ตอนที่ 1089: กุยไฮ่ ยี่เต่า (2)
“นี่เป็นยุทธภัณฑ์จักรพรรดิที่มีอยู่มาในสำนักดาบทรราชมามากกว่าล้านปี มีใครอธิบายให้ข้าฟังได้หรือไม่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ? ” ผู้อาวุโสสูงสุดพูดออกมาด้วยความตกใจในขณะที่ใบหน้าของเขาแสดงความเหลือเชื่อออกมา
“คนผู้นี้เป็นใครกัน ? ทำไมยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของสำนักพวกเราถึงได้เข้าไปใกล้เขา ? เรื่องแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเลย…”
“ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิมาหาคนผู้นี้อย่างนั้นหรือ ? “
ผู้อาวุโสสูงสุดของสำนักดาบทรราชทั้งหมดตื่นกลัว ยุทธภัณฑ์จักรพรรดินั้นสำคัญมากกับตระกูลผู้พิทักษ์ พวกเขาจะยอมเสียมันไปไม่ได้ พวกเขาทั้งหมดรู้สึกไม่สบายใจเมื่อพวกเขาเห็นยุทธภัณฑ์จักรพรรดิกำลังลอยอยู่ใกล้ใกล้กับคนนอก
“ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิถูกทิ้งไว้โดยบรรพชนผู้ก่อตั้ง ไม่มีสามารถควบคุมมันได้เลยในหลายปีที่ผ่านมา แต่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิก็มีพฤติกรรมแปลก ๆ ในตอนนี้ มันถูกควบคุมโดยคนนอกอย่างนั้นหรือ ? “
“ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิจะตกอยู่ในมือคนนอกไม่ได้ ถ้ามันถึงจุดนั้นจริง ๆ พวกเราจะฆ่าคนผู้นี้ซะ” ผู้อาวุโสสูงสุดที่อาวุโสกว่าพูดออกมาอย่างเคร่งเครียด เสียงของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร
“ให้ข้าลองเอายุทธภัณฑ์จักรพรรดิออกมาก่อน” หนึ่งในชายวัยกลางคนก้าวออกมา มือของเขามีชั้นพลังเซียนและพลังธรรมชาติป้องกันอยู่ในขณะที่เขาจับไปที่ด้าม
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่มือของเขาเข้าใกล้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิที่กำลังส่องสว่าง เลือดก็กระจายไปในอากาศ มือของเขาเละไป ถ้าเขาไม่ดึงกลับมาอย่างเร็ว มือของเขาคงถูกทำลายไปแล้ว
“ปะ เป็นไปไม่ได้… เป็นไปไม่ได้ ข้าถูกทำให้บาดเจ็บจากยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ และนี่ไม่ใช่เพราะผลสะท้อนจากยุทธภัณฑ์จักรพรรดิด้วย” ชายจ้องไปที่มือที่โชกเลือด เขาตกตะลึง
ผู้อาวุโสสูงสุดของสำนักดาบทรราชคนอื่นก็ตกใจเหมือนกัน พวกเขายากที่จะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้น ในตอนที่พวกเขาสัมผัสยุทธภัณฑ์จักรพรรดิก่อนหน้านี้ พวกเขาก็แค่ได้รับผลสะท้อนจากพลังที่สุดยอดของยุทธภัณฑ์จักรพรรดิเท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนบาดเจ็บจากยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ
ผู้อาวุโสสูงสุดไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับยุทธภัณฑ์จักรพรรดิและพวกเขาก็ไม่สามารถเข้าไปใกล้มัน ดังนั้น พวกเขาทั้งหมดจึงได้แต่ยืนอยู่ที่นั่นและรออย่างช้า ๆ
เจี้ยนเฉินและหวงหลวนเข้าไปใกล้ที่เกาะอย่างรวดเร็ว พวกเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นตรงนั้นอย่างชัดเจน เจี้ยนเฉินจำได้ว่าอาวุธนั้นเป็นยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของตระกูลผู้พิทักษ์ ดังนั้นเจี้ยนเฉินจึงระวังตัวมากขึ้น
“เจี้ยนเฉิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าพวกเขากำลังทำอะไร ? ” หวงหลวนพิงไปที่เจี้ยนเฉินในขณะที่นางถามคำถามอย่างสงสัยและชี้นิ้วไปที่เกาะนั้น
เจี้ยนเฉินส่ายหน้าในขณะที่เขาจ้องมองอย่างใจจดใจจ่อไปที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิและชายที่ได้รับบาดเจ็บก่อนหน้านี้ เขารู้สึกสงสัยมาก
ผู้อาวุโสสูงสุดพบเจี้ยนเฉินในขณะที่เขาเข้ามาใกล้และก็จำเขาได้เพียงมองปราดเดียว แววแห่งความกลัวปรากฎในตาของพวกเขาในขณะที่พวกเขามองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวังก่อนที่จะผ่อนคลายเล็กน้อย
“เจี้ยนเฉิน สำนักดาบทรราชมีเรื่องที่นี่ ข้าหวังว่าเข้าจะไม่เข้ามาใกล้พวกเราเพื่อว่ามันจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้” ชายชราป้องมือให้เจี้ยนเฉินแต่ไกล
เจี้ยนเฉินและหวงหลวนไม่ได้เข้าไปใกล้ขึ้น และคอยดูอยู่ห่าง ๆ
“ถ้างั้น นี่ก็เป็นยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของสำนักดาบทรราชสินะ เห็นอย่างนี้แล้ว ดูเหมือนว่ามันจะเสียการควบคุมและมาที่นี่ด้วยตัวของมันเอง แต่คนผู้นั้นเป็นใครกัน และทำไมจู่ ๆ ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิถึงได้มาหาเขา?” เจี้ยนเฉินคิดในใจ
ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมดล้อมชายวัยกลางคนที่เพิ่งตัดผ่านเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เขาหนีไปได้ตอนที่เขาตื่นขึ้นจากการตัดผ่าน
ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิลอยอยู่เหนือชายร่างกำยำในขณะที่ชั้นแสงสีขาวสว่างจ้าก็ปกคุลมชายคนนี้เอาไว้จากด้านบน นี่เป็นชนิดของที่ทรงพลังมากซึ่งสามารถทำให้เซียนราชาบาดเจ็บได้โดยง่าย เห็นได้ชัดว่ามันกำลังปกป้องชายวัยกลางคนที่กำลังอยู่ในระหว่างการตัดผ่าน
มันเป็นอย่างนี้นาน 3 ชั่วยามก่อนที่ชายคนนี้จะตัดผ่านได้สำเร็จ เขาลืมตาขึ้นช้า ๆ
ทันใดนั้นเอง ลำแสงสองลำก็ดูเหมือนจะพุ่งออกมาจากตาของเขา ตาของเขาสว่างผิดปกติ เหมือนไข่มุกส่องสว่างสองดวงที่อยู่ในคืนอันมืดมิด
ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมดของสำนักดาบทรราชตัวสั่นเมื่อถูกจ้องมองจากสายตาของชายคนนี้ ในตอนนี้ พวกเขาตกใจที่พวกเขาดูเหมือนจะถูกชายวัยกลางคนคนนี้มองอย่างทะลุปรุโปร่ง เหมือนว่าไม่มีอะไรที่เป็นความลับสำหรับเขา
ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมดตกตะลึงมาก พวกเขาทั้งหมดเป็นคนที่เป็นเซียนราชามาหลายปีแล้ว แต่พวกเขาก็เพิ่งเคยถูกคนที่เพิ่งได้เป็นเซียนราชามองอย่างทะลุปรุโปร่ง พวกเขารู้สึกเหลือเชื่อ
สายตาที่หนักแน่นของชายวัยกลางคนหายไปอย่างรวดเร็วและกลับมาเป็นปกติ ตาที่ลึกซึ้งและสีดำสนิทของเขาดูเหมือนจะมีโลกที่ต่างออกไปอีกใบ เหมือนว่ามันเป็นจักรวาลที่กว้างใหญ่ไร้ขอบเขต
ชายคนนี้เงยหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้าช้า ๆ และยิ้มเล็กน้อย เขาถอนกายใจยาวออกมา “ทวีปเทียนหยวน ข้า กุยไฮ่ ยี่เต่ากลับมาแล้วในที่สุด ข้าไม่คิดว่าพลังธรรมชาติจะเบาบางอย่างนี้หลังจากที่ข้าจากไปนาน” ชายคนนี้เศร้าโศก เขาโบกมือเบา ๆ แล้วยุทธภัณฑ์จักรพรรดิก็ลอยมาในมือของเขาอย่างเชื่อฟังทันที แสงของมีดทำอะไรชายคนนี้ไม่ได้
“ข้ากลับมาได้อย่างสมบูรณ์ ข้าอยากรู้ว่าพวกเจ้าได้กลับมาหรือเปล่า” ความทรงจำเอ่ออยู่ในตาของเขาในขณะที่เขาจ้องไปบนท้องฟ้า
ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมดเห็นสิ่งที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิทำ พวกเขารู้สึกมึนงงเป็นที่สุด ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิมีอยู่ที่สำนักดาบทรราชมานานมาก แต่ไม่มีใครเลยที่สามารถควบคุมมันได้ง่ายขนาดนี้
“ท่านเป็นใครกัน ? ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิในมือของท่านเป็นของสำนักดาบทรราช กรุณาคืนมันมาทันทีเพื่อจะได้ไม่เกิดความเข้าใจผิดขึ้นมา” ผู้อาวุโสสูงสุดอาวุโสเอ่ยออกมา
ชายคนนั้นมองไปที่ผู้อาวุโสสูงสุดที่อยู่รอบ ๆ เขา เขาพูดออกมา “พวกเจ้าเป็นศิษย์ของสำนักดาบทรราชงั้นหรือ ? ข้าไม่คิดว่าสำนักดาบทรราชจะอ่อนแอลงเช่นนี้”
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ ! ? “
ท่าทางของผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมดเปลี่ยนไปอย่างมาก สายตาของพวกเขาหรี่เล็กลง และพวกเขาดูเหมือนพร้อมจะสู้ทันทีเมื่อมีความขัดแย้งต่อไป
ในฐานะที่เป็นหนึ่งในตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบของทวีป สำนักดาบทรราชนั้นเป็นผู้ที่เหนือกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่มีใครกล้าที่จะพูดกับพวกเขาแบบนั้น
