ตอนที่ 564 ทะเลฝนดาวตก
เย่ว์หยางกำลังเดินทางไปป้อมสายฟ้า
ไห่อิงอู่ไม่รู้เรื่องประตูลับแน่นอน แม้แต่ราชาฉลามก็ไม่ได้กลับไปยังทะเลไร้ขอบเขตในหอทงเทียนชั้นที่สิบ เขากลับนำเผ่าทะเลและเศษเดนทัพตะวันออกและทัพเหนือของกองกำลังนรกดำที่พ่ายแพ้ไปปักหลักทวีปกู่ฟงชั่วคราว จ้านหู่ผู้คุมทัพตะวันออกและเป่ยเหลียวหยาที่คุมทัพเหนือตายแล้ว ดังนั้นในกลุ่มบริวารพวกเขา…. จงเหลยถิงรับหน้าที่เป็นผู้นำในกองกำลังนรกดำ นอกจากองครักษ์ของราชาเฮยอวี้ที่ยังอยู่ในอาณาจักรสือจิน, นักรบอื่นได้แก่ ซีควงฟงแม่ทัพตะวันตกและหนานเซี่ยถีแม่ทัพใต้นำกองกำลังของตนเองออกจากทวีปมังกรทะยานไปยังทวีปอ้าวเจียและฉีหลานตามลำดับ
ทำไมราชาเฮยอวี้แบ่งแยกกองกำลังของเขาอย่างนั้น?
ทำไมองครักษ์ฝีมือดีผู้ภักดีที่สุดของราชาเฮยอวี้ถึงได้รั้งอยู่ในอาณาจักรสือจิน?
เย่ว์หยางรู้สึกว่าราชาเฮยอวี้ยังคงมีแผนการและยังไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ง่ายๆ ยิ่งกว่านั้น เย่ว์หยางคิดว่า ถ้าราชาเฮยอวี้บุกโจมตีอีกครั้ง จะเป็นการโจมตีที่รุนแรงแน่นอน
“เซี่ยอียังไม่กลับมาเลย ดูเหมือนว่านางจะพบสิ่งที่เป็นประโยชน์บางอย่าง” ไห่อิงอู่พูดเบาๆ “ด้วยพลังของนาง ย่อมไม่มีปัญหาแน่นอน ถ้านางต้องการอยู่ในทวีปกู่ฟง อย่างไรก็ตามจงเหลยถิงไปถึงทวีปกู่ฟงแล้ว ความสามารถของเขาไม่ธรรมดา และเขามีบริวารอยู่กับเขามากมาย ถ้าพวกเขาหาเซี่ยอีพบ ชีวิตนางจะตกอยู่ในอันตราย”
“อย่างนั้นก็ส่งจดหมายไปและขอให้นางกลับมาป้อมสายฟ้า ตอนนี้ ข้าคิดว่าพอจะคาดเดาแผนการในทวีปกู่ฟงได้บ้างแล้วว่าเป็นยังไง ข้าจะไปรับนางเอง” เย่ว์หยางพยักหน้า
“ประตูลับ ท่านคิดว่าเป็นเรื่องจริงหรือลวง? ท่านคิดว่าจะมีกับดักไหม?” ไห่อิงอู่ยังคงสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้
“วางใจได้ ข้าจะไปกับกฎฟ้า แม้ว่าราชาเฮยอวี้จะเตรียมลอบทำร้าย แต่เราทั้งสองคนจะออกมาได้อย่างปลอดภัย” เย่ว์หยางในปัจจุบันไม่หลงกลเหมือนในอดีตง่ายๆ อีกต่อไป
ก่อนเข้าสู่สังเวียนมรณะ เย่ว์หยางยังกริ่งเกรงราชาเฮยอวี้อยู่บ้าง
หลังจากผ่านการต่อสู้ในแดนสวรรค์ พลังของเย่ว์หยางเพิ่มขึ้นมาก
เขายังใจเย็นมาก
