ตอนที่ 1333: บรรพชนอสรพิษ
เถี่ยต้าได้รับบาดเจ็บจากการปะทะครั้งแรก แต่มันไม่ได้ส่งผลต่อขวัญและกำลังใจของเขา แถมมันยังทำให้เจตจำนงในการต่อสู้ภายในตัวเขาเผาไหม้ร้อนมากขึ้น ลำแสงที่สว่างในตัวเขาเริ่มสว่างขึ้น มันสาดส่องให้เห็นไปทั่วบริเวณซึ่งลำแสงนี้ได้ย้อมท้องฟ้ากลายเป็นสีทอง
ในตอนนั้น เถี่ยต้า, เจี้ยนเฉิน และเจ้าศาลาดูเหมือนกับพระอาทิตย์สามดวงที่มีสีที่แตกต่างกันออกไป แต่ละคนเปล่งแสงออกมากปกคลุมท้องฟ้า มันเป็นภาพที่ยิ่งใหญ่อย่างมาก
“ความลึกลับของสงคราม ทำลายมฤตยู ! ” เถี่ยต้าตะโกนออกมาในขณะที่เขาแผ่เจตจำนงในการต่อสู้แพร่กระจายไปรอบ ๆ เขาถือขวานของเขาสองมือขณะที่มันระเบิดออกด้วยลำแสง พลังงานที่น่ากลัวได้พุ่งออกมาจากมันในขณะที่มิติรอบ ๆ สั่นไหวอย่างไม่มั่นคง
เถี่ยต้ากวัดแกว่งขวานของเขาซึ่งมันเปลี่ยนเป็นลำแสงซ้อน ๆ กันพุ่งเข้าไปที่เจ้าศาลา เขาต้องการที่จะปั่นป่วนกระบวนการในการร่ายทักษะลับของเขา
ในเวลาเดียวกันเจี้ยนเฉินที่รับมือกับการโจมตีที่ทรงพลัง ปราณกระบี่ยาวกว่า 3 เมตร ได้ปรากฏออกมาในมือของเขา มันเปล่งแสงพร้อมกับพลัง แสงสีขาวที่อยู่ต่อหน้าเขาได้พุ่งออกไปหาเจ้าศาลา การโจมตีนี้ประกอบได้ด้วยพลังบรรพกาล
ในที่สุดเจ้าศาลาก็เคร่งเครียดมากกว่าเดิม ถึงแม้ความพวกเขาคนหนึ่งจะไปไม่ได้ถึงเซียนระดับจักรพรรดิ แต่พลังในการต่อสู้ที่ทั้งเจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าแสดงออกมามันน่ากลัวอย่างมาก ซึ่งมันไม่ได้ด้อยไปกว่าจักรพรรดิเลย มันเท่าเทียมกันกับการเผชิญหน้ากับเหล่าผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในระดับเดียวกับเขาในตอนนี้
ในเวลาเดียวกัน พวกเขาทั้ง 2 ก็ไม่ใช่จักรพรรดิที่ธรรมดา ปราณกระบี่ของเจี้ยนเฉินเทียบเท่าได้กับพลังของจักรพรรดิ แต่มันมีความเฉียบคมที่พลังจักรพรรดิไม่มี ซึ่งทำให้มันทรงพลังกว่าพลังจักรพรรดิ ในทางตรงกันข้าม เจตจำนงในการต่อสู้ของเถี่ยต้ามีอำนาจต่อวิญญาณของเหล่าผู้คนได้ ซึ่งมันทำให้เจ้าศาลาต้องโซเซไปมาเมื่อเขาชนเข้าไปความเข้มข้นสงคราม เขาสามารถรู้สึกถึงกำลังใจที่ถูกกระทบครั้งแล้วครั้งเล่า ยิ่งไปกว่านั้นความลึกลับของสงความสามารถยับยั้งทักษะการต่อสู้ระดับเซียนได้อย่างสมบูรณ์ พวกมันน่ากลัวเป็นอย่างมาก ด้วยความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้ บางการโจมตีของเถี่ยต้า มันน่ากลัวยิ่งกว่าคนที่กลายเป็นเซียนจักรพรรดิเสียอีก
หางของเจ้าศาลาได้พึ่งผ่านเข้าไปในอากาศ เขาต้องการใช้หางของเขาในการหยุดเจี้ยนเฉินและเถี่ยต้า เขาได้ไปถึงขั้นตอนกระบวนการสุดท้ายของการร่ายทักษะลับ
ขวานของเถี่ยต้าได้ฟันลงไปที่หางของเขาและทิ้งบาดแผลสาหัสเอาไว้ เลือดสีฟ้าพุ่งขึ้นไปบนอากาศเหมือนกับดอกไม้ไฟ
เจี้ยนเฉินไล่ตามหัวของเจ้าศาลาจากอีกฝั่งหนึ่ง เขาเป็นเหมือนกับชั้นแสงที่ผลักดันขีดจำกัดความเร็วของเขา
ในท้ายที่สุด เจ้าศาลาหลบการโจมตีของเจี้ยนเฉินได้ แม้ว่าปราณกระบี่จะพลาดการโจมตีที่หัวของเขา แต่ร่างกายของเขาก็ยังถูกแทงทะลุอยู่ดี ปราณกระบี่ได้ปรากฏอยู่ที่หลังของเขาพร้อมกับแสงที่เปล่งออกไปซึ่งมันทะลุผ่านอกของเขา
