ตอนที่ 83 – ขอทานบัตรแก้ว
===============
“ข้าจะให้ผลแห่งภูมิปัญญาแก่เจ้า หากว่าเจ้ายอมพูดความจริงทั้งหมดแก่ข้าก่อน…” คำพูดมือกระบี่หญิงชาววังทำให้เย่ว์หยางผิดหวังจริงๆ ถ้าเย่ว์อยู่ไม่อยู่ที่นี่เขาคงใช้ดาบวิเศษฮุยจินฆ่านางแน่
“เสี่ยวซาน! ไม่มีผลแห่งภูมิปัญญาอีกต่อไปแล้ว องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนให้เทพธิดาอควาเรียสของข้ากินไปแล้ว ข้าคงไม่ยอมใช้ผลแห่งภูมิปัญญาแน่ถ้ารู้ว่าน้องเจ็ดต้องการมัน อย่าห่วงเลย ข้าจะไปที่หอทงเทียนชั้น 3 กับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและจบภารกิจโลกพฤกษาให้ได้ ข้าจะได้เอาผลแห่งภูมิปัญญามาให้น้องเจ็ด” เย่ว์อยู่รู้สึกผิดจริงๆ หลังจากได้ยินเรื่องของเย่ว์หยาง จากนั้นนางฉุดแขนเย่ว์หยางและถามว่า “ตอนนี้น้องเจ็ดอยู่ที่ไหน? ทำไมนางไม่อยู่กับเจ้า?”
“นางฝึกอยู่ในวงกตศิลาดำ ช่างเถอะ..ลืมเรื่องผลแห่งภูมิปัญญาไปก่อน ข้าจะหาทางอื่นดู” เนื่องจากผลแห่งภูมิปัญญาถูกอสูรของเย่ว์อยู่กินลงไปแล้ว เย่ว์หยางถึงได้ยอมแพ้ในที่สุด
แต่ว่า ความรู้สึกต้องการมอบผลแห่งภูมิปัญญาแก่เย่ว์ปิงน้องสาวของเขา ยิ่งแรงกล้าขึ้นอยู่ในใจของเขา
เนื่องจากมือกระบี่หญิงชาววังได้มอบผลแห่งภูมิปัญญาให้กับเย่ว์อยู่ญาติผู้พี่ของเขาไปแล้ว และนางให้เป็นอาหารแก่เทพอควาเรียสไปแล้ว เขาไม่อาจเอาคืนมาตามที่ต้องการได้ พอเห็นว่ามือกระบี่หญิงชาววังใช้สายตาเฉียบคมจ้องมาที่เขา เหมือนกับว่านางต้องการมองเขาให้ทะลุ เย่ว์หยางก็คิดได้ทันทีว่าเขาควรรีบออกไปจากที่นี่
เขาไม่รู้สึกปลอดภัยตลอดเวลาที่อยู่กับดรุณีนางนี้ ดังนั้นเขาต้องจากไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ในขณะเดียวกัน จะเป็นเรื่องดีที่สุดหากเขาไม่ข้องเกี่ยวกับเย่ว์อยู่ญาติของเขามากนักในเวลาแบบนี้ ดังนั้นนางจะได้ไม่สงสัยช่องโหว่ในเรื่องราวของเขา
“พูดกันขนาดนั้น ก็จะคล้ายกับว่ากลุ่มของเรากลายเป็นขโมยน้อยไปแล้ว ทำไมเจ้าไม่พาเย่ว์ปิงมาด้วยเล่า เราจะได้จบภารกิจโลกพฤกษาด้วยกัน” มือกระบี่หญิงชาววังดูเหมือนว่านางได้ตัดสินใจบางอย่างแล้ว
“ขอเดชะองค์หญิง! แม้ว่าการได้รับสิทธิ์ให้เป็นสมาชิกของราชตระกูลจะเป็นเกียรติยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับปุถุชนต้อยต่ำผู้นี้ โปรดอนุญาตให้ปุถุชนผู้ต่ำต้อยนี้ได้เข้าสุขาก่อนเถอะ” เย่ว์หยางไม่เคยคิดจะเข้าร่วมกับกลุ่มของมือกระบี่หญิงชาววังที่อันตรายผู้นี้ เขาหาข้ออ้างไปห้องน้ำทันทีและรีบหนีไปโดยไม่รอให้มือกระบี่หญิงชาววังได้ห้ามเขา แม้ว่าจะไม่มีผลแห่งภูมิปัญญาก็ตาม แต่ได้กิ่งแห่งพฤกษาชีวิตก็พอแล้ว ถ้าเขาสามารถทำให้นักรบมนุษย์พฤกษาของเย่ว์ปิงเลื่อนระดับได้ แล้วค่อยคิดหาวิธีพานางไปที่ชั้นสองของหอทงเทียนก็ได้ พวกเขาจะไปยังชั้นสามก็ยังได้ เนื่องจากภารกิจโลกพฤกษาจะให้ผลแห่งภูมิปัญญาเป็นรางวัล มีวิธีรับมันมาได้ ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธีอื่น
จะให้อยู่ในกลุ่มเดียวกับมือกระบี่สาวชาววังน่ะหรือ?
