ตอนที่ 526 คนงามเหมือนเสือ เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้
เมื่อเห็นว่านางพญาซัคคิวบัสสามารถสังหารเพชรฆาตโบราณได้ถึงสองตัว พริบตาที่มันตายคะแนนลุยเดี่ยวสังหารเพชรฆาตโบราณของนางเซียนหงส์ฟ้าก็ขึ้นมาทันที จากนั้นเย่ว์หยางใช้กริชสังหารเทพแซะเอาผลึกสีดำในกะโหลกของพวกมันออกมาก่อนจะใช้เพลิงอมฤตกลั่นจนเป็นผลึกสีทองเข้มขนาดเท่ากำปั้น
นางเซียนหงส์ฟ้าขมวดคิ้วเล็กน้อย “พวกอสูรเหล่านี้มีหนังหนามากจริงๆ ข้าคิดว่าจะฆ่าได้สักห้าหรือหกตัว กลับกลายเป็นว่ากำจัดได้เพียงสองตัว และพวกมันก็ยังไม่ตายทันทีเสียด้วย” เมื่อนางใช้ความปรารถนาของนางควบคุมพลังกฎฟ้าของนางเพื่อขยายขนาดพลังโจมตี นางก็ตระหนักได้ว่ายังไม่ทรงพลังมากพอฆ่าเพชรฆาตโบราณได้ทั้งหมด ดังนั้นนางจึงสลับเปลี่ยนเป้าหมายไปที่เพชรฆาตโบราณสองตัวที่บาดเจ็บหนัก
ในที่สุด นางก็ยังต้องใช้นางพญาซัคคิวบัสช่วยในการโจมตีครั้งสุดท้าย
เรื่องนี้ทำให้นางเซียนหงส์ฟ้าลอบกังวล
แต่เย่ว์หยางรู้สึกว่าแค่นี้ก็น่าประทับใจเพียงพอแล้ว
เย่ว์หยางเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงระดับความยากในการฆ่าเพชรฆาตโบราณ แม้แต่หวงฉวน, เฝินเทียนและนักสู้ปราณก่อกำเนิดฟ้าคนอื่นๆ อีกหกคนก็ต้องร่วมมือกันใช้เวลาเป็นสิบนาทีกว่าจะเอาชนะได้สักตัว จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะพยายามนึกภาพให้ได้ว่าฝีมือของเพชรฆาตโบราณเป็นยังไงบ้าง
ลำพังนางเซียนหงส์ฟ้าผู้เดียวอาศัยพลังกฎฟ้าของนางสามารถฆ่าเพชรฆาตโบราณได้ถึงสองตัว
เย่ว์หยางดีใจที่พลังกฎฟ้าสูงส่งถึงระดับนั้น ยิ่งกว่านั้นนางเซียนหงส์ยังฝึกจนก้าวหน้าอย่างมากจนนางสามารถใช้จัดการกับจิตวิญญาณนางได้อย่างอิสระไม่มีข้อจำกัด ถือว่าก้าวหน้าขึ้นมากเมื่อเทียบกับครั้งก่อน ถ้าไม่ใช่เพราะลักษณะที่เด่นชัดของพลังกฎฟ้า แล้วจะทำให้ราชาเฮยอวี้กลัวและหนีไปง่ายๆ ได้ยังไง? เย่ว์หยางเก็บผลึกทองเข้มไว้และเหลียวมองไปรอบๆ ลาน “สาวน้อย! ไม่มีคนอื่นมาอีกแล้วใช่ไหม?”
“หึหึ, ถ้าหลอกเด็กซุกซนอย่างเจ้าไม่ได้ แล้วข้าจะหลอกสุนัขเจ้าเล่ห์อย่างราชาเฮยอวี้ได้ยังไง นางเซียนหงส์ฟ้ายิ้มหวานให้เย่ว์หยาง
“เฮ้อ, ขอบคุณพระเจ้า!” เรื่องที่ทำให้เย่ว์หยางมีความสุขจริงๆ ไม่ใช่เรื่องที่ราชาเฮยอวี้หนี แต่เพราะยิ่งมีคนเข้าสังเวียนมรณะน้อยเท่าใดก็ยิ่งดี
“มารกฎฟ้ารุดหน้าเข้าสู่ระดับสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดแล้วหรือนี่?”
