เดชคัมภีร์เทพฤทธิ์ – ตอนที่ 58 – หมาป่าปีศาจ 2 หัว

===============
เขาเอาไข่ของสัตว์ประหลาด 9 หัวมาได้ แต่สิ่งที่ทำให้เย่ว์หยางลมจับก็ด้วยเหตุผลบางอย่าง คือไข่ใบนี้เสียหายมาก มันแตกแล้ว บนเปลือกไข่มีรอยร้าวบางจนเห็นข้างในได้ แม้จะไม่มีไข่ขาวหรืออะไรไหลออกมา ไข่ใบนี้ดูเหมือนจะไม่สามารถฟักเป็นตัวสัตว์ประหลาด 9 หัวได้แล้ว

พอเป็นเช่นนี้ ฝันหวานถึงความมั่งคั่งของเย่ว์หยางถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง ด้วยรอยร้าวเล็กๆ ที่ปรากฏขึ้นนี้

เสียเวลาไป 2 ชั่วโมงพยายามเสี่ยงตายหลอกล่อศัตรู ยอมให้สัตว์ประหลาด 9 หัวไล่ตามเขาจนกระทั่งเกือบจะสำเร็จ แต่เพราะรอยร้าวรอยเดียวบนไข่ เย่ว์หยางแทบอยากทุ่มไข่ลงบนพื้น

“แกคิดว่าแค่นี้จะหยุดข้าได้หรือ? ข้าจะกินแก” เย่ว์หยางตัดสินใจเปลี่ยนความโกรธเป็นความอยาก

กลับไปที่ใต้ต้นโอ๊คหมื่นปี เขาก่อไฟแล้วปิ้งไข่ของสัตว์ประหลาด 9 หัวที่มีราคาไม่กี่พันเหรียญทอง เขากินมันจนอิ่ม เรอแล้วลูบท้องตัวเอง นี่เป็นครั้งแรกที่เย่ว์หยางฟุ่มเฟือย ถ้าเขามีตัวเลือกที่สอง เย่ว์หยางคงไม่ปิ้งมันกินอย่างแน่นอน ไม่มีทางเลือกอื่นเมื่อเปรียบเทียบกับทั้งหมดแล้ว ฮุยไท่หลางมันก็หมดแรงแล้วยังเสี่ยงชีวิตอีกด้วย ก็ได้กินจนอิ่มเหมือนกัน มีความสุขกันถ้วนหน้า ไข่ของสัตว์ประหลาด 9 หัวมีประโยชน์ต่อตัวของมันมหาศาล

หลังจากกินไข่ของสัตว์ประหลาด 9 หัวแล้ว เขารออยู่นาน แต่เย่ว์ปิงก็ยังมาไม่ถึง

ไม่มีสัญญาณจากเย่คงหรือพี่น้องสกุลหลี่

น่าจะปีนขึ้นไปนอนบนกิ่งโอ๊คหมื่นปีหลับสักงีบก็ดีเหมือนกัน เขาหวังจะเห็นเทพธิดากระบี่ฟ้าออกมาปลอบหัวใจที่ชอกช้ำของเขา แต่ไม่มีร่องรอยนางเลยตั้งแต่แรก เมื่อเย่ว์หยางฝึกฝนในความฝัน เป็นเพราะเขาไม่รู้สึกเป็นสุข ปราณของเขาจึงอัดแน่นอยู่ที่หน้าอกและยากจะที่การเชื่อมประสานฟ้ากับดิน ปราณกระบี่ที่ปกติจะปล่อยออกมาได้ง่าย ก็ออกจากกายไม่สำเร็จ ได้แต่สะสมอยู่ในภายใน อย่างช้าๆ ความรู้สึกระเบิดรุนแรงกำลังรอที่จะเกิด สถานการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรกสำหรับเย่ว์หยาง ถ้าเขาไม่มีทางปล่อยปราณรุนแรงที่สะสมอยู่ภายในร่างกายเขา มันอาจจะเป็นอันตรายได้

เขาจะทำไงดี?