เขาสู้ด้วยตัวเองดีกว่า อยู่ใกล้ๆ นางเขาไม่อาจเปิดเผยเสี่ยวเหวินหลี, โคเงาหรือต้นดอกหนามทองได้ เพราะเขาใช้ได้แต่เฉพาะฮุยไท่หลางเท่านั้น แล้วเขาจะใช้พลังอื่นๆ ต่อสู้ได้อย่างไร?
อย่างไรก็ตาม ภารกิจโลกพฤกษาของหอทงเทียนก็ไม่ง่ายขนาดนั้น
เย่ว์หยางจำได้ว่า เจ้าเด็กผู้น่าสงสารได้บันทึกไว้ในสมุดของเขามาก่อน ภารกิจโลกพฤกษาเป็นภารกิจต่อเนื่องกัน 36 อย่าง และความต้องการภารกิจสุดท้ายจำเป็นต้องขึ้นไปจบภารกิจในชั้นที่หกให้ได้ ในรอบหลายร้อยปีที่ผ่านมา บรรดาสมาชิกตระกูลเย่ว์ มีเพียงบิดาของเจ้าเด็กที่น่าสงสาร เย่ว์ชิวสามารถทำภารกิจได้สำเร็จ อาจกล่าวได้ว่าโลกพฤกษาเป็นภารกิจต่อเนื่องที่มีความยากลำบากใกล้เคียงกับภารกิจชั้นห้าของหอทงเทียน วิหาร 12 ราศี และภารกิจชั้นที่สอง วิหาร 3 โลก
ดูเหมือนการแสวงหาผลแห่งภูมิปัญญาไม่ใช่งานง่ายๆ เลย
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าผลแห่งภูมิปัญญาถึงได้มีราคาแพงนัก
พอเห็นว่าเย่ว์หยางไปแล้ว มือกระบี่ชาววังถอนหายใจเบาๆ “พี่อยู่, ผู้อาวุโสในตระกูลของท่านคิดจริงๆ หรือว่าน้องของท่านเป็นสวะ? พวกเขาแก่จนสายตาเลอะเลือนเห็นอะไรไม่ชัดหรือ?”
เย่ว์อยู่ส่ายศีรษะช้าๆ “ข้าไม่ทราบเรื่องอื่นจริงๆ ดูเหมือนเสี่ยวซานจะแตกต่างจากเมื่อในอดีต เขามักจะทำตัวไม่เด่น แต่ตอนนี้เขากลายเป็นมาดนั่น ยิ่งไปกว่านั้น สีหน้าของเขายังเต็มไปด้วยพลัง ถ้าข้าไม่เจอเขาในหอทงเทียน ข้าคงไม่เชื่อว่าเขามีใบหน้าเช่นนั้น ดูเหมือนว่าคงเป็นเหตุมาจากที่เขาทำสัญญากับคัมภีร์ได้สำเร็จ ในที่สุดเขาก็ทำสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้สำเร็จ ได้ชำระข้อกล่าวหาว่าเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ได้แล้ว เพราะเหตุนั้นนิสัยของเขาก็เลยเปลี่ยนเป็นกระตือรือร้น ข้าไม่เข้าใจจริงๆ แต่นี่ถือเป็นข่าวดี ข้าสุขใจกับเขาด้วย พอเห็นเขาตอนนี้แล้ว ข้าคงไม่ห่วงว่าเขาจะโดดแม่น้ำฆ่าตัวตายอีกต่อไปแล้ว”
มือกระบี่หญิงชาววังเลิกคิ้วและครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ จากนั้นนางถามอย่างใคร่รู้ว่า “คนอย่างเขายกเลิกการหมั้นหมายกับคุณหนูจากตระกูลเสวี่ยได้อย่างไร?”