นอกจากนี้ หลังจากประสบความสำเร็จสร้างนางฟ้านักรบ เขามีแต่จะหาโอกาสสู้กับราชาเฮยอวี้อีกครั้ง ไม่มีความรู้สึกกลัวอีกต่อไป อีกทั้งพลังของราชาเฮยอวี้ในปัจจุบันนี้อ่อนแอลงมาก ถ้าเขายังลอบทำร้ายและเปิดโอกาสให้เย่ว์หยางจับเขาได้ ราชาเฮยอวี้คงจะไม่โชคดีมากเหมือนครั้งผ่านมาและหนีความตายได้อีกครั้ง เทียบกับราชาเฮยอวี้แล้ว เย่ว์หยางกังวลเรื่องของจักรพรรดิชื่อตี้และสนมชื่อเฟยมากกว่า ถ้าจักรพรรดิชื่อตี้ฟื้นฟูพลังได้ดังเดิม นั่นนับว่าอันตรายจริงๆ
หอทงเทียนชั้นที่สิบ
ทะเลไร้ขอบเขต
ที่นี่เป็นเขตจำกัดห้ามนักรบธรรมดาทั่วไป นี่คืออาณาเขตของราชตระกูลเผ่าพันธุ์ทะเล
จักรพรรดิสมุทรก้วนหลานตายและนักสู้ปราณก่อกำเนิดเกือบทั้งหมดในเผ่าพันธุ์ทะเลก็ตายที่สุสานใต้ทะเล การพลาดท่าล้มเหลวครั้งเดียวทำให้เผ่าพันธุ์ทะเลตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
ราชินีแมงกะพรุนรีบเร่งแก้ไขสถานการณ์และหันไปเข้ากับกองกำลังนรกดำตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับทวีปมังกรทะยาน ในที่สุดพวกเขากลับกลายเป็นขุดหลุมลึกไว้ฝังตนเอง กองทัพส่วนใหญ่ของพวกเขาที่เดินทางไปทวีปมังกรทะยานอย่างรีบเร่ง ทำให้อำนาจภายในของพวกเขาปั่นป่วนวุ่นวาย ทะเลไร้ขอบเขตไม่ใช่สถานที่จำกัดหวงห้ามในหอทงเทียนอีกต่อไป
ยุคแห่งความรุ่งเรืองของเผ่าพันธุ์ทะเลจบลงแล้ว
ไม่มีอำนาจพอจะคุกคามนักผจญภัยได้อีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักผจญภัยบางส่วนที่มีเจตนาร้าย
แม้ว่าราชินีแมงกะพรุนยังคงควบคุมสภาผู้อาวุโสเผ่าพันธุ์ทะเลและยังคงมีกองทัพที่แข็งแกร่งก็ตาม แต่พื้นที่ทะเลไร้ขอบเขตกว้างใหญ่เกินไป ใหญ่กว่าทวีปมังกรทะยานถึงสิบเท่า พื้นผิวทะเลไร้ขอบเขตเป็นแนวยาวและมีเกาะมากมายราวกับดวงดาวในท้องฟ้า เป็นไปไม่ได้ที่ราชินีแมงกะพรุนจะปกป้องทะเลไร้ขอบเขตได้ทั้งหมด ดังนั้นนางทำได้แต่เพียงตัดสินใจถอนกำลังมาป้องกันสถานที่สำคัญที่สุด คือเขตทะเลฝนดาวตก
ทะเลฝนดาวตกนอกจากเป็นเขตแดนที่มั่งคั่งและสมบูรณ์ที่สุดในทะเลไร้ขอบเขตแล้ว ยังคงเป็นที่ตั้งเมืองหลวงที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดของชาวเผ่าพันธุ์ทะเลอีกด้วย
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือสถานที่นี้เป็นที่ซึ่งประตูลับได้ถูกผนึกไว้
“ยินดีต้อนรับท่านมารกฎฟ้า, ขอต้อนรับคุณชายสาม” คนที่มาต้อนรับนางเซียนหงส์ฟ้าและเย่ว์หยางก็คือสุภาพสตรีสูงศักดิ์วัยกลางคนสวมชุดยาวหลากสีเหมือนกับผีเสื้อ แน่นอนว่านางไม่ได้มาจากเผ่ามนุษย์ผีเสื้อ นางไม่ได้มาจากเผ่าแฟรี่ดอกไม้ นางเป็นประมุขเผ่าปลาผีเสื้อ
