ตอนที่ 1107: โจมตีเมืองทหารรับจ้าง
กลุ่มทั้งแปดจากร้อยเผ่าพันธุ์โจมตีตระกูลผู้พิทักษ์ 6 ตระกูลและได้ขนสัตว์อสูรไปทั้งหมด 5 ชิ้นจากพวกเขา เช่นเดียวกันกับ 2 ชิ้นที่กระจัดกระจายอยู่ในทวีป พวกเขาชิงมาได้ทั้งหมด 7 ชิ้น
หลังจากนั้น ทั้งแปดกลุ่มก็ยังคงไม่พอใจ พวกเขารวมตัวกันอีกครั้งด้านนอกเมืองทหารรับจ้าง และใช้วัตถุต้องฟ้ามโจมตีจากด้านบนของเมือง
แต่ละกลุ่มมีวัตถุต้องห้ามอยู่ 2 – 4 ชิ้น ดังนั้นวัตถุต้องห้ามมากกว่ายี่สิบชิ้นจึงกำลังทำลายเมืองทหารรับจ้างอยู่ คลื่นพลังงานที่น่ากลัวทำให้พื้นดินสั่นสะเทือนและมิติพังทลาย
เมืองทหารรับจ้างปิดกั้นการโจมตีจากผู้บุกรุก ผู้อาวุโสสูงสุดเทียนเจี้ยนนำกลุ่มผู้อาวุโสสูงสุดของเมืองออกมาจากมิติที่ถูกแยกตัวออกมาด้วยตัวเอง แต่ในตอนที่พวกเขาเห็นเซียนราชามากกว่าสองร้อยคนด้านนอกม่านพลัง พวกเขาทั้งหมดก็เคร่งเครียดทันที
นี่เกือบจะเป็นจำนวนเซียนราชาทั้งหมดของร้อยเผ่าพันธุ์ เมืองทหารรับจ้างนั้นทรงพลังมาก เพราะมันเป็นเพียงองค์กรเดียวที่สามารถต่อกรกับตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบได้ อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นความพยายามที่ไร้ประโยชน์ถ้าพวกเขาพยายามที่จะขับไล่เซียนราชาทั้งหมดของร้อยเผ่าพันธุ์ไปด้วยตัวของพวกเขาเอง
เมืองทหารรับจ้างไม่มียุทธภัณฑ์จักรพรรดิที่ทรงพลังเหมือนตระกูลผู้พิทักษ์ ทั้งหมดที่พวกเขามีคือโถงศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสามารถในการจู่โจมจากโม่เทียนหยุน แต่มีเพียงเซียนจักรพรรดิเท่านั้นที่สามารถบังคับมันได้
การโจมตีจากร้อยเผ่าพันธุ์พร้อมด้วยวัตถุต้องห้ามมากกว่ายี่สิบชิ้นทำให้สมาชิกระดับสูงของเมืองทหารรับจ้างทุกคนตกใจ ผู้อาวุโสที่เป็นที่รู้จักทั้งหมดเคลื่อนไหว ผู้อาวุโสลำดับที่สอง สาม สี่ และห้าเป็นเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 8 และ 9 ในขณะที่ผู้อาวุโสสูงสุดลำดับที่หก เจ็ดและแปดทั้งหมดก็เป็นเซียนราชาเช่นกัน คนที่อ่อนแอที่สุดในพวกเขาเป็นชั้นสวรรค์ที่ 5
ผู้อาวุโสเซียนราชาที่เป็นที่รู้จักทั้งหมดของเมืองทหารรับจ้างปรากฏตัวขึ้นในตอนนี้และจ้องไปที่ท้องฟ้าอย่างเคร่งเครียด
ในเวลาเดียวกัน ชายชรากระเซอะกระเซิงที่เหมือนขอทานในชุดป่านก็ออกมาจากประตูมิติจากมิติแยกตัวที่หากไกลออกไปมาก ผมยุ่งเหยิงปรกหน้าของพวกเขาอยู่ ดังนั้นจึงเห็นหน้าตาของพวกเขาไม่ชัดนัด มีเพียงรอยย่นไม่กี่รอยที่เผยออกมาให้เห็น