ชายผู้นั้นยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยัน “ข้าชื่อ กุยไฮ่ ยี่เต่า ข้าอยากรู้ว่ายังมีใครจำข้าได้ไหมหลังจากที่ผ่านมาหลายปีแบบนี้แล้ว” ในขณะที่เขาพูด เขาก็เหวี่ยงยุทธภัณฑ์จักรพรรดิอย่างนุ่มนวลและตัดผ่านมิติเหมือนมีดร้อนตัดเนย ประตูมิติเกิดขึ้นมาและเขาก็เข้าไป อย่างไรก็ตาม ภายที่อยู่ในประตูมิตินั้นเป็นมิติเดียวกันกับที่สำนักดาบทรราชตั้งอยู่
ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมดยืนอยู่อย่างตกตะลึง ความเหลือเชื่อเต็มอยู่ที่ใบหน้าของพวกเขาในขณะที่หัวใจของพวกเขาปั่นป่วน พวกเขายากที่จะสงบลงได้
“กุยไฮ่ ยี่เต่า กุยไฮ่ ยี่เต่า ขะ เขา ใช่…”
หนึ่งในผู้อาวุโสสูงสุดพูดออกมาเสียงสั่นในขณะที่ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
“เป็นไปไม่ได้ เป็นเขาไปไม่ได้…”
ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมดร้องออกมาโดยไม่รู้ตัว ไม่มีใครที่สงบอยู่ได้
“เขากลับไปยังมิติที่แยกตัวของพวกเราได้โดยไม่ต้องผ่านประตูแห่งโลก พวกเรากลับไปกันเร็ว” ผู้อาวุโสสูงสุดอาวุโสพูดอย่างเร่งรีบในขณะที่มองชายคนนั้นหายไป
หลังจากนั้น ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งหมดก็เปิดประตูมิติออกและกลับไปที่ตระกูลผู้พิทักษ์อย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่พวกเขาจะทำได้
จากระยะไกล เจี้ยนเฉินจ้องไปที่ทิศทางที่ผู้อาวุโสสูงสุดหายไป สายตาของเขาเป็นประกายในขณะที่เขาครุ่นคิด เขารู้สึกสงสัยในตัวตนของชายวัยกลางผู้นี้มาก
“กุยไฮ่ ยี่เต่า คนคนนั้นชื่อกุยไฮ่ ยี่เต่า เขาเป็นใครกัน ? ” เจี้ยนเฉินพึมพำเบา ๆ อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะได้รับคำตอบ เขาก็จากไปกับหวงหลวนและมุ่งหน้าไปที่อาณาเขตของเผ่าพันธุ์ทะเลต่อ
ในไม่ช้า เจี้ยนเฉินก็มาถึงเหนืออาณาจักรทะเลพร้อมกับหวงหลวน ร่างลวงตาของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลปรากฎขึ้นมาเกือบจะทันทีที่เขามาถึง
“นายท่าน หวงหลวนมีร่างจิตวิญญาณน้ำ ข้าต้องการที่จะทิ้งนางไว้ที่อาณาจักรทะเลเพื่อการฝึกฝน” เจี้ยนเฉินป้องมือให้กับเทพเจ้าแห่งท้องทะเลด้วยท่าทางที่นอบน้อมมาก
เทพเจ้าแห่งท้องทะเลพยักหน้าช้า ๆ นางหันหน้าพร่ามัวของนางไปที่หวงหลวน “เจี้ยนเฉิน ทักษะลับที่ผูกชะตาของสหายเจ้ากับบางคนได้ถูกเอาออกไปแล้ว แต่มีทักษะลับอื่นถูกฝังลงไปโดยคนอื่นแทน”
“อะไรนะ ? มีคนอื่นฝังทักษะลับใหม่เข้าไปที่วิญญาณของหวงหลวน ? ” เจี้ยนเฉินหน้าซีดด้วยความกลัว เขารู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า
ใบหน้าของหวงหลวนก็สลดไปด้วย ใบหน้าของนางซีดในขณะที่นางกำหมัดแน่น นางยังคงเงียบอยู่
