเหนือกว่าสามจักรพรรดิและน่าจะไล่ๆ ตามจักรพรรดิมังกรและจื้อจุนเป็นแน่ ตอนนี้เขาอาจเป็นนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าไปแล้วก็เป็นได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากได้เห็นมารกฎฟ้าผู้มีพลังด้อยกว่ามารสัมฤทธิ์ฟ้า ทันใดนั้นราชาเฮยอวี้ตระหนักว่าเขาประเมินวังมารต่ำเกินไป
โชคดีที่มารสัมฤทธิ์ฟ้าและจื้อจุนไม่อยู่ที่นี่ ถ้าไม่อย่างนั้นสถานการณ์คงแตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง
“เกิดอะไรขึ้นกับคนผู้นี้?” นางเซียนหงส์ฟ้าประหลาดใจเมื่อนางตระหนักได้ว่าราชาเฮยอวี้อยู่ฝ่ายเดียวกับเพชรฆาตโบราณ
“ทักษะแฝงเร้น ‘ทรยศ’” พอได้ยินคำพูดของเย่ว์หยาง นางเซียนหงส์ฟ้าก็เข้าใจได้ทันที
“ไม่ใช่แค่เพียงทักษะแฝงเร้นทรยศเท่านั้น เจ้ายังต้องใช้ทักษะแฝงเร้นคืนชีพอีกด้วย” นางเซียนหงส์ฟ้ายิ้มขณะที่นางแผ่รังสีฆ่าฟัน นางเชื่อว่าพลังของนางกับเย่ว์หยางคงช่วยให้พวกเขาฆ่าราชาเฮยอวี้ภายใต้สภาพแวดล้อมเช่นนี้
“กลับไปที่โลกคัมภีร์กันก่อน” เย่ว์หยางไม่คิดว่าราชาเฮยอวี้จะเป็นพวกศรัทธาเรื่องตายแล้วฟื้น คือเขาจะฟื้นขึ้นทันทีหลังตายและเลือดรดแผ่นดิน อย่างไรก็ตามการฆ่าเขาไม่ใช่เรื่องง่าย ด้วยไหวพริบเจ้าเล่ห์และเหล่าอสูรที่เขาเข้าพวกด้วยซึ่งก็คือเพชรฆาตโบราณเกินกว่าสิบตัว คงเป็นเรื่องยาก หากจะกำจัดเขาโดยไม่มีแผนการที่ดี คำพูดของเย่ว์หยางมาจากการกลั่นกรองข้อมูล ดังนั้นนางเซียนหงส์ฟ้าคงจะบอกใบ้เขาแน่นอน หากมีคนอื่นที่กำลังมา ถ้ามีแต่เพียงนางอย่างนั้นนางคงเห็นด้วยกับคำแนะนำของเขา
“รอก่อน, ยังมีคนมากกว่าสองสามคนกำลังจะมา พวกเขาจะมาถึงในไม่ช้า เรามาเล่นกับเจ้าคนทรยศนี่ก่อนเถอะ” รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าเปี่ยมเสน่ห์ของนางเซียนหงส์ฟ้า
“ฮึ่ม!”
ความหนาวเย็นภายในตัวของราชาเฮยอวี้เพิ่มขึ้นทันที
เขาคงไม่ยอมให้พวกเขารุมเล่นงานเขาแน่ ถ้าเป็นจื้อจุน, จักรพรรดินีราตรีหรือมารสัมฤทธิ์ฟ้า เขาไม่ใช่คนที่จะล้อเล่นได้เลย
แค่เพียงนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าสองคนร่วมกันจู่โจมเขาพร้อมกับอาวุธสังหารของเย่ว์หยางอย่างวงจักรล้างโลกและเพลิงอมฤต ก็ทำให้เขาตกอยู่ในอันตรายหนักแล้ว เมื่อได้ยินว่ายังมีคนที่จะลองสู้ เขาวิ่งกลับเข้าไปรวมฝูงกับเพชรฆาตโบราณทันที เขาไม่สนใจเรื่องความภาคภูมิใจอยู่แล้ว ทั้งหมดที่เขาต้องการก็คือชัยชนะขั้นสุดท้ายและรางวัลสมบัติชั้นเทพ
นางเซียนหงส์ฟ้ายกมือทั้งสองและรวมบอลสายฟ้าขนาดยักษ์เข้าด้วยกัน
นางไม่ได้บีบอัดบอลสายฟ้าเหมือนที่นักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าคนอื่นทำกัน ไม่ได้เหวี่ยงไปที่คู่ต่อสู้ของนาง
นางใช้กลยุทธพิเศษโดยใช้พลังแหวกบอลสายฟ้า ขณะที่มันสามารถถูกปล่อยออกไปในท้องฟ้าในรูปแบบฟ้าร้องฟ้าผ่า
