ตอนที่ 553 แม่สี่, ซานเอ๋อกลับมาแล้ว!
จุนอู๋โหย่วและผู้เฒ่าเย่ว์ไห่รู้ว่าเย่ว์หยางแข็งแกร่งทรงพลัง ในอดีตที่ผ่านมาเขาเอาชนะศัตรูที่แข็งแกร่งช่วยเหลือตระกูล บุกเข้าวังปีศาจอย่างห้าวหาญ ไล่ล่าศัตรูที่หนีไปไกลเป็นพันๆ กิโลเมตร สังหารจักรพรรดิสมุทร, ทำลายฐานทัพสำคัญของกองกำลังนรกดำ เป็นต้น ไม่มีใครในพวกเขาที่จะทำเรื่องเช่นนี้ได้โดยง่าย ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาทำเพียงพอต่อการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นความมหัศจรรย์ พวกเขารู้ว่าเป้าหมายของเขาไร้ขีดจำกัดและรู้ว่าหอทงเทียนก็ไม่สามารถจำกัดเป้าหมายของเขาได้ เขาจะต้องมีประสบการณ์ได้ไปถึงแดนสวรรค์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพวกเขาจะได้เตรียมใจกับเหตุการณ์นี้ไว้แล้วก็ตาม แต่พวกเขาไม่เคยนึกภาพออกเลยว่า ความสำเร็จของเย่ว์หยางจะสร้างความตื่นตะลึงได้มากมายขนาดนี้
ถ้าผู้เฒ่าหนานกงไม่ได้แพร่กระจายข่าว พวกเขาคงไม่กล้าเชื่อเป็นแน่
พวกเขาได้ทราบเรื่องราวที่เย่ว์หยางเข้าสู่สังเวียนมรณะ
นอกจากนี้พวกเขายังรู้ว่าจื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีก็ยังตามไปช่วยเหลืออีกด้วย
หลังจากผ่านไปสามวัน จู่ๆ ผู้เฒ่าหนานกงก็กลับมา เขานำข่าวที่สร้างความสั่นสะเทือนไปทั้งหอทงเทียนกลับมา เย่ว์หยางในฐานะผู้นำกลุ่มแดนสวรรค์ด้านตะวันตกผู้มาจากอาณาจักรต้าเซี่ย ทวีปมังกรทะยานนำพากลุ่มของเขาประสบความสำเร็จได้รับชัยชนะต่อสู้กับคู่ต่อสู้ผู้แข็งแกร่งทุกคน เขาได้รับเกียรติยศสูงสุดจากสงครามหมื่นปี ได้ชัยชนะในสงครามโบราณ….
ถ้ายังมีใครกล้าสงสัยเรื่องนี้ อย่างนั้นพวกเขาสามารถตามถามเพื่อนร่วมคณะกลุ่มของเย่ว์หยางได้
จักรพรรดิฟ้าและจักรพรรดิใต้พิภพจากห้าจักรพรรดิหอทงเทียน, หัวหน้าสมาพันธ์นักสู้ปราณก่อกำเนิดผู้เฒ่าหนานกงลั่วหวิน, ราชันย์ปีศาจใต้จากเผ่าปีศาจบูรพา, ราชาเฮยอวี้นักสู้จากหกพันปีก่อนและบริวารสองคนของเขาคือ จ้านหู่และเป่ยเหลียวหยาและนักสู้อันดับสามของวังมาร มารกฎฟ้า ขณะที่จื้อจุนและจักรพรรดินีราตรีตามมาสมทบในที่สุด
ไม่มีใครเข้าใจว่าคนกลุ่มนี้รวมตัวกันได้อย่างไร พวกเขาไม่เคยนึกเหตุผลออกว่าทำไมพวกเขาถึงได้ยกให้คุณชายสามตระกูลเย่ว์เป็นผู้นำกลุ่ม
