===============
ในทันใดนั้น คนเก่งที่ดูเหมือนธรรมดา เขาปกปิดความแข็งแกร่งของเขาไว้ก็พบว่าเขาทำผิดพลาดหลายอย่าง
ประการแรก เขาประเมินสถานการณ์ผิดพลาด เขาคิดเอาเองว่าซ่อนตัวเองไว้อย่างดีแล้ว แต่กลับไม่ได้คาดเลยว่าฝ่ายตรงข้ามได้พบว่าเขาแอบเข้ามาสอดแนมนานแล้ว ข้อผิดพลาดประการที่สองคือ เขาตัดสินฝีมือและปฏิกิริยาโต้ตอบฝ่ายตรงข้ามผิดพลาด เป้าหมายของฝ่ายตรงข้ามคือเขามาโดยตลอด ไม่ใช่เฉินถู่หาวและนักเรียนคนอื่น เจ้าหนุ่มผู้นี้มีพลังมากแต่น่าชิงชังยิ่งนักเขาวางกับดักไว้ก่อนแล้วและแค่รอให้เขาเข้ามาติดกับดัก ข้อผิดพลาดประการที่สามคือเขาตัดสินฝีมือและสายตาของฝ่ายตรงข้ามผิด จุดอ่อนที่ผิดพลาดที่สุดของเขาก็คือร่างกายตอนล่าง และคู่ต่อสู้ก็มุ่งโจมตีที่เป้าหมายนั้น คือที่ร่างกายส่วนล่างอย่างดุร้าย นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน แต่ศัตรูผู้นี้เห็นจุดอ่อนเขา
“อัญเชิญคัมภีร์”
ความรู้สึกถึงวิกฤติที่ร้ายแรงกระจายทั่วจิตใจของคนที่ดูธรรมดาผู้นี้ เขาไม่มีทางเลือกอื่น ได้แต่มุ่งหน้าโจมตีเย่ว์ปิงที่อยู่ต่อหน้าเขา และเขาตะโกนลั่น
ในทันใดนั้นคัมภีร์เงินปรากฏขึ้นในอากาศ พร้อมกับแสงรัศมีสีส้มฉายออกมาจากคัมภีร์
โล่ห์แสงกระจายคุ้มครองร่างเขาอย่างรวดเร็ว หอกธรรมดาที่พุ่งมาที่ร่างกายส่วนล่างของเขากลายเป็นผุยผงขณะทะลุผ่านโล่ห์แสง ถึงอย่างนั้นยอดฝีมือที่ดูเหมือนคนธรรมดาผู้นี้ที่ซุกซ่อนพลังตนเองไว้ ก็ยังต้องคุกเข่าลงกับพื้นอย่างเจ็บปวด ยึดร่างกายส่วนล่างของตนไว้ราวกับว่ามีอาการปวดเจียนตาย
แม้ว่าพลังผลักดันที่เย่ว์หยางดำเนินการไปนั้น ไม่สามารถผลักดันศัตรูได้ในทันที แต่มันก็ยังสร้างความเสียหายรุนแรงให้แก่เขา
พอได้เห็นยอดฝีมือที่ดูเหมือนธรรมดาผู้นี้เผยพลังที่ซ่อนไว้ด้วยญาณทิพย์ของเขา เขาก็รู้ได้เลยว่าจุดอ่อนที่สำคัญที่สุดของบุรุษผู้นี้คือร่างกายส่วนล่าง
ร่างกายของบุรุษผู้นี้มีความผิดปกติอยู่ภายในที่น่าสนใจ ด้วยทักษะญาณทิพย์ในปัจจุบันของเย่ว์หยาง เขายังไม่สามารถเห็นสิ่งแปลกนั้นว่าคืออะไร แต่เย่ว์หยางสามารถมองเห็นว่าจุดอ่อนสำคัญที่สุดของฝ่ายตรงข้ามก็คือร่างกายส่วนล่างนี้
