ตอนที่ 559 แรงบันดาลใจแบบ พี่น้องหญิงตระกูลเย่ว์
เย่ว์หยางกลัวว่าถ้าเขาเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝันผ่านหยกสุบิน เขาจะเปิดเผยความลับเทพธิดากระบี่ฟ้า นี่คือความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา
นอกจากนี้เขากลัวว่าเขาจะเผลอสร้างความฝันที่รุ่มร่ามจนทำลายหยกสุบิน
แม้ว่าหยกสุบินจะไม่ใช่สมบัติระดับที่สูงมาก แต่หาได้ยากอย่างยิ่ง ถ้าเป็นสมบัติอื่น เย่ว์หยางคงไม่คิดว่าจะสำคัญขนาดนั้น ทั้งหยกสุบินและกระเช้าสมปรารถนาเป็นสมบัติส่งเสริมความปรารถนาที่มีค่ามาก กระเช้าสมปรารถนาจะเหี่ยวแห้งถ้ามันล้มเหลว หยกสุบินจะรวบรวมฝันของคน ทันทีที่ผิดพลาด ก็จะแหลกสลายและหายไป
ความจริง เย่ว์หยางมีความคิดจะใช้กระเช้าสมปรารถนาเพื่อตั้งความปรารถนาสร้างนางฟ้านักรบให้สำเร็จ
ต่อให้ล้มเหลว เขายังสามารถใช้ได้อีกครั้งหลังจากผ่านไปสามปี
หลังจากคิดอย่างระมัดระวังทบทวนไปมา เขาตัดสินใจใช้หยกสุบิน เย่ว์หยางยังต้องการใช้กระเช้าสมปรารถนาเป็นแผนสำรองเพื่อยกระดับนางฟ้านักรบให้เป็นสิ่งประดิษฐ์ชั้นเทพ
เพื่อรับประกันความสำเร็จ เย่ว์หยางตั้งใจหลับเป็นเวลานาน
จากนั้นเขาอาบน้ำเย็นอย่างสบายใจ, การเตรียมการของเขาไม่รีบเร่งและใจร้อน.. เขาหาข้ออ้างและขอให้เย่ว์หวี่ออกไปจากห้องทดลองก่อน เย่ว์หยางถือหยกสุบินและนอนลงข้างร่างของมนุษย์ผลึกบริสุทธิ์ จะล้มเหลวหรือสำเร็จขึ้นอยู่กับว่าฝันดีหรือฝันร้าย! เป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่แม่สี่ไม่เต็มใจช่วย ถ้าได้นางช่วย อัตราความสำเร็จน่าจะมากกว่า โลหิตเทพ, น้ำทิพย์, เทพเหล็กไหล, หัวใจไตตัน, ศพมนุษย์ผลึกและส่วนผสมอื่นๆ ได้จัดเตรียมไว้หมดแล้ว ขั้นตอนที่เหลือคือประกอบส่วนผสมเข้าด้วยกัน เย่ว์หยางแค่ต้องการแปลงทั้งหมดให้เป็นร่างมนุษย์ที่สมบูรณ์
นอกจากนี้ เขามีเลือดของจื้อจุน, จักรพรรดินีราตรี, นางเซียนหงส์ฟ้า, เสวี่ยอู๋เสีย, องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน, เจ้าเมืองโล่วฮัวและคนอื่น
เลือดบางส่วนเขามีเยอะมาก บางส่วนก็มีน้อยนิด โดยเฉพาะเลือดของจื้อจุน เขาเก็บมาได้ไม่กี่หยด เขาไม่อาจยอมเสียไปง่ายๆ
แล้วจะแปลงทั้งหมดนี้เป็นนางฟ้านักรบได้อย่างไร?
