===============
จุดเริ่มต้นของวงกตศิลาดำมีเพียงถนนสายเหนือและใต้เท่านั้น ขณะที่เดินผ่านไป ก็จะพบทางแยกมากขึ้นเรื่อยๆ จนนับไม่ไหว แม้แต่ทหารผ่านศึกที่มีประสบการณ์โชกโชนก็ยังหลงได้ง่ายๆ
แน่นอน ไม่ว่าแยกจะมีมากแค่ไหนก็ตาม ทั้งหมดก็จะมาบรรจบที่จุดสิ้นสุดของเขาวงกต
นั่นคือภายใต้ต้นโอ๊คดึกดำบรรพ์อายุหมื่นปี
เฉพาะผู้ที่โชคดีเพียงพอเดินผ่านมาที่จุดนี้ก็อาจได้รับ “หัวใจต้นโอ๊ค”
อย่างไรก็ตาม หัวใจต้นโอ๊คนี้จะเพิ่มความสามารถให้สัตว์อสูรสายพฤกษาซึ่งเป็นรางวัลที่ได้รับมาเมื่อเทียบกับแก้วผลึกของอสูรสายอื่น เช่น ผลึกปฐมภพ, วิญญาณสัตว์อสูร, ภาพจริงระดับเริ่มต้นและอื่นๆ ตามปกติจะไม่มีคนเต็มใจเข้าไปทดสอบในพื้นที่อย่างวงกตศิลาดำซึ่งไม่ได้ช่วยอะไรกับสัตว์อสูรของพวกเขาเท่าใดนัก ถึงอย่างนั้น หลังจากผ่านไปหลายพันปี แม้จะไม่เป็นที่รู้กันว่าเครื่องมือพัฒนาอสูรสายพฤกษาจะมีมามากแค่ไหน แค่เพียงป้ายแกะสลักบอกทางที่วงกตศิลาดำก็มีมากจนผู้คนตาลายได้
เย่ว์หยางรู้สึกกังวลเล็กน้อย ในวงกตศิลาดำ มีกฎต้องห้ามอยู่เพียงข้อเดียวที่เหมือนๆ กัน
เขายังไม่สามารถทำอะไรเป็นการส่วนตัวได้
หลังจากผ่านไปหนึ่งวัน ถ้าโคเงาถูกเรียกไปแล้ว จะไม่สามารถเรียกหนูเบญจธาตุค้นสมบัติ ตรงกันข้ามถ้าหนูเบญจธาตุค้นสมบัติถูกเรียกมาใช้โคเงาต้องรอไปอีก 1 วันถึงจะเรียกออกมาได้
โชคดี ยังมีฮุยไท่หลางที่ไม่ได้ทำสัญญาไว้
“ท่านทั้งสามรวมเป็นกลุ่มหนึ่ง ถ้าพวกท่านพบเย่ว์ปิงก่อน อย่างนั้นพวกท่านต้องคุ้มกันนางให้ปลอดภัยอย่างดี ข้ายินดีจ่ายรางวัลเพิ่มให้ท่าน ถ้าพวกท่านไปถึงจุดปลายทางโดยไม่พบเย่ว์ปิงก่อน อย่างนั้นก็ให้ออกจากวงกตไปรอข้าอยู่ที่สมาคมนักรบ” เย่ว์หยางแยกกับเย่คงและพี่น้องสกุลหลี่ เขาเลือกมุ่งหน้าไปทางใต้ ขณะที่อีก 3 คนขึ้นไปทางเหนือเพื่อตามหาเย่ว์ปิงที่หายเข้าไปข้างในถึง 2 วันแล้ว
เดิมที เย่คงต้องการให้หลี่เกออยู่ข้างๆ เย่ว์หยางคอยคุ้มกันเขา แต่พอคิดเรื่องที่เขาสำเร็จภารกิจหลังจากเข้าไปในวิหารราศีเมษโดยไม่ได้รับบาดเจ็บเลย เขาจึงหยุดไม่พูดอะไรอีกต่อไป
ที่สำคัญคือ เย่ว์หยางยังมีอสูรชั้นทองแดงระดับ 4 อย่างฮุยไท่หลางอยู่ด้วย
แม้ว่าจะมีสัตว์ประหลาดอาศัยอยู่ในวงกตศิลาดำอยู่มาก พวกมันเกือบทั้งหมดก็ระดับ 1 หรือ 2 มีสัตว์ประหลาดระดับ 3 อยู่เพียงไม่กี่ตัว และพวกมันก็ไม่ได้แข็งแกร่งมาก ในสถานการณ์ปกติจะไม่มีอันตรายใดๆ ต่อชีวิตของพวกเขา
ถ้าท่านหลงทาง อย่างนั้นก็ให้ใช้ม้วนเวทเทเลพอร์ต” เย่ว์หยางพูดกับเย่คง แม้ว่าม้วนเวทเทเลพอร์ตจะราคาแพงต้องซื้อมาในราคาชิ้นละ 1 เหรียญทอง พวกเขายังคงเตรียมไว้เพื่อคนอื่น
“เข้าใจแล้ว” เย่คงตอบ พวกเขากังวลเล็กน้อย คนที่จะหลงจริงๆ ก็คือคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์ผู้ไม่เคยออกไปข้างมาก่อนไม่ใช่หรือ?