ประกายแสงวาบออกมา ขณะที่จักรพรรดิใต้พิภพและผู้เฒ่าหนานกงออกมาจากโลกคัมภีร์
พวกเขาตกใจเมื่อได้เห็นระดับพลังของนางเซียนหงส์ฟ้า ก่อนหน้านี้ นางยังคงมีพลังด้อยกว่าพวกเขา แต่ตอนนี้นางก้าวหน้าอยู่เหนือพวกเขาไปมาก พวกเขาไม่อยากเชื่อตาตนเอง
ในกลุ่มทั้งคู่ ผู้เฒ่าหนานกงตระหนักได้ว่ามีความสนิทสนมบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างเย่ว์หยางและนางเซียนหงส์ฟ้า เนื่องจากพวกเขาทำตัวเหมือนคู่รัก เขาคาดเดาได้ทันทีว่าเป็นเย่ว์หยางที่เป็นคนช่วยให้นางเซียนหงส์ฟ้ารุดหน้าจนอยู่ในระดับสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดทำให้น่าตกใจยิ่งกว่าเดิม จักรพรรดิใต้พิภพไม่รีรอรีบทักทายนางเซียนหงส์ฟ้าและถอนหายใจเฮือกทันที “ยินดีด้วย มารกฎฟ้า ในที่สุดเจ้าก็ได้บรรลุถึงระดับสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิด ข้าละอายจริงๆ ที่ตัวเองย่ำอยู่กับที่มาร้อยปีแล้ว…”
มารกฎฟ้าทักทายและยิ้มให้เขา “จักรพรรดิใต้พิภพ, ก็แค่มีเส้นบางๆ ขวางหน้าท่านอยู่ก่อนจะเข้าถึงระดับสุดยอดปราณก่อกำเนิดเท่านั้น ท่านจะต้องยกระดับขึ้นได้แน่นอนหลังจากศึกครั้งนี้แล้ว ทำไมต้องอิจฉาข้าด้วยเล่า”
จักรพรรดิใต้พิภพมองดูเย่ว์หยางเหมือนกับว่าต้องการให้เขายืนยัน
เย่ว์หยางดีใจมาก
ดูเหมือนว่าการเข้าถึงชั้นสุดยอดปราณก่อกำเนิดจะเป็นความใฝ่ฝันของนักรบทั้งปวง แม้แต่จักรพรรดิใต้พิภพผู้ทรงพลังก็ไม่เว้น
เย่ว์หยางผงกศีรษะยืนยันรับรองให้จักรพรรดิใต้พิภพ “จักรพรรดิใต้พิภพ, ถ้ามีโอกาสดีๆ ท่านต้องพยายามฆ่าเพชรฆาตโบราณด้วยตัวท่านเอง ข้าเชื่อว่าหลังจากนั้นท่านจะยกระดับเป็นสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดในเวลาไม่นานจากนั้น” เย่ว์หยางโยนผลึกทองที่ตนเองกลั่นให้จักรพรรดิใต้พิภพ ไม่ต้องคำนึงเรื่องอื่น เราจะชนะศึกนี้ได้แน่นอน ข้าจะใช้สิ่งนี้เป็นของขวัญร่วมแสดงความยินดีล่วงหน้า ก่อนที่ท่านจะได้เป็นสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิด”
“จริงหรือ? ขอบคุณคุณชายสาม!” แน่นอนว่าจักรพรรดิใต้พิภพรู้ว่าเย่ว์หยางพยายามดึงเขามาอยู่ข้างเดียวกันด้วยวิธีเช่นนี้ แต่เรื่องนี้ทำให้จักรพรรดิใต้พิภพมั่นใจมากยิ่งขึ้น
การทรยศของราชาเฮยอวี้ ทำให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งจำนวนมาก ตอนนี้พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่คุกคามชีวิต