ผู้อาวุโสหลายคนของเมืองทหารรับจ้างมองไปที่ชายชราที่เหมือนขอทานหกคนอย่างเคารพ พวกเขาก็เป็นผู้อาวุโสของเมืองทหารรับจ้างด้วยเช่นกัน แต่พวกเขานานนานทีจะปรากฏตัวขึ้นมาต่อหน้าผู้คน และพวกเขาไม่เคยมายุ่งเรื่องของเมืองเลย พวกเขาฝึกฝนอยู่ในมิติที่แยกตัวออกไป ซึ่งเป็นเหตุผลที่น้อยคนนักที่รู้ถึงการมีอยู่ของพวกเขา
“นั่นคือผู้อาวุโสคูไป่และคนอื่น ๆ ข้าไม่คิดเลยว่าพวกเขาจะยังมีชีวิตอยู่…”
“ข้าได้ยินมาว่าผู้อาวุโสทั้งหกคนมาจากยุคเดียวกันกับผู้อาวุโสสูงสุดเทียนเจี้ยน และพวกเขายังมีอายุมากกว่าอีกด้วย พวกเขาทั้งหมดเป็นเซียนราชาขั้นสูงสุด และเพียงเขาแค่มีชีวิตอยู่ได้ตอนนี้ไปอีก 200 ปีเพราะพวกเขาใช้สมบัติสวรรค์หมื่นปี อย่างไรก็ตาม พวกเขามีเวลาเหลืออยู่อีก 100 ปีเท่านั้น” ผู้อาวุโสเซียนราชาอธิบาย
ในทุกวันนี้ มันยากมากที่จะเป็นเซียนจักรพรรดิได้ เซียนจักรพรรดิค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ โดยที่ตระกูลผู้พิทักษ์และเมืองทหารรับจ้างนั้นมีจำนวนลดลงมากที่สุด พวกเขามีเซียนจักรพรรดิมาตลอดตั้งแต่ครั้งโบราณกาล ในตอนที่มีเซียนจักรพรรดิเกิดขึ้นทุกครั้งหลังจากที่เซียนจักรพรรดิคนก่อนตายไป
อย่างไรก็ตาม มันก็ผ่านมามากกว่าหมื่นปีแล้วตั้งแต่ที่มีเซียนจักรพรรดิคนล่าสุดในตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบและเมืองทหารรับจ้าง มีเพียงเซียนจักพรรดิคนเดียวเท่านั้นคือ มารราคะ ผู้ซึ่งถูกเนรเทศออกมาจากอารามจิตพิสุทธิ์ เขาเป็นเซียนจักรพรรดิหลังจากที่สร้างเส้นทางราคะของตนเองขึ้นมา
ดังนั้นเซียนราชาขั้นสูงสุดจึงระดับที่เป็นไปได้มากที่สุดในทุกวันนี้ที่ขาดเซียนจักรพรรดิ รวมถึงเทียนเจี้ยน กับเซียนราชาขั้นสูงสุดอีก 7 คนที่ปรากฏขึ้นในตอนนี้ ความแข็งแกร่งที่ซ่อนอยู่นี่นั้นแข็งแกร่งว่าตระกูลผู้พิทักษ์มาก
เซียนราชาที่เหมือนขอทานยืนอยู่ข้างข้างกัน พวกเขาไม่ได้เปล่งรัศมีพลังแห่งการมีอยู่ใดออกมา เหมือนว่าพวกเขาเป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งรอบ ๆ พวกเขาดูเหมือนเป็นครองบัลลังก์อยู่ในโลกของตัวเอง ความกดดันมากมายเปล่งรัศมีออกมาจากพวกเขาอย่างไม่รู้ตัว
ตาของพวกเขาเป็นประกายเหมือนคบเพลิง แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะดูโบราณ แต่พวกเขาก็เต็มไปด้วยพลังงาน สาตาที่แหลมคมของพวกเขาเหมือนดาบ ซึ่งทำให้มิติด้านหน้าของเขานั้นบิดเบี้ยวเล็กน้อย
“พวกร้อยเผ่าพันธุ์บ้าไปแล้วหรือไงที่มาโจมตีเมืองทหารรับจ้าง ? “
“ดูเหมือนร้อยเผ่าพันธุ์จะคิดว่าตัวเองสงบเกินไป พวกเขาจะปล่อยให้พวกเขาทำแบบนี้ไม่ได้ เรียกจอมยุทธทั้งหมดออกมาทันทีและส่งให้พวกเขาไปกดดันร้อยเผ่าพันธุ์”
..