“อย่าห่วงเลย ข้าไม่มีปัญหาอะไรกับการเดินผ่านเขาวงกต” เย่ว์หยางรู้ว่าเย่คงและคนอื่นๆ เป็นห่วง เขายิ้มเล็กน้อย
เขามีหนูเบญจธาตุค้นสมบัติ สามารถค้นหาเส้นทางที่ถูกต้องในวงกตได้แน่นอน ไม่มีปัญหาอะไรแน่
แม้ว่าเขาไม่มีเจ้าหนูทั้งห้านี้ ความรู้สึกในการจำแนกทางของเย่ว์หยางก็ยังนับว่าไม่เลว ตราบใดที่เขาเดินผ่านไปครั้งหนึ่งแล้ว เขาจะสามารถจำเส้นทางได้ถึง 70-80% นี่คือความจริงแม้ก่อนที่เขาจะถูกเตะเข้าไปในมิติใหม่ หลังจากเข้ามาในมิติใหม่นี้และได้รับการปลูกฝังพลังปราณกระบี่ไร้ลักษณ์ชั้นก่อกำเนิด เย่ว์หยางรู้สึกว่าภูมิปัญญาของเขา ประสาทปฏิกริยารับรู้แหลมคมและความทรงจำของเขาดีขึ้นมาก เขาสามารถอนุมานได้หลายอย่างจากเหตุการณ์เดียวโดยใช้จิตใจและพลังวิญญาณของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวหลงเลย แม้จะไม่มีสิ่งทั้งหมดนี้ เขาก็ยังมีทักษะญาณทิพย์ระดับ 2 มันใช้ประโยชน์ได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งยามผ่านเส้นทางเขาวงกต
เย่ว์หยางเดินอย่างเร็วเป็นพิเศษ เขาปล่อยหุ่นหนูตัวเล็กและให้มันหาทางขึ้นหน้าต่อไป
ด้วยการใช้ให้พวกมันหาพื้นที่ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำให้เขาหลง เขาจะไม่เข้าไปผิดตำแหน่งและเลือกเส้นทางเดินหน้าที่ถูกต้องที่สุด
มีบางอย่างที่ทำให้เขาเสียดายอยู่บ้างก็คือหนูเบญจธาตุค้นสมบัติไม่สามารถหากลิ่นหรือร่องรอยใดๆ ที่เย่ว์ปิงทิ้งไว้
ที่ทางแยกแรก เย่ว์หยางยังไม่เรียกหนูเบญจธาตุค้นสมบัติต่อหน้าคนอื่นๆ เขาทำได้เพียงพึ่งพาความรู้สึกของตัวเองในการเลือกพื้นที่ลงใต้ ตอนนี้ ดูเหมือนว่าเย่ว์ปิงจะมุ่งหน้าไปทางเหนือแทนและเขากำลังเดินไปตรงกันข้ามกับตำแหน่งของนาง
ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น ก็ไม่มีเหตุผลว่าทำไมหนูเบญธาตุค้นสมบัติถึงหาร่องรอยความเคลื่อนไหวของนางไม่พบเป็นเวลานาน
พอคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เย่ว์หยางรีบปรับเปลี่ยนวิธี และตัดสินใจรอเย่ว์ปิงอยู่หน้าต้นโอ๊คดึกดำบรรพ์หมื่นปี เพื่อให้นางประหลาดใจ
