เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ – ตอนที่ 530 – แผนปราดเปรื่องของนางเซียน

ตอนที่ 530 แผนปราดเปรื่องของนางเซียน

เด็กสาวยักษ์ตัวหดลงอย่างรวดเร็วจากส่วนสูงขนาดตึกระฟ้าจนในตอนนี้สูงราวๆ สิบห้าเมตร

“เป็นไปไม่ได้!” แม้แต่เด็กสาวยักษ์ก็ยังไม่อาจเชื่อเลยว่านี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับนาง ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นๆ ที่แทบจะไม่เชื่อสายตาของพวกเขา กระทั่งมังกรไร้เขาเจี้ยงอิง, ราชันย์ปีศาจใต้, นางเซียนหงส์ฟ้าพากันตกตะลึงไปทั้งหมด มีเพียงเสี่ยวเหวินหลีและนางพญากระหายเลือดที่เคยได้เห็นเวทของสาวกิเลนปิงหยินเมื่อคราวเผชิญกับม่านพลังสีทอง ต่างก็รู้ว่าสาวกิเลนปิงหยินทรงพลังขนาดไหน

“พลังความสามารถไม่ได้อ่อนแอลง ต่อให้ย่อตัวลงแล้วก็ตาม….” เย่ว์หยางเสียดายเล็กน้อย ถ้าเป้าหมายอ่อนแอลงหลังจากถูกย่อลงแล้ว อย่างนั้นไม่ว่าเพชรฆาตโบราณจะมีจำนวนมากเพียงใด หลังจากย่อพวกมันลงได้หมดแล้ว กลุ่มของเขาก็สามารถลุยทุบตีพวกมันได้ทันที ขณะที่ราชาเฮยอวี้คงถูกย่อลงเหมือนเม็ดถั่ว เขาสามารถฆ่าได้ทันทีด้วยการเหยียบทีเดียวเท่านั้น

“นอกจากนี้ยังคงมีเวทที่ลดพลังของคู่ต่อสู้ขณะย่อขนาดตัวพวกเขา แต่นั่นจะต้องใช้สมบัติพิเศษช่วยเป็นการเฉพาะ” สาวกิเลนปิงหยินยิ่งพอใจกับตัวนางเองมาก ปรากฏว่านางยังมีไม้ตายอยู่กับตัวเองอีกมากมาย

“จริงเหรอ?” เมื่อได้ยินเช่นนี้ เย่ว์หยางนัยน์ตาเป็นประกาย

“ฮ้าววว, ข้าเหนื่อยมากแล้ว จะกลับไปนอนล่ะ!” เมื่อเห็นว่าเย่ว์หยางเตรียมจะใช้ให้นางทำงานหนัก สาวกิเลนปิงหยินรีบหลบเลี่ยงบ่ายเบี่ยงทันที

“เมื่อไหร่ข้าจะสามารถกลับคืนร่างเดิมได้ล่ะ?” เด็กสาวยักษ์รีบถาม แต่ก่อนที่นางจะได้ทันอ้าปาก สาวกิเลนปิงหยินก็เผ่นกลับเข้าไปนอนในคัมภีร์เทพฤทธิ์แล้ว พอมองดูมือของนางและกลุ่มคนบนพื้น เด็กสาวยักษ์ก็มีความสุขมากทันที “ข้ายังไม่คุ้นกับขนาดที่เล็กลงอยู่บ้าง แต่ความรู้สึกแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน… ข้าชักหิวแล้วสิ มีอะไรอร่อยๆ บ้างไหม เอาออกมาเร็ว… ผลึกปีศาจน่ะเหรอ? ข้าไม่กินผลึกปีศาจ ข้าไม่ใช่อสูรสักหน่อย ข้าเป็นไตตันโบราณ ข้ากินเนื้อ ข้าอยากได้เนื้อย่างอร่อยๆ”

“เนื้อย่างเหรอ?” เรื่องนี้ทำให้เย่ว์หยางลำบากใจอยู่บ้าง ขนาดของกระเพาะของเด็กสาวยักษ์นี้ ต่อให้เป็นม้าทั้งตัวก็คงไม่พอติดซอกฟันของนาง คงยากมากที่จะทำให้นางอิ่มได้!