เย่ว์อยู่ไม่รู้อะไรเหมือนกับคนอื่นๆ เกี่ยวกับคำถามเรื่องนี้ นางไม่เข้าใจเลย “ข้าไม่เข้าใจเหมือนกัน เรื่องแปลกที่สุดคือเขาพยายามโดดน้ำฆ่าตัวตายหลังจากยกเลิกการหมั้นหมายไม่นาน”
“ข้ารู้สึกว่าต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้น” มือกระบี่หญิงชาววังรู้สึกได้ด้วยทักษะธรรมชาติของนางว่ามีบางอย่างผิดปกติในเรื่องนี้ แต่นางไม่สามารถจับจุดที่เป็นปัญหาได้
“ตอนที่เสี่ยวซานโดดแม่น้ำ ข้ายังติดสอบในสถาบัน พอข้าได้ยินข่าวร้ายนั้น ข้าก็แทบเป็นลม ข้าอยากจะกลับไปดูเหตุการณ์ แต่ก่อนที่ข้าจะได้กลับไป ลุงสี่ส่งคนมาบอกเราว่าเขาได้รับการช่วยเหลือทันเวลาและรอดตายมาได้ และดูเหมือนว่าเขาได้รับสิ่งดีในคราวเคราะห์ของเขา เขาทำสัญญากับคัมภีร์อัญเชิญได้สำเร็จ” เย่ว์อยู่ยังคงรู้สึกว่าเหตุการณ์ทั้งหมดมันแปลก แต่นางก็ยังยินดีที่น้องชายของนางทำสัญญากับคัมภีร์ได้สำเร็จ น้องชายของนางที่ถูกคนอื่นดูถูกมาโดยตลอดได้กู้ชื่อโดยกำจัดคำว่าคนไร้ประโยชน์ออกไปได้ในที่สุด
“มันก็ยังไม่สมเหตุสมผลนะ ข้าคิดว่าน้องชายของท่านยังคงซ่อนความลับไว้อีกมาก บางทีเขาอาจมีนักสู้ชั้นปราณก่อกำเนิดคอยช่วยเหลือเขาอยู่ฉากหลัง สอนวิทยายุทธให้เขา เขาอาจจะอยู่ในสถานการณ์ที่คล้ายกับข้า” เมื่อมือกระบี่หญิงชาววังพูดเรื่องนี้ เย่ว์อยู่ถึงกับแปลกใจอย่างมาก
“คงเป็นไปไม่ได้ เสี่ยวซานจะคล้ายกับท่านได้อย่างไร?” เย่ว์อยู่รู้ว่าองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนมีพรสวรรค์ทางด้านวิทยายุทธที่ราชตระกูลปรารถนามาหลายพันปี
ถ้านางมิใช่สตรี แต่เป็นบุรุษแทน นางจะได้เป็นจักรพรรดิในอนาคตแน่นอน
แม้ว่าในทวีปมังกรทะยาน ที่ซึ่งบุรุษได้รับการยอมรับมากกว่าสตรีอย่างสูง แม้ในราชตระกูลต้าเซี่ย ที่ปฏิบัติตามราชประเพณีเสมอมา ทุกคนได้มีการอภิปรายกันว่า ไม่ว่ายังไงพวกเขาควรเปลี่ยนกฎมณเฑียรบาลที่บรรพบุรุษของพวกเขาได้ตัดสินยอมรับ พวกเขาได้พูดคุยกันเรื่องการเปลี่ยนกฎยอมให้สตรีครองแผ่นดินได้และยินยอมให้องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนครองบัลลังก์จักรพรรดิได้กลายเป็นจักรพรรดินีคนแรกในประวัติศาสตร์หลายพันปี ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะการคัดค้านอย่างรุนแรงแข็งขันของกลุ่มข้าราชการกลุ่มหนึ่ง เนื่องจากสุขภาพของจักรพรรดิองค์ปัจจุบันยังแข็งแรงดีอยู่ พระองค์มีราชโอรสเกินกว่า 20 เส้นทางขององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนที่จะเป็นจักรพรรดินีองค์แรกคงจะถูกแช่แข็งเสียแล้ว
นอกจากได้รับอสูรเทพพิทักษ์วังหลวง 2 ตนตั้งแต่ยังเล็กแล้ว นางยังได้รับการอบรมสั่งสอนจากอาจารย์ลึกลับ
นางเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถนั่งเสวยร่วมโต๊ะกับจักรพรรดิได้มาหลายปีแล้ว
การได้รับเกียรติเช่นนั้น มีแต่รัชทายาทเท่านั้น พระสนมคนโปรดยังไม่ได้รับเกียรติเช่นนั้นเลย พวกนางทำได้แต่เพียงมองด้วยความอิจฉา
ใครก็ตามที่เหนือกว่า 3 ดาวเพชฌฆาตผู้ยิ่งใหญ่ และได้รับตัดสินว่าเป็นนักสู้ระดับ 6 ผู้แก่กล้าขั้นต้นและอายุน้อยกว่า 20 คนแบบนั้นเป็นอัจฉริยะ 1 ในล้าน องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนสามารถบอกได้เลยว่าน้องชายของเย่ว์อยู่ที่ทุกคนดูถูก ที่คนในตระกูลเข้าใจว่าเป็นคนไร้ประโยชน์ คือคนแบบที่คล้ายกับนาง..