สัตว์ประหลาดส่วนใหญ่ในวงกตศิลาดำจะเป็นพวกแมลงเล็กน้อยหรือไม่ก็อสูรพฤกษา ที่พบบ่อยก็เป็นพวกแมลงปีศาจที่เห็นแล้วชอบออกมาทำร้ายคน แม้ว่าทักษะที่น่ารังเกียจของพวกมันจะน่าขัน แต่พวกมันก็ยังน่าเกลียดด้วย นอกจากนี้ยังมีความแปลกประหลาดอีกมากมาย บางครั้งพวกมันจะถูกกระตุ้นให้ออกมาโดยต้นหนามเสือกินคน, ราชันบุปผากินซากศพ หญ้าผีจับมนุษย์และอสูรพฤกษาจำพวกดังกล่าว ซึ่งพวกมันมักสร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้กับผู้คนเสมอ บางครั้ง งูเขียว, งูหญ้า, งูดอกไม้, งูบ่อ ระดับ 2 , ตุ๊กแกลิ้นน้ำเงินและ,หรือตุ๊กแกเล็บยาวจะเข้ามาทำร้ายเขาในความมืด แต่ก็แค่เลื้อยผ่านเย่ว์หยางที่ผ่านทางมาเฉยๆ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะไม่มีฮุยไท่หลางอยู่กับเขา เย่ว์หยางก็ยังคงไม่สนใจสัตว์อสูรระดับต่ำอยู่ดี
แม้ว่าเขาจะไม่สามารถสู้เองได้ แต่พลังปราณก่อกำเนิดของเขาก็เพียงพอที่จะหลีกเลี่ยงอันตรายรอบๆ ตัวเขาได้
ฮุยไท่หลางยังคงเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่นี่
โคเงาไม่สามารถจะเรียกออกมาได้ และเสี่ยวเหวินหลีกำลังพักผ่อนอยู่ ดังนั้นมันก็เลยแกล้งแมลงตัวเล็กตัวน้อย งูและตุ๊กแกเอง โดยเดินไปตามถนนสร้างแรงกดดันต่อพวกมันอย่างเปิดเผย
เย่ว์หยางสามารถเห็นได้ตอนนี้ว่า การเก็บหัวใจต้นโอ๊คไม่ใช่เป้าหมายหลักของการผ่านมาทางวงกตศิลาดำ การอนุญาตให้อสูรสายพฤกษามีการฝึกพิเศษเพื่อพัฒนาฝีมือ ก็คือวัตถุประสงค์ที่แท้จริง
อสูรสายพฤกษาจำเป็นต้องผ่านหลายพื้นที่ที่จัดการอย่างง่ายๆ
มิฉะนั้น ผู้ปฝึกฝนก็จะเป็นเหมือนเย่ว์หยาง ที่มีฮุยไท่หลางชั้นทองแดงระดับ 4 กวาดล้างทุกที่ๆ มันวิ่งผ่าน
ถ้าผู้ใช้คัมภีร์อัญเชิญอย่างเย่ว์ปิงมาที่วงกตศิลาดำ เพื่อให้ผ่านการสอบและต่อสู้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีแนวโน้มจะได้รับความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก การต่อสู้จะมีความหมายต่อสัตว์อสูรสายพฤกษา ถ้าผู้ฝึก ควบคุมฝีมือการใช้ทักษะไม่ดีพอ พวกเขาจะไม่ผ่านการทดสอบ การทดสอบขั้นพื้นฐานเหล่านี้มีผลต่อการทำงานเป็นทีม บางพื้นที่ซึ่งอันตรายมากจำเป็นต้องร่วมมือกันถึงจะผ่านไปได้ง่าย ถ้าคนๆ เดียวพยายามเองตามลำพัง อาจต้องใช้ความมานะถึง 10 เท่า
สิ่งที่ทำให้เย่ว์หยางแปลกใจที่สุดก็คือวงกตหินดำนี้ ห้ามสัตว์อสูรจำพวกบินได้ผ่านมาโดยเด็ดขาด
บางทีเป็นเพราะอสูรสายพฤกษาไม่มีทักษะในการบิน วงกตศิลาดำทั้งหมดมีพลังอำนาจจำกัดความเคลื่อนไหวทางอากาศ แม้ว่าบางครั้งเย่ว์หยางต้องการจะโดดสูงข้ามวงกตศิลาดำเพื่อไปตามหาเย่ว์ปิง เขาพบว่าเขาเองไม่สามารถโดดได้สำเร็จ และความสูงในการโดดต่ำกว่าที่เขาทำได้ข้างนอก