เขาคงต้องพึ่งพาการมอบความปรารถนาของหยกสุบิน เพราะเย่ว์หยางยังไม่สามารถเข้าใจวิธีลับในการสร้างนางฟ้านักรบ การสร้างอสูรหุ่นกลที่ไม่มีความรู้สึกเป็นเรื่องง่าย แต่ว่านั่นไม่ใช่สิ่งที่เย่ว์หยางต้องการ
“…..” เย่ว์หวี่สงสัยเล็กน้อย แต่นางให้เกียรติความเป็นส่วนตัวของเย่ว์หยาง นางไม่ได้เข้าไปแต่ยังคงรอเงียบๆ ข้างนอก
เย่ว์หยางหลับตาและเริ่มฝัน
เขาไม่ได้เข้าไปในดินแดนแห่งความฝันของเทพธิดากระบี่ฟ้า แต่เขาเข้าไปในดินแดนมหัศจรรย์เต็มไปด้วยพลังงานแทน ในดินแดนที่เต็มไปด้วยพลังงานนี้ ไม่มีแรงโน้มถ่วง ไม่มีแม้แต่ร่าง มีแต่วิญญาณคงอยู่ที่นี่ เย่ว์หยางรู้สึกว่าเขาสามารถบินได้ทุกเมื่อที่เขาต้องการ หรือบางทีไม่น่าจะเรียกว่าบิน แต่เป็นการเคลื่อนไหวได้ดังใจคิด เขาสามารถบินได้ถ้าเขาต้องการทำ เขาสามารถเดินได้ถ้าเขาต้องการ เย่ว์หยางรู้สึกว่าดินแดนที่เต็มไปด้วยพลังงานเหล่านี้ มีพลังงานส่งเสริมความปรารถนาของหยกสุบิน เขาจะตั้งความปรารถนาที่นี่ จากนั้นผลของความปรารถนาจะกลายเป็นจริง
ถ้าเย่ว์หวี่เดินเข้าไปในห้องวิจัย นางอาจพบว่าร่างกายของเย่ว์หยางกำลังเปล่งแสงและกระพริบแสง หยกสุบินในมือของเขายังคงเรืองแสงสว่างเหมือนพระจันทร์ในท้องฟ้า
เกี่ยวกับวิธีตั้งความปรารถนา เขาคงต้องเผชิญหน้าตรงและตั้งความปรารถนา เย่ว์หยางไม่รู้ว่าจะต้องตั้งท่ามืออย่างไร
หลังจากเข้ามาในดินแดนที่เต็มไปด้วยพลังงานแห่งนี้แล้ว เขารู้สึกได้ว่านอกจากพลังงานแล้ว สถานที่นี้ว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง
เป็นไปได้ไหมว่าจิตใจของเขาไม่สะอาดเพียงพอ? ความจริงใจไม่พอหรือเปล่า?
เย่ว์หยางประหลาดใจกับความคิดที่เกิดขึ้นมาในใจอย่างกะทันหัน เขารีบแสดงความรู้สึกจริงจังและจริงใจอย่างสุดซึ้งขณะตั้งความปรารถนา ความปรารถนาของเขาก็คือ ข้าขอให้หยกสุบินสร้างนางฟ้านักรบที่มีชีวิต, มีปัญญาความคิดและมีความรู้สึก
เพื่อความสำเร็จแล้ว นับเป็นครั้งแรกที่เย่ว์หยางตั้งความปรารถนาอย่างจริงจัง
ผ่านไปราวๆ สิบนาที
ความจริง เย่ว์หยางไม่รู้สึกผิดปกติเรื่องเวลาเลย เวลาที่ผ่านไปพร้อมกับวิญญาณของเขาในดินแดนที่เต็มไปได้พลังงานและเวลาในชีวิตจริงนั้นต่างกันมาก เขาอาจรู้สึกว่าผ่านไปราวสิบนาที แต่เย่ว์หวี่รออยู่ข้างนอกสิบชั่วโมง ถ้าเย่ว์หยางสามารถมองเห็นเย่ว์หวี่ เขาจะตระหนักได้ว่าโลกในความเป็นจริงจะมีเวลาที่ช้ามากสำหรับเขา เหมือนกับว่าเขากำลังดูภาพยนตร์สโลว์โมชัน แน่นอนว่ามีไม่มากคนนักที่เห็นโลกจริงในสภาพวิญญาณ มีแต่คนที่กำลังจะตาย ในสภาวะใกล้ตายของพวกเขา เมื่อวิญญาณของพวกเขาจะออกจากร่าง ก็จะตระหนักได้ว่าโลกจริงๆ เคลื่อนไหวช้ามาก อย่างน้อยที่สุดก็ช้ามากจากมุมมองของร่างวิญญาณ