“เอ๊ะ?” ม่านตาของราชาเฮยอวี้หดลีบหลายครั้งเมื่อเขาเห็นเช่นนั้น
สายฟ้าจากการฉีกบอลสายฟ้าออกมาไม่ได้หายไป กลับอยู่ในบังคับของพลังจิตนางเซียนหงส์ฟ้า กลายเป็นพายุสายฟ้าที่มีพลังแห่งการพิพากษาตัดสิน มันขยายตัวหลายสิบหลายร้อยเท่ากลายเป็นพายุสลาตันสายฟ้าล้อมลานแก้วผลึกไว้ทั้งหมด สายฟ้านับหมื่นสายบิดหมุนเป็นเกลียวภายใต้การควบคุมของนางเซียนหงส์ฟ้า พวกมันห่อตัวหากันจนกลายเป็นพายุหมุนสายฟ้าขนาดยักษ์
ไม่เพียงแต่พายุหมุนสายฟ้าเท่านั้น แม้แค่เพียงสายฟ้าที่ไม่ใช่ส่วนประกอบของพายุหมุนสายฟ้านั้น ก็สามารถสังหารนักสู้ปราณก่อกำเนิดที่ต่ำกว่าระดับเก้าได้
ราชาเฮยอวี้รู้สึกได้ว่าสายฟ้าที่แฝงไปด้วยพลังพิพากษานี้เป็นระดับเดียวกับเพลิงอมฤตและวงจักรล้างโลก
ถ้าเขาโดนโจมตีใส่ ผลที่ตามมาจะน่ากลัว!
หนี!
ราชาเฮยอวี้ไม่ยอมหยุดคิดหรือหยุดแม้สักครู่
เขาเทเลพอร์ตหนีทันที ไปให้ห่างจากวงล้อมป้องกันของเพชรฆาตโบราณ
ขณะเดียวกัน เพชรฆาตโบราณที่กระหายเลือดและอยากรบถึงกับวิ่งหนีออกไปทีละตัว พวกมันไม่กล้ารับพลังกฎฟ้าของนางเซียนหงส์ฟ้าโดยตรง
แต่ก็สายไปแล้วสำหรับทุกตัว
ถ้าพวกมันวิ่งหนีออกมาเมื่อนางเซียนหงส์ฟ้ากำลังสร้างบอลสายฟ้า พวกมันอาจหลบพลังโจมตีนี้ได้
แต่ตอนนี้ ภายใต้การควบคุมของความคิดของนางเซียนหงส์ฟ้า ไม่มีเพชรฆาตโบราณตัวใดสามารถหลบหนีการพิพากษาของพลังกฎฟ้าได้! ต่างจากไพ่ชะตาของเย่ว์หยาง พลังพิพากษาของมารกฎฟ้าไม่ได้ใช้รูปลักษณ์มนุษย์ แต่ใช้ในรูปของฟ้าร้องฟ้าผ่า อาจกล่าวได้ว่ามันคือพลังจิตวิญญาณของพายุหมุนที่ถูกปล่อยออกมาโดยนางเซียนหงส์ฟ้า มันดึงพลังของไพ่ชะตา แต่ปลดปล่อยออกมาเป็นรูปสายฟ้าว
เสียงสายฟ้าระเบิดบึ้มเริ่มการโจมตี….
ระยะเวลาระหว่างสายฟ้าแรกที่โจมตีจนถึงสายฟ้าสายสุดท้ายกินเวลาห้านาที
เพชรฆาตโบราณทุกตัวนอนอยู่กับพื้นเป็นศพไหม้เกรียม ไม่มีตัวใดหลบพ้นการโจมตีไปได้
อย่างไรก็ตามพวกมันยังเป็นอสูรปราณก่อกำเนิดฟ้าระดับหนึ่ง ที่สำคัญคือ พลังชีวิตของพวกมันแข็งแกร่งมากจึงทำให้พวกมันรอดชีวิตจากพลังพิพากษาของกฎฟ้าได้
มีเพชรฆาตโบราณเพียงสองตัวที่บาดเจ็บหนักนอนอยู่บนพื้น และใกล้จะตายเต็มทีเนื่องจากพวกมันลุกขึ้นไม่ได้อีกต่อไป พลังโจมตีครั้งเดียวจากนางเซียนหงส์ฟ้ากำจัดเพชรฆาตโบราณได้มากกว่าสิบตัว ไม่เพียงแต่ราชาเฮยอวี้แทบจะหัวใจวายจากผลที่ออกมาเช่นนี้ แม้แต่เย่ว์หยางถึงกับลิ้นพันกัน
เย่ว์หยางสามารถยืนยันได้ว่านางเซียนหงส์ฟ้ามีความก้าวหน้าอีกครั้ง และเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าเย่ว์หยางคาดหวังไว้เสียอีก
พลังของมารกฎฟ้าก่อนหน้านี้ยังไม่แข็งแกร่งขนาดนี้แน่นอน
เป็นไปได้ไหมว่า จักรพรรดินีราตรีหรือจื้อจุนได้ให้คำแนะนำทำให้นางเข้าใจพลังกฎฟ้าได้เต็มที่?