หลังจากผ่านไป 6 ชั่วโมง เย่ว์หยางเดินผ่านสิ่งที่ผู้เข้าทดสอบทั่วไปใช้เวลาเข้าทดสอบ 3 วัน เขาไปถึงต้นโอ๊คอายุหมื่นปีที่ปกป้องโดยนางไม้เกือบร้อย
ในตอนแรก เย่ว์หยางจินตนาการว่าต้นไม้นี้จะมีใบหน้าของคนแก่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น จมูกคดและมีปากที่ดูเหมือนจะพูดได้ อย่างไรก็ตามมันกลับไม่ได้เป็นช่นนั้น นอกเหนือจากว่าต้นไม้นี้มีขนาดใหญ่ที่คนจำนวนเป็นสิบยังโอบไม่รอบ มันเป็นแค่รูปแบบพลังงานที่เต็มไปด้วยความลึกลับ บนยอดไม้มีพลังงานที่เรืองแสงอยู่รำไร ตอนนี้เย่ว์หยางทำความเข้าใจได้นิดหน่อย หัวใจต้นโอ๊คไม่ใช่หัวใจของต้นไม้ แต่เป็นพลังงานชีวิตรูปแบบหนึ่งที่ถูกนำมาใช้ร่วมกับอสูรสายพฤกษาได้ ผู้ฝึกฝนจะต้องยอมรับภารกิจและต้นโอ๊คดึกดำบรรพ์หมื่นปีที่กายสิทธิ์นี้จะให้รางวัลตามระดับผู้ฝึกฝน
ด้านหน้าต้นโอ๊คดึกดำบรรพ์หมื่นปี จะมีเสาผลึกเรืองแสงอยู่ต้นหนึ่ง
รากของต้นไม้บิดเป็นเกลียวอยู่รอบฐาน ดูเหมือนมันเชื่อมโยงกับต้นโอ๊คดึกดำบรรพ์หมื่นปี ผู้ฝึกฝนจำเป็นต้องปฏิบัติตามภารกิจที่สลักอยู่บนเสาผลึก เพื่อจะได้รับรางวัลหัวใจต้นโอ๊ค
เมื่อเย่ว์หยางลองดู ภารกิจปัจจุบันช่างง่ายที่สุด ก็คือแค่ต้องการให้จำแนกความแตกต่างเมล็ดพืชร้อยสายพันธุ์ข้างหลังป่า
ภารกิจระดับ 2 คือเก็บรวบรวมเห็ดร้อยชนิดจากป่าเห็ด แน่นอนว่าเห็ดพวกนี้ไม่สามารถเก็บเองโดยตรงได้ มันเป็นไปได้เฉพาะสัตว์อสูรสายพฤกษาเห็ด ที่สามารถปล่อยสปอร์ได้
ภารกิจระดับ 3 คือเก็บเกี่ยวแอปเปิลแดงให้ได้ 100 หนึ่งจากสวนแอปเปิลที่มีแมงมุมเขี้ยวและงูไม้ลายจุดอาศัยอยู่ ภารกิจระดับ 4 คือต้องฆ่าจระเข้บ่อในบ่อดำ 10 ตัว จระเข้แต่ละตัวอย่างน้อยเป็นอสูรระดับ 3 ถ้าผู้ฝึกฝนมั่นใจ ก็มีทางเป็นไปได้ที่จะไปสู้กับสัตว์ประหลาด 9 หัวในบ่อเลือดปีศาจ ไม่รู้ว่าสัตว์ประหลาด 9 หัวมีอยู่เท่าไหร่ แต่ว่าพวกมันแต่ละตนเป็นปีศาจที่น่ากลัว อยู่ระดับ 7 ชั้นทองแดง หรือสูงกว่า ภารกิจนี้ผู้ฝึกฝนจะต้องฆ่าสัตว์ประหลาด 9 หัว 1 ตนและจะได้รับรางวัลมหาศาลก็คือหัวใจต้นโอ๊คพันปี
“เราควรจะรอเย่ว์ปิงอยู่ที่นี่หรือว่าทดสอบความแข็งแกร่งกับสัตว์ประหลาด 9 หัวเลย?” เย่ว์หยางลังเลเล็กน้อย ในที่สุดก็ควักเหรียญทองออกมา 1 เหรียญ
เขาจะตัดสินชะตากรรมของสัตว์ประหลาด 9 หัวด้วยการเสี่ยงทายเหรียญ
ถ้าออกหัว ตอนนี้เขาจะปล่อยมันและรอจนกว่าเย่ว์ปิงจะมา ถ้าออกก้อย เขาจะลุยมันให้ราบไปเลย
เขาเสี่ยงโยนเหรียญทำให้มันหมุนพลิกอยู่กลางอากาศ….
***************************