อย่าว่าแต่เย่ว์หยางต่อสู้มาด้วยตนเองคนเดียวมาตลอด เขากลับแสดงความจริงใจและสร้างความมั่นใจให้กับทุกคนโดยมอบของขวัญเป็นผลึกทองสีเข้มที่ประมาณค่ามิได้เพื่อให้เขาเข้าถึงระดับสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิด จักรพรรดิใต้พิภพคงโง่แน่ถ้ายังไม่เข้าใจเจตนาแฝงของเย่ว์หยาง
อนาคตของคุณชายสามย่อมมีอย่างไม่จำกัด
เขาจะได้เป็นจักรพรรดิอวี้คนใหม่แห่งหอทงเทียนแน่นอน
จักรพรรดิใต้พิภพมองดูทักษะแฝงเร้น, ศักยภาพ อุปนิสัยและปัจจัยอื่นๆ ของเขาแล้ว เขาพบว่ายังขาดแคลนอยู่มากถ้าเขาจะปกครองหอทงเทียน เขาไม่ใช่อัจฉริยะ ดังนั้นเขาจึงมองข้ามคู่แข่งที่ไร้ประโยชน์และมุ่งเน้นกับการหาพันธมิตรแทน เดี๋ยวนี้เย่ว์หยางแสดงให้เห็นความจริงใจในการเป็นพันธมิตรและมอบผลึกพลังงานของเพชรฆาตโบราณให้เขา จักรพรรดิใต้พิภพปลื้มใจอย่างแท้จริง ดังนั้นเขาตกลงใจสนับสนุนเย่ว์หยางเต็มที่ แน่นอนว่าจักรพรรดิใต้พิภพยังรู้สึกด้วยว่าเขาโชคดี ถ้าเขาไม่บาดหมางกับจักรพรรดิฟ้าปาอี้ และปล่อยให้จักรพรรดิฟ้าและราชาเฮยอวี้ร่วมมือกันต่อต้านเย่ว์หยางก่อนนั้น เย่ว์หยางคงไม่ปฏิบัติต่อเขาฉันท์มิตร และคงไม่มอบผลึกพลังงานของเพชรฆาตโบราณที่ล้ำค่าให้เขาแน่นอน
จักรพรรดิใต้พิภพไม่สามารถทำนายได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่เขายินดีทำตามเย่ว์หยาง
อัศจรรย์ คุณชายสามตระกูลเย่ว์ได้สร้างเรื่องราวมหัศจรรย์กี่เรื่องแล้ว?
ตอนนี้มารกฎฟ้ามาอยู่ช่วยที่นี่ บวกกับความเป็นไปได้ที่จักรพรรดินีราตรีและจื้อจุนกำลังจะมา พวกนางอาจพลิกสถานการณ์การต่อสู้กับราชาเฮยอวี้และจ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณก็เป็นได้
“ข้าขอยินดีด้วย จักรพรรดิใต้พิภพ ของสิ่งนี้ไม่มีประโยชน์กับข้า โปรดเก็บเอาไว้เถอะ, คุณชายสาม!” ผู้เฒ่าหนานกงให้คำตอบที่แตกต่าง เนื่องจากเขาไม่ยอมรับของขวัญของเย่ว์หยางเหมือนจักรพรรดิใต้พิภพ แต่กลับส่งคืนให้เย่ว์หยาง ผู้เฒ่าหนานกงไม่ใช่คนยืนกรานจะต้องเข้าถึงระดับสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดให้ได้ และพอใจปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า จะเสียผลึกทองให้เขา เขาอยากให้เย่ว์หยางใช้มันเพื่อยกระดับตัวเขาเอง จะเป็นหนทางดีที่สุดในการใช้ประโยชน์จากมัน
“เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องทหารโบราณ เราน่าจะพบได้ทุกวัน..” จักรพรรดิใต้พิภพเรียกวิญญาณล่องหนออกมาตนหนึ่งและให้มันเหาะขึ้นไปในอากาศคอยเฝ้าระวังทุกอย่างข้างนอก