เซียนผู้คุมกฎบางคนของเมืองทหารรับจ้างหารือกันถึงสถานการณ์ พวกเขาโกรธจัดมาก เซียนราชาของเมืองทหารรับจ้างทั้งหมดจ้องเงียบ ๆ ไปที่ร้อยเผ่าพันธุ์ในขณะที่พวกร้อยเผ่าพันธุ์กำลังโจมตีม่านพลังอยู่ แต่สายตาของพวกเขาก็เป็นประกายเย็นชา พวกนั้นยังเอาวัตถุต้องห้ามมากมากกว่ายี่สิบชิ้นด้วย นี่ไม่ใช่อะไรที่เซียนราชาสิบกว่าคนของเมืองทหารรับจ้างจะสามารถต่อต้านได้ ทั้งหมดที่พวกเขาจะทำได้คือใช้สิ่งที่พวกเขาได้รับการส่งต่อมาจากเมื่อครั้งอดีต
“พวกเขาไม่สามารถทำลายผ่านม่านพลังมาได้ แม้แต่เซียนระดับจักรพรรดิก็ไม่สามารถเอาชนะเมืองทหารรับจ้างได้ ติดต่อตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบ ตระกูลโบราณ และคนของจักรวรรดิใหญ่ทั้งสามทันที จอมยุทธของร้อยเผ่าพันธุ์บุกรุกเข้ามาอย่างอุกอาจ ดังนั้นให้พวกเขาส่งกำลังเสริมมาทันที พวกเราจำเป็นต้องรักษาเกียรติของทวีปของพวกเรา” เทียนเจี้ยนพูด เขาดูสงบมาก
“ขอรับ ผู้อาวุโสสูงสุด ! “
ข่าวเรื่องการบุกรุกของร้อยเผ่าพันธุ์ถูกส่งไปหาตระกูลผู้พิทักษ์ ตระกูลโบราณ และจักรวรรดิใหญ่ทั้งสาม ผ่านทักษะลับซึ่งทำให้เกิดความปั่นป่วนใหญ่ทันที ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสี่ที่ไม่โดนโจมตี นิกายยิหยวน สำนักเลือดเย็น ตระกูลเจียงหยาง และอารามจิตพิสุทธิ์ได้ส่งจอมยุทธทั้งหมดของพวกเขาไปผ่านประตูมิติเพื่อเป็นกำลังเสริม
ตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งห้าตระกูลที่โดยขโมยขนสัตว์อสูรไปก็ยิ่งรีบรุดมา พวกเขาทั้งหมดลากร่างที่บาดเจ็บพร้อมกับยุทธภัณฑ์จักรพรรดิของพวกเขามาที่เมืองทหารรับจ้าง พวกเขาสาบานว่าจะต่อสู้กับร้อยเผ่าพันธุ์ให้ถึงตาย หลังจากที่ร้อยเผ่าพันธุ์ทำลายโถงศักดิ์สิทธิ์กลางไป ไม่เพียงแต่พวกนั้นได้เอาขนสัตว์อสูรไปเท่านั้น พวกนั้นยังขโมยสมบัติไปเป็นจำนวนมาก พวกเขาสูญเสียไปอย่างมาก
ตระกูลโบราณและจักรวรรดิใหญ่ทั้งสามทั้งหมดส่งเซียนราชามาเป็นกำลังเสริม มีเพียงแต่คนของสำนักดาบทรราชเท่านั้นที่ไม่ได้มาปรากฎตัว
ในเวลาเดียวกัน ม่านพลังของเมืองทหารรับจ้างก็แสดงความยิ่งใหญ่ของมันออกมาเช่นกัน มันเริ่มจ้าขึ้นกว่าปกติ มันได้เริ่มโจมตีผู้บุกรุก แต่แทนที่กัน มันกลับสะท้อนการโจมตีที่กระทบมันกลับไป
วัตถุต้องห้ามเป็นสมบัติที่ถูกส่งต่อมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล พวกมันทั้งหมดเป็นอาวุธของเซียนจักรพรรดิที่จากไป และพวกมันทรงพลังมากจนต้องใช้เซียนราชาหลายคนในการควบคุมต่อหนึ่งอาวุธ แต่ละอาวุธสามารถโจมตีได้ในระดับเซียนจักรพรรดิ ดังนั้นการสะท้อนกลับไปของม่านพลังก็เทียบเท่ากับร้อยเผ่าพันธุ์กำลังเจอการโจมตีของเซียนจักรพรรดิมากกว่ายี่สิบคน