นั่น นั่นเป็นไปไม่ได้แน่นอน
เย่ว์อยู่ไม่เชื่อหูของนาง นี่เป็นเรื่องจริงหรือ?
“ข้ามีความรู้สึกว่าลุงสามของท่านไม่ได้ตายในปีนั้นจริงๆ บางทีเขาอาจทนทุกข์จากอาการบาดเจ็บและแอบซ่อนอยู่หลังฉาก คอยสอนลูกชายอย่างลับๆ นักรบอัจฉริยะอย่างเขา เก่งที่สุดในบรรดาตระกูลใหญ่ทั้งสี่ จะตายในการต่อสู้ครั้งเดียวได้อย่างไร? ผู้อาวุโสในวังข้าคิดอยู่เสมอว่าลุงสามของเจ้าไม่ได้ตายจริงๆ เขาคุยเรื่องนั้นกับข้าหลายครั้ง ทำแม้กระทั่งสืบหาบันทึกการต่อสู้ครั้งนั้นและเอามาวิเคราะห์ แม้ว่าในเวลานั้นจะเป็นสถานการณ์ที่อันตรายมากก็จริง แต่ลุงสามของท่านไม่ใช่นักรบธรรมดา เขาต้องมีหนทางหลบหนีในนาทีสุดท้าย พี่อยู่! น้องสามของท่านไม่ใช่สวะแน่นอน เขาแค่ยังไม่เป็นที่รู้จักกันดีเหมือนลุงสามของท่าน เขาต้องมีคนคอยสอนเขาอย่างลับๆ แน่” มือกระบี่หญิงชาววัง เริ่มทฤษฎีของนาง
“ข้าก็หวังว่าลุงสามยังมีชีวิตอยู่ การหายไปของเขาทำให้ท่านปู่เศร้ามากจริงๆ จนดูเหมือนแก่กว่าวัยในทันที นั่นทำให้เสี่ยวซานกลายเป็นกำพร้า ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะลุงสี่กับป้าสี่คอยปกป้อง ข้าเกรงว่านานไป…” เย่ว์อยู่ค่อยๆ ลดเสียงลง “บางครั้งข้าก็อยากให้เสี่ยวซานเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ มีคนรู้จักน้อย แบบนั้นเขาจะได้ใช้ชีวิตที่ดีกว่า แต่งงานแล้วมีลูก ใช้ชีวิตอย่างธรรมดา ลุงสามมักจะเป็นความหวังของตระกูลเสมอ เขาต้องต่อสู้เพื่อตระกูลนับครั้งไม่ถ้วนโดยไม่ได้พัก อาจกล่าวได้ว่าเขาทำงานหนักจนตัวเองต้องตาย ถ้าเย่ว์หยางมีพลังจริงๆ ข้าปรารถนาให้เขาไม่เด่นดังอย่างนี้ยังจะดีกว่า เขาไม่ควรจะมีชื่อเสียงเหมือนกับลุงสาม เขาจะถูกคนจำนวนมากริษยาและถูกคนอื่นฆ่าตาย แม้ก่อนครึ่งวัยของเขา”
“อย่าห่วง ข้าจะไม่บอกคนอื่นๆ” มือกระบี่หญิงชาววังหัวเราะเบาๆ แต่ขมวดคิ้วอีกครั้ง “แต่ข้าคิดว่าจะดีที่สุดถ้าเราไปเยี่ยมคุณหนูตระกูลเสวี่ยและถามนางถึงเรื่องการหมั้น เรื่องนี้ต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่”
“เชี่ยนเชี่ยน! ขอบคุณท่านนะ ข้าจะลองไปหาคุณหนูตระกูลเสวี่ยแล้วคุยเรื่องนี้ดู” เย่ว์อยู่มองไปที่ตำแหน่งที่เย่ว์หยางหายลับไป “ข้าหวังว่าเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด…”