“เสี่ยวซานใช้เวลานานมากเลย” ความจริงเย่ว์หวี่ไม่อาจทนได้อีกต่อไป นางเข้าไปในห้องค้นคว้าหวังว่าจะได้เห็นว่าฝันของเย่ว์หยางจะมีผลออกมาเป็นเช่นไร
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาฝันมานานสิบชั่วโมงแล้ว
คงเป็นเรื่องแปลกถ้าเย่ว์หวี่จะไม่ห่วงใย
เมื่อนางเข้าไปแล้ว นางตระหนักได้ว่า เย่ว์หยางกำลังนอนเคียงข้าตุ๊กตาแก้วผลึก นอนหลับอย่างเงียบงันขณะที่ร่างของเขากระพริบไฟ
หยกสุบินกำลังฉายแสงเหมือนพระจันทร์ในท้องฟ้าส่องแสงนวลตาครอบคลุมร่างทั้งหมดของเย่ว์หยาง
เมื่อเห็นเช่นนี้ เย่ว์หวี่ลอบถอนหายใจโล่งอก
ดีแล้ว ที่ความปรารถนาไม่ล้มเหลว
เย่ว์หวี่นั่งลง นางไม่ได้ออกไปข้างนอกและกังวลว่าเย่ว์หยางจะทำได้สำเร็จหรือไม่ ไม่ว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว นางจะอยู่เคียงข้างเขา
ช่วงเวลาเช่นนี้ เย่ว์หยางลอยตัวอยู่ในดินแดนที่เต็มไปด้วยพลังงานอย่างช่วยไม่ได้ ดูเหมือนว่าความปรารถนาของเขาจะไม่ล้มเหลว แต่ก็ไม่มีอาการสนองตอบแม้แต่น้อย เขาไม่ได้ออกจากดินแดนแห่งความฝันเพียงแค่นี้ เย่ว์หยางตัดสินใจพักใจแล้วค่อยตั้งความปรารถนาซ้ำอีกครั้ง ไม่ว่ายังไง เขาก็ต้องสร้างนางฟ้านักรบนี้ให้ได้ ไม่ใช่แค่ว่าเป็นปณิธานของเย่ว์กงเท่านั้น แต่ยังเป็นความปรารถนาของเย่ว์หยางอีกด้วย เขาคงจะรู้สึกมีความสุขแค่เพียงนึกถึงว่าจะได้ฝึกสอนหุ่นนักสู้สาวสวย พอนึกถึงโอกาสเช่นนี้ เขาจะยอมแพ้ง่ายๆ ได้อย่างไร?
เย่ว์หยางคิดชั่วร้าย ถ้าเย่ว์หวี่พบว่าเหตุผลส่วนใหญ่ที่เขาต้องการสร้างนางฟ้านักรบก็เพื่อต้องการได้ประสบการณ์สอนหุ่นนักสู้สาวสวย นางคงโกรธจนกินอะไรไม่ลง
“ในบรรดาธิดาทั้งสามของตระกูลเย่ว์ เย่ว์หวี่อ่อนโยนที่สุด เย่ว์ปิงว่าง่ายที่สุดและเย่ว์ซวงน่ารักที่สุด” แค่คิดถึงสามพี่น้องหญิงตระกูลเย่ว์ทันใดนั้นประกายอย่างหนึ่งวาบเข้ามาในใจเย่ว์หยาง ตอนแรกเหมือนกับเป็นความคิดผ่านๆ แต่พลังงานวิเศษที่อยู่ต่อหน้าเขาเปลี่ยนไปทันที ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นร่างเย่ว์ซวงช้าๆ เย่ว์หยางตกตะลึง เป็นไปได้ไหมว่าหยกสุบินต้องการให้เขานึกถึงภาพบุคคลที่เขาต้องการสร้าง?