เซียนราชาของร้อยเผ่าพันธุ์ตกใจและใช้วัตถุต้องห้ามของพวกเขาในการป้องกันการโจมตีที่สะท้อนกลับมา การโจมตีทำให้พวกเขาสับสน ในขณะคนที่อ่อนแอก็ได้รับรับบาดเจ็บจากคลื่นที่รุนแรงจากการต่อสู้
“พวกเราไม่สามารถเอาชนะเมืองทหารรับจ้างได้ ถอย” จอมยุทธของร้อยเผ่าพันธุ์ตัดสินใจสั่ง กำลังเสริมทั้งหมดได้มาถึงแล้ว ดังนั้นพวกเขารู้ว่า ถ้าพวกเขาอยู่นานกว่านี้ มันจะต้องเป็นการต่อสู้ที่รุนแรงและจะมีคนตายมากมาย
จอมยุทธทั้งหมดของร้อยเผ่าพันธุ์ไม่ได้ขลุกอยู่กับการต่อสู้ ก่อนที่กำลังเสริมจะล้อมพวกเขา พวกเขาก็เปิดประตูมิติออกและจากไป
ร้อยเผ่าพันธุ์ถอยออกไปจากทวีปเทียนหยวน แต่ความปั่นป่วนที่พวกเขาสร้างในครั้งนี้นั้นใหญ่หลวงอย่างไม่ต้องสงสัย แม้ว่ามันจะไม่ได้มีผลกระทบต่อผู้ฝึกตนในระดับกลางและต่ำ แต่มันก็ทำให้จอมยุทธระดับสูงตกตะลึง ตระกูลผู้พิทักษ์ 5 ตระกูลที่โดยขโมยของไปได้รับผลกระทบและโกรธมาก โทสะของและจิตสังหารของพวกเขาพุ่งขึ้นจนถึงขีดสุด พวกเขาสาบานที่จะเคลื่อนคนทั้งทวีปไปกวาดล้างร้อยเผ่าพันธุ์
ไม่นานหลังจากนั้น ตัวแทนขององค์กรใหญ่ทั้งหมดในทวีปก็ได้มาเข้าร่วมการประชุมที่ไม่เคยปรากฎขึ้นมาก่อนในรอบหลายหมื่นปี พวกเขาหารือกันอย่างเคร่งเครียดเกี่ยวกับการรุกรานของร้อยเผ่าพันธุ์ และมากกว่าครึ่งหนึ่งเสนอให้รวบรวมกำลังทั้งหมดของทวีปเพื่อที่จะกวาดล้างร้อยเผ่าพันธุ์และล้างความอับอายของพวกเขา มีเพียงบางคนเท่านั้นที่แนะนำให้ดูภาพรวมและไม่ให้เคลื่อนไหวทั้งหมด มันทำให้เกิดความขัดแย้งอย่างตึงเครียดระหว่างสองฝ่าย
ในท้ายที่สุด ผู้อาวุโสสูงสุดจากสำนักดาบทรราชก็มาที่เมืองทหารรับจ้างและแสดงให้เห็นว่าพวกเขาจะไม่เข้าร่วมในการโจมตีครั้งนี้ เขายังอธิบายอีกว่า แม้ว่าเผ่าร้อยเผ่าพันธุ์จะอ่อนแอในตอนนี้ แต่พวกเขาก็มีสมบัติมากมายที่ไม่น้อยไปกว่าทวีปเทียนหยวนเลย ถ้าพวกเราบุกรุกร้อยเผ่าพันธุ์ กำลังโดยรวมทั้งหมดของทวีปจะได้รับผลกระทบและทำให้ทวีปสัตว์เทวะมีโอกาสในการโจมตีได้
ผู้อาวุโสสูงสุดของอารามจิตพิสุทธิ์พูดต่อ “การบุกรุกของร้อยเผ่าพันธุ์ในครั้งนี้เป็นการเอาของบางอย่างไปเท่านั้น พวกเขาไม่ได้ทำอะไรอุกอาจเกินไป ดังนั้นทำไมพวกเราต้องเคลื่อนไหวคนจำนวนมากด้วยล่ะ ? พวกเจ้าต้องการให้เกิดสงครามระหว่างสองทวีปและการหลั่งเลือดขนาดนั้นเลยหรือ ? พวกเจ้าตั้งใจจะหยุดตอนเห็นศพเกลื่อนกลาดอย่างนั้นหรือ ? “