เป็นธรรมดา ทุกคนที่ยังมีสมองคิดไม่พอจะนึกเหตุการณ์ต่อสู้ออก… ตามข่าวของผู้เฒ่าหนานกง ศัตรูทรงพลังอย่างคาดไม่ถึง ไม่เพียงแต่อสูรของแดนสวรรค์ที่ทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ เมื่อมองดูเพื่อนร่วมกลุ่มของคุณชายสามตระกูลเย่ว์และคู่แข่งขันก็พอจะบอกได้ ราชาเฮยอวี้เป็นศัตรูของเขา, จักรพรรดิฟ้าเหมือนกับเป็นพี่น้องกับเฮยอวี้ การมีอยู่ของทั้งสองคนไม่ได้ช่วยเพิ่มศักยภาพในการรบเลย พวกเขายังทำให้เหตุการณ์เลวร้ายถึงที่สุด ผู้เฒ่าหนานกงยังได้ประกาศว่าราชาเฮยอวี้และจักรฟ้า เมื่ออยู่ต่อหน้าอสูรและนักสู้จากแดนสวรรค์ เลือกที่จะยอมแพ้ ภายใต้สถานการณ์เหล่านี้ ทุกคนสงสัยว่าเย่ว์หยางเอาชนะนักสู้แดนสวรรค์เหล่านี้และได้รับชัยชนะได้อย่างไร
ไม่มีใครสามารถนึกภาพนี้ออก โดยธรรมชาติแล้ว ถ้าพวกเขาสามารถทำได้ อย่างนั้นพวกเขาอยากเป็นเหมือนคุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์
คุณชายสามแห่งตระกูลเย่ว์สามารถเอาชนะนักสู้ปราณฟ้าระดับสามอย่างหวงฉวน, นักสู้ปราณฟ้าระดับสองอย่างเฝินเทียน, หวิ่นซิงและคู่แข่งคนอื่นๆ ได้อย่างไร? เขาสามารถเอาชนะชางเหยียนนักสู้ปราณฟ้าระดับห้า ฆ่าสี่ขุนพลของเขา ฆ่าเพชฌฆาตโบราณได้อย่างไร? เขาสามารถจับจ้าวอสูรเพชฌฆาตโบราณและพะยูนนรกได้อย่างไร?
ผู้เฒ่าหนานกงไม่ได้อธิบายเรื่องนี้
อย่างไรก็ตาม คำพูดของเขาไม่เป็นที่น่าสงสัย
ผู้เฒ่าหนานกงอธิบายอย่างจริงจังว่า คุณชายสามตระกูลเย่ว์ตัดสินใจฝึกพะยูนนรก, เพชฌฆาตโบราณและสัตว์ประหลาดแดนสวรรค์อีกมากมาย ให้เชื่องเชื่อ เขาจะทำให้พวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงประจำทวีปมังกรทะยานตลอดไป และทำให้ทุกคนมองดูด้วยความอัศจรรย์ และกลายเป็นเป้าหมายแบบอย่างของชาวทวีปมังกรทะยานรุ่นหลัง….
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ อีกไม่นาน ทุกคนจะได้เห็นอสูรที่แข็งแกร่งจากแดนสวรรค์ในฐานะสัตว์เลี้ยงประจำทวีปมังกรทะยาน
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะความจริงที่ว่าทวีปมังกรทะยานให้กำเนิดบุรุษผู้หนึ่ง
บุรุษที่มีนามว่าเย่ว์หยาง!