ผู้เฒ่าหนานกงก็เรียกหิ่งห้อยออกมาตัวหนึ่ง
พวกเขาทุกคนมีวิธีรู้ความเป็นไปที่เกิดขึ้นข้างนอก แม้ว่าพวกเขาจะกลับเข้าไปในโลกคัมภีร์
หลังจากที่ตกลงจะพบกันทุกวันเพื่อปรึกษาหารือกันต่อไปแล้ว เย่ว์หยางพานางเซียนหงส์ฟ้ากลับเข้าไปในโลกคัมภีร์
แม้ว่านางเซียนหงส์ฟ้าดูราวกับว่านางจะเอาชนะได้อย่างง่ายดาย แต่ความจริงนางใช้พลังจนหมดสิ้น
ถ้าไม่ใช่เพราะนางพญาซัคคิวบัสใช้พลังสะกดจิตทำให้เพชรฆาตโบราณสูญเสียความรู้สึกและโจมตีทำร้ายกันเอง เป็นเหตุให้พวกมันหนีไปและทิ้งเพื่อนร่วมกลุ่มให้ตายสองตน พวกเขาคงไม่สามารถสังหารเพชรฆาตโบราณได้ถึงสองตนเป็นแน่ เมื่อพิจารณาจากความสามารถในการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งของพวกมัน ถ้าพวกมันไม่ถูกฆ่าตายคาที่ พวกมันจะหายเป็นปกติหลังจากได้พักสองวัน โชคดีที่นางเซียนหงส์ฟ้าขู่ขวัญราชาเฮยอวี้ให้หนีไปได้เมื่อนางปรากฏตัว ถ้าไม่อย่างนั้นเขาคงก่อกวนความวุ่นวายในการต่อสู้ และพวกเขาคงไม่ชนะได้ง่ายๆ เป็นแน่
ราชาเฮยอวี้ไม่โง่ ถ้าเขาสงบจิตใจได้และกลับมาต่อสู้ ก็คงไม่ง่ายที่พวกเขาจะเอาชนะได้
พลังกฎฟ้านั้นกินพลังงานมาก
ในวันนี้นางเซียนหงส์ฟ้าคงไม่สามารถใช้พลังงานกฎฟ้าได้อีกแล้ว นางต้องพักฟื้น… เย่ว์หยางยังคงรู้สึกว่าเขาต้องใช้โอกาสนี้เพื่อหาวิธีดีๆ ในการฆ่าเพชรฆาตโบราณให้สำเร็จทั้งหมด
เกี่ยวกับสัตว์ประหลาดอย่างเพชรฆาตโบราณ ฆ่ามันให้ได้ตัวหนึ่งดีกว่าทำให้มันบาดเจ็บสิบตัว
ภายในโลกคัมภีร์
นางเซียนหงส์ฟ้าและราชันย์ปีศาจใต้ถลึงตาใส่กันเหมือนเกิดกระแสไฟฟ้าแปลบปลาบอยู่ทุกที่
เป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ สาวงามมักจะเป็นคู่แข่งกันเสมอ!
เหมือนดังภาษิตที่กล่าวไว้ว่า หญิงงามเปรียบเหมือนเสือ เสือสองตัวย่อมอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้
สตรีทั้งสองนางนี้ต่างรู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว
พวกนางแข่งขันชิงดีชิงเด่นอยู่หลายครั้ง แม้ว่าพวกนางจะไม่ถึงกับเป็นศัตรูฉกาจต่อกัน แต่พวกนางก็ไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อกัน