“(ปั๋วเจี๋ย) ท่านเจี๋ยเหว่ย ไม่ต้องมากมารยาทก็ได้” นางเซียนหงส์ฟ้าเพิ่งมาสมทบกับเย่ว์หยางในสมาคมนักรบหอทงเทียนชั้นสิบ หากจะว่าไปแล้วการแยกจากกันของคู่รักใหม่แล้วมาพบกันทำให้หัวใจพวกเขาพองโต ถ้าไม่ใช่เพราะมีเวลาจำกัด นางคงต้องการหลับนอนกับคนรักนางเพื่อบรรเทาความปรารถนาในหัวใจนางก่อนที่จะมาสำรวจทะเลไร้ขอบเขต นางไม่ได้จับมือเย่ว์หยางและให้เกียรติสตรีระดับสูงด้วยมารยาทของนักรบ จากนั้นหันมาทางเย่ว์หยางแนะนำให้รู้จักกัน “นี่คือ (เคาท์เตส) ท่านเจี๋ยเหว่ยที่ข้าเคยพูดถึง แน่นอนว่าถ้าไม่ใช่เพราะแผนการของราชินีแมงกะพรุน, ราชินีของเผ่าทะเลอาจเป็นท่านเจี๋ยเหว่ยก็เป็นได้”
“เมื่อก้วนหลานตาย เขาทิ้งข้อความไว้ให้เจี๋ยเหว่ยหรือเปล่า?” เมื่อสตรีสูงศักดิ์นางนี้ได้ยินคำพูดของมารกฎฟ้า นางค่อยๆ หน้าแดง นางหันไปถามเย่ว์หยาง
“ใช่แล้ว ก่อนเขาจะตายเขาได้สั่งเสียโอรสธิดาถึงความประสงค์ของเขาและจัดงานศพให้เขา ข้าเป็นคนนอก ดังนั้นไม่ได้อยู่ฟังด้วย” ความจริงเย่ว์หยางได้ยินคำสั่งเสียของจักรพรรดิสมุทรก้วนหลานทั้งหมด แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเจี๋ยเหว่ย เพื่อไม่ให้นางผิดหวัง เย่ว์หยางจึงพูดว่าเขาไม่ได้ยินอะไร
“ข้าเข้าใจ เขาไม่เคยมีเจี๋ยเหว่ยในใจเขาเลยตั้งแต่แรก” เจี๋ยเหว่ยถอนหายใจแผ่วเบา
“นั่นเพราะ ข้าไม่รู้จักท่านเจี๋ยเหว่ยในเวลานั้น มิฉะนั้นข้าคงถามเรื่องของท่านกับเขาแน่” เย่ว์หยางเพียงแต่พูดปลอบใจนาง เขาไม่ใช่คนที่ชอบนินทาลับหลัง
“เจี๋ยเหว่ยต้องขอบคุณคุณชายสาม ข้าไม่รู้จักธิดาที่เขาฝากฝังตั้งปรารถนาไว้เป็นการส่วนตัว แต่ถ้าท่านหมายถึงบุตรชายของเขา ก็คงหมายถึงราชาฉลาม นอกจากเขาแล้ว จักรพรรดิสมุทรก้วนหลานไม่เชื่อถือใครอื่น” เจี๋ยเหว่ยฉลาดมาก
คาดเดาเพียงครั้งเดียวนางก็คาดถึงราชาฉลามได้
เย่ว์หยางกระแอม
เขาไม่ยอมรับและไม่ปฏิเสธเจี๋ยเหว่ย
เย่ว์หยางสัญญาไว้แล้วว่าจะช่วยไห่อิงอู่ให้เป็นจักรพรรดินีสมุทร ดังนั้นเขาจะพยายามรักษาสัญญาของเขาไว้
ก่อนที่เขาจะสามารถยืนยันได้ว่าเจี๋ยเหว่ยสตรีสูงศักดิ์เผ่าทะเลเป็นมิตรแท้ เย่ว์หยางจะไม่พูดถึงเรื่องไห่อิงอู่ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะตามมา
เจี๋ยเหว่ยไม่คาดคั้นเรื่องนั้นต่อไปมากนัก นางรีบสงบใจและเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที “ข้าขอถามได้ไหม คุณชายสามคิดยังไงกับการแต่งงานผูกสัมพันธ์ระหว่างหวี่เหวินธิดาของข้ากับคุณชายห้าตระกูลเย่ว์ เย่ว์ถิง?”