เย่ว์หยางต้องการเทเลพอร์ตไปที่ต้นโอ๊คหมื่นปีเพื่อไปพบกับอี้หนานและเย่ว์ปิงอีกครั้ง แต่เขาใช้ม้วนเทเลพอร์ตไปทั้งหมดแล้ว
ม้วนเทเลพอร์ตที่เขายังมีเหลือ ก็เป็นม้วนที่ส่งตัวเขาไปหาฮุยไท่หลาง แต่เย่ว์หยางไม่ต้องการใช้มันจริงๆ เขาไม่ต้องการใช้มัน เว้นแต่มีเหตุฉุกเฉิน การเปิดใช้งานม้วนเทเลพอร์ตก็เพื่อส่งสิ่งมีชีวิตออกไปในระยะห่างไกลด้วยวิธีที่ง่ายและซับซ้อนในเวลาเดียวกัน เงื่อนไขที่จำเป็นก็คือสิ่งมีชีวิตที่จะติดต่อกับม้วนเทเลพอร์ตจะต้องมีวิญญาณและลมหายใจเชื่อมถึงกันและกัน เมื่อการเทเลพอร์ตกำลังได้ผล สิ่งมีชีวิตที่เป็นเป้าหมายจะเป็นตัวนำทางม้วนเทเลพอร์ตจากระยะไกลด้วยพลังจิตวิญญาณของเขา
นอกจากนี้ เมื่อใช้งานทักษะเทเลพอร์ตจำเป็นต้องใช้พลังภายในเป็นจำนวนมาก แม้ว่าเย่ว์หยางจะมีพลังภายในถึงระดับชั้นปราณก่อกำเนิด การใช้งานม้วนเทเลพอร์ตก็ยังทำให้เขามึนงงตาพร่าได้เหมือนกัน
อีกประการ ระยะส่งวัตถุที่ไกลและพื้นที่ๆ ผ่านมีมากขึ้น พลังในการส่งวัตถุที่ใช้ต้องกล้าแข็งก็ยิ่งทำให้ต้องใช้พลังภายในเปลือง เย่ว์หยางคิดว่าถ้าเขาใช้ม้วนเทเลพอร์ตจากแดนปีศาจไปหาฮุยไท่หลาง เจ้าฮุยไท่หลางอาจกระอักเลือดและหมดสติได้ ถ้าเขาเทเลพอร์ตจ้าวปีศาจไปหาฮุยไท่หลางบางทีร่างของมันอาจระเบิดตายก็ได้
แน่นอนว่า เย่ว์หยางยังไม่สามารถเข้าใจความจริงที่แน่นอนถึงการเดินทางผ่านพื้นที่อย่างลึกซึ้งได้จนถึงตอนนี้ เขาอาจทำการค้นคว้าเรื่องนี้สักเล็กน้อยก็ได้
ไม่มีม้วนเทเลพอร์ต เย่ว์หยางก็ตรวจค้นตัวของเขาอีกครั้ง
กระเป๋าเงินของเขาตอนนี้ เกลี้ยงหมดแล้ว
ก่อนหน้านี้มีทองหลายสิบเหรียญที่เขาได้มาจากเจ้าเด็กผู้น่าสงสารเก็บออมไว้ และ 100 เหรียญทองในฐานะเงินรางวัลซึ่งก็ถูกใช้จ่ายเป็นค่าไข่อสูรและม้วนเทเลพอร์ตไปแล้ว พอไม่มีเงิน ก็คงเป็นเรื่องลำบากที่จะทำให้เขาก้าวต่อไปได้ ดังนั้นเย่ว์หยางตัดสินใจหาเงินให้ได้สักจำนวนหนึ่ง แน่นอนว่า เขาไม่คิดจะใช้ฝีมือของเขาขโมยของใคร พวกทหารรับจ้างเกือบทั้งหมดยากจนขัดสนกันทั้งนั้น พวกมันแค่มีเงินพอซื้อเหล้าราคาถูกไว้กรอกปากเท่านั้น
ปกติแล้ว พวกเขาดื่มเสร็จแล้วก็เมา จากนั้นก็หลับ แล้วก็เมากระทั่งตื่น เมื่อพวกเขาจะใช้เงิน พวกเขาจะมองหาภารกิจง่ายๆ แล้วรับรางวัลไปซื้อเหล้าดื่มอีก