“โอว.. ทำไมท่านถึงมาจนถึงนี่ได้ล่ะ?” เย่ว์หยางรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนา นางเซียนหงส์ฟ้าค้อนราชันย์ปีศาจใต้ขณะที่นางกอดเย่ว์หยางเหมือนกับว่าไม่มีใครอยู่ตรงนั้นและตอบอย่างสนิทสนม “ข้าได้ยินว่าเจ้าถูกราชาเฮยอวี้จับตัวมา ก็เลยรีบเร่งมา ทั้งยังได้พบกับชาวเผ่าปีศาจบูรพาในระหว่างทางจึงได้รู้ว่าเจ้ากำลังมาล่าสมบัติที่นี่ นั่นคือสาเหตุที่ข้าตามหาเจอ…”
“หมีสะท้านภูผาเป็นคนบอกทางเจ้าเองหรือ? พวกเขาคือคนของข้าเอง” ราชันย์ปีศาจใต้เน้นย้ำกับเย่ว์หยางว่าเป็นคนของนางนำทางมาให้ ดังนั้นนางจึงเป็นคนแรกที่มีส่วนร่วมในการต่อสู้
“ข้าก็หาทางพบโดยไม่ได้พึ่งพาเจ้าโง่ทั้งสามนั่นเลย พวกมันทำให้ข้าสับสนมากยิ่งขึ้นจนเกือบทำให้ข้าเสียเวลาไปนาน” นางเซียนหงส์ฟ้าระบุว่านางเกิดมาฉลาดอยู่แล้ว และถือว่าเป็นงานหมูๆ ที่จะหาเย่ว์หยางคนรักของนางพบ นางไม่จำเป็นต้องให้ผู้ใดนำทางให้นาง
“ฮึ่ม!!!” ราชันย์ปีศาจใต้เกลียดนางเซียนหงส์ฟ้ามากจนต้องขบฟันกรอดๆ
นางชอบเย่ว์หยางอยู่บ้าง แต่ไม่ถึงกับรักเขา
นางเพียงแต่รู้สึกอยากรู้ว่าเขาเป็นคนแบบไหนและต้องการรู้เรื่องชายหนุ่มมนุษย์น้อยผู้นี้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
หลังจากเข้ามาในโลกคัมภีร์ ราชันย์ปีศาจใต้คิดว่านางจะได้อยู่ตามลำพังกับเย่ว์หยางและได้สนทนากันดีๆ นางไม่เคยคาดคิดเลยว่านางเซียนหงส์ฟ้าจะเข้ามาด้วย สิ่งที่ทำให้ราชันย์ปีศาจใต้ไม่อาจทนได้ก็คือนางเซียนหงส์ฟ้าเข้าสู่ขอบเขตสุดยอดนักสู้ปราณก่อกำเนิดแล้ว ในอดีตพลังของทั้งสองนั้นอยู่ในระดับเดียวกัน แต่ในตอนนี้กลับทิ้งระยะห่างไกลกัน นี่ยังไม่นับว่าเป็นเรื่องกระทบกระเทือนใจที่สุด สิ่งที่ทำให้ราชันย์ปีศาจใต้อิจฉาก็คือความสัมพันธ์ของมารกฎฟ้ากับเย่ว์หยาง และพอเดาได้ว่าพวกเขาเป็นคนรักกันแล้ว
ราชันย์ปีศาจใต้รู้สึกว่าสมบัติที่นางหมายปองถูกคนอื่นขโมยไป นางจึงรู้สึกขมขื่นอยู่ภายในใจ
ยิ่งกว่านั้นนางยังไม่สามารถประณามพวกเขาได้เลย
ทั้งนี้เพราะเย่ว์หยางไม่ใช่คนรักของนางและพวกเขาเป็นแค่เพียงเพื่อน นางแทบไม่ได้รับการยอมรับในฐานะสหายร่วมศึกกับเย่ว์หยางเลย
“แล้วท่านเข้ามาได้ยังไง?” เย่ว์หยางสงสัยเล็กน้อย เป็นไปได้หรือที่จะมีทางเข้าสังเวียนมรณะได้ตามปกติ
“มีประตูเทเลพอร์ตขนาดยักษ์อยู่ข้างนอก ในตอนแรกข้าไม่สามารถเข้ามาได้แม้แต่น้อย แต่ในที่สุดมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างและข้าเข้ามาได้อย่างราบรื่น” เมื่อนางเซียนหงส์ฟ้าพูดถึงตรงนี้แล้ว เย่ว์หยางคาดได้ทันทีว่าสังเวียนมรณะคงจำกัดจำนวนคนเข้ามาข้างใน ถ้าราชาเฮยอวี้ไม่ได้หักหลังฆ่าคนไปหลายคน นางเซียนหงส์ฟ้าก็คงไม่สามารถเข้าสังเวียนมรณะได้