“เจ้ากินเพชรฆาตโบราณได้หรือเปล่า?” นางพญากระหายเลือดต้อนรับแขกแทนเจ้านายนางด้วยไมตรีอบอุ่น

โคเงาอาหมันเริ่มลากศพเพชรฆาตโบราณมาวางไว้

บึ้ม!

นางโยนมันลงบนพื้น

ทุกคนแทบล้มระเนระนาด ไอ้ของแบบนี้กินได้ด้วยเหรอ?

สาวงามเผ่ามนุษย์สุนัขกระดิกหางเบิกตากว้าง “พี่เย่ว์หยาง คงไม่กินอาหารที่ทำให้ท้องร่วงกระมัง?”

นางพญากระหายเลือดตอบด้วยความมั่นใจแทนเย่ว์หยาง “ไม่นะ, ตั่วตั่วเพิ่งกินไปตัวหนึ่งนี่เอง หลังจากย่อยเสร็จแล้วนางเตรียมจะกินตัวที่เหลือ… แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่ารสชาติเป็นยังไง แต่ข้าว่าอย่างน้อยก็กินได้นะ”

เย่ว์หยางฟังแล้วแทบจะเป็นลม

ทะเลดอกหนามของนางพญาดอกหนามมงกุฎทองสามารถย่อยได้กระทั่งโลหะ ไม่มีอะไรที่นางกินไม่ได้ จะเอานางมาใช้เป็นแบบอย่างย่อมทำไม่ได้อย่างสิ้นเชิง

อย่างไรก็ตาม เด็กสาวยักษ์ยอมเชื่อง่ายๆ เมื่อได้ยินว่ามันกินได้ นางเริ่มจิ้มนิ้วมาที่เย่ว์หยางจนเย่ว์หยางเกือบหงายหลัง “พี่เย่ว์หยาง, ปิ้งด่วนเลย! ข้าหิวแล้ว….”

“ความจริงข้าไม่ใช่นักปิ้งเนื้อที่ดี!” ในอดีต เย่ว์หยางเคยได้ยินว่า ทักษะปิ้งเนื้อเป็นหนึ่งในทักษะของเอกบุรุษที่คนเดินทางข้ามมิติพึงมี คนที่เดินทางเข้ามิติอื่น ต่อให้ไร้ความสามารถทุกอย่าง แต่จะต้องมีดีที่ฝีมือปิ้งเนื้อ เมื่อมาถึงโลกนี้แล้วยังไม่รู้วิธีปิ้งเนื้อถือว่าเป็นเรื่องที่น่าอาย พอๆกับเวลาเดินทางไปยังจีนยุคโบราณแล้วไม่รู้จักวิธีจัดเตรียมดินปืน, ทำหนังสือพิมพ์, ทำการเกษตร, ผสมซีเมนต์หรือผลิตกระแสไฟฟ้า ถ้าเขาไม่รู้วิธีปิ้งเนื้อ นี่จะเป็นจุดเสียโดยตรง เขาจะทนรับได้ยังไงเมื่อมีมังกรยักษ์ในโลกอื่นใจจดใจจ่อน้ำลายหกรอกินเนื้อย่างจากเขา

ปกติ ตราบเท่าที่เนื้อย่างถูกนำออกมา มังกรยักษ์ทุกตัวจะต่อสู้กันเพื่อให้เจ้านายของมันประทับใจยอมรับพวกมัน

ทั้งนี้เพราะพวกมันไม่เคยได้กินเนื้อย่างอร่อยๆ นั่นเอง

และตั้งแต่นั้นมา เพื่อให้ได้อาหารอร่อย พวกมันตัดสินใจติดตามเจ้านายมัน

เย่ว์หยางเพิ่งจะเริ่ม แต่เขาจะย่างเนื้อให้ได้ผลเช่นเดียวกันได้หรือไม่? เป็นไปได้ไหมที่เด็กสาวยักษ์นี้จะพอใจจากการกินเนื้อย่าง และเพื่อเห็นแก่ท้อง นางจะตัดสินใจติดตามเขาหรือไม่? และจากจุดนั้นนางจะกลายเป็นพันธมิตรที่ทรงพลังของเขาหรือไม่?

