หนานกงเยี่ยพลิกตัวไปมา ไม่ว่าจะนอนยังไงเขาก็นอนไม่หลับ จนกระทั่งกลางดึก เขาก็ยังคงกระสับกระส่ายนอนไม่หลับ เขาเคยชินกับการมีเหลิ่งรั่วปิงอยู่ข้างๆ ในค่ำคืนที่ยาวนาน ไม่ได้กลิ่นเฉพาะของเธอ ทำให้เขารู้สึกเหมือนขาดอะไรบางอย่าง
สุดท้าย เขาก็ไม่สามารถข่มความรู้สึกคิดถึงที่มีต่อเธอได้ หนานกงเยี่ยโยนหมอนลงพื้นอย่างแรง เดินออกไปจากห้องของตน ไปยังห้องของเหลิ่งรั่วปิง ขณะที่เขากำลังจะเปิดประตูเข้าไปนั้น กลับพบว่าประตูล็อคเอาไว้ หนานกงเยี่ยจึงเดินกลับไปที่ห้องของตนเองเพื่อเอากุญแจ ที่เขาไม่เคาะประตูนั้น เป็นเพราะกลัวเธอไม่ยอมเปิดประตูให้ เขาเคยถูกเธอล็อคประตูไม่ให้เข้าห้องมาก่อน ดังนั้นจึงไม่อยากหาเรื่องให้ตนเองอีก
หนานกงเยี่ยเปิดประตูเข้าไปในห้องของเหลิ่งรั่วปิง ด้านในมืดไปหมด เขาปิดประตูลงอย่างเบามือ พยายามเดินย่องไปที่เตียง ถอดรองเท้าแล้วขึ้นไปนอนบนเตียงอย่างเงียบๆ วันนี้เขาเป็นคนเริ่มสงครามประสาทกับเธอ แต่กลับมาหาเธอในกลางดึกแบบนี้ ไม่ว่ายังไงเหลิ่งรั่วปิงต้องไม่พอใจเป็นธรรมดาอยู่แล้ว เขาจึงรู้สึกประหม่า
ทว่าตอนที่เขาขึ้นไปนั่งบนเตียง กลับพบว่าบนเตียงนอนไม่มีใคร เขารู้สึกหนักอึ้งขึ้นมาทันที คิ้วหนาขมวดเป็นปม ดึกขนาดนี้แล้วแต่เธอไม่อยู่ที่ห้อง! เธอไปทำอะไร เธอออกไปเองหรือถูกลักพาตัวไป
หนานกงเยี่ยรีบลุกไปเปิดไฟทันที เขาหาเธอไปทั่วห้อง ทั้งในห้องน้ำและห้องแต่งตัว แต่กลับไม่เจอเหลิ่งรั่วปิง หนานกงเยี่ยเริ่มกระวนกระวายขึ้นมา เขาเดินออกไปด้านนอก เดินไปยังร้านอาหารชั้นสอง ถึงแม้ตอนนี้จะดึกมากแล้ว แต่ในร้านอาหารยังคงมีคนมาดื่มเหล้าและกินอาหาร สายตาเหยี่ยวของเขากวาดมองไปรอบๆ หนึ่งรอบ แต่กลับไม่เจอคนที่เขากำลังตามหา
เวลานี้ หลินมั่นหรูกำลังนั่งดื่มคนเดียวในมุมหนึ่งของร้านอาหาร เธอเห็นหนานกงเยี่ยด้วยความบังเอิญ ดวงตาคู่สวยเปล่งประกายขึ้นมาทันที ความคิดชั่วร้ายเกิดขึ้นในใจ คนที่สามารถแย่งผู้หญิงไปจากซือคงอวี้ มีแค่หนานกงเยี่ยเท่านั้น ทำไมเธอถึงไม่บอกหนานกงเยี่ยว่าเหลิ่งรั่วปิงอยู่ที่นั่น…ไม่สิ เธอไม่กล้าทำแบบนั้น ถ้าซือคงอวี้รู้เข้า เธอคงกลายเป็นผุยผงแน่ สุดท้าย หลินมั่นหรูจึงหยุดความคิดนั้น