เย่ว์หยางยิ้มเล็กน้อย “เรื่องนี้ควรปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของผู้อาวุโสของตระกูลเรา ข้าเป็นแค่ผู้เยาว์คนหนึ่งจะตัดสินใจเรื่องเช่นนี้ไปนับว่าไม่เหมาะสม”
เมื่อเจี๋ยเหว่ยได้ยินคำตอบของเขา นางหัวเราะ “คุณชายสามเป็นยอดกตัญญู เจี๋ยเหว่ยเคยได้ยินมาก่อน ถ้าเรื่องนี้สร้างความลำบากใจให้กับคุณชายสาม เจี๋ยเหว่ยจะไม่กดดันอีกต่อไป แม้ว่าชื่อเสียงของคุณชายห้าจะยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่สหายของข้าพูดถึงเขาบ่อยมาก ที่สำคัญที่สุด คุณชายห้าจริงจังกับความรักเป็นคนรักเดียวใจเดียว ถ้าหวี่เหวินได้แต่งงานกับบุรุษที่น่าหลงใหลอย่างนี้ ชีวิตนางก็คุ้มค่าแล้ว” คำพูดของนางทำให้เย่ว์หยางสะอึก แม้ว่านางจะไม่ได้สื่อความหมายอะไร แต่เมื่อเย่ว์หยางได้ยินคำพูดของนาง ก็ให้รู้สึกเหมือนธนูทิ่มแทงใจหนุ่มมากรักยิ่งนัก ดังนั้นเขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย โชคดีที่เจี๋ยเหว่ยไม่พูดต่อไป มิฉะนั้นเย่ว์หยางคงอายไม่กล้าสู้หน้าต่อไป
นางเซียนมองเย้าแหย่อยู่ข้างๆ ขณะที่นางเบะปากบุ้ยใบ้ให้เย่ว์หยาง “ตัวร้าย, เจ้าก็ไม่ซื่อสัตย์เท่าใดนัก”
สีหน้าของนางมีเสน่ห์ยั่วยวนใจจนแทบจุดไฟรักในใจเย่ว์หยาง เขาแทบจะหักห้ามใจไว้ไม่ได้
“เรื่องผนึกประตูลับ, ความจริงเป็นอย่างนี้…” สตรีสูงศักดิ์เจี๋ยเหว่ยเล่าให้ฟังว่าปู่ของนางปกป้องผนึกประตูลับ แต่เมื่อหกพันปีที่แล้ว เกิดสงครามที่สั่นสะเทือนทั้งโลกในทะเลไร้ขอบเขต เวลานั้นสามผู้ยิ่งใหญ่แดนสวรรค์ตะวันตกยังไม่ได้บุกเข้ามาและจักรพรรดิอวี้ยังคงสู้กับนักสู้แดนสวรรค์คนอื่นๆ เพราะสงครามใหญ่คราวนั้นทำให้นักรบแดนสวรรค์ตายไปหลายคน พวกเขาร่วงลงสู่ทะเลไร้ขอบเขตราวกับฝนดาวตก ดังนั้นเผ่าทะเลจึงเรียกเขตทะเลที่นักรบแดนสวรรค์ร่วงลงมานั้นว่า ทะเลฝนดาวตก”
เผ่าทะเลแต่เดิมไม่ค่อยแข็งแกร่งเท่าใดนัก