ในจุดนั้น ดูเหมือนจะมีศูนย์พลังงานอยู่ด้วย เมื่อใดที่มันถูกโจมตีเบาๆ ก็อาจทำให้เสียหายหนักได้ ผลของการโจมตีก่อนหน้านั้นเป็นการยืนยันว่าการตัดสินใจของเย่ว์หยางถูกต้อง ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเจ้ายอดฝีมือที่ดูเหมือนคนธรรมดานี้ได้รับการปกป้องโดยโล่ห์แสงจากคัมภีร์อัญเชิญ เขาคงจะลงไปนอนกับพื้นเพราะโดนหอกของเย่ว์หยาง เขายังคงแปลกใจว่าการลอบโจมตีของเขาไม่ได้ผลสำเร็จเต็มที่ แต่เย่ว์หยางห่วงใยความปลอดภัยของเย่ว์ปิง ขณะที่ศัตรูกุมร่างกายส่วนล่างไว้ครวญครางอย่างเจ็บปวด เขาตรงไปอยู่ข้างๆ เย่ว์ปิงทันทีน้อมตัวลงแล้วเอาเย่ว์ปิงขึ้นหลังตน
ชุดยาวที่ฉีกเป็นริ้วยาวไว้ก่อนหน้านั้น ตอนนี้ถูกนำมาใช้ได้เป็นอย่างดี
ขณะที่เย่ว์หยางลุกขึ้นมา เขานำเอาร่างที่อ่อนระทวยของเย่ว์ปิงและผูกนางไว้กับหลังเขา เป็นอันยืนยันแล้ว เรื่องที่พวกทหารรับจ้างที่งงงวยกับการกระทำของเขา ทันใดนั้นพวกเขาก็ตระหนักได้ว่าเจ้าเด็กนี่วางแผนหนีโดยแบกน้องสาวของตนไว้บนหลัง ไม่น่าแปลกใจที่พฤติกรรมที่ดำเนินมานั้นไม่มีใครเข้าใจจนกระทั่งตอนนี้
“เย่คง, หลี่เชีย, หลี่เกอ! พวกท่านยังจะรออะไร? ไปกันได้แล้ว”
เย่ว์หยางตะโกนและวิ่งแยกออกมาจากฝูงคน พร้อมกับหยิบหอกมาจากมือของทหารรับจ้างที่มัวยืนตะลึงอยู่
เย่ว์คงและคนอื่นๆเริ่มสะดุ้ง แต่ในทันทีนั้นก็ตระหนักได้ว่า ยอดฝีมือที่ทำท่าเหมือนเอากุมเป้าแท้จริงได้กดมือเขาลงกับคัมภีร์อัญเชิญ ประตูเทเลพอร์ตสีแดงเข้มถูกเรียกออกมา พวกเขาทำอะไรไม่ได้ แต่รู้สึกขนพองสยองเกล้า กลัวขึ้นมาจับใจ
สวรรค์! เจ้าคนยอดฝีมือที่ดูเหมือนธรรมดานี้เป็นพวกนอกรีตหรือนี่? เขาอัญเชิญประตูปีศาจออกมาจริงๆ หรือนี่?
“ทุกคน! อย่าแตกตื่น, ถอยไป” สีหน้าของเจ้าสำนักเมืองโล่วฮัวหญิงสาวในชุดไหมถึงกับเปลี่ยนไป นางขมวดคิ้วสีทองของนางเล็กน้อยและโบกมือขาวผ่องของนาง คัมภีร์อัญเชิญสีทองขนาดใหญ่กว่าคัมภีร์ทองแดง 2 เท่าถูกอัญเชิญออกมา แสงสีทองโอบล้อมรอบร่างหญิงงามไว้ราวกับว่ามันมีตัวตน ขณะเดียวกันจิ้งจอกหิมะ 3 หางซึ่งอยู่ใกล้เท้านางก็ขยายาขนาดเป็น 10 เท่า กลายเป็นปีศาจจิ้งจอก 6 หางที่งดงาม หางทั้ง 6 มีเสียงเควี้ยวควับ รูปร่างงามตา เหมือนกับว่ามันกำลังร่ายรำ ดูงามเป็นธรรมชาติเหมือนหลิวลู่ลม
เริ่มมีปีศาจนับไม่ถ้วนออกมาจากประตูปีศาจสีเลือด
ขณะที่พวกทหารรับจ้างมองดู พวกเขาเห็นว่านอกจากกลุ่มผู้เยาว์ที่มีฝีมือยิ่งใหญ่หรือกล้าหาญแล้ว พวกเขายังยืนหยัดอย่างกล้าหาญ คนอื่นๆ ที่กลัวกันมากก็ร้องไปหนีไป
ในประตูปีศาจ ปีศาจออกมาราวกับคลื่น พวกมันมีขนาดแตกต่างกัน บางพวกมีผิวเหลือง, ผิวเขียวต่างแยกเขี้ยวกางเล็บอย่างดุร้าย บางพวกมีหัวโตแต่ตัวเล็ก บางพวกมีเขาแหลมคมและมีตาแดงดุจเลือด บางพวกมีร่างกายใหญ่โตจนดูเหมือนภูเขาเลือดเนื้อย่อยๆ