“เรื่องราวความรุ่งเรืองของคุณชายสามตระกูลเย่ว์เพิ่งจะเริ่มขึ้น เราทุกคนมาคอยดูกันต่อไป ยังอีกนานกว่าเขาจะเติบโตและกลายเป็นจักรพรรดิอวี้ผู้สั่นสะเทือนสามผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์เมื่อหกพันปีที่แล้ว เขาอาจทำได้ดีกว่าจักรพรรดิอวี้ แล้วหอทงเทียนเล่า? นั่นเป็นแค่เพียงก้าวย่างก่อนให้เขาขึ้นไปพิชิตแดนสวรรค์ ทั้งหมดที่เราสามารถทำได้ในตอนนี้คือให้ความสนใจและติดตามย่างก้าวเป็นพยานในการถือกำเนิดของตำนานคนใหม่ เหล่าผู้เยาว์เอ๋ย! พวกเจ้าควรติดตามรอยเท้าของคุณชายสามตระกูลเย่ว์ หอทงเทียนจะไม่ใช่ขีดคั่นจำกัดของพวกเจ้าอีกต่อไป สนามต่อสู้ที่จะดึงศักยภาพของพวกเจ้าออกมาได้อย่างเต็มที่ก็คือแดนสวรรค์!” เพื่อเป้าหมายพลิกฟื้นหอทงเทียน เขาสนับสนุนให้ผู้เยาว์รุ่นใหม่ได้เติบโตขึ้น เขาผลักดันเย่ว์หยางให้เป็นตัวอย่างแรงบันดาลใจ เขาจะค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นจักรพรรดิอวี้รุ่นใหม่ได้ในที่สุด
หอทงเทียนจำเป็นต้องมีจักรพรรดิอวี้ผู้อยู่ยงคงกระพัน
ไม่ว่าจะเป็นเมื่อหกพันปีที่แล้วหรือว่าเดี๋ยวนี้ นี่เป็นเพียงวิธีสร้างเหล่าผู้เยาว์ที่โดดเด่น จากนั้นก็จะมีสายเลือดใหม่เกิดขึ้น
ถ้าผู้เฒ่าหนานกงไม่ทำเช่นนี้ เรื่องนี้ก็อาจไม่ถูกปกปิดนานเกินไป
ทั้งนี้เพราะราชาเฮยอวี้ไม่เพียงยังไม่ตาย แต่ยังหลบหนีกลับมาได้
ถ้าจักรพรรดิมังกร, มารสัมฤทธิ์ฟ้าและจอมปีศาจบารุธไม่ร่วมมือกันขับไล่เขา การขัดขวางแผนการของกองกำลังนรกดำที่จะกำจัดทวีปมังกรทะยานจะส่งผลให้เป็นภาพที่น่ากลัว เมื่อผู้เฒ่าหนานกงกลับมายังสมาพันธ์นักสู้ปราณก่อกำเนิด เขาตัดสินใจแพร่กระจายข่าวความสำเร็จของเย่ว์หยาง
ผลก็คือนักสู้ของหอทงเทียนผู้ที่ได้รับข่าวการต่อสู้ของราชาเฮยอวี้กับจักรพรรดิมังกรและมารสัมฤทธิ์ฟ้าถึงกับตกตะลึงทันที เนื่องจากพวกเขาได้ทราบข่าวว่าเย่ว์หยางชนะสงครามโบราณและเข่นฆ่าอยู่ในแดนสวรรค์
เดิมทีทุกคนคิดว่าราชาเฮยอวี้เป็นผู้ไร้ต่อต้าน แต่ตอนนี้พวกเขาเทียบเขากับเย่ว์หยางแล้ว ในที่สุดพวกเขาก็ค้นพบว่าราชาเฮยอวี้ก็แค่คนทรยศเจ้าเล่ห์
แค่เพียงชั่วคืนเดียว อิทธิพลด้านลบที่ราชาเฮยอวี้สร้างไว้ได้หายไปอย่างไม่มีร่องรอย
ด้วยการกระทำของเย่ว์หยาง คุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้รุ่งเรืองเจิดจรัสที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำไมเขาจึงจะต้องกลัวราชาเฮยอวี้ด้วยเล่า?
ราชาเฮยอวี้ก็เป็นแค่คนทรยศคนหนึ่ง ตอนนี้ที่คุณชายสามตระกูลเย่ว์กลับมาจากแดนสวรรค์ แล้วยังนำพะยูนนรกซึ่งมีพลังพอๆ กับราชาเฮยอวี้กลับมาด้วย แล้วเป็นไปได้อย่างไรที่กองกำลังนรกดำจะทำลายทวีปมังกรทะยาน? นี่เป็นการนึกคิดเอาเองของราชาเฮยอวี้เท่านั้น เป็นไปได้ยังไงที่กองกำลังนรกดำจะเทียบได้กับเพชฌฆาตโบราณ? สัตว์ประหลาดทุกตัวมีระดับพลังเทียบเท่านักสู้ปราณฟ้า บางสิ่งบางอย่างที่แม้แต่นักสู้ของหอทงเทียนไม่เคยได้มีโอกาสเห็น แต่คุณชายสามตระกูลเย่ว์กลับมีตั้งหลายอย่าง.. นี่ทำให้ฝ่ายของกองกำลังนรกดำหน้าซีดด้วยความกลัว เมื่ออยู่ต่อหน้าคุณชายสามตระกูลเย่ว์ พวกเขาคงเป็นเหมือนไก่ที่รอเวลาถูกเชือดในครั้งเดียว
พวกทหารที่ครั้งหนึ่งเคยกลัวกองกำลังนรกดำกำจัดทำลาย ก็มีขวัญกำลังใจท่วมท้น
ในทันใดนั้นเองพวกเขาปรารถนาจะเข้าต่อสู้เพื่อพิสูจน์ตนเองต่อชาวโลก
เมื่อได้เห็นเย่ว์หยางที่นั่น พวกเขาไม่ต้องกลัวพ่ายแพ้ศึกเลย
เมื่อมั่นใจว่ามีอาวุธจะชนะได้ ทำไมพวกเขาจะไม่สู้เล่า?