หลังจากนั้น ตัวแทนบางคนก็แสดงความไม่เห็นด้วยของพวกเขาออกมาเช่นกัน พวกเขาทั้งหมดมีเหตุผลของพวกเขา ซึ่งบอกให้มองในภาพรวม
การหารือเรื่องทวีปเทียนหยวนจะบุกรุกร้อยเผ่าพันธุ์มาถึงบทสรุป พวกเขาไม่สามารถทำให้ทุกคนตกลงปลงใจได้ มันไม่มีโอกาสที่จะชนะด้วยกำลังเพียงครึ่งทวีป หรือน้อยกว่านั้น ถ้าพวกเขาไปโจมตีร้อยเผ่าพันธุ์
ร้อยเผ่าพันธุ์ตั้งรกรากอยู่ที่ทวีปแห่งความสูญเปล่ามานานมาก พวกเขาฝังรากลึกอยู่ที่นั่น แต่ละเผ่าพันธุ์มีวัตถุต้องห้ามที่สุดยอดของตนเอง พวกเขาแค่นำออกมาบางส่วนเท่านั้นในตอนนี้
ไม่นานหลังจากนั้น จดหมายลับก็มาถึงในมือของตัวแทนแต่ละคนและทำให้พวกเขาตกใจ หลังจากการโจมตีเมืองทหารรับจ้าง จอมยุทธของร้อยเผ่าพันธุ์ก็ไปโจมตีหอคอยสัตว์เทวะที่ทวีปสัตว์เทวะ เซียนจักรพรรดิสัตว์อสูรทั้งสามได้ออกมา ในขณะที่จักรพรรดิเสือแลงคีรอสได้เผชิญหน้ากับการโจมตีจากวัตถุต้องห้ามหลายชิ้นและได้รับบาดเจ็บสาหัส จอมยุทธหลายคนที่ฝึกฝนอยู่ในโถงได้อกมาขับไล่ศัตรู และพวกเขามากกว่าสิบคนถูกสังหารโดยวัตถุต้องห้าม ยังมีอีกหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บ
การต่อสู้ครั้งนี้มีเซียนจักรพรรดิร่วมด้วย เซียนราชามากกว่าสองร้อยคนของร้อยเผ่าพันธุ์ต่อสู้อย่างดุเดือดกับจอมยุทธหลายคนของหอคอยสัตว์เทวะ จนถึงขนาดที่พื้นดินแตกแยกและท้องฟ้าหม่นหมอง จอมยุทธทั้งหมดที่ฝึกฝนอยู่ด้านนอกยังรู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่ที่สั่นไหวไปถึงหัวใจ
อย่างไรก็ตาม ร้อยเผ่าพันธุ์ก็ยังไม่สามารถบุกเข้าไปในหอคอยสัตว์เทวะได้ หอคอยสัตว์เทวะนั้นไม่ใช่โถงศักดิ์สิทธิ์ธรรมดา มันถูกพยัคฆ์ปีกเทวะทิ้งเอาไว้ และมันแข็งแรงจนกระทั่งเซียนจักรพรรดิยังทำความเสียหายให้มันไม่ได้ ผู้บุกรุกไม่ได้ทำให้แม้แต่มันเป็นรอยหลังจากที่รวมพลังวัตถุต้องห้ามในการโจมตีมัน และร้อยเผ่าพันธุ์ยังสูญเสียจอมยุทธไปมากกว่าสิบคนในตอนท้ายอีก ดังนั้นพวกเขาจึงถอยกลับไปอย่างช่วยไม่ได้
การบุกรุกทวีปสัตว์เทวะทำให้สมาชิกระดับสูงของทวีปเทียนหยวนตกตะลึง ไม่มีใครคิดว่าร้อยเผ่าพันธุ์จะระห่ำขนาดนี้ ในตอนแรกพวกเขาโจมตีที่อยู่ของตระกูลผู้พิทักษ์และเมืองทหารรับจ้าง และจากนั้นพวกเขาก็บุกรุกเข้าไปในทวีปสัตว์เทวะต่อ พวกเขากำลังรนหาที่ตายอย่างนั้นหรือ ?
ทวีปสัตว์เทวะเป็นอะไรที่ทวีปเทียนหยวนกลัวมาก พวกเขามีเซียนจักรพรรดิทั้งหมด 3 คน มีกองกำลังไหนที่กล้าพอที่จะประมือกับพวกเขา?