หนานกงเยี่ยไม่เห็นเหลิ่งรั่วปิงที่ร้านอาหาร เขาจึงวิ่งไปที่ห้องบอลรูมชั้นบี ไฟในห้องบอลลูมเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งความรัก เสียงดนตรีคลอเบาๆ ชายหญิงเต้นรำโอบกอดกัน อีกทั้งยังมีชายหญิงบางส่วนนั่งดื่มและพูดคุยกันบนโซฟา
เมื่อเห็นหนานกงเยี่ยเดินเข้ามา มีผู้หญิงแต่งตัวเซ็กซี่เดินมาหาเขาทันที เธอกอดคอของหนานกงเยี่ยเอาไว้ “คุณชายเยี่ย เลี้ยงเครื่องดื่มฉันสักแก้วสิคะ”
“ไสหัวออกไป!” หนานกงเยี่ยสะบัดผู้หญิงคนนั้นทิ้งด้วยความรังเกียจ เขาเดินไปที่ฟลอร์เต้นรำอย่างรวดเร็ว กวาดตามองหาเหลิ่งรั่วปิง แต่ก็ยังไม่เจอเธอ
หนานกงเยี่ยเป็นห่วงเธอมากกว่าเดิม เขาเดินออกไปจากห้องบอลลูมแล้ววิ่งไปบนดาดฟ้า เวลานี้ฝนกำลังตก ทำให้บนดาดฟ้าไม่มีคนแม้แต่คนเดียว
หนานกงเยี่ยกระวนกระวายเป็นอย่างมาก เขาเริ่มคิดไปต่างๆ นานา หยิบโทรศัพท์ออกมากดโทรหาเหลิ่งรั่วปิง แต่ไม่ว่าจะโทรไปกี่สาย ก็ยังคงได้ยินแค่คำว่า “หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ”
เธอปิดเครื่องอีกแล้ว! ทำให้เขาคิดถึงคืนวันที่ฝนตกอีกครั้ง ครั้งนั้นเหลิ่งรั่วปิงปิดเครื่อง เขาตามหาเธอไปทั่วแต่ก็ไม่เจอ โชคดีที่สุดท้ายเธอกลับมา ครั้งนี้เธอจะเป็นฝ่ายกลับมาหาเขาอีกไหม
หนานกงเยี่ยเก็บโทรศัพท์ เขาตรงไปที่ห้องของมู่เฉิงซีทันที เคาะประตูด้วยความร้อนใจ
มู่เฉิงซีเข้านอนแล้ว เขาถามด้วยความงัวเงีย “แกมีธุระอะไร”
“แกลองถามเวินอี๋ให้หน่อย เธอเห็นเหลิ่งรั่วปิงบ้างไหม” เหลิ่งรั่วปิงที่เย็นชามาโดยตลอด เวลานี้เขากลับไม่สามารถใจเย็นได้
เมื่อได้ยินสิ่งที่หนานกงเยี่ยพูด เวินอี๋ใส่เสื้อผ้าแล้วเดินมาที่ประตู “ก่อนจะเข้านอนฉันเพิ่งไปที่ห้องของพี่รั่วปิง มีอะไรรึเปล่าคะ พี่รั่วปิงหายตัวไปหรอคะ”
เมื่อเวินอี๋เองก็ไม่รู้ว่าเหลิ่งรั่วปิงไปไหน หนานกงเยี่ยยิ่งเป็นกังวลมากกว่าเดิม เขาเดินไปเคาะประตูห้องของถังเฮ่าและอวี้ไป่หัน เพื่อที่จะตามหาเหลิ่งรั่วปิง เขาทำให้ทุกคนพากันตกใจไปหมด
เป็นเรื่องธรรมดาที่ถังเฮ่าและอวี้ไป่หันไม่เห็นเหลิ่งรั่วปิง คำตอบที่หนานกงเยี่ยได้รับจึงทำให้เขาผิดหวัง
อวี้ไป่หันถอนหายใจ “แม้แต่โอกาสในการอธิบายแกยังไม่ให้เธอ เอาแต่ชักสีหน้าให้เหลิ่งรั่วปิงทั้งวันและยังอยู่กับหลานซีตลอดอีก ผู้หญิงคนไหนก็ทนไม่ได้หรอกนะ เหลิ่งรั่วปิงคงโกรธแล้วหนีไปหาผู้ชายคนอื่นแล้ว”
“อย่าพูดเหลวไหล!” หนานกงเยี่ยเตะอวี้ไป่หันด้วยความโมโห “ช่วยกูตามหาเธอหน่อย!”