อย่างไรก็ตาม หลังจากได้รับสมบัติมากมายที่นักรบแดนสวรรค์ทิ้งเอาไว้ พวกเขาจึงได้รับพลังที่แข็งแกร่งของนักรบแดนสวรรค์ ดังนั้นในเผ่าพันธุ์ทะเลจึงถือกำเนิดนักรบแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้เป็นเพราะเผ่าพันธุ์ทะเลได้รับมรดกพลังของนักรบแดนสวรรค์ พะยูนนรกที่ไม่สามารถกลับแดนสวรรค์ต้องฝืนอยู่รวมกับเผ่าทะเลและพำนักอยู่ในทะเลฝนดาวตกต่อไป ในที่สุดก็กลายเป็นเทพอารักขาของเผ่าพันธุ์ทะเลไป
การตัดสินใจนี้ทำให้เผ่าทะเลเจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว ในที่สุดทาทายของพะยูนนรกและเผ่าพันธุ์ทะเลก็กลายเป็นราชตระกูลเผ่าพันธุ์ทะเลโดยไม่มีการยกเว้นกีดกัน
สำหรับผู้นำเผ่าพันธุ์ทะเลกลุ่มต่างๆ มากมาย เนื่องจากการถือกำเนิดของเทพอารักขาและราชตระกูลใหม่ พวกเขาถูกบังคับให้ยอมรับยุคใหม่ของผู้ปกครองมหาสมุทร
ในเวลาเดียวกัน พวกเขายังคงได้รับสถานะตระกูลสมุทรชั้นสูง กลายเป็นผู้มีบรรดาศักดิ์และก่อตั้งสภาผู้อาวุโส
กู่เสอปู่ของเจี๋ยเหว่ยคือหนึ่งในนั้น
ปีนั้น สามผู้อาวุโสผู้ได้รับผนึกประตูลับก็คือกู่เสอ, เถียปิ่ง, อ้ายซื่อ ทั้งสามคนนี้ตายไปหมดแล้ว
ทายาทของกู่เสอคือตระกูลปลาผีเสื้อ เขายังเป็นปู่ของเจี๋ยเหว่ย ทายาทของเถียปิ่งคือตระกูลปลาเทวดาและผู้นำของตระกูลเป็นสตรีผู้มีบรรดาศักดิ์อีกคนหนึ่งเรียกว่าเยี่ยน ขณะที่ทายาทของอ้ายซื่อเป็นตระกูลปลามงกุฎ และผู้นำของตระกูลพวกเขาคือเฉี่ยวเตียว เนื่องจากการกดดันของราชตระกูลใหม่ ตระกูลปลามงกุฎจึงตกต่ำไปมาก วันนี้พวกเขากลายเป็นผู้รับใช้พวกเผ่าดอกไม้ทะเล พ้นไปจากตำแหน่งขุนนางแล้ว
“อีกอย่างหนึ่ง ตอนนี้ไม่มีผนึกอีกต่อไปแล้วใช่ไหม?” เย่ว์หยางขมวดคิ้ว ถ้าไม่มีผนึก ในช่วงหกพันปีมานี้ พะยูนนรกก็เป็นเหมือนพวกไส้ศึก นักรบแดนสวรรค์ทุกคนบางทีอาจหนีไปหมดแล้ว
“เจี๋ยเหว่ยก็ไม่รู้รายละเอียดแน่นอน เพราะปู่ของข้าตายไปพันปีที่แล้ว” คำพูดของเจี๋ยเหว่ยทำให้เย่ว์หยางปวดหัวมากกว่าเดิม
พันปีที่แล้ว?