จะหยุดอาการนี้ได้ไหม หรือว่าฟื้นคืนความปกติกลับไปตอนก่อนฝึก

นี่มันผิดปกติ เป็นไปได้ว่าจะเป็นการที่ตัวเขากินไข่ของสัตว์ประหลาด 9 หัวใช่ไหม? นี่คือพลังที่อัดแน่นอยู่ภายในไข่ของสัตว์ประหลาด 9 หัวใช่ไหม แต่เมื่อเขากำลังกินตอนนี้ อาการมันไม่ปรากฏได้อย่างไร?

ในใจเย่ว์หยาง มีแรงบันดาลใจแว่บเข้ามาฉับพลัน เนื่องจากพลังนี้คงมีผลต่อเขา อย่างนั้นทำไมไม่ถ่ายมันออกมาจากร่างเขาโดยระเบิดพลังออกมา? นี่อาจเป็นอุปสรรคในการฝึกฝน เป็นบททดสอบ และเป็นโอกาสประสบความสำเร็จอย่างดีเช่นกัน

พอคิดเช่นนี้แล้ว จิตวิญญาณของเย่ว์หยางก็ตื่นเต้นอย่างมาก

พอเขายกมือขึ้น กางนิ้วออก นิ้วทั้ง 10 ก่อเป็นรูปเหมือนตราประทับ เขารวบรวมพลังจิตใจก่อพลังปราณเป็นพลังสายหนึ่ง

เขาใช้พลังใจทั้งหมดกลั่นปราณอัดแน่นรวมอยู่ในมือของเขา ปราณที่สั่งสมในร่างกายของเขาแทบจะระเบิดออก และด้วยจิตใจที่แน่วแน่ เขาตะโกนลั่นคำรามใส่ท้องฟ้า

พลังวิญญาณของเขาทั้งหมดสั่นสะท้าน ขณะที่ท้องฟ้าถูกบดอัดและฟ้าทั้งหมดก็เกิดแรงระเบิด ปราณกระบี่ถูกสลายไปด้วยน้ำมือเขากลายเป็นจุดที่แข็งแกร่งที่สุด เหมือนสายฟ้าที่ผ่าทลายคุก เหมือนคิงคองสั่นสะท้านพื้นดิน เหมือนอัสนีบาตฟาดลงพื้นปฐพีจนเกิดแรงระเบิด พลังปราณไหลออกมา

พลังปราณในมือทั้งสองของเขาที่ได้สะสมมาเป็นเวลานาน มีขนาดยาวครึ่งเมตร มันแยกท้องฟ้าออกได้

พลังของมันรุนแรงกว่าปราณกระบี่ที่ปล่อยตามปกติถึง 10 เท่า

เป็นเวลานานที่เย่ว์หยางไม่อยากเชื่อเลยว่าเรื่องนี้เป็นความจริง

หลังจากปลดปล่อยพลังกระบี่จะตัวเขา เย่ว์หยางรู้สึกว่าพลังภายในของเขาถูกใช้ไปอย่างรวดเร็วจนขาทั้งสองสั่น ศีรษะมึนงง ระดับการสิ้นเปลืองพลังมากกว่าครั้งก่อนที่เมื่อนางพญาเฟ่ยเหวินหลีสูบพลังปราณของเขาเอง

“พระเจ้าช่วย, ข้าเพิ่งเรียนทักษะใหม่พลังสุดยอดมาหรือนี่.. แม้ว่าจะใช้เวลาสะสมพลังปราณนานเป็นพิเศษ และสามารถปล่อยกระบี่ได้ทีเดียว คนที่ได้เรียนวิชานี้คือตัวเราเองจริงๆ ฝันไปหรือเปล่าเรา?” เย่ว์หยางยังคงไม่พอใจมากเท่าไหร่

“แม้จะเป็นเดียวกระบี่เดียวที่ปล่อยออกมาด้วยพลังปราณปัจจุบันของเราทั้งหมด แต่พลังของมันก็เพียงพอ ถ้าเจอคู่ต่อสู้แข็งแกร่งครั้งต่อไป เราอาจต้องใช้มัน” เย่ว์หยางมีความสุขที่เขาได้เรียนรู้วิชาใหม่ ที่สำคัญยิ่งกว่า นี่เป็นวิชาที่เขาบัญญัติขึ้นเองหลังจากผุดรู้ด้วยตัวเอง ทำให้เขารู้สึกถึงความสำเร็จที่ยอดเยี่ยม หลังจากตื่นเต้นอยู่นาน มันเป็นการยากที่จะระงับอารมณ์ยินดีที่พลุกพล่านจากภายในตัวเขาได้