อวี้ไป่หันไม่ได้โมโห เขาปัดฝุ่นบนตัวเบาๆ “ได้ๆๆ เดี๋ยวช่วยตามหาเอง แกดูสภาพของตนเองตอนนี้สิ ไม่เหลือเค้าหนานกงคนเดิมแม้แต่น้อย แทบจะเป็นบ้าเพราะผู้หญิงคนหนึ่งไปแล้ว”
ถังเฮ่าตบบ่าของหนานกงเยี่ยเบาๆ “หนานกง ฉันเข้าใจความรู้สึกของแก ฉันไปช่วยแกตอนหาเธอตอนนี้เลย”
มู่เฉิงซีให้เวินอี๋รออยู่ในห้อง ส่วนเขาก็ออกไปช่วยหนานกงเยี่ยตามหาเหลิ่งรั่วปิง เขารู้สึกสงสารหนานกงเยี่ยจริงๆ
หน้าผากของหนานกงเยี่ยมีเหงื่อไหลออกมา ผมของเขาเปียกชุ่ม ยาวบดบังคิ้ว ทำให้ดูน่าเวทนามาก ทางด้านก่วนอวี้เมื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็รีบตามมา หนานกงเยี่ยออกคำสั่งให้กับก่วนอวี้ “ส่งคนไปดูแลความปลอดภัยให้หลานซีสักสี่ห้าคน ส่วนคนอื่นๆ ให้ไปช่วยกันตามหาเหลิ่งรั่วปิง”
“ครับ” ก่วนอวี้มองดูหนานกงเยี่ยด้วยความปวดใจ จากนั้นรีบไปทำตามคำสั่งทันที
หนานกงเยี่ยนิ่งไปครู่หนึ่ง จากนั้นถอนหายใจเบาๆ แล้วไปตามหาตัวเหลิ่งรั่วปิง
*****
ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกของหนานกงเยี่ยได้ดีเท่าถังเฮ่า ความรู้สึกตอนที่หาผู้หญิงที่ตนต้องการไม่ได้นั้น มันเป็นอะไรที่แย่มาก เขาอยู่ในวังวนของความรู้สึกนี้มากหลายเดือนแล้ว เพื่อเพื่อนรัก เขาจึงตั้งใจช่วยตามหาเหลิ่งรั่วปิง
เขาเริ่มจากการไปหาเธอที่ร้านอาหาร ตอนที่เขาเดินเข้าไปในร้านอาหาร หลินมั่นหรูกำลังลุกขึ้นแล้วจะเดินออกมาพอดี ทั้งสองคนมองสบตากัน ต่างฝ่ายต่างพากันตกใจ
แววตาของถังเฮ่าฉายความตกใจมาเป็นอันดับแรก ตามด้วยความดีใจ เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ผู้หญิงที่เขาตามหามานานหลายเดือน กลับได้เจอกันโดยบังเอิญบนเรือลำนี้ ดังนั้น มุมปากของเขาจึงคลายยิ้มขึ้นมา
ทางด้านหลินมั่นหรูกลับทั้งตกใจและกลัว เธอรีบดึงสติกลับมา แล้วสาวเท้าวิ่งทันที ถ้าซือคงอวี้รู้ว่าเธอมีเรื่องกับคุณชายตระกูลถัง มีหวังได้ถลกหนังเธอแน่ๆ
ถังเฮ่าตามหาเธอมานาน ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้เจอเธอ เขาไม่มีวันปล่อยเธอหนีไปแน่นอน ดังนั้นตอนที่หลินมั่นหรูเริ่มวิ่ง เขาเองก็รีบวิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว
ถังเฮ่าเก่งกว่าหลินมั่นหรูมาก ดังนั้นไม่ว่าเธอวิ่งยังไงก็ไม่สามารถสลัดเขาทิ้งได้
หลินมั่นหรูไม่กล้าวิ่งไปหลบที่ชั้นหก เพราะเธอห้ามเปิดเผยว่าตนเป็นสายลับของวิหารเด็ดขาด ถ้าหากตัวตนของเธอถูกเปิดเผย ต้องฆ่าตัวตายเพื่อเป็นการไถ่โทษ ดังนั้น เธอจึงวิ่งขึ้นไปบนชั้นสาม แล้วซ่อนตัวอยู่ในห้อง รอให้ถังเฮ่าวิ่งไปที่อื่นก่อนเธอค่อยกลับไปที่ชั้นหก แต่ว่าถังเฮ่าเหมือนเป็นเงาตามตัวเธอ ไม่ว่าจะสลัดยังไงก็สลัดไม่ได้
สุดท้าย หลินมั่นหรูถูกถังเฮ่าวิ่งต้อนไปที่ห้องชั้นสามด้านบย ซึ่งห้องนั้นเป็นห้องของเขาพอดี แต่หลินหมั่นหรูไม่รู้
เมื่อไม่มีทางหนี หลินมั่นหรูจึงหยุดลง เธอตัดสินใจเอาชีวิตตนเองเป็นเดิมพัน บางทีลองใช้แผนสาวงามอีกครั้งอาจจะเอาตัวรอดได้ ด้วยเหตุนี้ หลินมั่นหรูจึงคลายยิ้ม “คุณชายถัง คุณวิ่งตามฉันมาทำไมคะ”
ถังเฮ่ากระตุกยิ้มมุมปาก แววตาของเขามีรอยยิ้มฉายออกมา “คุณคิดว่ายังไงละครับ”
“คุณชายถัง คุณอย่าคิดเล็กคิดน้อยแบบนี้สิคะ ยังถือสาเรื่องเมื่อคราวที่แล้วอยู่หรอ”
ถังเฮ่ายิ้มร่า “เมื่อคราวที่แล้วมีคนบอกว่าจะเอาร่างกายเข้าแลก แต่สุดท้ายกลับลอบทำร้ายผม คุณคิดว่าผมควรถือสาดีไหมครับ”
“ฮ่าๆๆ…” หลินมั่นหรูยิ้มอย่างยั่วยวน “คุณชายถัง คุณไม่น่าจะขาดผู้หญิงนะคะ ทำไมถึงต้องเป็นฉันด้วย”
ถังเฮ่ายิ้มสดใสราวกับดอกไม้ ยิ้มจนฟันขาวเผยออกมา “ผู้ชายตามหาผู้หญิงสักคน บางครั้งไม่ได้แค่เพราะความต้องการของร่างกาย แต่ต้องการความรู้สึกในใจด้วย คุณทำให้ผมสนใจในตัวคุณ”
แววตาของถังเฮ่าเหมือนนักล่ากำลังมองเหยื่อ มันเปล่งประกายและต้องได้มาครอบครองให้ได้ หลินมั่นหรูรู้ดี วันนี้เธอไม่สามารถหนีไปได้ง่ายๆ แน่ เธอจึงทำได้เพียงเสี่ยงดูสักครั้ง ด้วยเหตุนี้ เธอหยิบผงยาขึ้นมาหนึ่งถุงอย่างไม่ลังเล จากนั้นวิ่งหนีไป แต่วิ่งไปได้แค่ไม่กี่ก้าว ก็ถูกถังเฮ่าคว้าเอาไว้ เขาดึงตัวเธอเข้ามากอด
ถังเฮ่ากอดเธอแน่ เขาก้มหน้าลงมองเธอ “ถูกผมตามจับได้แล้ว ยังอยากจะหนีอีกหรอ หื้ม?”
หลินมั่นหรูกัดฟันกรอดแล้วคลายยิ้ม “สมแล้วที่เป็นคุณชายของตระกูงถัง ยาของฉันไม่มีผลกับคุณเลยสักนิด”
“ฮ่าๆๆ…” ถังเฮ่าหัวเราะร่าอย่างมีความสุข “ดังนั้น ผมจึงเหมาะสมกับคุณมากไงครับ” มือหนาช้อนตัวเธอขึ้นมา “เป็นเด็กดีนะครับ?”