อย่างไรก็ตาม ความคาดหวังและความเป็นจริงมักแตกต่างกันเสมอ คำตอบที่เย่ว์หยางได้รับก็คือ…

“เนื้อย่างนี่ รสชาติเหลือทนจริงๆ เนื้อก็แข็งเกินไป ข้ากัดไม่ค่อยจะเข้าเลย! ฟันฟางข้าแทบหักหมดแล้ว!” นี่เป็นเสียงร้องอุทธรณ์ของสาวงามเผ่ามนุษย์สุนัข

“ข้ารู้สึกเหมือนว่าไม่มีความเค็มอยู่เลย!” เมื่อลองชิมดูแล้ว ราชันย์ปีศาจใต้กลับให้คำตอบที่ทำร้ายจิตใจอีก

“และมันยังไม่ได้ผ่านการปรุงรสเลย” สาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงพยักหน้าก่อนแอบหัวเราะ

“…..ดีแล้วล่ะ ที่ข้าไม่ลองด้วย…” นางเซียนหงส์ฟ้าชื่นชมยินดีในคราเคราะห์ของคนอื่น ขณะที่นางพญาซัคคิวบัสลองชิมหนึ่งชิ้นอย่างไม่เต็มใจ อย่างไรก็ตามนางขมวดคิ้วทันที นางมีแนวโน้มว่าเสียใจที่ต้องวิจารณ์เขา

“เฮ้ เฮ้, นี่ไม่มีอะไรเกี่ยวกันนี่ ข้าจะปิ้งเนื้อได้ดีแค่ไหน นี่เป็นความผิดของเจ้าเพชรฆาตงี่เง่า เนื้อของมันแข็งอย่างกะเหล็ก ดีแค่ไหนแล้วที่ข้ายังแล่มันออกไปปิ้งได้ ใครบอกว่าข้าไม่ใส่เกลือ ข้าเติมเครื่องเทศลงไปตั้งเยอะแยะ แต่พวกเจ้าคิดว่าเติมเครื่องเทศลงไปแล้ว จะทำให้โลหะรสชาติดีขึ้นได้เหรอ?” เย่ว์หยางหัวฟัดหัวเหวี่ยง เป็นไปไม่ได้ที่จะปิ้งเนื้อเพชรฆาตโบราณด้วยไฟธรรมดา มันต้องเป็นบัวเพลิงฟ้าพิโรธถึงจะทำได้ นอกจากนี้เขาต้องใช้ดาบวิเศษฮุยจินและดาบจันทร์เสี้ยว กว่าจะตัดเนื้อมาสักชิ้นสองชิ้นมาย่างได้ก็สิ้นเปลืองเรี่ยวแรงไปมาก

“แต่มันห่วยจริงๆ นะ ช่างมันเถอะ ขอให้อิ่มได้เป็นพอ” เด็กสาวยักษ์ไม่ได้ตั้งมาตรฐานอาหารการกินไว้สูงส่งแต่อย่างใด ตราบเท่าที่นางยังอิ่มท้องได้

“วันนี้คงไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ว่าแต่พรุ่งนี้เราจะทำยังไงกันดี?” ราชันย์ปีศาจใต้ตระหนักว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะหาอาหารเลี้ยงเด็กสาวยักษ์ ประการแรก นางกินจุจริงๆ ประการที่สอง พวกเขาติดอยู่ในโลกคัมภีร์ และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พวกเขาจะออกไปได้ ขณะที่วันคืนล่วงผ่านไป พวกเขาจะรอดอยู่ได้ยังไง? พวกเขาเพิ่งฆ่าเพชรฆาตโบราณไปได้สี่ตน และนางพญาดอกหนามมงกุฏทองก็กินไปหนึ่งตนแล้ว ตอนนี้พวกเขาปิ้งเพชรฆาตโบราณอีกตนหนึ่ง ก็ยังเหลืออยู่เพียงสองตน