วันแล้ววันเล่า นี่คือวิถีชีวิตของทหารรับจ้าง
เย่ว์หยางคิดเรื่องนั้นขณะวิ่งกลับไปที่สมาคมนักรบชั้นสาม
นี้คือพื้นที่หวงห้ามสำหรับทหารับจ้าง เนื่องจากพวกที่ได้รับเงินอุดหนุนพิเศษหรือผู้ทรงเกียรติของประเทศมีสิทธิ์ที่จะเข้ามาและรับปฏิบัติภารกิจ
“ยินดีต้อนรับ ผู้กล้าหนุ่มน้อย! เจ้ามาที่นี่เพื่อรับภารกิจหรือว่าจะมาบันทึกผลสำเร็จภารกิจ?” พนักงานต้อนรับเขา ไม่เหมือนกับพวกนักรบที่สวมเกราะและพูดจาเด็ดขาดในระดับต่ำกว่า แต่เป็นหญิงสาวสวยน่ารัก 2 คน พวกนางสวมชุดยาวรัดรูปวาบหวิว เผยให้เห็นเนินอกขาวหิมะของพวกนาง ลักษณะท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตน ขณะที่พวกนางพูด คำพูดของพวกนางสุภาพและอ่อนโยน ทำให้ใครก็ตามที่ฟังรู้สึกเหมือนประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ เหมือนกับว่าพวกเขาเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่เพิ่งกลับมาหลังได้รับชัยชนะเหนือดินแดนมากมาย
“พวกท่านสามารถเปลี่ยนผลงานทหารที่โดดเด่นแลกเป็นทองได้ไหม?” เย่ว์หยางคงถามเรื่องที่คนปกติไม่เคยถามกัน
“อ่า..ท่านต้องการแลกเปลี่ยนผลงานทางทหารเป็นทองหรือ?” เมื่อหญิงงามทั้งสองได้ยินคำนี้ พวกนางถึงกับตกตะลึง จนแทบจะถลันไปข้างหน้าแล้วบีบคอโจรน้อยข้างหน้าพวกนางให้ตายคามือ
“ดูเหมือนว่าข้าเคยเห็นมาจากที่ไหนนักแห่งว่าฆ่าขุนพลปีศาจจะได้รับรางวัล 100 เหรียญทอง จริงหรือเปล่า?” เย่ว์หยางถาม
“ถูกแล้ว, จริงแท้แน่นอน” หญิงงามทั้งสองแทบจะเป็นลมอยู่แล้ว นักสู้ประสาอะไรกันที่ฆ่าขุนพลปีศาจได้แล้วยังขาดแคลนเงินทองอีก? ใครที่ไหนกันที่เขาแลกผลงานทางทหารเป็นเงินทองกันเล่า? การกระทำที่ไม่น่าเชื่อถือแบบนี้มีแต่พวกทหารรับจ้างผู้กักขฬะเท่านั้นถึงทำกันได้ ฆ่าขุนพลปีศาจเป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญ นี่คือเกียรติที่นำมาซึ่งความภาคภูมิใจแก่วงศ์ตระกูลบรรพบุรุษ และเจ้าโจรน้อยนี่ยังต้องการเอาชัยชนะนี้มาแลกเปลี่ยนเป็นเงิน สมองของคนๆ นี้มีบางอย่างผิดปกติไปหรือไม่?
“ถ้าอย่างนั้น ช่วยแลกให้ข้าสัก 500 เหรียญทองด้วยนะ” เย่ว์หยางยืนบัตรแก้วให้
“โอ๊ย..ตายแล้ว!” หญิงงามทั้งสองแทบเป็นลมล้มลงทันที ขอทานถือบัตรแก้วมีที่ไหนกันในโลกนี้? เจ้าผู้นี้ไปขโมยจากที่ใดกัน?
*****************