ถ้าเขาสร้างนางฟ้านักรบด้วยรูปลักษณ์ของเย่ว์ซวง ดูเหมือนจะไม่ใช่ความคิดที่ดี
บางทีคนอื่นอาจเข้าใจผิดว่าเขาเป็นพวกชอบน้องสาว พวกแอบชอบน้องสาว เรื่องแบบนี้ไม่ควรให้คนทั่วไปล่วงรู้
อย่างไรก็ตาม ถ้าเขายกเลิกไม่เลือกรูปลักษณ์ของเย่ว์ซวง ถ้าเขาล้มเหลว ก็คงน่าเสียดาย ไม่ว่ายังไงก็ตาม จะถูกมองว่าเป็นพวกชอบน้องสาวตนเองก็ช่างปะไร ความสำเร็จเป็นเรื่องสำคัญกว่าล้มเหลว
เย่ว์หยางรีบยืนยันรูปลักษณ์ของเย่ว์ซวงอยู่ในใจเขาและพยายามอย่างสุดกำลังเชื่อมความทรงจำของเขากับซวงเอ๋อสร้างรูปร่างโดยใช้พลังงานวิเศษนั้น รูปร่างซวงเอ๋อที่ตอนแรกจางอยู่ก็ชัดเจนยิ่งขึ้น ในที่สุดก็ดูเหมือนกับรูปร่างของเย่ว์ซวง แม้แต่รอยลักยิ้มและขนตายาวก็ยังมี
เป็นแต่เพียงว่าซวงเอ๋อร่างพลังงานนั้นอยู่ในสภาพเปลือย
โชคดีที่ไม่มีใครอื่นเห็นภาพนี้ มิฉะนั้นเขาคงโดนกล่าวหาว่าเป็นพวกชอบน้องสาวตนเอง (ซิส-คอน) เป็นแน่
ความจริง เย่ว์หวี่มองดูอยู่ถึงกับพูดไม่ออก เนื่องจากแสงจากร่างของเย่ว์หยางสว่างยิ่งขึ้นขณะที่รังสีเหมือนเปล่งออกมาเป็นประกายนับไม่ถ้วน แสงเหล่านั้นนุ่มนวลเหมือนกับมีชีวิต เชื่อมเข้ากับตุ๊กตาแก้วผลึกข้างตัวเขากลายเป็นดักแด้แสง ตุ๊กตาแก้วผลึกที่เย่ว์หยางใช้ความพยายามมากในการแปลงเลือด, พลังงาน, น้ำทิพย์และน้ำค้างเทพให้เข้ากันเป็นร่างเย่ว์ซวง ตอนแรกเลือนรางเป็นรูปร่างลายเส้นรูปเธอ
อย่างไรก็ตาม มันค่อยๆ ปรับเปลี่ยนไปเรื่อย
เย่ว์หวี่เห็นว่าก่อนเวลาผ่านไปหนึ่งนาที เย่ว์ซวงซึ่งอยู่ภายในดักแด้แสงดูเหมือนเย่ว์ซวงจริงๆ
เส้นเลือดนับจำนวนไม่ถ้วนเกิดขึ้นภายในร่างแปลงของเธอ จากนั้นหัวใจเธอ, กระดูกและสมองเชื่อมเข้าด้วยกัน แสงรุ้งนั้นเชื่อมเข้ากับศีรษะของเย่ว์หยาง
“พระเจ้า!” เย่ว์หวี่เกือบร้องออกมาด้วยความดีใจ นางรีบใช้มือปิดปาก เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการรบกวนเย่ว์หยางถ้าส่งเสียง กลับกลายเป็นว่าหยกสุบินใช้วิธีแบบนี้ นางฟ้านักรบจะสำเร็จได้ในเวลาสั้นๆ แม้ว่าจะอยู่ในรูปร่างของเย่ว์ซวงก็ตาม แต่ก็นับว่าสำเร็จ เย่ว์หวี่มีความสุขมาก นางต้องการเข้าไปจูบเย่ว์หยาง น้องชายคนเก่งของนาง เสี่ยวซานยอดเยี่ยมมาก เขาสามารถสร้างนางฟ้านักรบที่เคยมีอยู่ในครั้งโบราณกาลได้
นางฟ้านักรบที่มีชีวิต ปัญญาและความคิด ยังจะถูกมองว่าเป็นอสูรหุ่นอีกหรือ?