เย่ว์หยางตะลึง ขณะที่เขาเห็นสิ่งนี้เช่นกัน
เขาคิดไม่ถึงว่าเรื่องอย่างนี้จะเกิดขึ้น ก่อนที่เขาจะโจมตียอดฝีมือที่ปกปิดตัวเอง เขารู้สึกโดยสัญชาตญาณว่า คนที่ดูเหมือนธรรมดาผู้ปกปิดตัวเองอยู่ในความลับตลอดเวลานั้น มีอันตรายจนไม่อาจบรรยายได้ แต่นึกไม่ถึงคนผู้นี้จะอัญเชิญประตูปีศาจออกมาได้ ทำให้สามารถปล่อยวิญญาณชั่วร้ายจากนรกได้ ตอนนี้ถ้าเขาไม่รีบทำลายประตูเทเลพอร์ต ปล่อยให้จ้าวปีศาจฮาซินออกมาได้ เขาคงถูกทำลายแน่
แน่นอนว่า เย่ว์หยางที่แค่ถูกส่งเข้าในทวีปมังกรทะยานมาเพียงไม่กี่เดือน ไม่รู้จักข้อกำหนดที่เข้มงวดในการอัญเชิญจ้าวปีศาจ
ความต้องการนั้นไม่มีการใช้ชีวิตคนเป็นร้อยกับชีวิตผู้อัญเชิญเป็นเครื่องบูชายัญ ประตูปีศาจธรรมดาคงเรียกได้เพียงวิญญาณปีศาจจากนรกที่มีความสามารถสู้ได้เทียบเท่าระดับ 5 และต่ำกว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะอัญเชิญจ้าวปีศาจจากนรกมาได้
ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเย่ว์หยางได้ใช้ไม้ตายสุดท้ายของเขาในคืนนั้น เสียหั่วคงไม่มีโอกาสได้ใช้ชีวิตของเขาอัญเชิญจ้าวปีศาจฮาซินได้แน่
“ตอนนี้ข้าจะทำไงดี?” เย่คงหนีไปอยู่ข้างๆ เย่ว์หยางได้ถามขึ้น และเขากลัวมากจนฟันกระทบกัน
วิญญาณปีศาจจากนรกนับไม่ถ้วนทะลักออกมาจากประตูปีศาจตอนนี้พวกมันกำลังวิ่งเข้าหาพวกทหารรับจ้างที่สังเกตการณ์อยู่ ทหารรับจ้างบางคนหลบไม่ทันเวลา ถูกกระแสปีศาจชนล้มและถูกตัดจนเป็นชิ้น พอเห็นสถานการณ์ย่ำแย่หนัก ทหารรับจ้างต่างก็หนีเอาชีวิตรอด และเพื่อปกป้องตัวเองพวกเขาชักอาวุธออกมาหรือไม่ก็อัญเชิญสัตว์อสูรของตนออกมาหลังจากถูกวิญญาณปีศาจนรกไล่ตามจนทัน แต่นอกจากทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งไม่กี่คนที่ฝืนรับมือได้ ทหารรับจ้างที่ฝีมืออ่อนก็พลาดท่าทันทีที่หันมาสู้ พวกที่ถูกวิญญาณปีศาจร้ายล้อมอยู่ ต่างก็ตกอยู่ในอันตรายมากยิ่งขึ้น
หญิงงามชุดไหมเจ้าสำนักเมืองโล่วฮัวยกมือของนางและเรียกคทาทองด้ามหนึ่งออกมา
ขณะที่คทาทองถูกปักลงบนพื้น คลื่นแสงสีทอง ขยายเป็นวงออกไปในระยะอย่างน้อย 100 เมตรแผ่กระจายออกมาจากไม้เท้า
วิญญาณร้ายทั้งหมดที่อยู่ใกล้แสงสีทองต่างกรีดร้องอย่างเจ็บปวด ปีศาจผิวเหลือง, ผิวเขียวตัวเล็กตัวน้อยที่อ่อนแอที่สุดล้มลงอยู่ในภายในแสงสีทอง ไม่อาจลุกขึ้นได้ อย่างไรก็ตามพวกมนุษย์นักรบรู้สึกว่าพลังพวกเขาเต็มเปี่ยม เหมือนกับว่าคลื่นความแข็งแกร่งซึมซาบเข้าไปในร่างกายพวกเขา พวกเขาไม่สามารถช่วยอะไรได้ แต่ก็ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้นว่า “ฮาาาา”