ขณะที่เย่ว์หยางงง ข้อสงสัยมากมายผุดขึ้นมาในขณะเดียวกัน ถ้าเป็นจื้อจุนให้คำแนะนำนางเซียนหงส์ฟ้า อย่างนั้นตอนนี้จื้อจุนอยู่ระดับใดแล้ว? ถ้าเป็นแค่คำแนะนำปกติทำให้น้องสาวนางก้าวหน้าได้มากมายขนาดนั้น อย่างนั้นถ้านางให้คำแนะนำเต็มที่นางจะก้าวหน้าถึงเพียงไหน
มารกฎฟ้ายังมีความก้าวหน้ามากมายหลังจากได้รับคำแนะนำเล็กน้อย อย่างนั้นเสวี่ยอู๋เสียเล่า?
ทันใดนั้นเย่ว์หยางเริ่มคาดหวังการมาถึงของจื้อจุน สาวนางนี้ช่างลึกลับมากเหลือเกิน!
“ท่านแข็งแกร่งจริงๆ” เย่ว์หยางยกนิ้วหัวแม่มือให้นางเซียนหงส์ฟ้าอย่างชื่นชม แม้แต่หวงฉวนผู้แข็งแกร่งที่สุดก็ยังต้องอายถ้าเขาได้เห็นว่านางเซียนหงส์ฟ้าสามารถเอาชนะเพชรฆาตโบราณหลายตัวได้ในการลงมือเพียงครั้งเดียว และสังหารพวกมันได้ถึงสองตัว
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่…” นางเซียนหงส์ฟ้ายิ้มหวานให้เย่ว์หยาง
นางเดินเข้าวงแขนของเย่ว์หยางอย่างเต็มใจขณะที่ใช้ริมฝีปากอ่อนนุ่มจูบเย่ว์หยางโดยไม่สนใจการปรากฏตัวของราชาเฮยอวี้เลย เมื่อนางพญาซัคคิวบัสปรากฏตัวขึ้น เพชรฆาตโบราณทั้งหมดก็เริ่มต้นฆ่ากันเองอย่างบ้าคลั่งภายใต้พลังอำนาจของนาง ถ้าไม่ใช่เพราะเสียงตวาดดุจฟ้าผ่าของราชาเฮยอวี้ปลุกพวกมันให้รู้สึกตัว พวกมันคงตายกันหมดภายใต้พลังสะกดจิตของนางพญาซัคคิวบัสแล้ว
เพชรฆาตโบราณมากกว่าสิบตัวคำรามใส่นางพญาซัคคิวบัสด้วยความโกรธ
จ่าฝูงของพวกมันพาพวกมันออกไปอย่างไม่พอใจนัก
นางพญาซัคคิวบัสผู้ฉลาดไม่ได้ไล่ตามพวกมันไปเนื่องจากนางจ้องมองเพชรฆาตโบราณสองตัวที่ใกล้ตาย ภายในนาทีเดียว ตัวที่บาดเจ็บหนักก็ตายจากอาการสมองระเบิด ขณะที่นัยน์ตาและสมองของมันระเบิดภายใต้พลังจิตของนางพญาซัคคิวบัส
ราชาเฮยอวี้จ้องมองขณะที่มือของเขาสั่นเล็กน้อย จนกระทั่งเขาตระหนักได้ว่าศัตรูแบบไหนที่เขากำลังเผชิญ
แต่เขาก็ยังคงหยิ่งและไม่ท้อแท้
เพราะว่าเขาคือราชาเฮยอวี้!
บุรุษผู้ประสบความสำเร็จในการฆ่าจักรพรรดิอวี้ผู้ทรงพลานุภาพเมื่อหกพันปีก่อน!
เขาหมุนตัวและจากไป ดูเหมือนว่าเขาต้องวางแผนใหม่ที่จะตอบโต้การร่วมมือกันของเย่ว์หยางและนางเซียนหงส์ฟ้า
***************