ราชาเฮยอวี้ใช้เพชรฆาตโบราณสังหารนักสู้ปราณก่อกำเนิดต่างเผ่าพันธุ์ไปสิบกว่าคน
ด้วยบทลงโทษประหารชีวิต ทำให้เพิ่มเพชรฆาตโบราณและแม่ทัพเพชรฆาตโบราณและจ้าวอสูรเพชรฆาตโบราณเพิ่มเข้ามา สังเวียนมรณะไม่เพียงแต่ต้องการให้ผู้เข้าร่วมทุกคนตายอย่างสิ้นหวังเท่านั้น แต่บางทีอาจเปิดประตูให้คนเข้ามาช่วยมากขึ้น
ปัญหาก็คือ เมื่อมีคนเข้ามามากขึ้น อัตราคนบาดเจ็บล้มตายจะเพิ่มขึ้นและสถานการณ์จะยุ่งเหยิงมากยิ่งขึ้น
เย่ว์หยางไม่อาจพูดยืนยันได้ว่าผลสุดท้ายจะออกมาเป็นเช่นไร
เขาสามารถทำได้เพียงรอจักรพรรดินีราตรีและจื้อจุนเข้ามาถึง และดูว่าพวกนางจะแข็งแกร่งเพียงไหน ถ้าพวกนางแข็งแกร่งทรงพลังพอ อย่างนั้นก็จะเป็นประโยชน์ต่อเขา ถ้าไม่อย่างนั้นเขาต้องคิดหาวิธีอื่น
เย่ว์หยางปรารถนาจะพบเทพธิดากระบี่ฟ้า นางน่าจะมีวิธีจัดการรับมือสถานการณ์ปัจจุบัน
ถ้าเย่ว์หยางสามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ อย่างนั้นเขาหวังว่าจักรพรรดินีราตรีและจื้อจุนจะไม่มา
“หนุ่มน้อย! ข้าปวดเมื่อยแทบตายแล้ว เรากลับไปพักกันเถอะ!” นางเซียนหงส์ฟ้ากอดจูบเย่ว์หยางต่อหน้าราชันย์ปีศาจใต้ จากนั้นดึงมือของเขามาวางแปะที่หน้าอกมหึมาของนาง แม้ว่าทั้งคู่จะยังไม่เป็นสามีภรรยาอย่างเป็นทางการ แต่พวกเขาก็ทำทุกอย่างเหมือนคู่สมรสที่มีต่อกัน ดังนั้นนางจึงไม่ต้องใส่ใจในการจับเนื้อต้องตัวของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหญิงงามอื่น ถือว่าเป็นการประกาศกลายๆ ว่าชายคนนี้เป็นของนาง
“…..” ราชันย์ปีศาจใต้รู้สึกเหมือนว่านางสามารถกินน้ำส้มสายชูได้ถึงสามชาม (หมายถึงหึง)
เย่ว์หยางแกล้งทำเป็นไม่เห็น
เขาไม่มีเวลาหยอกเย้ากับราชันย์ปีศาจใต้ เนื่องจากปัจจุบันเป้าหมายหลักของเขาอยู่ที่สาวน้อยมารกฎฟ้า พวกเขาไม่ได้พบกันมานานแล้ว ที่สำคัญ เขาคิดถึงนางอย่างสุดซึ้งเช่นกัน
เขาอุ้มนางเซียนหงส์ฟ้าและเดินกลับเข้าไปในห้องของเขา ราชันย์ปีศาจใต้ขยี้เท้าด้วยความขัดเคืองพลางสบถเขาด้วยเสียงเบาๆ “เจ้าลามก” ตอนแรกนางตั้งใจจะกลับเข้าไปในโลกคัมภีร์ของนาง แต่ความคิดที่สองก็แว่บขึ้นมา นางกรอกตาไปมาและรั้งอยู่ต่อ ท่าทางเหมือนกับว่านางไม่ยินยอมจะรับความพ่ายแพ้ในลักษณะนี้
เด็กสาวยักษ์ยังคงหลับและกรนอย่างน่ารัก
ทหารหญิงโบราณมากกว่าสิบนางเอนตัวพิงนางอย่างเหนื่อยอ่อน บางคราพวกนางก็ผลัดกันรักษาเด็กสาวยักษ์