คงเป็นเรื่องจริงที่พระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมา
หลังจากเย่ว์หยางใช้พลังสร้างเป็นรูปร่างเย่ว์ซวงแล้ว เขาก็ยังไม่พอใจ แม้ว่าเขาจะเข้าใจวิธีใช้หยกสุบินในตอนนี้แล้ว ทำไมยังต้องใช้เป็นร่างเย่ว์ซวงเล่า? เย่ว์ซวงยังเด็กมาก, แล้วเธอจะสู้ได้ยังไง? คงจะดีกว่าถ้าเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาอย่างเย่ว์ปิง ร่างของเย่ว์ซวงยังเล็กเกินไป ยังไม่สง่าเพียงพอ!
ขณะที่เมื่อเขาคิดเรื่องนี้ ร่างพลังงานของเย่ว์ซวงก็เปลี่ยนแปลงทันที
เหตุเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เย่ว์หยางตกใจแทบตาย
ได้โปรดอย่าเพิ่งล้มเหลวนะ!
อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางประหลาดใจ ร่างพลังรูปเย่ว์ซวงไม่ได้หายไป อย่างไรก็ตาม ร่างนั้นค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปเป็นร่างเย่ว์ปิง
ยิ่งพลังงานถ่ายเทมามากขึ้นก็ก่อรูปเป็นร่างเปลือยของเย่ว์ปิง เนื่องจากเย่ว์หยางมักเห็นร่างของเย่ว์ปิงจากการฝึกฝนผสานร่าง เขารู้จักทุกส่วนสัดของนางเหมือนลายเส้นบนฝ่ามือ อย่างไรก็ตามไม่มีใครเห็นภาพนี้ ดังนั้นไม่มีอะไรผิดปกติเมื่อเขาสร้างร่างเย่ว์ปิง เย่ว์หยางเข้าใจในที่สุด เย่ว์ซวงก็คือนางฟ้านักรบร่างแรกที่มีชีวิต เย่ว์ปิงในปัจจุบันก็คือนางฟ้านักรบร่างที่สองที่ผ่านการเรียนรู้ฝึกฝนแล้ว สำหรับร่างที่สามยังคงไม่แน่นอนอยู่ในตอนนี้!
“….” เย่ว์หวี่ตกใจจนพูดไม่ออก กับร่างเปลือยเย่ว์ปิงที่นางเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้
แม้ว่านางรู้ว่าเย่ว์หยางกำลังจินตนาการถึงร่างของนางฟ้านักรบ แต่นางก็ยังรู้สึกอึดอัดที่เห็นว่าน้องชายนางสร้างร่างเปลือยของนางฟ้านักรบจากน้องสาวของนาง
สตรีมีตั้งมากมาย ทำไมเขาถึงใช้น้องๆ เป็นแรงบันดาลใจด้วย?