บางทีมันคงเป็นการบีบอัดพลังภายในที่มีอยู่แล้วปล่อยออกไป หรือบางทีเป็นเพราะอารมณ์ของเขาดีขึ้น แต่ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม หลังจากเย่ว์หยางมีความสุข เขารู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวดีขึ้นและแสงผุดผ่องจากกายเขา เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ราวกับพยัคฆ์ออกจากป่าและมังกรร่ายรำอยู่บนท้องฟ้า

ถ้าเทพธิดากระบี่ฟ้าได้เห็นความก้าวหน้าของเขา นางคงมีความสุขเพราะเขาแน่นอน

เย่ว์หยางค่อยคลายใจหลับอย่างมีความสุข…

แม้แต่ในความฝัน เขาก็ยังไม่เห็นนาง

กระแสพลังที่เขายิงออกไปโดยใช้นิ้วทั้งหลายยังคงอยู่ไม่หายไป แต่เปลี่ยนเป็นพลังงานรูปทรงกลมสีเทา

ขณะนั้น ต้นโอ๊คหมื่นปีเปล่งแสงสีเขียวออกมา และแตกกระจายเป็นฝนแสงสีเขียวตกลง อาบรดเย่ว์หยาง ลูกพลังงานสีเทานั้นละลายลงอย่างรวดเร็ว และราวกับว่ามันมีชีวิตของตัวเอง มันบีบตัวเองเข้าไปในปากของฮุยไท่หลาง ฝนแสงสีเขียวยังคงตกจากต้นโอ๊คหมื่นปีต่อเนื่องเป็นเวลานานและปริมาณพลังไม่มีที่สิ้นสุดจากฝนแสงได้หลอมรวมเข้าสู่ร่างกายเย่ว์หยางและฮุยไท่หลาง เย่ว์หยางยังหลับกรนเสียงสนั่นราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ร่างของฮุยไท่หลางมีการเปลี่ยนแปลงรูปทรงอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งของผิวของมันเริ่มปูดออก กล้ามเนื้อของมันเริ่มแปรปรวนและกระดูกมีการเปลี่ยนแปลง ในที่สุดก็มีอีกหัวหนึ่งเพิ่มออกมาจากคอ กลายเป็นหมาป่า 2 หัว

ฮุยไท่หลางยังไม่ตื่น แต่มันรู้สึกเจ็บปวดมากอย่างคาดไม่ถึงในความฝันของมัน และมันครางอย่างต่อเนื่องในความฝันนั้น

ภายใต้แสงสีเขียวห่อหุ้ม หลังจากผ่านไปเป็นเวลานาน การเปลี่ยนแปลงร่างของมันก็ลงตัวในที่สุด และรูปลักษณ์เดิมของมันค่อยๆ หายไป มันเหมือนกับว่าเป็นหมาป่า 2 หัวที่มีลักษณะแปลกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ในความฝันของมัน ฮุยไท่หลางหาวอย่างสบายใจ

ลูกพลังงานสีเทาค่อยๆ หยดออกมาจากปากของมันเอง เปลี่ยนเป็นลูกพลังปราณสีดำดูเหมือนจะไม่มีพลังปราณเหลืออยู่แล้ว ภายใต้ฝนแสงสีเขียวที่ตกชะจนหยดสุดท้าย มันกลายเป็นควันลอยหายไป รัศมีจากต้นโอ๊คหมื่นปีก็กระจายหายไปและกลับคืนสู่ความเงียบสงบ ในราตรีมืดมิด เย่ว์หยางกับฮุยไท่หลางนอนหลับส่งเสียงดังแข่งกัน ทั้งนายและบ่าวไม่ได้รู้เลยว่าเพิ่งเกิดเหตุการณ์อะไรที่ผ่านมา

เมื่อเย่ว์หยางตื่นขึ้นก่อนในวันใหม่ พอเห็นว่าเย่ว์ปิงยังไม่ได้มาถึง เขากินอาหารเช้าก่อน แล้วเตรียมจะพาฮุยไท่หลางไปขโมยไข่ใบอื่นของสัตว์ประหลาด 9 หัวอีกครั้ง

แต่พอมองฮุยไท่หลางไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ ดูเหมือนว่ามันจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างเล็กน้อยมั้ง?