“คุณชายสามมาแล้ว….” นักรบนับไม่ถ้วนพากันตื่นเต้นและพยายามข่มอารมณ์ที่พลุกพล่านของพวกเขาไว้ ทันทีที่พวกเขาเห็นเย่ว์หยางกลับมา พวกเขาคุกเข่าแสดงความเคารพทันที ขณะที่อดส่งเสียงอย่างตื่นเต้นไม่ได้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยเห็นเย่ว์หยางมาก่อน แม้ว่าพวกเขาเคยเป็นปฏิปักษ์ในก่อนหน้านั้น แต่หัวใจของพวกเขาไม่อาจต้านทานความรู้สึกนับถือในฐานะนักรบได้
“เย่ว์หยางขอถวายบังคมฝ่าบาท คารวะท่านปู่, คารวะท่านอาจารย์ ครั้งนี้ข้าได้เข้าไปในสังเวียนมรณะและกลับมาได้พร้อมกับชัยชนะและโชคลาภอีกมากมาย” เย่ว์หยางช่วยเชิดชูหน้าตาจุนอู๋โหย่ว, ผู้เฒ่าเย่ว์ไห่และอาจารย์จิ้งจอกเฒ่าท่ามกลางผู้คนมากมาย ภายใต้การจับตาของนักสู้หลายพันคู่ เขาประสานมือคารวะทักทายผู้ใหญ่ทั้งสามอย่างสุภาพ
“ดี, ดีมาก!” ผู้เฒ่าเย่ว์ไห่น้ำตาคลอเบ้าด้วยอารมณ์ตื้นตัน แม้ว่าเขาจะใจแข็งเหมือนเหล็ก แต่เขาก็ยังอดภูมิใจหลานชายของเขาไม่ได้
“เขาคือนักเรียนของข้าเอง, นักเรียนของข้าเชียวนะ” อาจารย์จิ้งจอกเฒ่าทวนคำเหมือนกับกลัวว่าจะไม่มีใครรู้
“ทหารและประชาชนทุกคน..ทำความเคารพ….” จุนอู๋โหย่วใช้พลังทั้งหมดตะโกนกึกก้องไปทั่วท้องฟ้า เฟิงขวงยืนอยู่ด้านหลังเขาชักดาบยักษ์ออกมาและออกคำสั่งให้ทุกคนแสดงความเคารพเย่ว์หยางที่กำลังถอยกลับมา ไม่ว่าจะเป็นทหารหรือประชาชน ทุกคนตะโกนโห่ร้องเสียงสั่นสะเทือนกึกก้องไปทั้งท้องฟ้า เสียงของพวกเขาดูเหมือนสามารถสั่นสะเทือนไปทั้งโลกและหอทงเทียน
จากตอนแรกที่เสียงโห่ร้องที่เป็นระเบียบ จากนั้นทุกคนกลายเป็นโห่ร้องอย่างสนุกสนาน
เมื่อราชันย์ฟ้าตะวันออก, เฟิงเสี่ยวหวิน, เสวี่ยเวิ่นเต้าและกระทั่งเจ้าอ้วนไห่, เย่คงและพี่น้องตระกูลหลี่และคนอื่นๆ กำลังจะยกเขาโยนขึ้นในอากาศ เย่ว์หยางยกมือห้ามพวกเขา
เขามองหาใครคนหนึ่ง
เมื่อเย่ว์หยางมองหาคนผู้นี้ คนรอบๆ ตัวเขาก็เปิดทางให้เขา
คนผู้นั้นเป็นสตรีที่แต่งงานแล้ว นางกำลังร้องไห้อย่างปลื้มใจ น้ำตานางไหลอาบแก้ม
นางคือแม่สี่นั่นเอง
เย่ว์หยางสาวเท้าเดินเข้าไปหานางทีละก้าว