“ถูกต้อง และทักษะลับนี้เพิ่งถูกฝังไปเร็ว ๆ นี้ มันหลอมรวมอย่างสมบูรณ์กับวิญญาณของนาง ดังนั้นมันจึงซ่อนตัวอยู่ลึกมาก ถ้าไม่ใช่เพราะวิญญาณที่ทรงพลังของข้า อาจจะไม่มีใครเลยรู้ถึงมันเลยก็เป็นได้” เทพเจ้าแห่งท้องทะเลพูด
ใบหน้าของเจี้ยนเฉินมืดมน เขากัฟัน “เจียงหยาง ชิง หยุน ! มันต้องใช่เจียงหยาง ชิง หยุนแน่ เจ้าจิ้งจอกเฒ่า” ใบหน้าของเจี้ยนเฉินเย็นชาในขณะที่จิดสังหารไหลออกมาจากในตัวของเขา
“เจี้ยนเฉิน ข้าสัมผัสได้ว่าทักษะลับนั้นไม่สามารถทำอันตรายกับสหายของเจ้าได้ในตอนนี้ ทิ้งสหายของเจ้าไว้ที่วิหารเทพเจ้าแห่งท้องทะเล จะให้เจ้าวิหารคิดหาวิธีการเพื่อที่จะดูว่าจะเอาผนึกออกมาได้ไหม อย่างไรก็ตามทักษะลับของตระกูลผู้พิทักษ์นั้นลึกซึ้งมาก แม้แต่ข้าก็ทำอะไรไม่ได้” เทพเจ้าแห่งท้องทะเลพูด
เจี้ยนเฉินป้องมือขอบคุณก่อนที่จะทิ้งหวงหลวนเอาไว้
“เจี้ยนเฉิน ข้าจะไปหาเจ้าหลังจากที่ข้าเป็นเซียนราชาแล้ว” หวงหลวนตะโกนออกมาในขณะน้ำตาไหลตอนที่มองไปที่ด้านหลังของเจี้ยนแน นางรู้ว่านางจะไม่ได้เจอเจี้ยนเฉินไปอีกนาน
ในสำนักดาบทรราช ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิได้กลับไปอยู่ที่เขตหวงห้าม มันแทงลงไปในพื้นด้วยลักษณะยาวหนึ่งร้อยเมตรในขณะที่มันเปล่งประกายปราณดาบที่ทรงพลังออกมา กุยไฮ่ ยี่เต่าที่เปลือยอกอยู่นั่งอยู่บนด้ามใหญ่ของมันพร้อมหลับตา
ผู้อาวุโสสูงสุดกลับมาจากด้านนอกและจ้องอย่างตื่นเต้นไปที่กุยไฮ่ ยี่เต่าพร้อมกับกลุ่มเซียนผู้คุมกฎ
“ท่านใช่ผู้ก่อตั้งของสำนักดาบทรราชหรือเปล่า?” ผู้อาวุโสสูงสุดอาวุโสถามด้วยเสียงที่สั่นเทา ตาของเขาเต็มไปด้วยความหวัง
“หลายปีผ่านไปเหลือเกิน ข้าไม่คิดว่าผู้เยาว์ทั้งหลายจะจำข้าได้ ดูเหมือนข้าไม่ได้เสียแรงเปล่าที่ตั้งสำนักนี้ขึ้นมา” หุยไฮ่ ยี่เต่าพูดในขณะที่หลับตา เสียงของเขาราบเรียบมาก ให้ความรู้สึกที่หยั่งไม่ถึงออกมา
กลุ่มคนที่คาดหวังอยู่ยินดีขึ้นมาเมื่อพวกเขายืนยันได้ถึงตัวตนของกุยไฮ่ ยี่เต่า อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดก็เต็มไปด้วยความสงสัยมากมายในเวลาเดียวกันเช่นกัน
“ผู้ก่อตั้ง มันก็ผ่านมากว่าล้านปีแล้วตั้งแต่ยุคนั้น ปะ เป็นไปได้ไงที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ? ” ผู้อาวุโสสูงสุดถาม
“ในตอนที่ข้าถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ข้าใช้ทักษะลับสุดยอดในการเก็บความทรงจำของข้าเอาไว้ในดาบทำลายคลื่นและทิ้งวิญญาณของข้าเอาไว้ในสังสารวัฏไปพร้อมพร้อมกัน เมื่อโอกาสประจวบเหมาะ ความทรงจำของข้าที่ผนึกอยู่ในดาบทำลายคลื่นก็จะสัมผัสได้และควบคุมให้อาวุธไปตามหาข้า อาวุธจะคืนความทรงจำให้กับข้า และทำให้ข้าจะเรื่องอดีตได้ ข้าเพิ่งได้ความทรงจำของข้ากลับมาในตอนนี้” กุยไฮ่ ยี่เต่าอธิบาย