เจ้าศาลากระอักออกมาเป็นเลือด ใบหน้าของเขาซีดในขณะที่ปราณกระบี่ปักลงบนร่างของเขา
“พวกแกทั้งหมดต้องตายลงวันนี้ ! จะไม่มีใครหน้าไหนหนีออกไปจากที่นี่ได้ ! ” เจ้าศาลาแผดเสียงจากบนอากาศ การต่อสู้เป็นเรื่องอับอายสำหรับเขา ด้วยสถานะของเขา เขาได้ถูกลดตำแหน่งของเขาลงด้วยเด็ก 2 คนนี้ที่ไม่ใช่แม้แต่จะเป็นเซียนจักรพรรดิ นี่เป็นสิ่งที่เขาไม่สามารถทนได้
ความกดดันมากมายแผ่จากเจ้าศาลา แม้เหล่าผู้เชี่ยวชาญจะอยู่ออกไปหลายแสนกิโลเมตรก็สามารถรับรู้มันได้อย่างชัดเจน
ในที่สุดเจ้าศาลาก็ได้ร่ายทักษะลับของเขาสำเร็จ มังกรอสรพิษขนาดใหญ่ได้คำรามขึ้นไปบนอากาศ มันมีความยาวกว่าสามหมื่นเมตรและแผ่ความกดดันไปอย่างน่ากลัว ไม่เพียงมันจะทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญนับไม่ถ้วนของศาลาเทพเจ้าอสรพิษตกตะลึง แต่มันยังทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญศาลาวิญญาณสวรรค์และศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลรับรู้มันได้อีกด้วย
ผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดหน้าซีดในขณะที่พวกเขามองมันจากที่ไกล ๆ นี่เป็นเพราะว่าพวกเขารู้สึกถึงความกลัวที่ลึกเข้าไปในวิญญาณของเขาจากแรงกดดันนั้น ขาของคนบางคนถึงกับสั่นซึ่งเกือบจะทรุดตัวลง
มังกรขนาดใหญ่บินผ่านขึ้นไปบนอากาศ ทุก ๆ ระยะทางที่มันบินไปเต็มไปด้วยแสง มันคำรามขึ้นไปบนอากาศและสงเสียงออกมาอย่างต่อเนื่อง จากนั้นมันก็จ้องไปที่เจี้ยนเฉินและเถี่ยต้า
เจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าสั่นอยู่ลึก ๆ ข้างใน พวกเขาทั้งสองหยุดการโจมตีในขณะที่พวกเขาจ้องมองไปที่มังกรที่อยู่บนอากาศอย่างลำบากใจ พวกเขาเคยเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรหยานหวงระดับ 10 มาก่อน ดังนั้นพวกเขาจึงเข้าใจในระดับพลังของมันซึ่งตอนนี้พวกเขารับรู้เหมือนกับว่าได้เผชิญหน้ากับสัตว์อสูรนี้ที่ถูกแผ่ออกมาจากมังกรอสรพิษ
ชั้นแสงมากมายได้ถูกยิงออกมาจากไกล ๆ ด้วยความเร็วแสง พวกเขาสังเกตจากที่ไกล ๆ
พวกเขาคือเหล่าผู้อาวุโสของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ ทุก ๆ คนเป็นเซียนระดับราชาขั้นสูงสุด พวกเขาได้ติดตามเจ้าศาลาหลังจากที่เขามาถึงที่นี่
“นี่คือบรรพชนอสรพิษ เขาเป็นเจ้าศาลาที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์เนื่องจากเขาได้ไปถึงจุดยอดของจักรพรรดิภายใน 2 พันปีของการฝึกฝน เจ้าศาลาได้อัญเชิญวิญญาณของบรรพชนอสรพิษออกมาโดยใช้ทักษะลับซึ่งมันทำให้เขาฟื้นคืนความรุ่งเรืองของเขากลับมาอีกครั้ง” ผู้อาวุโสร้องออกมา เขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ เขาพยายามที่จะจินตนาการว่าศัตรูที่เผชิญหน้ากับเจ้าศาลาแข็งแกร่งเพียงใด