“ป้ายทองประกาศิต”
เย่ว์หยางเห็นป้ายทองประกาศิตของจริงของเจ้าสำนักเมืองโล่วฮัวที่ถูกเรียกออกมาแผ่กระจายพลังงานขาวสะอาด
ในทันใดนั้น แสงสีขาวปรากฏใต้เท้าทุกคน
แม้ว่าการประเมินของเขาไม่จำเป็นต้องถูกต้อง แต่เย่ว์หยางรู้สึกว่าร่างกายของเขาแข็งแกร่งกว่าปกติอย่างน้อย 2 เท่า พลังและความรู้สึกของเขาภายใต้เกราะขาวที่หุ้มอยู่ มีความก้าวหน้าใหญ่หลวง
“ป้ายทองประกาศิต ขอสั่งให้ทุกคนต้องสู้กับปีศาจร้าย มิฉะนั้นจะถือว่าเหมือนเป็นคนหนีทัพ” เสียงของหญิงงามชุดไหมก้องจนสั่นสะท้านใจทหารรับจ้าง นางหันมาและรีบเข้ามาหาเย่ว์หยางพูดว่า “โจรน้อย, ไปถ่วงเวลาเจ้าคนนอกรีตนั่นไว้ แค่สองนาที ข้าจะทำลายประตูเทเลพอร์ตของวิญญาณร้ายนี่ซะ อัญเชิญ หมู่ดาราจำลอง”
วงแหวนแสงปรากฏบนมือที่ละเอียดอ่อนของหญิงงามชุดไหม เจ้าสำนักเมืองโล่วฮัว หลังจากมันหลอมรวมกับกายนางแล้ว ประกายแสงเจิดจ้าก็ส่องกระจายไปที่ทุกคน
หลังจากนั้น แสงสีขาวทั้งหมดมารวมอยู่ในฝ่ามือข้างขวาของนาง
ถ้านี่เป็นพลังคลื่นระเบิด เย่ว์หยางเชื่อว่าพลังนั่นคงจะแข็งแกร่งพอๆ กับแสงสีเขียวที่ปล่อยออกมาโดยจ้าวปีศาจฮาซิน
แต่ในความแตกต่างกันกับจ้าวปีศาจฮาซิน ดูเหมือนว่าเจ้าสำนักเมืองโล่วฮัวใช้เวลารวบรวมพลังนานเกินไป ไม่ใช่แต่เพียงแค่นั้น การรวบรวมพลังยังต้องใช้พลังของนางมาก ต่างจากจ้าวปีศาจฮาซินที่สามารถใช้ได้ดังใจนึก หอกในมือของเย่ว์หยางได้ใช้งานอีกครั้ง เขาฆ่าปีศาจร้ายที่ตรงเข้ามาหาเขา ทั้งที่ยังพาเย่ว์ปิงที่ยังหมดสติไปด้วย เย่ว์หยางร่อนตรงไปหาเจ้าคนที่ปกปิดฝีมือที่กำลังยืนอย่างเจ็บปวด
ฝืนใจทนเจ็บปวดได้แล้ว เจ้าคนเก่งที่ดูเหมือนธรรมดาผู้นั้นเรียกปีศาจที่ปกคลุมไปด้วยควันออกมา
เมื่อเย่คงเห็นปีศาจนี้ เขาตะโกนเสียงดังว่า “เขาต้องการใช้ปีศาจควันแพร่กระจายหมอกมาที่เราซึ่งมันสามารถฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ได้ เขากำลังเตรียมใช้เลือดมนุษย์บูชายัญ ต้องฆ่าปีศาจควันนั้นโดยเร็ว วิธีที่ถูกต้องในการต่อสู้ ท่านจำเป็นต้องหาแก่นของมันและทำลายซะ..”
เย่ว์หยางไม่รู้จักปีศาจควันแต่อย่างใด เจ้าสิ่งนี้สำหรับผู้เดินทางระหว่างมิติคือสัตว์เวทระดับลึกที่พิเศษที่ยังไม่คุ้นกับเขา
อย่างไรก็ตาม ด้วยทักษะธรรมชาติญาณทิพย์ เขาจะสามารถหาจุดอ่อนที่ซ่อนไม่ให้เขาเห็นได้อย่างไร?