“อย่าโง่เลยน่า, น้ำค้างทิพย์หยดเดียวก็ช่วยให้นางอยู่ได้หนึ่งวันแล้ว เย่ว์หยางมีน้ำค้างทิพย์เยอะ เรื่องแค่นี้จะเป็นปัญหาได้ยังไง” นางเซียนหงส์ฟ้าไม่คิดว่าเป็นปัญหา ปัญหาที่แท้จริงก็คือพวกเขาจะล่าศัตรูได้มากขึ้นอย่างไรในเมื่อศัตรูไม่เพียงแต่เพิ่มจำนวนขึ้นเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความแข็งแกร่งอีกด้วย

“เจ้ามีน้ำค้างทิพย์ด้วยเหรอ?” เมื่อได้ยินว่าเย่ว์หยางมีน้ำค้างทิพย์ ราชันย์ปีศาจใต้ส่งขวดหยกให้เขาอย่างดีใจ “ข้าขอสักขวดเล็กๆ หน่อยเถอะ….”

“นี่ไม่ใช่น้ำแร่นะ, ยิ่งกว่านั้นเจ้ายังไม่ต้องรีบร้อนใช้มัน” เย่ว์หยางปฏิเสธนาง

ขวดหยกใหญ่ขนาดนั้น ถ้าเขาให้นางสักขวด เขาก็ไม่ยังไม่เต็มใจอยู่ดี

ขณะที่ร้องเรียกเย่ว์หยางว่าคนขี้ตืด ราชันย์ปีศาจใต้ยังคงตามกวนใจเขาต่อไป สำหรับน้ำค้างทิพย์ นางอยากได้แม้แต่ในยามฝันก็ตาม

ได้เท่าใดก็นับว่าดี

โชคไม่ดีที่เย่ว์หยางก็คิดแบบนี้เหมือนกัน

ถ้านางขอโดยตรง เย่ว์หยางก็คงไม่ให้อย่างแน่นอน ถ้าใครบางคนต้องการน้ำค้างทิพย์เพื่อช่วยชีวิตหรือฟื้นฟูสภาพ นั่นอาจยังพอคุยกันได้ เขาหาข้ออ้างเพื่อไปฝึกและหลบเลี่ยงไป แม้ว่าราชันย์ปีศาจใต้ต้องการจะติดตาม แต่นางถูกนางเซียนหงส์ฟ้าห้ามเอาไว้ “ให้เราได้แนะนำตัวหน่อยนะ ข้าคือมารกฎฟ้าเป็นภรรยาที่ยังไม่ได้ประกอบพิธีแต่งงานของเย่ว์หยาง แล้วเจ้าล่ะ?”

ทันทีที่นางพูดเช่นนั้น นางถือความได้เปรียบไว้อย่างสิ้นเชิง

ราชันย์ปีศาจใต้เดี๋ยวทำอ้าปากแล้วก็หุบปาก แต่นางก็ไม่อาจเปล่งคำพูดได้แม้แต่คำเดียว

เจี้ยงอิงกลับตรงกันข้าม สาวมังกรไร้เขาก้มหน้ามองพื้น หน้าของนางแดงซ่าน นางบิดนิ้วไปมาจนซีดกล่าวอย่างเขินอายว่า “ข้า ข้าชื่อเจี้ยงอิง เย่ว์หยางกับข้ารู้จักกันได้ไม่นานนัก ตอนแรกข้าต้องการให้เขาช่วยข้ายกระดับเป็นอสูรในตำนาน แต่ต่อมาเรากลับทำสัญญากันและข้าก็ได้ติดตามเขาตั้งแต่นั้นมา…”

สำหรับสาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงนี้ นางเซียนหงส์ฟ้าไม่ได้ต่อต้านคัดค้านนางแม้แต่น้อย เจี้ยงอิงคืออสูรพิทักษ์ของเย่ว์หยาง นางไม่มีทางทรยศเขา ดังนั้นนางเซียนหงส์ฟ้าจึงวางใจได้มาก สำหรับราชันย์ปีศาจใต้ นางเป็นผู้มีความงามโดดเด่น กำเนิดนางลึกลับและสง่าราศีนางบ่งบอกว่าเป็นคนชั้นสูง นางมีวิธีการทำหลายๆ อย่างด้วยตนเอง บวกกับทัศนคติของคนที่เคยอยู่ในตำแหน่งสูงสุด นางไม่ใช่สตรีธรรมดาแน่นอน นางเซียนหงส์ฟ้ารู้สึกว่าราชันย์ปีศาจใต้เป็นคู่แข่งความรักของนาง

คู่แข่งความรักคืออะไร?

นี่ไงเล่า คู่แข่งความรัก!

“เจี้ยงอิง! เจ้าใช่มาจากเผ่าปีศาจบูรพาหรือเปล่า? เจ้าทำสัญญากับเย่ว์หยางได้ยังไง?” ราชันย์ปีศาจใต้ยังคงไม่แน่ใจในสถานการณ์เล็กน้อย ความจริงนางหึงอยู่เล็กน้อย

“ข้าแตกต่างจากสมาชิกเผ่าปีศาจบูรพาดั้งเดิม แม้ว่าท่านปู่ของข้าจะเป็นมังกรไร้เขาจากเผ่าปีศาจบูรพา แต่ย่าของข้าเป็นนางพญามังกรทอง ท่านตาของข้าเป็นจ้าวมังกรเงินขณะที่ท่านยายของข้าเป็นนางพญาแมงมุม สายเลือดของข้าส่วนหนึ่งเป็นอสูรซึ่งเป็นเหตุให้ข้าสามารถทำสัญญาได้เช่นกัน” ความจริงสาวมังกรไร้เขาเจี้ยงอิงละอายใจเรื่องสายเลือดของนางเล็กน้อย เพราะนางเป็นพวกเลือดผสม นางจึงไม่มีทางเลือก ได้แต่ทำสัญญากับคัมภีร์เพื่อกลายเป็นอสูรในตำนาน ขณะที่การเป็นพวกเลือดผสมทำให้นางมีพลังมหาศาล แต่ก็ยังนำปัญหาใหญ่มาทำให้นางไม่สามารถทำสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ โชคดีที่เย่ว์หยางปรากฏตัวและช่วยให้นางสามารถทำสัญญากับคัมภีร์ได้ มิฉะนั้นนั่นคงเป็นความเสียใจชั่วชีวิตของนาง

“ความจริง แม้แต่สมาชิกเผ่าปีศาจบูรพา ก็ไม่ใช่ว่าจะทำสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ง่ายๆ จะง่ายสำหรับพวกอยู่ในราชตระกูล สำหรับคนธรรมดาจากเผ่าปีศาจบูรพา แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย” ราชันย์ปีศาจใต้บอกความลับของนางอย่างหนึ่ง

“ตอนนี้เราจะทำยังไงดี?” เจี้ยงอิงเพิ่งฟื้นขึ้นมาและต้องการช่วยเย่ว์หยางจริงๆ อย่างไรก็ตาม นางยังคงไม่แน่ใจในสถานการณ์

“ถ้าพวกเจ้าทุกคนพร้อมจะร่วมมือ ข้ามีความคิดดีๆ…” นางเซียนหงส์ฟ้ามุ่งมั่นที่จะชิงตำแหน่งผู้นำ ถ้าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเสวี่ยอู๋เสียอยู่ที่นี่ นางคงไม่กระตือรือร้นแสดงพลังแน่ แต่อยู่ต่อหน้าราชันย์ปีศาจใต้ ไม่มีทางที่นางจะปล่อยให้ราชันย์ปีศาจใต้ชิงความได้เปรียบ

“ว่าไป!” แม้ว่าราชันย์ปีศาจใต้จะไม่พอใจอยู่มาก แต่เนื่องจากสถานภาพและทักษะของนาง นางทำได้แต่เพียงฟังนางเซียนหงส์ฟ้า

อีกหนึ่งวันต่อมา

ขณะที่ใช้สนามพลังมืดเพื่อดูดซับพลังงานที่กระจัดกระจายจากนักสู้ปราณก่อกำเนิดที่เสียชีวิต ราชาเฮยอวี้รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ สัญชาตญาณบอกเขาว่าต้องมีบางอย่างที่ผิดพลาด

ไม่มีการสู้รบตลอดทั้งวัน….