ซวงเอ๋อก็ยังพอทำเนา ที่สำคัญเธอยังเด็ก แต่เย่ว์ปิงเกือบจะเป็นสาวเต็มตัวอยู่แล้ว
เมื่อเห็นร่างของเย่ว์ปิงกำลังก่อตัวเป็นรูปร่างชัดเจนทีละนิด ทั้งหน้าอก, ทรวงอกถึงปลายถันมองดูเหมือนคนมีเลือดเนื้อจริง เย่ว์หวี่หน้าแดงทันที รู้สึกว่านางต้องดุด่าว่ากล่าวเย่ว์หยาง น้องชายซุกซนผู้นี้
นางรู้ว่าเย่ว์หยางสามารถรู้สึกถึงร่างของคนอื่นได้ชัดเจนระหว่างฝึกผสานร่าง แต่นางไม่เคยคิดว่าเขาจะจำรายละเอียดได้อย่างชัดเจน
เมื่อเห็นนางฟ้านักรบในร่างของเย่ว์ปิงจากลักษณะที่เหมือนกับคนจริง ราวกับว่าข้างหน้าเป็นภาพคนจริงๆ เย่ว์หยางหน้าแดงด้วยความโกรธ นางคิดของนางเองก่อนนั้นว่า นางได้ฝึกผสานร่างกับเขาและใช้พลังหยินของนางช่วยให้เขายกระดับ นางเองไม่รู้ตัวด้วยหรือเปล่า? แน่นอน นางเข้าใจว่าแม้ว่านางจะบอกตัวเองว่าเขาไม่รู้ ก็คงเป็นการโกหก เขาแกล้งทำเป็นไม่รู้ต่างหาก
เย่ว์หวี่ไม่รู้มาก่อนว่าก่อนที่จะผ่านการฝึกผสานร่าง เย่ว์หยางใช้ตาทิพย์สำรวจร่างนางมาก่อนแล้ว
คราวนั้นเย่ว์หยางคิดว่าเย่ว์หวี่คือองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่กำลังอาบน้ำอยู่
แน่นอนว่า ครั้งนั้นเป็นอุบัติเหตุ
“นางฟ้านักรบร่างแรกก็คือซวงเอ๋อ ร่างที่สองก็คือปิงเอ๋อ ร่างที่สามจะเป็นใครดี?” จู่ๆ เย่ว์หวี่มีความคิดนี้รบกวน จากนั้นนางเห็นว่าตุ๊กตาผลึกร่างเย่ว์ปิงเกือบสมบูรณ์แล้ว ร่างนั้นค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นลักษณะเฉพาะของสตรีชัดเจนมากยิ่งขึ้น นางรู้สึกมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
โปรดอย่าได้เกิดขึ้นเลย
ได้โปรดอย่าให้เป็นนาง
เย่ว์หวี่ภาวนาในใจอย่างเร่งร้อน ไม่สำคัญว่าจะเป็นใคร ขอเพียงไม่ใช่นางก็พอ มิฉะนั้นนางไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรในอนาคตจริงๆ!
อย่างไรก็ตาม เย่ว์หวี่ผิดหวังจนได้ ร่างที่สามของนางฟ้านักรบที่เย่ว์หยางจินตนาการก็คือ…นาง ยิ่งกว่านั้น นางตระหนักว่าระดับความเข้าใจที่น้องชายผู้ซุกซนนี้เข้าใจร่างกายนางมิได้ด้อยไปกว่าที่นางเข้าใจร่างกายตัวเอง.. โอวพระเจ้า.. เย่ว์หวี่แทบจะเป็นลม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อนางมองดูนางฟ้านักรบที่มีร่างลักษณะของสตรี บ่งบอกถึงสถานะของนางเอง แม้แต่ซอกลับหลืบน้อยของนางก็ช่างเหมือนกัน น่าอายยิ่งนัก
ตอนนี้จะทำยังไงดี?
นางควรจะแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องนี้ดีหรือไม่
เย่ว์หวี่ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างช่วยไม่ได้ จ้องมองร่างของนางฟ้านักรบก่อตัวจนเป็นรูปนางโดยสมบูรณ์ ขณะที่แสงค่อยๆ จางลง นางรู้สึกตัวจากอาการมึนงงทันทีและรีบวิ่งออกไปจากห้อง
ไม่ว่ายังไง นางจะแกล้งทำเป็นไม่รู้อะไรไว้ก่อน
มิฉะนั้น นางคงไม่กล้าสู้หน้าคนอื่นๆ อีกเลย