พูดจบ ถังเฮ่าที่อุ้มหลินมั่นหรูเอาไว้ก็เตะประตูแล้วเดินเข้าไปในห้องของตนเอง หลินมั่นหรูตกใจมาก ถึงว่าทำไมเขาได้ใจแบบนี้ ที่แท้เขาก็ต้อนเธอมาจนถึงห้องของตน หลินมั่นหรูกัดฟันกรอด มือเรียวยาวสะบัดอย่างแรง เข็มขนาดเล็กเกือบปักเข้าไปที่คอของถังเฮ่า
ถังเฮ่าหมุนตัวหลบอย่างรวดเร็ว เขาโยนหลินมั่นหรูไปที่เตียง จากนั้นยึดเข็มในมือของเธอ “มาไม้นี้อีกแล้ว คุณคิดว่าผมจะตกหลุมพรางคุณเป็นครั้งที่สอง”
หลินมั่นหรูเลิกคิ้วขึ้นด้วยความเย้ยหยัน “แล้วยังไงคะ การที่คุณหลงกลผู้หญิงคนหนึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องน่าอายอยู่ดี”
ถังเฮ่ารู้สนุกขึ้นมา “เยี่ยม เยี่ยมมาก ความอับอายนี้ผมจะเอาคืนบนเตียงนี่แหละ”
ขณะที่พูด ถังเฮ่าก็ขึ้นมาบนเตียง เขาฉีกเสื้อของหลินมั่นหรูทิ้ง
เวลานี้หลินมั่นหรูรู้สึกกลัวมาก ถึงแม้เธอจะแต่งตัวเซ็กซี่ พูดจารุนแรง แต่เธอไม่เคยทำเรื่องอย่างว่ากับผู้ชายมาก่อน อีกทั้งคนที่เธอรักคือซือคงอวี้ เธอรักษาพรหมจรรย์ของตนเองเพื่อเขามาโดยตลอด เพราะเธอกลัวว่าสักวันหนึ่งที่เขาหันกลับมามองเธอ วันนั้นเธอจะไม่มีสิทธิ์เป็นผู้หญิงของเขาแล้ว
ดังนั้น หลินมั่นหรูจึงจับเสื้อผ้าของตนเองแน่น แล้วตะโกนเสียงดัง “ถังเฮ่า ไอ้คนสารเลว คุณจะทำบ้าอะไรของคุณ”
ถังเฮ่ายิ้ม “คุณคิดว่าผู้ชายพยามถอดเสื้อผู้หญิงแบบนี้เพราะจะทำอะไรละ หื้ม?”
หลินมั่นหรูกัดฟันกรอด “คิดไม่ถึงว่าคุณชายตระกูลถังจะชอบขืนใจผู้หญิงแบบนี้”
แววตาของถังเฮ่าเคร่งขรึมมากขึ้นเรื่อยๆ เขาทำด้วยความรวดเร็ว ใช้เวลาไม่นานก็ถอดเสื้อผ้าของหลินมั่นหรูจนหมด จนเหลือแค่เสื้อชั้นในกับกางเกงชั้นในเท่านั้น ความเป็นจริงเขาไม่ชอบขืนใจผู้หญิง แต่ที่เขาถอดเสื้อผ้าของเธอทิ้ง เป็นเพราะผู้หญิงคนนี้อันตรายเกินไปแล้ว ใครจะไปรู้ว่าภายใต้เสื้อผ้าของเธอจะซ่อนยาพิษหรืออาวุธอะไรไว้ เขากลัวแค่ตนเองจะตกหลุมพรางของเธออีก
เป็นจริงตามที่เขาคิดเอาไว้ ทุกส่วนในร่างกายของเธอมีของซ่อนอยู่ แค่สะบัดเสื้อของเธอก็มียามากมายตกลงมา อีกทั้งยังมีเข็มขนาดเล็กอีก มีผู้หญิงปกติคนไหนบ้างที่จะพกของแปลกแบบนี้ ไม่รู้จริงๆ ว่าเธอทำอาชีพอะไร
สิ่งที่ทำให้เขาตกใจที่สุดก็คือ ด้านในเสื้อชั้นในและกางเกงชั้นในของเธอก็มีผงยาซ่อนเอาไว้ ต่อให้เขาไม่อยากถอดทิ้งก็จำเป็นต้องถอด