เมื่อใช้พลังปราณผ่านนัยน์ตา จ้องมองมันอย่างตั้งใจ เย่ว์หยางถึงกับแทบช็อค นี่มันฮุยไท่หลาง หมาป่าปีศาจหลังเหล็กจากเมื่อวานนี้ มันกลายเป็นหมาป่าปีศาจ 2 หัวได้อย่างไร? ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะฮุยไท่หลางพยายามประจบเย่ว์หยางด้วยการกระดิกหางของมัน เย่ว์หยางอาจจะสงสัยว่าคงมีใครมาเปลี่ยนตัวเจ้าฮุยไท่หลางไป

ฮุยไท่หลางเองก็ไม่รู้สึกถึงระดับสิ่งแปลกปลอมที่เพิ่มขึ้นมา มันยังเป็นสัตว์อสูรชั้นทองแดง ระดับ 4 แต่มีวิวัฒนาการที่แตกต่างไป

จากหมาป่าปีศาจหลังเหล็ก เปลี่ยนเป็นหมาป่าปีศาจ 2 หัว มีแต่หัวเพิ่มขึ้นมาหรือ? แล้วมันกลายเป็นหมาป่าปีศาจ 2 หัวได้อย่างไรกัน?

เป็นไปได้ว่า คงเพราะมันกินไข่ของสัตว์ประหลาด 9 หัวกระมัง?

จะเป็นพลังของไข่สัตว์ประหลาด 9 หัวที่ทำให้มันมีวิวัฒนาการไปเป็นหมาป่าปีศาจ 2 หัวอย่างนั้นหรือ? เย่ว์หยางเหงื่อตก คิดอยู่ในใจว่า ยังโชคดีที่เขาไม่กลายเป็นมนุษย์ 2 หัวหลังจากที่เขาเองก็กินไข่ของสัตว์ประหลาด 9 หัวไปด้วย นั่นคงจะทำให้เขาร้องไห้แน่ เขาคงไม่สามารถหาสาวๆ เป็นแฟนได้ และคนทั้งโลกคงจะหัวเราะเยาะแน่ ของทุกอย่างไม่ใช่ว่าจะเอามากินสุ่มสี่สุ่มห้าได้ ถ้าฮุยไท่หลางกลายเป็นหมาป่าปีศาจ 2 หัว ในอนาคตมันอาจกลายเป็นหมาป่าปีศาจ 3 หัวได้หรือไม่? มันจะไม่กลายเป็นหมาป่าปีศาจ 9 หัวไปในที่สุดหรือ ขืนเป็นอย่างนั้น คงทำให้คนได้ตกใจกลัวจนตายเป็นแน่

“รู้สึกอย่างไรบ้าง? ร่างของแกมีตรงไหนที่ไม่สบายบ้างหรือเปล่า?” เย่ว์หยางลูบหัวฮุยไท่หลางและรู้สึกว่ามันมีวิญญาณที่ต่อต่อถึงกันได้ ไม่มีสิ่งอื่นอย่างเช่นวิญญาณของสัตว์ประหลาด 9 หัวอยู่ในนั้น แต่พลังงานปีศาจของมันแปลกประหลาดมาก พลังงานปีศาจของจ้าวปีศาจฮาซินได้มีการผสมกับพลังงานรูปแบบใหม่ 2 ชนิด หนึ่งในนั้นเป็นการผสมกันที่แปลก พลังอีกสายเป็นพลังบริสุทธิ์ตามธรรมชาติ พลัง 3 สายที่แตกต่างกัน ก่อตัวเป็นพลังที่สมดุลกันโดยบังเอิญ พลังแต่ละรูปแบบจะสัมพันธ์กับรูปแบบสายธาตุ