หวงฉวนและเย่ว์หยางอยู่ในตำแหน่งตรงกันข้าม ตะวันออกและตะวันตก และไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ต่อกันแม้แต่น้อย

ปัญหาคืออะไร?

เพียงแค่อาศัยสัญชาตญาณนักรบคนหนึ่ง ราชาเฮยอวี้รู้สึกว่าหลายๆ อย่างไม่ถูกต้อง แต่เขายังไม่สามารถพบได้ว่าปัญหาคืออะไร

หลังจากสังเกตและขบคิดอยู่นานสองชั่วโมง ราชาเฮยอวี้ก็นับจำนวนเพชรฆาตโบราณ เขาตกตะลึงเมื่อรู้ว่าเพชรฆาตโบราณที่ลาดตระเวนทางด้านหวงฉวนไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ทางด้านเย่ว์หยางเพชรฆาตโบราณหายไปหกตน และจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณหายไปอีกหนึ่งตน นี่จะบอกว่า เย่ว์หยางเจ้าเด็กนั่นสามารถสังหารเพชรฆาตโบราณได้หกตนและจ่าฝูงเพชรฆาตโบราณได้อีกตนหนึ่งโดยที่เขาไม่รู้ตัวก็ได้

เขาทำได้อย่างไร?

ไม่มีทางเป็นไปได้ที่เขาจะสามารถฆ่าเพชรฆาตโบราณมากมายถึงเจ็ดตนได้โดยไม่เกิดเสียงเลย

ยิ่งกว่านั้น ยังมีเพชรฆาตโบราณจำนวนเป็นสิบลาดตระเวนในแต่ละครั้ง ไม่มีเหตุผลที่พวกมันจะไม่ตอบโต้ถ้าพวกมันเห็นว่าสหายของพวกมันถูกฆ่า ต่อให้พวกมันไม่โจมตี ก็ต้องมีเสียงสับสนวุ่นวาย

ไม่ว่าสายฟ้าของมารกฎฟ้า, วงจักรล้างโลกและเพลิงอมฤตจะทรงพลังขนาดไหนก็ตาม ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะสังหารเพชรฆาตโบราณได้ทันที… ราชาเฮยอวี้วิ่งไปที่ลานแก้วผลึก แต่ก็ยังไม่พบเห็นเบาะแส เหมือนกับว่าเพชรฆาตโบราณทั้งเจ็ดหายตัวไปเหมือนควันไฟ หลังจากคิดอยู่นาน ราชาเฮยอวี้ก็เข้าใจได้ทันที อกของเขาแทบจะระเบิดด้วยความโกรธ แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้..

เขารู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

เป็นการกระทำของมารกฎฟ้า! นางพญาซัคคิวบัสเก่งในเรื่องสะกดจิต

นางคงสะกดจิตเพชรฆาตโบราณให้เข้าไปในโลกคัมภีร์ของนางจากนั้นให้เย่ว์หยางฆ่าพวกมัน วิธีนี้จะใช้ไม่ได้ผลกับสิ่งมีชีวิตที่ฉลาด แต่สำหรับเพชรฆาตโบราณเกือบทั้งหมดจะไม่มีปัญญา วิเศษมาก

“คอยดู เราจะได้เห็นกันว่าใครจะได้หัวเราะเป็นคนสุดท้าย” ราชาเฮยอวี้พ่นคำเหล่านี้ออกมาก่อนจะหันกลับออกมาจากลานแก้วผลึก