อย่าว่าแต่นักรบแดนสวรรค์เลย เขาไม่คิดว่าจะเหลือมดอยู่เบื้องหลังประตูลับแม้แต่ตัวเดียว
นางเซียนหงส์ฟ้าทำท่าให้เย่ว์หยางใจเย็น เนื่องจากพวกเขามาถึงทะเลไร้ขอบเขตนี้แล้ว พวกเขาควรเข้าไปตรวจดู แม้ว่าพวกเขาไม่สามารถได้อะไรจากประตูลับ แต่อาจเป็นโอกาสที่ดีให้พวกเขาได้ตรวจสภาพภายในของเผ่าพันธุ์ทะเล บางทีเมื่อพวกเขาเปิดประตูลับอาจจะมีสมบัติหรือผนึกนักรบแดนสวรรค์อยู่จริงๆ ก็ได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น การมีเจี๋ยเหว่ยนำทาง พวกเขาก็จะไม่พลาดโอกาส ตรงกันข้าม ถ้าไม่มีอะไรอยู่ข้างใน พวกเขาก็ยังให้โอกาสเจี๋ยเหว่ยและตระกูลของนางเป็นทองแผ่นเดียวกันกับตระกูลเย่ว์ก็ได้
ด้วยการแอบช่วยเหลือของเจี๋ยเหว่ย จะเป็นประโยชน์ต่อเย่ว์หยางช่วยให้เขาวางแผนสู้ราชินีแมงกะพรุนได้
นอกจากนี้ เย่ว์หยางต้องการเห็นทะเลไร้ขอบเขต
แม้ว่าทะเลไร้ขอบเขตจะเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนที่เผ่าพันธุ์ทะเลครอบครองในหอทงเทียนชั้นสิบ แม้ว่าจะไม่ใช่เป็นทะเลที่ใหญ่ที่สุดในหอทงเทียน แต่เย่ว์หยางก็เคยได้ยินชื่อเสียงมาแล้ว
“ท่านมารกฎฟ้า, คุณชายสาม ขออภัยจริงๆ พวกท่านจำเป็นต้องเปลี่ยนชุดของพวกท่าน ราชินีแมงกะพรุนมุ่งมั่นต้องการจัดระเบียบเผ่าพันธุ์ทะเลและวางแผนใช้พลังของประตูลับคุกคามเผ่าพันธุ์อื่นๆ ดังนั้นในช่วงสองสามวันที่แล้ว นางลอบเชิญเราผู้นำเผ่าพันธุ์ไปยังทะเลฝนดาวตกเข้าไปในประตูลับด้วยกัน ข้าขอร้องท่านกฎฟ้าและคุณชายสามโปรดปลอมตัวเป็นน้องสาวข้าหลันปันและขุนพลของข้านี่จี่” เมื่อเจี๋ยเหว่ยโบกมือคนใช้ที่ยืนอยู่ห่างๆ เดินเข้ามาหาด้วยความเคารพและแต่งตัวให้ทั้งสองคน
นอกจากปลอมเป็นหลันปันและนี่จี่แล้ว เจี๋ยเหว่ยพาผู้ช่วยที่ภักดีสองคนคือฉางเหวิ่นและหยินจีไปด้วย
นอกจากนี้ นางระมัดระวังมาก นางจึงไปพบนางเซียนหงส์ฟ้าและเย่ว์หยางก่อน
เมื่อทั้งสองคนปลอมตัวเสร็จ จากนั้นนางพาพวกเขาไปที่พักของนางเพื่อพบกับฉางเหวิ่นและหยินจี
ดูเหมือนว่าจะไม่รู้ว่าหลันปันและนี่จี่เป็นตัวปลอม จากตรงนี้ เห็นได้ว่าเจี๋ยเหว่ยระมัดระวังมากใส่ใจรายละเอียดที่ง่ายที่สุด ไม่ต้องสงสัยเลยว่านางสามารถมีชีวิตผ่านการต่อสู้แย่งอำนาจในเผ่าทะเลมาได้ แสดงว่านางปกป้องตนเองได้
ลักษณะของเย่ว์หยางและนางเซียนหงส์ฟ้าแตกต่างจากนี่จี่และหลันปันเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ด้วยสมบัติวิเศษของเจี๋ยเหว่ย มุกมายา นอกจากคนที่มีพลังวิเศษในการมองอย่างทักษะแฝงเร้นจักษุญาณทิพย์ของเย่ว์หยางแล้ว ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าพวกเขาเป็นตัวปลอม
เมื่อประตูเทเลพอร์ตทะเลเปล่งประกายแสงในที่สุดพวกเขาก็มาถึงสถานที่ลับของทะเลไร้ขอบเขต ทะเลฝนดาวตก
***************