จากพลังเหล่านี้เอง พลังงานปีศาจของจ้าวปีศาจฮาซินแข็งแกร่งที่สุด และยังมีพลังธาตุไฟของฮุยไท่หลางหลอมรวมอยู่ด้วย มันเป็นพลังธาตุที่แข็งแกร่งที่สุดในตัวของฮุยไท่หลาง

พลังบริสุทธิ์ตามธรรมชาติหลอมรวมอยู่ในธาตุสายมืดได้อย่างน่าอัศจรรย์ และแปลงธาตุสายมืดในตัวของมันซึ่งมีผลต่อการกัดกร่อนและทำลายพลังงานชีวิตอย่างสิ้นเชิง ความเงียบสงบเป็นเหมือนพลังของน้ำ มันทำให้พลังชีวิตของร่างฮุยไท่หลางทั้งหมดมีความสมบูรณ์จนยากจะอธิบาย

เย่ว์หยางไม่เข้าใจ ธาตุองค์ประกอบสายมืดเปลี่ยนเป็นแบบนี้ได้อย่างไร?

พลังงานบริสุทธิ์นี้มาจากไหนกัน? ใครให้พลังนี้แก่ฮุยไท่หลาง? อาจเป็นไปได้ว่าเทพเจ้าบังเอิญผ่านมา เห็นฮุยไท่หลางถูกเขารังแกแล้วสงสาร จึงให้พลังบางอย่างแก่มันหรือไม่?

ขณะที่เย่ว์หยางคิดอย่างนี้แล้ว เขาชักกังวลใจจริงๆ

อย่างไรก็ตาม เย่ว์หยางมั่นใจว่าพลังรูปแบบที่สาม เป็นพลังแปลกที่ผสมกันน่าจะเป็นของสัตว์ประหลาด 9 หัว พลังนี้ได้หลอมรวมเข้ากับธาตุโลหะในตัวฮุยไท่หลาง

แม้ว่าฮุยไท่หลางยังไม่ยกระดับขึ้น เย่ว์หยางรู้สึกว่าเจ้าหมอนี่แข็งแกร่งขึ้นมาก และในอนาคต เมื่อพลังสายที่สามได้หลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์ ความแข็งแกร่งของฮุยไท่หลางจะก้าวกระโดดมากยิ่งขึ้น

“ฮุยไท่หลาง ให้ข้าดูหัวของแกที่งอกออกมาหน่อยซิ” เย่ว์หยางต้องการเห็นว่าฮุยไท่หลางจะดูเหมือนอะไรหลังจากที่มันเปลี่ยนเป็นหมาป่าปีศาจ 2 หัว

“บรู๋ว!” ฮุยไท่หลางไม่รู้ว่ามันมีความสามารถเช่นนี้เอง และมันน้อมหัวลง

“ก็ยังมีนิสัยโง่เหมือนเดิม แกไม่รู้เหรอว่าตัวเองมีทักษะใดบ้าง เย่ว์หยางพูดกับฮุยไท่หลางโดยไม่เปล่งคำพูด บางทีมันคงเป็นหมาป่าตัวแรกในทั้งทวีปมังกรทะยาน โดยเฉพาะหมาป่าติงต๊องอย่างฮุยไท่หลาง มันคงไม่มีวิวัฒนาการก้าวหน้าถ้าไม่ถูกทุบตีบ้าง เมื่อเย่ว์หยางต้องการจะเตะมันแรงๆ ทันใดเขารู้สึกถึงบุรุษคนหนึ่งมีเลือดเต็มตัวกำลังมาแต่ไกลๆ เขาวิ่งก้าวยาวๆ เพื่อไปดู แล้วก็ตระหนักได้ว่านั่นคือเย่คง

เย่ว์หยางใจตกวูบทันที

เย่คงเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด และมาตรงนี้ตามลำพัง เย่ว์ปิงและคนอื่นๆ คงตกอยู่ในอันตราย

เย่ว์หยางถลันไปหาเย่คงและพยายามช่วยให้ร่างกายเขารู้สึกดีขึ้น รีบสอบถามว่า “เกิดเรื่องแบบนี้ได้อย่างไร? มันเกิดอะไรขึ้น?”

****************************