“2 คน ที่กำลังต่อสู้กับเจ้าศาลาเป็นใครกัน ? พวกเขาถึงกับบีบให้เจ้าศาลาใช้ของพรรด์นั้นเชียวหรือ ? พวกเขาเป็นจักรพรรดิเหมือนกันหรือเปล่า ? แต่มันไม่น่าจะเป็นไปได้ มันไม่มีจักรพรรดิคนอื่นนอกจากเจ้าศาลาของศาลาวิญญาณสวรรค์และศาลาเทพเจ้าแห่งท้องทะเลอีกแล้วนอกจากเขา การสั่นสะเทือนของพลังงานจากทั้งสองคนนั้นมันยืนยันความเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะเป็นเจ้าศาลา”
“ไม่นะ เจ้าศาลาได้รับบาดเจ็บ หางของเขาเต็มไปด้วยเลือดมากมาย ”
ผู้อาวุโสของศาลาเทพเจ้าอสรพิษทั้งหมดร้องออกมาด้วยความตกตะลึง ผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองปรากฏตัวขึ้นที่อาณาจักรทะเลเมื่อไหร่กัน ? พวกเขาทำให้เจ้าศาลาอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้นได้อย่างไรกัน ? นอกจากนี้เจ้าศาลาเทพเจ้าอสรพิษเป็นถึงจักรพรรดิที่ไปเข้าถึงระดับการบ่มเพาะนั้นมานานแล้ว เขาได้บ่มเพาะในขอบเขตนั้นมาเนิ่นนานหลายปี
บรรพชนอสรพิษเปิดปากของมันออกและกลืนกินเจี้ยนเฉินและเถี่ยต้า ทันใดนั้นก็มีแรงดูดปรากฏออกมา ดึงเจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าจากพื้น พวกเขาบินเข้าไปในปากของมันอย่างควบคุมอะไรไม่ได้เลย พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยแม้แต่นิดเดียว
“ความลึกลับของสงคราม ทำลาย ! ” เถี่ยต้าแผดเสียงขณะที่เขาเปล่งแสงสีทองออกมา เจตจำนงในการต่อสู้ขั้นสูงสุดได้หลอมรวมกับขวานของเขาเป็นพลังงานที่มองไม่เห็น จากนั้นเขาก็แกว่งดาบของเขาไปที่มัน
เจี้ยนเฉินก็พยายามเช่นกัน แสงสีขาวเทาได้ห่อหุ้มร่างกายทั้งหมดของเขาและด้วยการสะบัดมือของเขา เขายิงปราณกระบี่ยาว 3 เมตรออกไปผสานการโจมตีของเถี่ยต้า
อย่างไรก็ตาม การโจมตีของทั้งสองล้มเหลวในการทำลายบรรพชนอสรพิษ เขาเป็นเซียนจักรพรรดิขั้นสูงสุดในอดีตและได้คงอยู่แบบนั้นมากว่า 8 พันปี ความแข็งแกร่งของเขาอยู่ในระดับที่น่าตกตะลึง แม้ว่าเขาจะได้ตายลงไปแล้ว วิญญาณที่ถูกอัญเชิญมาโดยเจ้าศาลาก็ยังคงทรงพลังอย่างมาก
“รีบตัดผ่านมิติที่อยู่รอบ ๆ เร็วเข้า เพื่อที่ว่าแรงดูดจะได้กระจายออกไป มันสามารถหยุดการดูดได้” เจี้ยนเฉินพูด เมื่อเขาโจมตีไปก่อนหน้าและทำให้มิติสั่นไหว เขาสามารถรับรู้แรงดูดได้ว่ามันอ่อนแอของเล็กน้อย ความแข็งแกร่งของบรรพชนอสรพิษสร้างความแปลกใจให้กับเจี้ยนเฉินเป็นอย่างมาก เขาไม่อยากถูกดูดเข้าไปไม่ว่ายังไงก็ตาม แต่อย่างไรก็ตามนี้ไม่ใช่สัตว์อสูรหยานหวงที่ไม่มีสติ มันถูกควบคุมโดยเจ้าศาลา
เถี่ยต้าไม่ลังเลต่อคำแนะนำของเจี้ยนเฉิน เขาเริ่มโจมตีไปที่มิติที่อยู่ต่อหน้าเขาพร้อมกับเจี้ยนเฉิน การโจมตีของพวกเขาทำให้มิติสั่นสะเทือนอย่างร้ายแรงก่อนที่รอยแตกจะปรากฏออกมา รอยแตกพวกนั้นได้ผล พวกมันทำให้พวกเขาทั้งสองเป็นอิสระออกมาจากแรงดูดได้ จากนั้นพวกเขาก็พุ่งเข้าไปที่ลำตัวของบรรพชนอสรพิษในคนละทิศทางและโจมตีเข้าไปที่มันอย่างเต็มที่
เจ้าศาลาได้หายตัวไป เขาหายตัวเข้าไปในลำตัวของบรรพชนอสรพิษ แม้ว่าบรรพชนอสรพิษจะมีพลังของมันจากการที่มันถูกอัญเชิญมา แต่คนที่ควบคุมมันจริง ๆ คือเจ้าศาลาของศาลาเทพเจ้าอสรพิษ