ในความเป็นจริง การแทงร่างกายท่อนล่างของยอดฝีมือซ่อนตัวผู้นี้ ไม่ใช่เพราะเขามีงานอดิเรกชอบทำร้ายผู้อื่น แต่เป็นการจู่โจมจุดอ่อนของปีศาจมากกว่า บุรุษที่ปกปิดตนผู้นี้ซ่อนอสูรที่เขาอัญเชิญไว้บนตัวเขา ตามหลักแล้ว คนที่ปกปิดความสามารถตัวเองนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงช้า เย่ว์หยางคาดว่าอสูรที่อัญเชิญนั้นเป็นอสูรที่เปลี่ยนรูปได้ เป็นอสูรชนิดพิเศษ ถ้าเจ้าคนที่ปกปิดความสามารถตัวเองผู้นี้ดูเหมือนทหารรับจ้างทั่วไปปกปิดหลักฐานว่าเขาเป็นคนนอกรีตเอาไว้ แต่ขณะที่เย่ว์หยางได้แทงแก่นของอสูรแปลงร่างนี้ ตำแหน่งกายท่อนล่างของเจ้าของอสูร ทำให้เจ้าคนที่ซ่อนความสามารถของตัวเองผู้นี้เข้าใจผิดว่าเย่ว์หยางรู้ว่าเขาเป็นคนนอกรีต เขาถึงตอบสนองในทันที่ด้วยการเรียกประตูปีศาจด้วยพลังทั้งหมดของตน
ปีศาจจิ้งจอก 6 หางไวกว่าเย่ว์หยาง ด้วยการสะบัดหางทั้ง 6 กลิ่นหอมที่น่าชื่นใจถูกปล่อยออกจนซึมเข้าไปในจิตใจมนุษย์ได้
ปีศาจควันที่ไม่กลัวการโจมตีทางกายภาพร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดและเกลือกกลิ้งไปรอบๆ ภายในบริเวณกลิ่นหอมนั้น
ร่างมันตอนนี้ควบแน่นลงมามาก และในที่สุดก็เหลือเป็นลูกกลมควันและเหลือแต่เพียงไข่มุกดำกลิ้งอยู่ ก่อนที่เย่ว์หยางจะใช้มือเก็บมัน เจ้าฮุยไท่หลางจอมละโมบก็อ้าปากงับปีศาจควัน มันกลืนลงท้องในคำเดียว เสียงเหมือนว่ามันกำลังกินอาหารเสริม
“เจ้าบ้า เจ้าหมาใฝ่ต่ำ กินมันทุกอย่างเลยนะ แกรู้ไหมว่าผลึกเวทสามารถขายได้เงินมากแค่ไหน?” เย่ว์หยางโกรธและเตะฮุยไท่หลางกระเด็นไปหลายเมตร
“ฮู้วว” ฮุยไท่หลางรีบลุกโดยเร็วและวิ่งกลับมาอยู่แทบเท้าของเย่ว์หยางกระดิกหางไปมา
“ไปไกลๆ เลย! เห็นแกแล้วข้าหงุดหงิดจริงๆ” เย่ว์หยางไม่สนการประจบของมัน
“โจรน้อย, อย่างที่มีคำกล่าวว่า “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน” วิญญาณร้ายจากนรกเข้าโจมตีถิ่นมนุษย์ ดังนั้นเราต้องตอบโต้พวกมันเช่นกัน เจ้ากล้าตามข้าผ่านประตูเทเลพอร์ตไปตอบโต้แดนปีศาจไหม? แม้ว่าวิทยายุทธของเจ้าจะยังใช้ได้ไม่ดีในตอนนี้ แต่ในฐานะที่โดดเด่นเหนือมนุษย์ เจ้าควรตามข้าและฝึกในแดนปีศาจลึกๆ เพื่อฝึกความกล้าของจิตใจ เจ้ากล้าไปตอบโต้แดนปีศาจพร้อมกับข้าไหม?” เจ้าสำนักโล่วฮัวในชุดไหมรวบรวมพลังได้เสร็จแล้ว ในมือของนางมีบอลแสงลูกใหญ่มีมวลพลังที่น่ากลัว ตราบใดที่มันถูกยิงออกไป ทุกคนที่อยู่ในเส้นทางจะถูกทำลายเป็นผุยผงทั้งหมด
“ตอบโต้แดนปีศาจหรือ?” หน้าผากเย่ว์หยางมีเหงื่อกาฬเกาะพราวไปหมด ใครบอกว่าปีศาจบ้า? มนุษย์นี่บ้ากว่าปีศาจจริงๆ ต่อให้โต้ตอบ จะให้คนสติดีทำด้วยหรือ? จะเกิดอะไรถ้าประตูเทเลพอร์ตหายไป ก่อนที่จะไปโต้ตอบจ้าวปีศาจที่เห็นได้ ถ้าประตูเทเลพอร์ตปิด แล้วพวกเขาจะกลับมาได้อย่างไร?
ปีศาจจิ้งจอก 6 หาง