แต่ละก้าวของเขาดูเหมือนจะสั่นสะท้านหัวใจผู้คนราวกับว่าเขากำลังย่ำเดินอยู่ในหัวใจพวกเขา แม่สี่จูงเย่ว์ซวงที่กำลังร้องไห้มาด้วยอย่างอ่อนแรง ถ้าเย่ว์ปิงที่กำลังร้องไห้อยู่เหมือนกันไม่อยู่ที่นั่นเพื่อประคองนาง บางทีนางอาจเป็นลมเพราะความตื้นตันก็เป็นได้
ภายใต้สายตานับพันคู่ เย่ว์หยางค่อยๆ เดินมาหยุดอยู่หน้าแม่สี่
เย่ว์หยางผู้ไม่เคยแสดงความเคารพสูงสุดต่อใคร เหมือนกับทหารหนุ่มที่เพิ่งกลับมาจากศึกสงครามยิ่งใหญ่ เขาได้กลับมาแสดงความเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ของเขา
เขาคุกเข่าลงข้างหนึ่ง
คุกเข่าต่อหน้านาง
หลังจากนั้น ด้วยเสียงที่สั่นเครือ เขาตะโกนของมาจะส่วนลึกจิตวิญญาณของเขา “แม่สี่! ซานเอ๋อกลับมาแล้ว!”
ร่างของแม่สี่สั่นเหมือนกับว่านางกำลังจะล้ม น้ำตานางหยดไหลพราวราวกับเม็ดไข่มุก
ในลำคอนางมีแต่เสียงสะอื้น นางโถมตัวเข้าหาเย่ว์หยางและกอดเขาไว้แน่นขณะที่หลั่งน้ำตาราวสายฝน
หลังจากนางพยายามกลั้นน้ำตาไว้ ทุกคนก็ไม่อาจข่มกลั้นอารมณ์ตื้นตันได้ และอดร้องไห้สะอื้นในใจไม่ได้
เย่ว์ปิงและเย่ว์ซวงก็โถมเข้าไปกอดทั้งมารดาและพี่ชายพวกนางพร้อมกับหลั่งน้ำตา พวกเขามีความสุขและพวกเขาไม่อาจแสดงรอยยิ้มออกมาได้
ได้แต่หลั่งน้ำตาเพื่อแสดงความรู้สึกของพวกเขา
เย่คงคุกเข่า
ต่อจากเขาก็เป็นเจ้าอ้วนไห่ พี่น้องตระกูลหลี่, เสวี่ยทันหลางและแม้กระทั่งองค์ชายเทียนหลัว…
เอลฟ์ทองเป่าเอ๋อ, หลิวเย่, ไห่อิงอู่, สาวลูกครึ่งเอลฟ์, สาวเผ่าทอเรนฟ่านหลุนเถี่ย, พี่น้องเผ่าคิวบัวร์และเหล่าผู้เยาว์หลายคนคุกเข่าลง พวกเขาพลอยแสดงความนับถือต่อแม่สี่ไปด้วย
แม้ว่าแม่สี่จะไม่ใช่แม่แท้ๆ ที่ให้กำเนิด แต่นางอยู่เหนือแม่แท้ๆ ของพวกเขาเอง ไม่มีนาง ก็ไม่มีเย่ว์หยาง ไม่มีคุณชายสามตระกูลเย่ว์ ก็ไม่มีเย่คง เจ้าอ้วนไห่ เสวี่ยทันหลาง ฯลฯ เหมือนอย่างในวันนี้ เป็นเพราะมารดาผู้สุภาพและเมตตาที่เลี้ยงดูคุณชายสามตระกูลเย่ว์ผู้ไม่มีอะไรดี เป็นเพราะนาง ทวีปมังกรทะยานถึงได้กำเนิดวีรบุรุษที่พวกเขาภาคภูมิใจ
ทหารและนักรบทุกคนน้ำตาคลอเบ้ายกมือขวาแสดงความเคารพต่อมารดาผู้ยิ่งใหญ่คนนี้
สำหรับในทวีปมังกรทะยานซึ่งเป็นสถานที่ซึ่งพลังและบุรุษได้รับความนับถือ นี่นับว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
******************