เมื่อเขากลับมา ราชาเฮยอวี้ใช้วิธีการประหลาดบางอย่าง ทำให้หลังจากนั้นไม่มีเพชรฆาตโบราณมาลาดตระเวณทางฝั่งของเย่ว์หยางต่อไป พวกมันรวมตัวกันอยู่ที่กลางลานแก้วผลึก รอคอยเวลาอยู่เงียบๆ

ราชาเฮยอวี้กำลังแข่งกับเย่ว์หยางในเรื่องความอดทน

ยิ่งเวลาผ่านไปมากเท่าใด ก็ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อเขามากเท่านั้น

ในโลกคัมภีร์ นางเซียนหงส์ฟ้าถอนหายใจ “ราชาเฮยอวี้รับมือไม่ง่ายจริงๆ ข้าคิดว่าจะต้องใช้เวลามากกว่าสองวันเขาถึงจะรู้ว่ามีความผิดปกติ”

เย่ว์หยางปลอบนาง “แม้ว่าการสะกดจิตล่อลวงให้เพชรฆาตโบราณเข้ามาในโลกคัมภีร์จะเป็นแผนที่ดี แต่ก็ไม่ใช่แผนระยะยาว ทุกคนไม่ต้องตื่นเต้น ข้าสามารถเตรียมแผนอื่นไว้แล้ว… ด้วยผลึกทองปีศาจจากเพชรฆาตโบราณ บางทีข้าอาจเตรียมแผนดีๆ ก็ได้….”

วิธีลึกลับที่เขาพูดสร้างความสับสนให้กับนางเซียนหงส์ฟ้าและคนอื่นๆ อย่างสิ้นเชิง

มีเพียงเสี่ยวเหวินหลีที่รู้ว่าเย่ว์หยางเตรียมตัวเข้ามิติหลุมดำเพื่อไปเยี่ยมมารดาของเธอ

 

*************

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์

LLS, Triệu Hoán Vạn Tuế, Zhaohuan Wansui, 召唤万岁
Score 7.6
Status: Ongoing Type: Author: , Released: 2010 Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง Long Live Summons เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ ทวีปมังกรทะยานคือโลกแห่งการอัญเชิญ คุณจะกลายเป็นคนแข็งแกร่งได้ ถ้าเพียงแต่คุณเป็นผู้อัญเชิญ! ยิ่วหยางเด็กนักเรียนมัธยมปลายธรรมดาถูกส่งเข้ามาในโลกนี้อย่างฉับพลันทัน ด่วน เมื่อเขาฟื้นขึ้นกลับได้พบใบหน้าของหลายคนที่เต็มไปด้วยความห่วงใย และพบว่าเขาเป็นตัวตนของอีกคนหนึ่ง กลับกลายเป็นว่าเขาเป็นบุตรที่ไม่เอาไหนของตระกูลยิ่ว จนถึงกับโดดน้ำตายเพราะถูกปฏิเสธการหมั้น อีกทั้งไม่สามารถจะทำพันธสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้ แต่ยิ่วหยางกลับประสบความสำเร็จทำสัญญากับคัมภีร์ ส่วนเรื่องราวจะเป็นเช่นไรต่อไป ขอเชิญติดตามดูครับ ความจริงในการแปลครั้งนี้มาจากแรงบันดาลใจที่ไม่ได้จะเป็นนักเขียนนักแปล หรอกครับ เกิดจากการอ่านมันฮัวการ์ตูนของจีนแล้วชอบ พยายามหาดูที่แปลเป็นอังกฤษ ก็แปลกันไปได้น้อยนิด แต่พอดูฉบับนิยายรู้สึกว่าเขาแปลไปได้เยอะ จึงลองเข้าอ่าน แต่เพราะความที่ภาษาไม่แข็งแรง จึงต้องดูไป เปิดดิคฯ ไปใช้โปรแกรมแปลช่วยบ้าง มีความรู้สึกว่าอ่านไม่ต่อเนื่อง จึงคิดว่าน่าจะแปลข้อมูลเก็บไว้ในเว็บๆ หนึ่งแล้วค่อยอ่านเป็นตอนๆ ให้ต่อเนื่องไปเลยดีกว่า แล้วก็นึกถึงที่นี่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset